PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : ประเก็นฝาสูบ 4d56 แตกกันบ่อยมั๊ยค๊าบ



หน้า : [1] 2 3 4 5 6 7 8

joetriton
30-09-2010, 19:07
ลองมาแชร์กันดูนะครับว่าพังกันบ่อยมั๊ย
แก้ไขอย่างไร
อาการเริ่มต้นเป็นยังไง
บู๊ทขึ้นเท่าไหร่
ความร้อนมาเยอะมั๊ย
น้ำดันหรือไม่
......แชร์ประสบการณ์กันนะครับเพื่อพี่น้องเราครับ.....

joetriton
30-09-2010, 19:14
รู้กันอยู่ว่าประเก็น 4D56 เป็นแบบ 3 ชั้น ไม่ขลิปขอบ
จะสามารถทนแรงดันเครื่องเดิมๆสบายๆครับ
แต่ในกรณี ที่โมเครื่องมา แรงดันต่างๆภายในเครื่องมากขึ้น การเสื่อมสภาพเลยไวกว่ากำหนดครับ
...อาการที่พบ(ของตัวเอง)น้ำหายครับ เลยเปิดเปลี่ยน พบว่าปะเก็นแตก แต่เราสังเกตุก่อนที่งานหนักจะเข้าครับ ราคารวมหมด 4พันกว่าบาทจร้า
เหมือนเดิมแล้วจร้า
พี่น้องท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติมรบกวนด้วยค๊าบ:1182440014:

boatania
30-09-2010, 19:35
น้ำหาย หมายถึง น้ำหล่อเย็นสีเขียวในถังพักหายใช่ไหมครับ น้าโจ้

ถ้าใช่ ... ที่ว่ามันหาย ของน้ามันหายเยอะไหมครับ

joetriton
30-09-2010, 19:47
น้ำหาย หมายถึง น้ำหล่อเย็นสีเขียวในถังพักหายใช่ไหมครับ น้าโจ้

ถ้าใช่ ... ที่ว่ามันหาย ของน้ามันหายเยอะไหมครับ
3 วัน หมดหม้อเลยครับน้าโบ๊ท:1182440014:

aj anucha
30-09-2010, 19:54
เห็นน้าเปิดปะเด็นเรื่องนี้มาก็ดีครับ ผมอยากแสดงความคิดเห็นพอดี

คือ รถผมก็ปะเก็นแตกมาหลายรอบแล้วครับกับปะเก็นศูนย์
ทีแรกเลยทดสอบใส่ปะเก็นเดิมไปก่อน แล้วแก้เบื้องต้นโดยการแกะแล้วใช้สเปร์ทองแดงพ่นทุกชั้น เพื่อเพิ่มการยึดเกาะหรือซิลรั่วได้ดียิ่งขึ้น ก่อนใส่ปะเก็นก็ได้อัดปอนด์ฝาสูบเพิ่มเป็น 120 lb (เดิมๆแรงขันมันประมาณ 110 lb) ทีแรกนึกว่าจะหายเพราะใช้งานในกรุงเทพตั้งหลายอาทิตย์ อาการน้ำดันเครื่องฮีทก็ไม่มี แต่พอมีวันนึงออกต่างจังหวัด แล้วผมแช่ความเร็วสูงๆด้วยแหละมั้ง ผลก็คือน้ำดันเหมือนเดิมครับ ความร้อนขึ้นเกือบฮีท พอจอดพักที่ปั๊ม
ได้ยินเสียงน้ำหล่อเย็นเดือดที่ถังพักชัดเจน....งานเข้าอีกแล้ว เป็นแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีกจนอยากจะทำกลับมาเดิมๆ เพราะหมดตั้งค่าซ่อมไปเยอะ

ตอนนี้ ล่าสุดก็ได้ทอลองแก้อาการน้ำดันและปะเก็นแตกโดยการ
ใช้ปะเก็นเนื้อคาร์บอนครับ ซื้อเป็นปะเก็นสั่งตัด แต่ว่า(งานมันจะไม่เนียนเหมือนปะเก็นเดิมนะ) ตัวนี้มันมีทีเด็ดที่ว่า มีสามารถยุบตัวได้สูงจึงทำให้หน้าสัมผัสมันกดชิดกับฝาสูบและเสื้อสูบได้มาก และตรงขอบเสื้อสูบเค้าจะย้ำโลหะไว้ เพื่อกันไม่ให้แรงอัดรั่วครับ (ซึ่งปะเก็นเดิมๆจะเป็นเหล็กนะครับ มี 3 ชั้นบาง แต่ว่าตรงขอบเสื้อสูบเค้าไม่ได้ย้ำขอบมาครับ) การประกอบก็เงื่อนไขเดิม อัดปอนด์ฝาสูบไป 120 lb ครับ ก็รอใช้วอร์มไปซะ 1000โลก่อนอ่ะครับ เพือรอปะเก็นมันเข้าที่เข้าทางก่อน จากนั้นจึงจะไปย้ำฝาสูบอีกรอบครับ คราวนี้จะได้รู้ไปว่าจะอยู่ไหม
จริงแล้วนะถ้าปะเก็นไทรทันมันออกแบบมาให้เหมือนเครื่อง 4d56 โอกาสปะเก็นแตก น้ำดันน่าจะไม่มีครับ เพราะว่าของสตาด้าออกแบบปะเก็นมาแข็งแรงกว่า แถมปะเก็นย้ำขอบมาให้ด้วย..........

น้องขาวมุก
30-09-2010, 19:55
3 วัน หมดหม้อเลยครับน้าโบ๊ท:1182440014:
คราวนี้ก็เอาโอ่ง มาตั้งดิครับ น้าโจ้ หม้อมันเล็กไปอ่ะ :22emoticon-cartoon-

joetriton
30-09-2010, 19:58
เห็นน้าเปิดปะเด็นเรื่องนี้มาก็ดีครับ ผมอยากแสดงความคิดเห็นพอดี

คือ รถผมก็ปะเก็นแตกมาหลายรอบแล้วครับกับปะเก็นศูนย์
ทีแรกเลยทดสอบใส่ปะเก็นเดิมไปก่อน แล้วแก้เบื้องต้นโดยการแกะแล้วใช้สเปร์ทองแดงพ่นทุกชั้น เพื่อเพิ่มการยึดเกาะหรือซิลรั่วได้ดียิ่งขึ้น ก่อนใส่ปะเก็นก็ได้อัดปอนด์ฝาสูบเพิ่มเป็น 120 lb (เดิมๆแรงขันมันประมาณ 110 lb) ทีแรกนึกว่าจะหายเพราะใช้งานในกรุงเทพตั้งหลายอาทิตย์ อาการน้ำดันเครื่องฮีทก็ไม่มี แต่พอมีวันนึงออกต่างจังหวัด แล้วผมแช่ความเร็วสูงๆด้วยแหละมั้ง ผลก็คือน้ำดันเหมือนเดิมครับ ความร้อนขึ้นเกือบฮีท พอจอดพักที่ปั๊ม
ได้ยินเสียงน้ำหล่อเย็นเดือดที่ถังพักชัดเจน....งานเข้าอีกแล้ว เป็นแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีกจนอยากจะทำกลับมาเดิมๆ เพราะหมดตั้งค่าซ่อมไปเยอะ

ตอนนี้ ล่าสุดก็ได้ อาการน้ำดันและปะเก็นแตกโดยการ
ใช้ปะเก็นเนื้อคาร์บอนครับ ซื้อเป็นปะเก็นสั่งตัด แต่ว่า(งานมันจะไม่เนียนเหมือนปะเก็นเดิมนะ) ตัวนี้มันมีทีเด็ดที่ว่า มีสามารถยุบตัวได้สูงจึงทำให้หน้าสัมผัสมันกดชิดกับฝาสูบและเสื้อสูบได้มาก และตรงขอบเสื้อสูบเค้าจะย้ำโลหะไว้ เพื่อกันไม่ให้แรงอัดรั่วครับ (ซึ่งปะเก็นจะเป็นแบบเหล็กนะครับ มี 3 ชั้นบาง แต่ว่าตรงขอบเสื้อสูบเค้าไม่ได้ย้ำขอบมาครับ) พร้อมกับเงื่อนไขเดิม อัดปอนด์ฝาสูบไป 120 lb ครับ ก็รอใช้วอร์มไปซะ 1000โลก่อนอ่ะครับ เพือรอปะเก็นมันเข้าที่เข้าทางก่อน จากนั้นจึงจะไปย้ำฝาสูบอีกรอบครับ คราวนี้จะได้รู้ไปว่าจะอยู่ไหม อิอิ ที่จริงนะถ้าปะเก็นไทรทันมันออกแบบมาให้เหมือนเครื่อง 4d56 โอกาสปะเก็นแตก น้ำดันน่าจะไม่มีครับ เพราะว่าของสตาด้าออกแบบปะเก็นมาแข็งแรงกว่า แถมปะเก็นย้ำขอบมาให้ด้วย..........
นั่นซิครับน้า ทำไม ไม่ย้ำขอบมาให้ก็ไม่รู้ครับ
สูตรของน้า เด๋วต้องลองดูครับ

boatania
30-09-2010, 20:02
3 วัน หมดหม้อเลยครับน้าโบ๊ท:1182440014:

อูย หายเยอะจัง

aj anucha
30-09-2010, 20:03
หรือมีอีกทางเลือกนึงครับ มีร้านตัดปะเก็นอีกร้านนึง เค้ามีของไทรทัน
ชื่อร้าน ช.ปะเก็น อยู่แถวๆ ปทุมวันมั้งครับ ผมโทรไปเค้าบอกว่า ปะเก็นเดิมๆเหมาะกับรถเดิมครับ แต่ถ้ารถทำเพิ่มต้องใช้ปะเก็นที่ร้านเค้าครับ เค้าบอกว่าเป็นปะเก็นเนื้อสปริงครับ มันจะยืดหยุ่นได้ดีกว่าปะเก็นศูนย์ และยังบอกอีกว่าเนี่ยนะ รถแข่งเอาไปใช้หลายคันแล้ว ยังไม่มีปัญหาเลย รับบูสได้สบายๆ ส่วนราคาก็เอาเรื่องนะครับ 3400 บาทครับ มีความหนาให้เลือก
3 ไซค์ คือ 1.2 1.4 1.6 มิล ซึ่งต้องเลือกเอาให้เหมาะสมครับ ว่าเราปาดฝาไปอีกมิล ก็ควรจะใช้ปะเก็นหนาขึ้นเพิ่อไปชดเชยระยะเดิมครับ ก็ลองดูแล้วกันครับถ้าใครงบเหลือๆ...

aj anucha
30-09-2010, 20:07
น้าโจ้ สำหรับรถผมที่ว่าน้ำดัน นั่นหมายถึง กำลังมันรั่วออกมาเข้าตาน้ำนะครับ
พอรั่วมาเยอะๆมันจะเกิดแรงดันไปดันฝาหม้อน้ำให้สปริงมันยกระบายน้ำออกไปล้นทะลัก
ที่หม้อพักน้ำนะครับ ทำให้น้ำในระบบน้อยจึงเป็นเหตุให้ความร้อนขึ้น เครื่องฮีทครับ....
สำหรับของน้า ที่บอกว่าน้ำในหม้อพักหาย อืมมม ไม่เหมือนกันครับ ของผมนี่น้ำล้นเต็มหม้อพักตลอดเวลาเลย...

aj anucha
30-09-2010, 20:10
เนี่ย ถ่านตอนมันเริ่มลงมาแล้วครับ ที่จริง มันขึ้นยัน H:emo020hu8:

น้องขาวมุก
30-09-2010, 20:29
หรือมีอีกทางเลือกนึงครับ มีร้านตัดปะเก็นอีกร้านนึง เค้ามีของไทรทัน
ชื่อร้าน ช.ปะเก็น อยู่แถวๆ ปทุมวันมั้งครับ ผมโทรไปเค้าบอกว่า ปะเก็นเดิมๆเหมือนกับรถเดิมครับ แต่ถ้ารถทำเพิ่มต้องใช้ปะเก็นที่ร้านเค้าครับ เค้าบอกว่าเป็นปะเก็นเนื้อสปริงครับ มันจะยือหยุ่นได้ดีกว่าปะเก็นศูนย์ และยังบอกอีกว่าเนี่ยนะ รถแข่งเอาไปใช้หลายคันแล้ว ยังไม่มีปัญหาเลย รับบูสได้สบายๆ ส่วนราคาก็เอ่เรื่องนะครับ 3400 บาทครับ มีความหนาให้เลือก
3 ไซค์ คือ 1.2 1.4 1.6 มิล ซึ่งต้องเลือกเอาให้เหมาะสมครับ ว่าเราปาดฝาไปอีกมิล ก็ควรจะใช้ปะเก็นหนาขึ้นเพิ่อไปชดเชยระยะเดิมครับ ก็ลองดูแล้วกันครับถ้าใครงบเหลือๆ...
เจ้านี้ มายืนยันอีกเสียงครับ ของเขาดีจริงครับ

เมื่อก่อนผมใช้กับ SR20DET โบGARRET M24 ยัดลูกเจ ยังเอาอยู่สบายๆเลยครับ

aj anucha
30-09-2010, 20:30
สภาพปะเก็นข้ามครับ มันข้ามทุกสูบเลย แทรกออกตามรอยต่อของแผ่นปะเก็นที่ ซ้อนๆกันนั้นแหละครับ... ลองดูภาพนึงซิครับ หัวลูกสูบ ทั้งน้ำและน้ำเครื่องขังเติมเลย ถึงว่าล่ะไมมันสตาร์ทยากจัง....:emo020hu8:

dsign
30-09-2010, 20:32
...เปิดกระทู้ได้ดีเยี่ยมเลยตาโจ้ พวกรถทำแรงๆ คิดเอาแต่แรงๆ แต่ลืมคิดตรงนี้ไปเลย เรื่องเย็นๆ ยังไงก็อย่าลืมกันนะครับถ้าไม่อยากเข้าศูนย์เข้าอู่เพื่อเปิดฝา เสียทั้งเงินเสียทั้งเวลา อ้ออุปกรณ์พวกสมาร์ทเกจ์ ผมเพิ่งเห็นประโยชน์ของมันก็ตรงเนี๊ย มันเตือนเราได้แยะเรื่องภายในเครื่องยนต์ทั้งหลาย... :kapook-17319-2781:

น้องขาวมุก
30-09-2010, 20:35
...เปิดกระทู้ได้ดีเยี่ยมเลยตาโจ้ พวกรถทำแรงๆ คิดเอาแต่แรงๆ แต่ลืมคิดตรงนี้ไปเลย เรื่องเย็นๆ ยังไงก็อย่าลืมกันนะครับถ้าไม่อยากเข้าศูนย์เข้าอู่เพื่อเปิดฝา เสียทั้งเงินเสียทั้งเวลา อ้ออุปกรณ์พวกสมาร์ทเกจ์ ผมเพิ่งเห็นประโยชน์ของมันก็ตรงเนี๊ย มันเตือนเราได้แยะเรื่องภายในเครื่องยนต์ทั้งหลาย... :kapook-17319-2781:
สมาร์ทเกจ์ อันกลมๆอ่ะเหรอ :22emoticon-cartoon-

aj anucha
30-09-2010, 20:41
นี่ ตอนประกอบครับ ช่างร้านผม ล้างเครื่องได้ใจมากๆ กริ๊บๆเลยนะ
ตอนแรกคิดว่าเห็นช่างแต่งตัวเลอะๆ ร้านเลอะๆ นึกว่างานจะเลือนๆ ฮ่าๆๆๆ
แต่ไม่เลยครับ งานเนียนๆ สะอาดมากครับ ฝาสูบอย่างกะเบิกของใหม่เลยครับ

aj anucha
30-09-2010, 20:49
ล่าสุด ผมลองเจาะวาล์วเดิมครับ เจาะมา 4 รู
ข้อดี
ความร้อนลงไปเยอะมากๆครับ
ก่อนเจาะ ขึ้นความร้อนประมาณ 2.5 ขีด แต่พอเจาะแล้วมันขึ้นยังไม่เต็ม 2 ดีเลครับ ครับ
แต่ถ้าซัดหนักๆก็ 2.5 ขีดครับ พอแป๊บเดียวก็ลงมา 2 ขีด 5555+
ข้อเสียนิดนึงครับ
คือเวลาตอนเช้าๆมันจะใช้เวลาวอร์มอัพนานมากครับ ถึงอุณหภมูจะขึ้นในระดับที่ใช้งาน และเข็มความร้อนเราจะไม่นิ่ง จะขึ้นๆลงๆ ตามการกดคันเร่งครับ ( แต่ก็ไม่เกิน 2.5 ขีด)
เนี่ยถ้าเราทำให้ความร้อนระดับนี้ได้คงที่ โอกาสฝาโก่งปะเก็นแล็บคงน้อยลงไปมากครับ

aj anucha
30-09-2010, 20:52
พรุ่งนี้จะลองอีกแบบครับ จะใช้วาล์วน้ำของ สตาด้า 2.8 มาแทนของเดิมครับ
(ข้อมูลนี้ได้จากน้าเต้ย ต้องขอบคุณมากนะครับ)
เพราะมันเปิดเร็วกว่าเดิมๆครับ ของเดิมเปิด 82 c ของสตาด้าเปิด 76.5 c ครับ
มันก็น่าจะให้ผลได้ดีกว่าอยู่นะครับ สำหรับรถที่โมเครื่องมา เพราะความร้อนจะถูกระบายออกจากน้ำได้เร็วขึ้น

dsign
30-09-2010, 20:53
สมาร์ทเกจ์ อันกลมๆอ่ะเหรอ :22emoticon-cartoon-

...3เหลี่ยม ครับ3เหลี่ยม... :kapook-17202-3451:


ล่าสุด ผมลองเจาะวาล์วเดิมครับ เจาะมา 4 รู
ข้อดี
ความร้อนลงไปเยอะมากๆครับ
ก่อนเจาะ ขึ้นความร้อนประมาณ 2.5 ขีด แต่พอเจาะแล้วมันขึ้นยังไม่เต็ม 2 ดีเลครับ ครับ
แต่ถ้าซัดหนักๆก็ 2.5 ขีดครับ พอแป๊บเดียวก็ลงมา 2 ขีด 5555+
ข้อเสียนิดนึงครับ
คือเวลาตอนเช้าๆมันจะใช้เวลาวอร์มอัพนานมากครับ ถึงอุณหภมูจะขึ้นในระดับที่ใช้งาน และเข็มความร้อนเราจะไม่นิ่ง จะขึ้นๆลงๆ ตามการกดคันเร่งครับ ( แต่ก็ไม่เกิน 2.5 ขีด)
เนี่ยถ้าเราทำให้ความร้อนระดับนี้ได้คงที่ โอกาสฝาโก่งปะเก็นแล็บคงน้อยลงไปมากครับ

...น้าแล้วถ้าเราเปลี่ยนมาใช้หม้อน้ำอลูมิเนียม โดยไม่เจาะวาล์ว จะดีกว่าหรือปล่าวครับ หรือว่าต้องทั้งเจาะและก็เปลี่ยนหม้อน้ำด้วย...

น้องขาวมุก
30-09-2010, 21:05
ไม่เจาะดีกว่าครับ เพราะเจาะน้ำจะเข้าไปได้ ตั้งแต่ตอนสตาร์ทใหม่ ซึ่งมันไม่ดีต่อเครื่องครับ กว่าอุณหภูมิมันจะได้ ต้องใช้เวลานาน ซึ่งนั่นหมายถึง การสึกหรอ ที่มากขึ้น เปลี่ยนไปใช้ วาล์วน้ำ ที่เปิดเร็วขึ้นดีกว่าครับ ตามที่น้าเล้ง ได้บอกไว้อ่ะครับ

aj anucha
30-09-2010, 21:13
อิอิ ช่วยๆกันออกความเห็นกันไปครับ
......พรุ่งนี้แหละ เดี๋ยวลองวาล์วน้ำสตาด้า2.8ดีกว่า
ผมว่ามันคงวอร์มได้เร็วกว่าและอุหภูมิ น่าจะนิ่งกว่าแบบการเจาะ ได้ผลไงจะเล่าให้ฟังคับ

aj anucha
30-09-2010, 21:21
...3เหลี่ยม ครับ3เหลี่ยม... :kapook-17202-3451:



...น้าแล้วถ้าเราเปลี่ยนมาใช้หม้อน้ำอลูมิเนียม โดยไม่เจาะวาล์ว จะดีกว่าหรือปล่าวครับ หรือว่าต้องทั้งเจาะและก็เปลี่ยนหม้อน้ำด้วย...
หม้อน้ำเปลี่ยนแล้วต้องดีขึ้นแน่ครับ เพราะยิ่งจุน้ำได้เยอะ(มิติตัวหม้อน้ำต้องใหญ่ขึ้นนะครับ ) ค่าการรับความจุความร้อนก็จะสูงไปอีกครับ อย่าลืมดูนะครับว่า หม้อน้ำที่จะเปลี่ยนเป็นอย่างไร ต้องสังเกตที่ ฟินและหลอดครับ ถ้ามีเยอะๆยิ่งดีครับ เพราะตัวหลอดมันจะสัมผัสโดยตรงกับน้ำ จากนั้นความร้อนจะเกิดการนำผ่านมายังครีบฟินครับ สุดท้ายลมจากพัดลมก็จะดูดความร้อนออกทิ้งข้างนอกครับ มีตังผมว่าจะทำเหมือนกัน.........:smiley-eatdrink042::smiley-eatdrink042:

black triton
30-09-2010, 21:31
เจ้านี้ มายืนยันอีกเสียงครับ ของเขาดีจริงครับ

เมื่อก่อนผมใช้กับ SR20DET โบGARRET M24 ยัดลูกเจ ยังเอาอยู่สบายๆเลยครับ
มายืนยันอีกเสียงครับว่าของเค้าดีจิงๆๆ ผมลองแล้ว(หลังจากใช้ปะเก็น0มา2แผ่น)แพงแต่คุ้มครับสำหรับรถที่โมนะครับ แต่อย่าลืมนะครับถ้าเคยเปิดฝาสูบมาแล้วครั้งต่อไปควรจะเปลี่ยนน๊อตฝาสูบด้วยเลยจะดีกว่านะครับเพราะไม่งั้นน๊อตมันจะยืดครับ สำหรับราคาน๊อตบอกได้เลยว่าถูกม๊ากก..เบิกศูนย์ตัวละประมาณ30x18=540

W-ut
30-09-2010, 21:45
อิอิ ช่วยๆกันออกความเห็นกันไปครับ
......พรุ่งนี้แหละ เดี๋ยวลองวาล์วน้ำสตาด้า2.8ดีกว่า
ผมว่ามันคงวอร์มได้เร็วกว่าและอุหภูมิ น่าจะนิ่งกว่าแบบการเจาะ ได้ผลไงจะเล่าให้ฟังคับ
เล้งโทรมาบอก...ผมคนแรกเลยนะ..อย่าลืม ขอร้อง


มายืนยันอีกเสียงครับว่าของเค้าดีจิงๆๆ ผมลองแล้ว(หลังจากใช้ปะเก็น0มา2แผ่น)แพงแต่คุ้มครับสำหรับรถที่โมนะครับ แต่อย่าลืมนะครับถ้าเคยเปิดฝาสูบมาแล้วครั้งต่อไปควรจะเปลี่ยนน๊อตฝาสูบด้วยเลยจะดีกว่านะครับเพราะไม่งั้นน๊อตมันจะยืดครับ สำหรับราคาน๊อตบอกได้เลยว่าถูกม๊ากก..เบิกศูนย์ตัวละประมาณ30x18=540
วันนี้เที่ยงๆน้ายอด..วงแหวน กาญจนาขวายาวๆเลยนะครับพี่

joetriton
30-09-2010, 22:25
เล้งโทรมาบอก...ผมคนแรกเลยนะ..อย่าลืม ขอร้อง


วันนี้เที่ยงๆน้ายอด..วงแหวน กาญจนาขวายาวๆเลยนะครับพี่
ดีกว่าจริงๆตาวุส จัดเลยเพื่อน คริๆๆๆๆ
อยากได้โบลูกนั้นจัง(ที่น้าเล้งใส่อยู่อ่ะ)ขโมยได้ที่ไหนอ่ะ:kapook-17351-2909:

aj anucha
30-09-2010, 22:56
ก็พอมีครับ ที่ร้านป๋ามืด แต่มันเป็น tf 06-1 นะครับ ยอดใบหน้า จะเล็กกว่าของผม
แต่ซื้อนะครับ ไม่มีให้ขโมยครับ 5555 ราคา 18000 บาทพร้อมโข่งครับ

W-ut
30-09-2010, 22:59
ก็พอมีครับ ที่ร้านป๋ามืด แต่มันเป็น tf 06-1 นะครับ ยอดใบหน้า จะเล็กกว่าของผม
แต่ซื้อนะครับ ไม่มีให้ขโมยครับ 5555 ราคา 18000 บาทพร้อมโข่งครับ
เรื่องวาวล์น้ำ..อย่าลืมนะเล้ง...พี่คนแรก

aj anucha
30-09-2010, 22:59
เนี่ยเปรียบเทียบให้ดูคับน้า ความเหมือนที่แตกต่าง:smiley-eatdrink042:

W-ut
30-09-2010, 22:59
ก็พอมีครับ ที่ร้านป๋ามืด แต่มันเป็น tf 06-1 นะครับ ยอดใบหน้า จะเล็กกว่าของผม
แต่ซื้อนะครับ ไม่มีให้ขโมยครับ 5555 ราคา 18000 บาทพร้อมโข่งครับ
เล้งผมมีใบนึง..โข่งหลังแปรผัน

aj anucha
30-09-2010, 23:01
ได้ครับ พี่วุฒิ.... เดี๋ยวมาบอกพร้อมๆกันเลย

triton9908
30-09-2010, 23:37
ผมก็ดัน เปลี่ยนหม้อน้ำอะลูมิเนียม ทนขับไปจนหม้อน้ำบวม (เสียดายจัง) แต่ความร้อนไม่ขึ้น
ตัดสินใจเปิดฝา อู่เปลี่ยนน็อตยึดฝาสูบให้ใหม่เป็นของเก่า พี่โก้ ถ้าจำไม่ผิด
เขาบอกว่าน็อตของTRITON ทนแรงได้ 110 ปอนด์ (ของเดิมน็อตยืดแล้ว)
ใส่ไปก็เอาไม่อยู่ เปลี่ยนน็อตใหม่ อัดไป 120 ปอนด์ เจาะวาล์วน้ำเพิ่ม
ตอนนี้กลับมาเหมือนเดิมแล้วครับ อู่บอกอัดบูทช์ได้สบายรับประกัน


:smiley-music021:

MEAW_SAN
01-10-2010, 08:15
สมาร์ทเกจ์ อันกลมๆอ่ะเหรอ :22emoticon-cartoon-

ไม่ลืมมมมมมมมม ไม่ลืมไม่ลืมไม่ลืมมมมมมมมม กร้ากกกกกกกกก


...3เหลี่ยม ครับ3เหลี่ยม... :kapook-17202-3451:



หนุ่มสมาร์ทเกจ

aj anucha
01-10-2010, 11:03
ผมก็ดัน เปลี่ยนหม้อน้ำอะลูมิเนียม ทนขับไปจนหม้อน้ำบวม (เสียดายจัง) แต่ความร้อนไม่ขึ้น
ตัดสินใจเปิดฝา อู่เปลี่ยนน็อตยึดฝาสูบให้ใหม่เป็นของเก่า พี่โก้ ถ้าจำไม่ผิด
เขาบอกว่าน็อตของTRITON ทนแรงได้ 110 ปอนด์ (ของเดิมน็อตยืดแล้ว)
ใส่ไปก็เอาไม่อยู่ เปลี่ยนน็อตใหม่ อัดไป 120 ปอนด์ เจาะวาล์วน้ำเพิ่ม
ตอนนี้กลับมาเหมือนเดิมแล้วครับ อู่บอกอัดบูทช์ได้สบายรับประกัน


:smiley-music021:
ช่างที่ไหนทำให้อ่ะครับ ช่างตี๋ ป่าว ถ้าไม่ใช่ขออภัยครับ อิอิ:smiley-eatdrink014::smiley-eatdrink014: แล้วปะเก็นใช้แบบไหนครับ มาแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน

bird3255
01-10-2010, 11:46
ประสบการณ์..ถ้าไม่เป็นกัน..ก็ไม่รู้

dsign
01-10-2010, 12:26
หม้อน้ำเปลี่ยนแล้วต้องดีขึ้นแน่ครับ เพราะยิ่งจุน้ำได้เยอะ(มิติตัวหม้อน้ำต้องใหญ่ขึ้นนะครับ ) ค่าการรับความจุความร้อนก็จะสูงไปอีกครับ อย่าลืมดูนะครับว่า หม้อน้ำที่จะเปลี่ยนเป็นอย่างไร ต้องสังเกตที่ ฟินและหลอดครับ ถ้ามีเยอะๆยิ่งดีครับ เพราะตัวหลอดมันจะสัมผัสโดยตรงกับน้ำ จากนั้นความร้อนจะเกิดการนำผ่านมายังครีบฟินครับ สุดท้ายลมจากพัดลมก็จะดูดความร้อนออกทิ้งข้างนอกครับ มีตังผมว่าจะทำเหมือนกัน.........:smiley-eatdrink042::smiley-eatdrink042:

...ขอบคุณครับน้า สงสัยคงต้องเปลี่ยนมั่งละงานนี้... :smiley-eatdrink055:


ไม่ลืมมมมมมมมม ไม่ลืมไม่ลืมไม่ลืมมมมมมมมม กร้ากกกกกกกกก



หนุ่มสมาร์ทเกจ

...รับซักเหลี่ยมมั้ยครับ... :smiley-music024:

aj anucha
01-10-2010, 17:33
ประสบการณ์..ถ้าไม่เป็นกัน..ก็ไม่รู้
อย่าเลยพี่เบริ์ด ไม่เป็นแหละดีแล้วนะ ทำกันไว้ก่อนอย่างพี่ ผมว่าอุ่นใจกว่าถ้าคิดจะทำแรงๆ....:yociexp55:

aj anucha
01-10-2010, 17:49
วันนี้ ผมแกะวาล์วน้ำของเดิมมาเทียบกับ วาล์วเครื่อง 2.8
อ่าดูแล้วบ่ามันไม่เท่ากันนี่หว่า ตัวของ 2.8 มันเล็กกว่าอ่ะครับ (บ่ามันจะเล็กจนเกือบๆตกร่องไปแล้ว ) อืม เอาไงก็ดี ...ที่นี่เลยลองใส่ไปแบบขอบวาล์วหมิ่นๆนี่แหละ ดูซิจะซิลน้ำอยู่ไหม จากนั้นก็ประกอบฝาครอบเสร็จ ก็เอานิ้วสอดเข้าไปกดวาล์วน้ำครับ เวลามันจะตกร่องป่าว โอ้วว ...มันใช้ได้นี่ บ่ามันยังรับอยู่ ก็เลยทดลองวาล์วตัวนี้โดยการ
1.ฟรีเครื่องไว้ครับเพื่อดูอาการสักพักครับ ติดเครื่องไว้พักเดียวความร้อนก็ค่อยๆขึ้นมาอย่างปกติ เหมือนวาล์วตัวติดรถเลยครับ(ตอนใช้วาล์วเจาะ ความร้อนตอน วอร์มอัพ ขึ้นช้า มากๆครับ และมันจะไม่นิ่ง เข็มความร้อน จะวิ่งขึ้นลงบ่อยๆ) ผลก็น่าพอใจระดับนึงเพราะเข็มวัดความร้อนมันจะไปหยุดที่ประมาณ 2.2 ขีดครับ ในขณะรอบเดินเบา
2. ช่วงที่เราขับแบบปกติทั่วไปก็จะขึ้นแค่ 2.2 ขีดเหมือนเดิมครับ
3. ถ้าช่วงใช้ความเร็วสูงๆหน่อยมันก็จะขึ้นไปแตะที่ประมาณ 2.5ขีด(วาล์วเดิมๆก็ขึ้นแค่ 2.5 ขีดครับ แต่มันจะค้างไว้ระดับนั้นเลย) แต่สำหรับวาสล์วตัวนี้แป็บเดียวก็ลงเหลือประมาณ 2.3 ขีดครับ.....

aj anucha
01-10-2010, 17:52
แต่ยังไม่แนะนำให้ทำกันครับ ผมต้องลองระยะยาวๆก่อนครับ
อีกอย่างวาล์วของเครื่อง 2.8 บ่ามันเล็กกว่าของเดิมๆติดรถ ผมว่าถ้าใส่แล้วไม่ตกร่องก็ดีไปครับ แต่ถ้ามันตกร่อง ก็จะกลายเป็นว่าเหมือนไม่ได้ใส่วาล์วน้ำ เพราะน้ำมันจะวิ่งวนได้ตลอด ทางที่ดีถ้าอย่างใส่วาล์วน้ำที่เปิดเร็วๆขึ้น ควรลองเทียบรุ่นที่บ่าเท่ากันดีกว่าครับ

aj anucha
01-10-2010, 17:59
รูปยืนยันว่า ความร้อนลงจากค่าเดิมๆครับ
ภาพนี้ถ่ายหลังจาก ผมอัดมาประมาณ 5กิโล แล้วก็จอดเดินเบาไว้ครับ:doraemon8:

aj anucha
01-10-2010, 18:01
แต่ถ้าเป็น วาล์วเจาะ ความร้อนจะขึ้นแค่ ไม่ถึง 2 ขีดครับ แล้วอุณหภูมิจะไม่นิ่งครับ
ผมว่าอุณหภูมิมันไม่เหมาะที่จะใช้งาน
อย่างไรก็แล้วแต่ ผมว่าการทำแบบนี้มันแก้ที่ปลายเหตุมากกว่าครับ ทางที่ดี ถ้าคิดจะทำโมเครื่องยนต์ให้มากกว่าสแตนดาร์ด
..ทำกันไว้ก่อนก็จะดีมากๆครับ หาหม้อน้ำดีๆสักใบ +ทำปะเก็นสูบใหม่ จะได้ไม่เป็นกังวลกับเรื่องแบบนี้............

triton9908
01-10-2010, 18:49
ช่างที่ไหนทำให้อ่ะครับ ช่างตี๋ ป่าว ถ้าไม่ใช่ขออภัยครับ อิอิ:smiley-eatdrink014::smiley-eatdrink014: แล้วปะเก็นใช้แบบไหนครับ มาแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน


ทำที่อู่พี่หลงครับน้า ส่วนปะเก็นแบบไหนนั้น ผมไม่รู้อะ ไปถึงอู่เห็นแขวนอยู่
โดนพ่นด้วยสเปร์อะไรก็ไม่รู้ ออกเป็นสีทองแดงครับ :emo024mc1:

น้องขาวมุก
01-10-2010, 19:10
น้าเล้งครับ มันจะมี ของฮอนด้า อีกรุ่นนึงครับ ที่เปิดเร็วอ่ะครับ ผมจำไม่ได้ว่าเปิดที่เท่าไหร่ รู้สึกว่าจะเร็วกว่าของสตราด้า หรือเท่าสตราด้า นี่แหล่ะครับ ลองไปหามาเทียบดูครับ เผื่อจะใหญ่กว่าของสตราด้าครับ

ผมก็เคยจะเอามาใส่เครื่องเจผมครับ แต่พอผมทำหม้อน้ำมาใหม่เป็นมีเนียมใบใหญ่ อาการตัวร้อนมันหายไป ก็เลย ใช้วาล์วน้ำเดิมเจครับ เปิดที่ 82 องศา

ถ้าน้าเล้งยังไม่ได้ทำหม้อน้ำ ลองดูครับ อาการจะดีขึ้นมาอีกครับ

ลองเช็คพวกพัดลมด้วยครับ ว่ามันยังทำงานดีอยู่เปล่าครับ

ระบบระบายความร้อนต้องทุกๆอย่างพอดีกันครับ

nopgoon
01-10-2010, 21:03
แต่ยังไม่แนะนำให้ทำกันครับ ผมต้องลองระยะยาวๆก่อนครับ
อีกอย่างวาล์วของเครื่อง 2.8 บ่ามันเล็กกว่าของเดิมๆติดรถ ผมว่าถ้าใส่แล้วไม่ตกร่องก็ดีไปครับ แต่ถ้ามันตกร่อง ก็จะกลายเป็นว่าเหมือนไม่ได้ใส่วาล์วน้ำ เพราะน้ำมันจะวิ่งวนได้ตลอด ทางที่ดีถ้าอย่างใส่วาล์วน้ำที่เปิดเร็วๆขึ้น ควรลองเทียบรุ่นที่บ่าเท่ากันดีกว่าครับ
เล้งหาที่บ่ามันเท่าของเดิมดีกว่า ส่วนเป็นรู่นไหนไว้ถ้าได้เจอกันแล้วจะบอกให้รับรองเท่าตัวเดิมพอดี ของเดิมเปิดที่ 82 องศา ตัวที่เอามาใส่แทนจะเปิดที่ 76 องศารับรองอาการความร้อนขึ้นหายแน่ๆ เพราะว่าเอาสมาทเกจวัดมันจะลดไปจากเดิมหรือเย็นกว่าเดิม 10 องศา

alex
01-10-2010, 21:59
เล้งหาที่บ่ามันเท่าของเดิมดีกว่า ส่วนเป็นรู่นไหนไว้ถ้าได้เจอกันแล้วจะบอกให้รับรองเท่าตัวเดิมพอดี ของเดิมเปิดที่ 82 องศา ตัวที่เอามาใส่แทนจะเปิดที่ 76 องศารับรองอาการความร้อนขึ้นหายแน่ๆ เพราะว่าเอาสมาทเกจวัดมันจะลดไปจากเดิมหรือเย็นกว่าเดิม 10 องศา
หาเจอแล้วเหรอครับพี่น้อง

joetriton
01-10-2010, 22:41
เล้งผมมีใบนึง..โข่งหลังแปรผัน
แกรปล่อยเท่าไหร่ตาวุส เด๋วโทรหานะจ๊ะที่รัก คริๆๆ:i39:

joetriton
01-10-2010, 22:44
แกรปล่อยเท่าไหร่ตาวุส เด๋วโทรหานะจ๊ะที่รัก คริๆๆ:i39:
ลูกเก่าเริ่มไม่มันส์ล๊ะ คริๆๆๆ:emo012eu7:

aj anucha
02-10-2010, 01:13
ทำที่อู่พี่หลงครับน้า ส่วนปะเก็นแบบไหนนั้น ผมไม่รู้อะ ไปถึงอู่เห็นแขวนอยู่
โดนพ่นด้วยสเปร์อะไรก็ไม่รู้ ออกเป็นสีทองแดงครับ :emo024mc1:
สงสัยสเปร์ทองแดงแหละครับ ตอนแรกผมก็ทำแบบนั้นมันก็ยังไม่อยู่ครับ:emo023vv3:

aj anucha
02-10-2010, 01:15
น้าเล้งครับ มันจะมี ของฮอนด้า อีกรุ่นนึงครับ ที่เปิดเร็วอ่ะครับ ผมจำไม่ได้ว่าเปิดที่เท่าไหร่ รู้สึกว่าจะเร็วกว่าของสตราด้า หรือเท่าสตราด้า นี่แหล่ะครับ ลองไปหามาเทียบดูครับ เผื่อจะใหญ่กว่าของสตราด้าครับ

ผมก็เคยจะเอามาใส่เครื่องเจผมครับ แต่พอผมทำหม้อน้ำมาใหม่เป็นมีเนียมใบใหญ่ อาการตัวร้อนมันหายไป ก็เลย ใช้วาล์วน้ำเดิมเจครับ เปิดที่ 82 องศา

ถ้าน้าเล้งยังไม่ได้ทำหม้อน้ำ ลองดูครับ อาการจะดีขึ้นมาอีกครับ

ลองเช็คพวกพัดลมด้วยครับ ว่ามันยังทำงานดีอยู่เปล่าครับ

ระบบระบายความร้อนต้องทุกๆอย่างพอดีกันครับ

ครับผม ขอบคุณมากนะครับ ไว้เดี๋ยวผมจะลองดู:yenta4-emoticon-002

aj anucha
02-10-2010, 01:16
เล้งหาที่บ่ามันเท่าของเดิมดีกว่า ส่วนเป็นรู่นไหนไว้ถ้าได้เจอกันแล้วจะบอกให้รับรองเท่าตัวเดิมพอดี ของเดิมเปิดที่ 82 องศา ตัวที่เอามาใส่แทนจะเปิดที่ 76 องศารับรองอาการความร้อนขึ้นหายแน่ๆ เพราะว่าเอาสมาทเกจวัดมันจะลดไปจากเดิมหรือเย็นกว่าเดิม 10 องศา
ครับพี่นพไว้ว่างๆคงได้เจอกันครับ:1192373601::smiley-eatdrink055:

aj anucha
02-10-2010, 01:20
ตอนนี้รถผมมีปัญหาอีกอย่างแล้วครับ คือ เวลาตอนเช้าๆ เครื่องเย็น สตาร์ทครั้งแรกนี่
ลองกดคันเร่งไป รถมีอาการสดุด เหมือนน้ำมันท่วมครับ ซึ่งครั้งก่อนๆที่ใช้ปะเก็นศูนย์ไม่มีปัญหาเรื่องนี้ครับ ผมคิดว่าปะเก็นตัดตัวใหม่อาจจะหนาไปครับ จึงทำให้แรงอัดน้อยลง
จึงทำให้ตอนที่อุณหภูมิเครื่องน้อยๆ น้ำมันเผาไหม้ไม่ได้ครับ แต่ถ้าความร้อนขึ้นไประดับ
1.5 ขีด รถถึงจะเดินได้เรียบเหมือนเดิมๆอ่ะครับผม.....งานมาอีกล่ะ เซงๆ

coppy42
02-10-2010, 01:31
ตอนนี้รถผมมีปัญหาอีกอย่างแล้วครับ คือ เวลาตอนเช้าๆ เครื่องเย็น สตาร์ทครั้งแรกนี่
ลองกดคันเร่งไป รถมีอาการสดุด เหมือนน้ำมันท่วมครับ ซึ่งครั้งก่อนๆที่ใช้ปะเก็นศูนย์ไม่มีปัญหาเรื่องนี้ครับ ผมคิดว่าปะเก็นตัดตัวใหม่อาจจะหนาไปครับ จึงทำให้แรงอัดไม่น้อยลง
จึงทำให้ตอนที่อุณหภูมิเครื่องน้อยๆ น้ำมันเผาไหม้ไม่ได้ครับ แต่ถ้าความร้อนขึ้นไประดับ
1.5 ขีด รถถึงจะเดินได้เรียบเหมือนเดิมๆอ่ะครับผม.....งานมาอีกล่ะ เซงๆ
*ขอมั่วด้วยคนนะครับน้าอนุชา* ผมว่าใช่เลยละครับเครื่องไดเร็คฯ มันต้องการแรงอัดเพื่อจุดระเบิดตามมาตรฐานของมัน แต่ตัวเลขผมไม่รู้ครับว่ากี่บาร์กี่ปอนด์ คต.ของน้ามีประโยชน์กับสมาชิกมากมาย ยามไดที่รถหมดประกันศูนย์ สมาชิกต้องเริ่มควักกระเป๋าเอง ความรู้แบบนี้ละที่พวกเรา พวกเค้าต้องการครับผมขอชมว่าเยื่ยมจริงๆ :kapook-17195-8823:

aj anucha
02-10-2010, 10:02
ครับ.. มีอะไรก็มาช่วยๆกันครับ
ผมก็ว่าแบบนั้นแหละครับ ปะเก็นมีผลมากๆ หากจะใช้ปะเก็นตัด ที่ไม่ใช่ของศูนย์ก็ควรเลือกให้เหมาะสมครับ
อย่าให้หนาเกินไป แต่ถ้ารถเราไม่ได้ปาดฝามาก็ให้ใช้ปะเก็นที่ความหนาเท่าเดิมของโรงงานดีกว่าครับ....

W-ut
02-10-2010, 16:35
วันนี้มีรถในคลับมาทำหนึ่งคันครับ....ที่อู่เพื่อนผม ปะเก็นข้ามนำดัน
ปะเก็นสามแผ่นซ้อน(เหล็ก) พับขอบ นอกใน เห็นเจ้าของร้านรับประกันอย่างออกหน้าออกตา ว่าดีสุดที่ทำมา(มันคุยน่าดู)
สร้างมาสำหรับไทรทันทำมาหลายคัน แรงๆผ่านร้านแกหมด(เขาขับผ่านไปรึเปล่าไม่อยากแซว)

W-ut
02-10-2010, 16:36
เล้งหาที่บ่ามันเท่าของเดิมดีกว่า ส่วนเป็นรู่นไหนไว้ถ้าได้เจอกันแล้วจะบอกให้รับรองเท่าตัวเดิมพอดี ของเดิมเปิดที่ 82 องศา ตัวที่เอามาใส่แทนจะเปิดที่ 76 องศารับรองอาการความร้อนขึ้นหายแน่ๆ เพราะว่าเอาสมาทเกจวัดมันจะลดไปจากเดิมหรือเย็นกว่าเดิม 10 องศา
น้านพอย่าลืมบอกกันมั่งนา กลัวจริงๆ

W-ut
02-10-2010, 16:37
หาเจอแล้วเหรอครับพี่น้อง
อย่าลืมโพนอินด้วยนะน้าเล็ก

aj anucha
02-10-2010, 22:23
อ้าว ปะเก็นพับขอบมายังเอาไม่อยู่อีกหรอครับ และอัดปอนด์ฝาสูบเท่าไหร่ครับ
ที่ผมทำมา อัด 120 lb

ส่วนวาล์วน้ำที่ขนาดและบ่าเท่าของไทรทัน ใช้ของ นิสสัน a32 ครับ เปิดที่ 76.8 C
ขอบคุณ ข้อมูลจาก น้าที่ชลบุรีด้วยนะครับ........ ไม่ทันได้ถามชื่อ ต้องขออภัยด้วยครับ

romeoking
03-10-2010, 03:33
ลองตัดสปริงยังคับทั้งสองตัวเลย ตัดตัวใหญ่ก่อนแล้วต้มน้ำเอาปรอทวัดเอาคับว่าเราจะให ้มันเปิดที่เท่าไหร่ ตอนต้มก็ปิดฝาหม้อด้วยนะคับอุณภูมิความร้อนจะได้ใกล้ เคียงเหมือนตอนที่มันยังใส่อยู่ พอได้อุณภูมิที่ต้องการแล้วค่อยตัดสปริงตัวเล็กต่อคั บตัวเล็กนี่กะเอาประมาณซักเซนครึ่งก็พอคับ ลองดูนะคับถ้าอยากจะลองทำดู เพราะตอนนี้ผมก็ทำอยู่เปิดอยู่ที่ 74-75 องศาครับ.......:emoticon-cartoon-00

W-ut
03-10-2010, 12:26
อ้าว ปะเก็นพับขอบมายังเอาไม่อยู่อีกหรอครับ และอัดปอนด์ฝาสูบเท่าไหร่ครับ
ที่ผมทำมา อัด 120 lb

ส่วนวาล์วน้ำที่ขนาดและบ่าเท่าของไทรทัน ใช้ของ นิสสัน a32 ครับ เปิดที่ 76.8 C
ขอบคุณ ข้อมูลจาก น้าที่ชลบุรีด้วยนะครับ........ ไม่ทันได้ถามชื่อ ต้องขออภัยด้วยครับ
อ๋อ...ไม่ใช่เล้งอันที่ทำมาใหม่พับขอบจร้า วันนี้ประกอบอยู่

joetriton
03-10-2010, 15:17
อ๋อ...ไม่ใช่เล้งอันที่ทำมาใหม่พับขอบจร้า วันนี้ประกอบอยู่
:smiley-music027::smiley-music027::smiley-music027::emotion_006_onion:

aj anucha
03-10-2010, 21:24
ลองตัดสปริงยังคับทั้งสองตัวเลย ตัดตัวใหญ่ก่อนแล้วต้มน้ำเอาปรอทวัดเอาคับว่าเราจะให ้มันเปิดที่เท่าไหร่ ตอนต้มก็ปิดฝาหม้อด้วยนะคับอุณภูมิความร้อนจะได้ใกล้ เคียงเหมือนตอนที่มันยังใส่อยู่ พอได้อุณภูมิที่ต้องการแล้วค่อยตัดสปริงตัวเล็กต่อคั บตัวเล็กนี่กะเอาประมาณซักเซนครึ่งก็พอคับ ลองดูนะคับถ้าอยากจะลองทำดู เพราะตอนนี้ผมก็ทำอยู่เปิดอยู่ที่ 74-75 องศาครับ.......:emoticon-cartoon-00
ครับพี่ ขอบคุณมากครับ เดี๋ยวผมลองดูครับ:emotion_006_onion::emotion_006_onion:

aj anucha
03-10-2010, 21:24
:smiley-music027::smiley-music027::smiley-music027::emotion_006_onion:
:emotion_006_onion::01cbb16d12::kapook-17195-8823:

nopgoon
03-10-2010, 21:38
น้านพอย่าลืมบอกกันมั่งนา กลัวจริงๆ
ได้เลยครับน้า

jee4x4
03-10-2010, 21:39
:emotion_006_onion::01cbb16d12::kapook-17195-8823:
น้าเล้งครับค่า ECT เท่าไรครับถึงจะเกิดปัญหาเรื่องความร้อนสูงเพราะตอนนี้ผมขับ 180 ECT มันอยู่ที่ 95-96'C แล้วครับแบบนี้น้ำจะดันรึเปล่ากลัวจังเลยแล้วมีแนวทางไหนแก้ไขได้บ้างถ้าอยากแช่ยาว:yenta4-emoticon-002

evoda3
03-10-2010, 22:28
น้าจีใส่อินเตอร์แล้วนี่น่าจะเอาอยู่นะ 94-96จะเป็นตอนถอนคันเร่งป่าวแปบเดียวก็ลงแล้วให้เอาน้ำมันไปซิลอีกหน่อยจะได้เซพเครื่องเรา แบบไม่มีคันขับเร็วๆไม่เหนียวนะน้าอยากแรงอย่ากลัวควันดำ
ใส่สมาร์ทเกจล่ะสิท่า มันปกติน้าใส่เตอร์จะต้องลงแน่ๆ

W-ut
03-10-2010, 23:26
รูปครับ คันที่ว่า อุหภูมิท่อไอดี ร้อยกว่า 116 ไม่มีอินเตอร์

W-ut
03-10-2010, 23:27
ฝาโก่ง ขัดหน้า 0.3 mm

aj anucha
04-10-2010, 13:36
น้าเล้งครับค่า ECT เท่าไรครับถึงจะเกิดปัญหาเรื่องความร้อนสูงเพราะตอนนี้ผมขับ 180 ECT มันอยู่ที่ 95-96'C แล้วครับแบบนี้น้ำจะดันรึเปล่ากลัวจังเลยแล้วมีแนวทางไหนแก้ไขได้บ้างถ้าอยากแช่ยาว:yenta4-emoticon-002
รถผมน่าจะทะลุหลักร้อยไปแล้วครับน้า แต่พอน้ำดันออกมานี่ขึ้นปิ๊ดๆๆ
ความร้อนเกือบแตะๆขีดแดงเลยครับ :smiley-transport007

ฝากไว้สำหรับทุกคนนะครับ
วิธีแก้ไขเฉพาะหน้าเมื่อความร้อนขึ้นสูงมาก จะทำอย่างไร??

1. เปิดฝากระโปรงครับ แล้วตรวจดูในถังพักน้ำหากน้ำแห้งก็ให้เติมน้ำที่ถังพักให้อยู่ในระดับ max เหมือนเดิมแล้วขับต่อไปได้ครับ แต่หากเห็นว่าน้ำในหม้อพักล้นออกมา แล้วมีเสียงน้ำเดือด พูดๆๆ (รถพี่ น้ำดันแล้วครับ ห้ามขับต่อนะครับ เพราะอย่างไงความร้อนจะไม่ลงแล้วครับ ....จนกว่าจะทำตาม ข้อ 1.1จนถึงข้อ 3)
1.1ต้องรีบจอดฟรีพักเครื่องไว้ 10นาที ปิดแอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าในรถทุกชนิดเปิดฝากระโปรงขึ้น เปิดฝา"หม้อพักน้ำ"ออก
2.ใช้ผ้าชุบน้ำเย็น จากนั้นเอามือดันฝาหม้อน้ำไว้แล้วค่อยๆคลายสักครึ่งรอบครับ(กดไว้นิดหน่อยนะครับ ระวังฝาหม้อน้ำจะหลุด แล้วเดียวน้ำจะพุ่งเข้าหน้า)
เมื่อหมุนเข้า-คลายออก น้ำเดือดมันจะดันออกที่"หม้อพักน้ำ"ครับ (ทำแบบนี้จนมั่นใจว่าแรงดันภายในหม้อน้ำหมด) ค่อยๆเปิดฝาหม้อน้ำออกมาครับ
3.เติมน้ำใหม่ลงไปให้เต็มครับ แล้วปิดฝาหม้อน้ำและฝาหม้อพักน้ำด้วย
จึงจะสามารถขับต่อไปได้ครับ (เมื่อออกรถแล้วไม่ควรขับใช้ความเร็วสูงครับค่อยๆขับไปสักไม่เกิน 90-100 km/hr แล้วหมั่นดูเกจความร้อนบ่อยๆนะครับ )
...วันหลังก็รีบนำรถเข้าศูนย์หรืออู่ไปเพื่อทำการแก้ไขต่อไปครับ:kapook-17200-2055:


ขอให้ทุกคนเดินทางกันอย่างปลอดภัยครับ ไร้ปัญหารบกวนนะครับ ^^

:i40::i40:

aj anucha
04-10-2010, 13:44
พี่วุฒิ ปะเก็นแบบนี้ซิ้อที่ไหนครับ ราคาเท่าไหร่ แล้วมีความหนาให้เลือกไหมครับ??

อย่างไงอย่าให้ปะเก็นหนาเกินไปนะครับ เดี๋ยวตอนเครื่องเย็นมันจะเดินไม่เรียบ...

triton9908
04-10-2010, 13:56
ของผมซิแปลก น้ำดันออกจากหม้อพักกระเซนเต็มห้องเครื่องด้านซ้าย
แต่เกจวัดความร้อนยังอยู่ตรงกลางที่เดิม ไม่เห็นมันขึ้นเลย งง

:i41:

witthaya
04-10-2010, 21:38
ของผมซิแปลก น้ำดันออกจากหม้อพักกระเซนเต็มห้องเครื่องด้านซ้าย
แต่เกจวัดความร้อนยังอยู่ตรงกลางที่เดิม ไม่เห็นมันขึ้นเลย งง

:i41:
อ่านไปอ่านมา อาการนี้ผมก็เคยเป็น ก่อนแหวนลูกสูบหักคับ
อาการมันจะเหมือนที่น้าศักดิ์ว่ามาเลยคับ หลังจากนั้นรถก็เคยฮีทมาครั้งนึงคับ
แต่จอดเข้าข้างทางทัน (ความร้อนยังไม่ถึงขีดบนสุด) จากนั้นก็รอให้เครื่องเย็นลงแล้วค่อยเปิดหม้อน้ำดูครับ ปรากฎว่าน้าหายไปประมาณ 1-2 ลิตรคับ (สังเกตุจากน้ำที่เติมลงไป) และเมื่อเติมน้ำเสร็จแล้วก็ขับใช้งานปรกติ แต่อาการน้ำดันก็ยังมีอยู่คับแต่ไม่มาก หลังจากนั้นประมาณ 1-2 อาทิตย์ก็งานเข้าคับ แหวนลูกสูบหัก อาการก็ตามนี้เลยคับ http://www.thaitritonclub.com/forum/showthread.php?t=16852&highlight=%C5%D9%A1%CA%D9%BA
จนทุกวันนี้ผมยังหาสาเหตุที่แหวนหักยังไม่ได้เลยคับ:emo015ny9:
แต่ที่รู้ๆวันไปรับรถ สบายตัวเลยคับ เอาเงินไป 30,000 เหลือตังทอนกลับบ้าน แค่บาทเดียว:kapook-17198-9597::kapook-17198-9597::kapook-17198-9597:

W-ut
04-10-2010, 22:33
พี่วุฒิ ปะเก็นแบบนี้ซิ้อที่ไหนครับ ราคาเท่าไหร่ แล้วมีความหนาให้เลือกไหมครับ??
สั่งตัดครับน้าเล้ง 5 แผ่น ซ้อน เลือกความหนาตามใจชอบ(รถน้าแกขัดฝาออก เลยเพิ่ม นิดนึง) ราคาไม่แพงครับน้าเล้ง ไม่น่าเกิน 2000 พัน เคยสั่งตัด มาหลายครั้ง ตอนขับเบนซินครับ ราคาไม่แรง
อย่างไงอย่าให้ปะเก็นหนาเกินไปนะครับ เดี๋ยวตอนเครื่องเย็นมันจะเดินไปเรียบ...
ครับผมน้าเล้ง

ของผมซิแปลก น้ำดันออกจากหม้อพักกระเซนเต็มห้องเครื่องด้านซ้าย
แต่เกจวัดความร้อนยังอยู่ตรงกลางที่เดิม ไม่เห็นมันขึ้นเลย งง
คิดถึงน้าสัก จุ๊บๆ

:i41:


อ่านไปอ่านมา อาการนี้ผมก็เคยเป็น ก่อนแหวนลูกสูบหักคับ
อาการมันจะเหมือนที่น้าศักดิ์ว่ามาเลยคับ หลังจากนั้นรถก็เคยฮีทมาครั้งนึงคับ
แต่จอดเข้าข้างทางทัน (ความร้อนยังไม่ถึงขีดบนสุด) จากนั้นก็รอให้เครื่องเย็นลงแล้วค่อยเปิดหม้อน้ำดูครับ ปรากฎว่าน้าหายไปประมาณ 1-2 ลิตรคับ (สังเกตุจากน้ำที่เติมลงไป) และเมื่อเติมน้ำเสร็จแล้วก็ขับใช้งานปรกติ แต่อาการน้ำดันก็ยังมีอยู่คับแต่ไม่มาก หลังจากนั้นประมาณ 1-2 อาทิตย์ก็งานเข้าคับ แหวนลูกสูบหัก อาการก็ตามนี้เลยคับ http://www.thaitritonclub.com/forum/showthread.php?t=16852&highlight=%C5%D9%A1%CA%D9%BA
จนทุกวันนี้ผมยังหาสาเหตุที่แหวนหักยังไม่ได้เลยคับ:emo015ny9:
แต่ที่รู้ๆวันไปรับรถ สบายตัวเลยคับ เอาเงินไป 30,000 เหลือตังทอนกลับบ้าน แค่บาทเดียว:kapook-17198-9597::kapook-17198-9597::kapook-17198-9597:
แฟนผมเป็นไงบ้างน้าเอก

aj anucha
05-10-2010, 01:28
พี่วุฒิ แล้วปะเก็นเดิมส่งไปย้ำขอบได้ไหมครับ อย่างไงขอเบอร์โทรร้านหน่อยครับ..
ปะเก็นถ้าใช้ดีบอกมั้งนะครับผม เผื่อน้าๆในเว็ปที่เจอปัญหาจะได้ลองใช้กันดู

W-ut
05-10-2010, 19:16
พี่วุฒิ แล้วปะเก็นเดิมส่งไปย้ำขอบได้ไหมครับ อย่างไงขอเบอร์โทรร้านหน่อยครับ..
ปะเก็นถ้าใช้ดีบอกมั้งนะครับผม เผื่อน้าๆในเว็ปที่เจอปัญหาจะได้ลองใช้กันดู
เบอร์ที่ร้านเขาผมไม่มีครับน้าเล้ง แต่ที่อู่พี่โย่งแกมี ในส่วนของปะเก็นเดิมไปย้ำขอบ ไม่แน่ใจนะแต่ที่เขาทำมา เขาใช้ปะเก็น พับเข้าหากันครับ ว่างๆวันอาทิตย์เรียนเชิญนะ

CLIMAX
06-10-2010, 11:26
เบอร์ที่ร้านเขาผมไม่มีครับน้าเล้ง แต่ที่อู่พี่โย่งแกมี ในส่วนของปะเก็นเดิมไปย้ำขอบ ไม่แน่ใจนะแต่ที่เขาทำมา เขาใช้ปะเก็น พับเข้าหากันครับ ว่างๆวันอาทิตย์เรียนเชิญนะ

ไปไหนกันครับน้า:smiley-music001:

triton9908
06-10-2010, 11:31
ไปไหนกันครับน้า:smiley-music001:


ว้าน้องตรู ตกข่าว เขาจะไปบุกปั๊มเชลล์กันครับน้า (ปั๊มมันขายน้ำมันแพง)

:kapook-17198-9597::kapook-17198-9597::kapook-17198-9597:

aj anucha
06-10-2010, 20:59
ก็ว่ากันไปครับ 5555++

aj anucha
06-10-2010, 21:00
ไปไหนกันครับน้า:smiley-music001:
เป็นไงบ้างพี่ กล่องขายได้ยังครับเห็นเงียบๆไป:smiley-bounce016:

joetriton
06-10-2010, 21:37
:smiley-bounce016::smiley-bounce016::smiley-bounce016:

witthaya
06-10-2010, 22:16
แฟนผมเป็นไงบ้างน้าเอก[/quote]
ใกล้คลอดแล้วคับน้าวุฒิ ประมาณสิ้นเดือนนี้คับ
ถ้าวันอาทิตย์นี้ไม่ทำงาน จะแวะไปมีตติ้งด้วยคนคับ:kapook-17350-3383:

MEAW_SAN
07-10-2010, 08:10
แฟนผมเป็นไงบ้างน้าเอก
ใกล้คลอดแล้วคับน้าวุฒิ ประมาณสิ้นเดือนนี้คับ
ถ้าวันอาทิตย์นี้ไม่ทำงาน จะแวะไปมีตติ้งด้วยคนคับ:kapook-17350-3383:[/quote]
คิดถึงนาคร้าบบบบบบ

aj anucha
07-10-2010, 12:09
:smiley-eatdrink048::smiley-eatdrink060::smiley-eatdrink060:

kai triton 2009.com
07-10-2010, 22:06
รถผมน่าจะทะลุหลักร้อยไปแล้วครับน้า แต่พอน้ำดันออกมานี่ขึ้นปิ๊ดๆๆ
ความร้อนเกือบแตะๆขีดแดงเลยครับ :smiley-transport007

ฝากไว้สำหรับทุกคนนะครับ
วิธีแก้ไขเฉพาะหน้าเมื่อความร้อนขึ้นสูงมาก จะทำอย่างไร??

1. เปิดฝากระโปรงครับ แล้วตรวจดูในถังพักน้ำหากน้ำแห้งก็ให้เติมน้ำที่ถังพักให้อยู่ในระดับ max เหมือนเดิมแล้วขับต่อไปได้ครับ แต่หากเห็นว่าน้ำในหม้อพักล้นออกมา แล้วมีเสียงน้ำเดือด พูดๆๆ (รถพี่ น้ำดันแล้วครับ ห้ามขับต่อนะครับ เพราะอย่างไงความร้อนจะไม่ลงแล้วครับ ....จนกว่าจะทำตาม ข้อ 1.1จนถึงข้อ 3)
1.1ต้องรีบจอดฟรีพักเครื่องไว้ 10นาที ปิดแอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าในรถทุกชนิดเปิดฝากระโปรงขึ้น เปิดฝา"หม้อพักน้ำ"ออก
2.ใช้ผ้าชุบน้ำเย็น จากนั้นเอามือดันฝาหม้อน้ำไว้แล้วค่อยๆคลายสักครึ่งรอบครับ(กดไว้นิดหน่อยนะครับ ระวังฝาหม้อน้ำจะหลุด แล้วเดียวน้ำจะพุ่งเข้าหน้า)
เมื่อหมุนเข้า-คลายออก น้ำเดือดมันจะดันออกที่"หม้อพักน้ำ"ครับ (ทำแบบนี้จนมั่นใจว่าแรงดันภายในหม้อน้ำหมด) ค่อยๆเปิดฝาหม้อน้ำออกมาครับ
3.เติมน้ำใหม่ลงไปให้เต็มครับ แล้วปิดฝาหม้อน้ำและฝาหม้อพักน้ำด้วย
จึงจะสามารถขับต่อไปได้ครับ (เมื่อออกรถแล้วไม่ควรขับใช้ความเร็วสูงครับค่อยๆขับไปสักไม่เกิน 90-100 km/hr แล้วหมั่นดูเกจความร้อนบ่อยๆนะครับ )
...วันหลังก็รีบนำรถเข้าศูนย์หรืออู่ไปเพื่อทำการแก้ไขต่อไปครับ:kapook-17200-2055:


ขอให้ทุกคนเดินทางกันอย่างปลอดภัยครับ ไร้ปัญหารบกวนนะครับ ^^

:i40::i40:ของพี่ก็เป็นแต่ตอนเครื่องพี่ความร้อนขึ้นพี่ใจร้อนเปิดฝาหม้อน้ำพอน้ำดันหมดพี่ก็เติมน้ำใหม่ใส่วิ่งต่อเลย

aj anucha
09-10-2010, 00:59
ง่า พี่ไก่ ถ้ารถผมทำอย่างพี่ไก่นะ
ไม่หน้าแห ก็มือโดนลวกแหละพี่ เพราะน้ำ มันจะพุ่งออกมาจากฝาหม้อน้ำทันทีเลยครับ
ปริ๊ดๆๆๆ......

W-ut
11-10-2010, 23:26
พี่วุฒิ แล้วปะเก็นเดิมส่งไปย้ำขอบได้ไหมครับ อย่างไงขอเบอร์โทรร้านหน่อยครับ..
ปะเก็นถ้าใช้ดีบอกมั้งนะครับผม เผื่อน้าๆในเว็ปที่เจอปัญหาจะได้ลองใช้กันดู
สงสัยรถน้าแกงานเข้าอ่ะเล้ง กลัวฝาแตกในชิปเป๋งเลย เท่าที่คุยน้ำแห้งมาแล้วอ่ะ....

jee4x4
12-10-2010, 00:03
วันนี้ให้เพื่อนถามอู่ดังๆที่ทำรถลง 402 เขาบอกว่าสำหรับไตรตันปะเก็นแบบไหนก็น้ำดันเขาแนะนำให้อุดรูตาน้ำทิ้ง แล้วมันอยู่ตรงไหนหว่ามีใครเคยทำมาบ้างครับ

aj anucha
12-10-2010, 11:04
นี่ครับน้าจี อุดตรงที่ผมวงไว้ครับ:smiley-sport004:

dsign
12-10-2010, 20:17
วันนี้ให้เพื่อนถามอู่ดังๆที่ทำรถลง 402 เขาบอกว่าสำหรับไตรตันปะเก็นแบบไหนก็น้ำดันเขาแนะนำให้อุดรูตาน้ำทิ้ง แล้วมันอยู่ตรงไหนหว่ามีใครเคยทำมาบ้างครับ

...ถาม0มาบอกปะเก็นเรามี3สเตป สเตปA B และC ...

...แต่ละสเตปใช้3แผ่น แผ่นละ800กว่าบาท ถ้าเปลี่ยน3แผ่นก็2400ก่าๆ...

...ในแต่ละครั้งของการเปิดฝา ก็ต้องดูความหนาของปะเก็น เลือกใช้ตามสเตป ที่บอกมา เค้าว่ามางั้นนะ ผมยังงงๆ อยู่เนี่ย ใครกระจ่างเรื่องนี้ช่วยแถลงการหน่อยครับ... :21-7:

...อ้อน้าสยามที่รักครับ กระทู้นี้มีประโยชน์ยิ่งครับ ช่วยพิจารณาปักหมุดด้วยครับ ขอบคุณค๊าบ...

jee4x4
12-10-2010, 20:34
นี่ครับน้าจี อุดตรงที่ผมวงไว้ครับ:smiley-sport004:
ใช้อะไรอุดครับน้าเล้งแล้วมันจะมีผลเสียถึงขั้นฝาแตกรึเปล่าครับ


...ถาม0มาบอกปะเก็นเรามี3สเตป สเตปA B และC ...

...แต่ละสเตปใช้3แผ่น แผ่นละ800กว่าบาท ถ้าเปลี่ยน3แผ่นก็2400ก่าๆ...

...ในแต่ละครั้งของการเปิดฝา ก็ต้องดูความหนาของปะเก็น เลือกใช้ตามสเตป ที่บอกมา เค้าว่ามางั้นนะ ผมยังงงๆ อยู่เนี่ย ใครกระจ่างเรื่องนี้ช่วยแถลงการหน่อยครับ... :21-7:

...อ้อน้าสยามที่รักครับ กระทู้นี้มีประโยชน์ยิ่งครับ ช่วยพิจารณาปักหมุดด้วยครับ ขอบคุณค๊าบ...
ดูจากรายการอะไหล่ปะเก็นจะมี 2 ขนาดครับน้าหนุ่ม 0.95 และ 1.05 ตัวเลขประมาณนี้ครับเท่าที่ผมไปดูจากรายการอะไหล่ ผมเลยจัด 1.05 มาเลยพร้อมกับเจียร์ฝาสูบนิดๆและปาดบ่าวาล์วเพราะของเดิมเป็นตามดสงสัยกลับมารอบนี้แรงน่าดู อิอิ ยังไม่เข็ด

evoda3
12-10-2010, 21:04
ขาแรงแจ้งปัญหา มาแล้วเฝ้าระวังด้วยนะจ้ะแรงให้เหนียวด้วยนะจ้ะ

triton9908
12-10-2010, 21:13
กี่คันกันแล้วเนี่ย ใครไม่เคยเจอ บ่มีสบการณ์เด้อ ลองซะ อิอิ

:kapook-17198-9597::kapook-17198-9597::kapook-17198-9597:

jee4x4
12-10-2010, 21:16
กี่คันกันแล้วเนี่ย ใครไม่เคยเจอ บ่มีสบการณ์เด้อ ลองซะ อิอิ

:kapook-17198-9597::kapook-17198-9597::kapook-17198-9597:
น้าศักดิ์โดนมายังครับ แต่ได้ข่าวมาว่าหม้อมิเนียมอ้วนได้จริงเปล่าครับ :22emoticon-cartoon-

triton9908
12-10-2010, 21:26
น้าศักดิ์โดนมายังครับ แต่ได้ข่าวมาว่าหม้อมิเนียมอ้วนได้จริงเปล่าครับ :22emoticon-cartoon-

จะเหลือเล๊อะ :kapook-17199-4683:

aj anucha
13-10-2010, 00:48
ปะเก็นศูนย์มี 3 ไซส์ครับ
มีหนา 0.95 1.00 , 1.05mm ครับ เหลือเอาตามความเหมาะสมครับ
ที่ทำมาหลายๆเบอร์เพราะเค้าทำไว้เผื่อเราปาดฝาสูบครับ คือ สมมุติ ถ้าปาดไป 0.05 mm ก็ให้เลือกปะเก็นตัวใหม่ขนาดความหนา 1.00 mm
เพื่อชดเชยความหนาที่ถุกปาดไปครับ จะทำให้อัดตราส่วนการอัดและมุมการฉีดน้ำมันไม่เพี้ยนไปจากค่าเดิมครับ....
อย่างไงอย่าใช้หนาเกินไปนะครับ ของผมเองกำลังประสบปัญหาเรื่องปะเก็นหนาอยู่ครับ เพราะว่าเวลาสตาร์ทเครื่องเย็นๆ รอบจะสดุด บรึบๆๆๆ กดคันเร่งลึกๆไม่ได้เลยรถจะไม่วิ่ง มีแต่ควันขาวๆออกมาครับ แล้วสังเกตได้เลยว่าการตอบสนองคันเร่งหายไปนิดนึงครับ
จากความคิดผม.. เหมือนว่าน้ำมันเผาไหม้ไม่ได้ เพราะอุณหภูมิเครื่องเย็น แล้วกำลังอัดมันน้อยลงจากการใช้ปะเก็นหนาเกินไปครับ
อีกอย่างห้องเผาไหม้มันอยู่หัวลูกสูบ การฉีดเชื้อเพลิงเข้าไปเพื่อเผาไหม้ จะต้องฉีดกระจายละอองน้ำมันลงบนหัวสูบได้ทั่วๆ องศาการฉีดต้องถูกต้องครับ
การเผาไหม้จึงจะมีประสิทธิ์ภาพ หากการที่เราเสริมปะเก็นหนาเกินไปก็เท่ากับว่า 1.กำลังอัดหายแน่นอน 2.ระยะปลายหัวฉีดก็จะสูงขึ้น ทำให้น้ำมันเชื้อเพลิง ที่ฉีดออกมาไม่ลงหัวลูกสูบเต็มที่และองศาฉีดก็เพี้ยน เลยเกิดเป็นควันขาวๆออกมาตามระเบียบครับ...... เป็นห่วงคนทุกนะครับ อย่างไงก็หาข้อมูลไว้เยอะๆก่อนจะแก้ไขนะครับ

aj anucha
13-10-2010, 01:09
ว่าจะกลับใช้ปะเก็นเดิมแล้วครับพี่น้อง แต่ถ้าเปิดฝามารอบนี้มีโปรเจ็คที่จะต้องอัพต่ออีกแหละครับ ช่วงนี้มึนใช้ไปก่อนรองบอยู่ครับ อิอิ

aj anucha
13-10-2010, 01:12
น้าศักดิ์โดนมายังครับ แต่ได้ข่าวมาว่าหม้อมิเนียมอ้วนได้จริงเปล่าครับ :22emoticon-cartoon-
อ่าทำไมมันอ้วนขึ้นล่ะครับ สงสัยเจอน้ำร้อนๆไป คุณภาพหลอดไม่ถึงป่าวครับ
บวมเลยหรอ:emo013rk4::emo013rk4:

jee4x4
13-10-2010, 05:50
ว่าจะกลับใช้ปะเก็นเดิมแล้วครับพี่น้อง แต่ถ้าเปิดฝามารอบนี้มีโปรเจ็คที่จะต้องอัพต่ออีกแหละครับ ช่วงนี้มึนใช้ไปก่อนรองบอยู่ครับ อิอิ
มีโปรเจ็คอะไรใหม่ก็บอกด้วยนะน้าเล้งเผื่อมีประโยชน์กับชมรมน้ำดันเรา หุหุหุ:kapook-17351-2909:

triton9908
13-10-2010, 07:55
อ่าทำไมมันอ้วนขึ้นล่ะครับ สงสัยเจอน้ำร้อนๆไป คุณภาพหลอดไม่ถึงป่าวครับ
บวมเลยหรอ:emo013rk4::emo013rk4:

ก็ไอ้น้ำดันนี่แหละครับ ขับแบบดันๆอยู่ 1 อาทิตย์ ผลที่ตามมาเสียหม้อน้ำอีก 1 ใบ
สบายตัวเลย :kapook-17198-9597:

aj anucha
13-10-2010, 09:24
ของผมหม้อน้ำเดิมโรงงาน ปล่อยน้ำดันวิ่งมาเป็นอาทิตย์เหมือนกันครับ
ช่วงอาทิตย์นั้น น้ำทะลักออก แล้วก็เติมเข้าไปอีกหลายครั้ง
หม้อน้ำก็ไม่เป็นไรนะครับ ยังแจ๋วดี..

dsign
14-10-2010, 20:51
ปะเก็นศูนย์มี 3 ไซส์ครับ
มีหนา 0.95 1.00 , 1.05mm ครับ เหลือเอาตามความเหมาะสมครับ
ที่ทำมาหลายๆเบอร์เพราะเค้าทำไว้เผื่อเราปาดฝาสูบครับ คือ สมมุติ ถ้าปาดไป 0.05 mm ก็ให้เลือกปะเก็นตัวใหม่ขนาดความหนา 1.00 mm
เพื่อชดเชยความหนาที่ถุกปาดไปครับ จะทำให้อัดตราส่วนการอัดและมุมการฉีดน้ำมันไม่เพี้ยนไปจากค่าเดิมครับ....
อย่างไงอย่าใช้หนาเกินไปนะครับ ของผมเองกำลังประสบปัญหาเรื่องปะเก็นหนาอยู่ครับ เพราะว่าเวลาสตาร์ทเครื่องเย็นๆ รอบจะสดุด บรึบๆๆๆ กดคันเร่งลึกๆไม่ได้เลยรถจะไม่วิ่ง มีแต่ควันขาวๆออกมาครับ แล้วสังเกตได้เลยว่าการตอบสนองคันเร่งหายไปนิดนึงครับ
จากความคิดผม.. เหมือนว่าน้ำมันเผาไหม้ไม่ได้ เพราะอุณหภูมิเครื่องเย็น แล้วกำลังอัดมันน้อยลงจากการใช้ปะเก็นหนาเกินไปครับ
อีกอย่างห้องเผาไหม้มันอยู่หัวลูกสูบ การฉีดเชื้อเพลิงเข้าไปเพื่อเผาไหม้ จะต้องฉีดกระจายละอองน้ำมันลงบนหัวสูบได้ทั่วๆ องศาการฉีดต้องถูกต้องครับ
การเผาไหม้จึงจะมีประสิทธิ์ภาพ หากการที่เราเสริมปะเก็นหนาเกินไปก็เท่ากับว่า 1.กำลังอัดหายแน่นอน 2.ระยะปลายหัวฉีดก็จะสูงขึ้น ทำให้น้ำมันเชื้อเพลิง ที่ฉีดออกมาไม่ลงหัวลูกสูบเต็มที่และองศาฉีดก็เพี้ยน เลยเกิดเป็นควันขาวๆออกมาตามระเบียบครับ...... เป็นห่วงคนทุกนะครับ อย่างไงก็หาข้อมูลไว้เยอะๆก่อนจะแก้ไขนะครับ

...ข้อมูลแจ่มมากครับ ขอบคุณมากครับน้าเล้งประธานน้ำดัน... :kapook-17196-7812:

aj anucha
14-10-2010, 22:00
ก็ว่าไปนั้นครับน้า มีคนที่อื่นที่เข้า "ชมรมน้ำดัน-club" ก่อนผมซะอีกแต่ไม่ยอมแสดงตัว อิอิ

W-ut
14-10-2010, 22:18
ผมว่าต้องมีใครแอบแช่งผมแน่ๆเลย....55555555555555

aj anucha
15-10-2010, 10:46
โอมมจงดันๆ... 555 :smiley-sport036:

evoda3
30-10-2010, 23:29
มาตามข่าว น้าจีเจาะวาล์วน้ำดีขึ้นมั้ย
คนที่เปลี่ยนวาล์วน้ำ A-31 32 เป็นไงบ้างครับบอกเล่ากันบ้างนะครับ

aj anucha
31-10-2010, 11:48
รถผมเปลี่ยนวาล์ว a31 มา
ผลตอนอัดไม่ยาว ความร้อนจะขึ้นที่ 83-85 c จากนั้นอัดไป 140-160 ความร้อนจะขึ้นมาที่ 95 c จากนั้นพอผ่อนคันเร่งมาอยู่รอบใช้งานปกติความร้อนจะลงมาเหลือ 92 89 88 87 c ตามลำดับ.......

แต่อยากบอกว่า วาล์วน้ำที่เปิดเร็วอาจไม่ส่งผลดี ต่อเมื่อเราใช้ความเร็วสูงต่อเนื่องนานๆ
VV
v
การระบายความร้อน ซึ่ง "น้ำ"แบ่งเป็น 2 ส่วน ในระบบดังนี้
1. น้ำส่วนที่อยู่ในแผงหม้อน้ำ
(น้ำจะเย็นกว่าภายในเสื้อสูบ เพราะถูกดึงความร้อนออก โดยการนำความร้อนโดย ฟีนที่หม้อน้ำ และการพาความร้อนโดยพัดลม)
2. น้ำที่อยู่ในช่องทางตามเสื้อสูบ( น้ำตรงนี้จะร้อนกว่า)

ระหว่าง 2 ส่วนนี้ จะถุกปิดกั้นด้วย "วาล์วน้ำ " ซึ่งมันจะเปิดตามอุณหภูมิที่ถูกดีไซน์ไว้ว่า เปิดที่กี่องศา ผมว่านะเค้าทำไว้เพื่อเพิ่มค่าผลต่างอุณหภูมิ (เพื่ออะไรลองอ่านต่อนะครับ)
สืบเนื่องจากน้าๆใน คลับtriton ได้เปลี่ยนวาล์วน้ำมา ถามว่าทำไม่ความร้อนถึงลงเร็ว
ก็เพราะว่า น้ำร้อนในเสื้อสูบถูกแลกเปลี่ยนความร้อนกับน้ำเย็นที่แผงน้ำหม้อเร็วกว่าเดิม
เพราะว่าวาล์วน้ำเปิดเร็วขึ้น แต่เมื่อการที่วาล์วเปิิดเร็วแบบนี้ จะส่งผลเสียได้ครับ เพราะว่า
ในรอบความเร็วสูง ผมว่าความร้อนของ"น้ำ"ภายในเสื้อสูบ คงจะสูงมากกว่า 76.5 c แน่ๆ
จึงทำให้วาล์วน้ำเปิดตลอดเวลาในรอบการทำงา่นที่สูง เหตุนี้เองอาจเป็นผลทำให้หม้อน้ำรับภาระหนักครับ เหมือนกันว่า"น้ำ"ภายในหม้อน้ำยังระบายความร้อนออกยังไม่ทันไรเลย
วาล์วน้ำดันเปิดเร็วมาก"น้ำ"จะภายในเสื้อสูบมาสมทบอีก ทำให้เครื่องยนต์มีอุณภูมิสูงตลอดเวลาเพราะระบายไม่ออก เนืองจาก " ค่าผลต่างอุณหภุมิน้อยครับ "
ตอนแรกเลยด้วยความอยากลองก็เลยลองเปลี่ยนตามๆเค้า แต่ก็ดันลืมนึกถึงความเป็นจริงตามหลักการวิศวกรรมไปเลยครับ
การสูตรอัตราการถ่ายเทความร้อน
Q= UA (ผลต่างอุณหภูมิ t1-t2)
Qคือ อัตราการถ่ายเทความร้อน
U คือ ค่าสัมประสิทธิ์การถ่านเทความร้อน
A พื้นที่แลกเปลี่ยนความร้อน ( ในเรื่องนี้ จะหมายถึง แผงรังผึ้งหม้อน้ำครับ)
t1-t2 คือ ค่าผลต่างอุณภูมิที่ 1 และ 2 ( ในเรื่องนี้ t1จากเครื่องยนต์, t2 จากแผงหม้อน้ำ)
เพราะฉะนั้นการเพิ่มประสิทธิ์ที่ภาพในการแลกเปลี่ยนที่ถุกต้อง
1.เราจะต้องเพิ่ม A พื้นที่การแลกเปลี่ยนความร้อน โดยการขยายหม้อน้ำครับ
2. จะต้องกำหนดค่า (ผลต่างอุณหภูมิ t1-t2 )ให้เหมาะสมครับโดยการใช้"วาล์วน้ำ"ที่ถูกต้อง ที่กล่าวแบบนี้ผมหมายถึงว่า วาล์วน้ำเดิมกับหม้อน้ำเดิม คงแบบมาดีแล้วครับว่าความจะต้องเปิดที่ อุณหภูมิ 85 c เพราะความร้อนจะถูกแลกเปลี่ยนความร้อนที่แผงหม้อน้ำได้ในระยะเวลาที่เหมาะสมอยู่แล้ว
3. เพิ่มค่า U สัมประสิทธิ์การถ่ายเทความร้อน โดยในเรื่อง"หม้อน้ำ"
จะมีการนำความร้อนจากฟีนที่หม้อน้ำ และการพาความร้อนจากอากาศโดยพัดลมหน้าเครื่อง โดยจะหมายถึงการอัพเกรดโดยเลือกหม้อน้ำที่ฟีนเยอะๆ และหม้อน้ำจะหนากว่าเดิม และการอัพเกรดพัดลมหน้าเครื่องโดยใช้พัดลมที่มีความความเร็วลมเยอะขึ้น
........ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้พี่้น้อง triton club ได้อ่านกันก่อนจะตัดสินใจทำอะไรครับกับรถอันเป็น"ที่รัก"ครับ :kapook-17199-4683::kapook-17199-4683::kapook-17199-4683::kapook-17199-4683::emo012eu7::emo012eu7::emo012eu7::emo012eu7::emo012eu7:

aj anucha
31-10-2010, 20:03
เช็คอยู่ครับพี่นพ ก็ยังหนืดๆอยู่นะพี่
แล้วรถพี่เคยเปิดฝามายังครับ มาแชร์กันหน่อย

aj anucha
31-10-2010, 20:12
มารายงานต่อครับว่า....ตอนนี้ ทั้งปะเก็นตัด คาร์บอน, ปะเก็น ร้าน ช., ปะเก็นศูนย์
เอาไม่อยู่ครับพี่น้อง

ณ ตอนนี้รถผมน้ำดันไป"อีกแล้ว"ครับ พอดีเพิ่งเช็คมา พบว่าสตาร์ทติดง่ายครับ แต่พออัดไปแค่แป๊บเดียว ความร้อนวิ่ง 85 86 87 90 103 c เลยจอดเพื่อสังเกตดูครับ เปิดใกระโปรงมา คราวนี้แต่ยินเสียง ลม ฟิ๊ดๆๆ ดังตามจังหวะลูกสูบเลยครับ
สรุปเลยว่า กำลังอัดรั่วออกมา เนื่องจากปะเก็นรั่วครับ......(ปะเก็นคาร์บอนห่วยสุดๆเลย)
ตอนนี้ไม่ต้องสรรหาปะเก็นตัดจากไหนล่ะครับ ปะเก็นเดิมทนกว่าเพื่อนเลย ขนาดน้ำดัน คราวก่อน กำลังยังไม่รั่วขนาดนี้เลย ผมว่าเราไปอัพพวกหม้อน้ำหรือพัดลมดีกว่า แล้วขับคราวต่อไป ถ้าวิ่งไกลๆ เปิดดันรางใบเดียววิ่งพอแล้วครับ เครื่องจะได้ไม่ร้อน วิ่งสบายๆ
..วันศุกร์จะไปเข้าจอดที่อู่ช่างฟอร์ด เพื่อเปลี่ยนไปใช้ปะเก็นเดิมครับ

nopgoon
31-10-2010, 20:24
เช็คอยู่ครับพี่นพ ก็ยังหนืดๆอยู่นะพี่
แล้วรถพี่เคยเปิดฝามายังครับ มาแชร์กันหน่อย
รถเรานะรอบมันจัด ควรเติมน้ำยาพัดลมฟรีปั้มเพิ่มอะเพราะว่ามันจะได้หนืดในรอบที่มันสูงๆอะ

binary
31-10-2010, 21:52
มารายงานต่อครับว่า....ตอนนี้ ทั้งปะเก็นตัด คาร์บอน, ปะเก็น ร้าน ช., ปะเก็นศูนย์
เอาไม่อยู่ครับพี่น้อง

ณ ตอนนี้รถผมน้ำดันไป"อีกแล้ว"ครับ พอดีเพิ่งเช็คมา พบว่าสตาร์ทติดง่ายครับ แต่พออัดไปแค่แป๊บเดียว ความร้อนวิ่ง 85 86 87 90 103 c เลยจอดเพื่อสังเกตดูครับ เปิดใกระโปรงมา คราวนี้แต่ยินเสียง ลม ฟิ๊ดๆๆ ดังตามจังหวะลูกสูบเลยครับ
สรุปเลยว่า กำลังอัดรั่วออกมา เนื่องจากปะเก็นรั่วครับ......(ปะเก็นคาร์บอนห่วยสุดๆเลย)
ตอนนี้ไม่ต้องสรรหาปะเก็นตัดจากไหนล่ะครับ ปะเก็นเดิมทนกว่าเพื่อนเลย ขนาดน้ำดัน คราวก่อน กำลังยังไม่รั่วขนาดนี้เลย ผมว่าเราไปอัพพวกหม้อน้ำหรือพัดลมดีกว่า แล้วขับคราวต่อไป ถ้าวิ่งไกลๆ เปิดดันรางใบเดียววิ่งพอแล้วครับ เครื่องจะได้ไม่ร้อน วิ่งสบายๆ
..วันศุกร์จะไปเข้าจอดที่อู่ช่างฟอร์ด เพื่อเปลี่ยนไปใช้ปะเก็นเดิมครับ

เหนื่อยเลยน้า กว่าจะหายตัวร้อนได้

romeoking
01-11-2010, 00:49
รถผมโบเดิมบูส 30 อัด7กิโลความร้อนอยู่ที่90องศาคับ ใช้วาวส์เดิมเจาะ3มิล 6รู+ตัดสปริง หม้อน้ำเดิม พัดลมไฟฟ้า2ตัวคับ ประเก็นของ0 3แผ่นอัดกาวทองแดงทุกแผ่นคับ ความร้อนขึ้น90องศาแต่มันก็ลงเร็วนะคับ ยังไม่เกิดอาการน้ำดันคับ หรือว่าบูสผมน้อย หรือว่าอุณภูมิน้ำมันเครื่องผมไม่ค่อยสูงหว่า...... เอาใจช่วยนะคับน้าเล้ง เหนื่อยหลายรอบเลย หายไวๆนะคับ:kapook-17195-8823:

aj anucha
01-11-2010, 13:01
ครับผม เหนื่อยใจ เห้อ............
พอจะมีงบทั้งอย่างอื่น ดันมาพังทุกทีเลย

aj anucha
01-11-2010, 13:06
รถผมโบเดิมบูส 30 อัด7กิโลความร้อนอยู่ที่90องศาคับ ใช้วาวส์เดิมเจาะ3มิล 6รู+ตัดสปริง หม้อน้ำเดิม พัดลมไฟฟ้า2ตัวคับ ประเก็นของ0 3แผ่นอัดกาวทองแดงทุกแผ่นคับ ความร้อนขึ้น90องศาแต่มันก็ลงเร็วนะคับ ยังไม่เกิดอาการน้ำดันคับ หรือว่าบูสผมน้อย หรือว่าอุณภูมิน้ำมันเครื่องผมไม่ค่อยสูงหว่า...... เอาใจช่วยนะคับน้าเล้ง เหนื่อยหลายรอบเลย หายไวๆนะคับ:kapook-17195-8823:
ความร้อนตอนอัดขึ้นสุดแค่ 90 เองหรอครับ??
ของผมก่อนน้ำดัน วิ่งๆมาหลายอาทิตย์นะ มันวิ่ง 86 87....90 91 94 95 97 ครับ พอเบาคันเร่งมันจะค่อยๆลงมา รถผมหม้อน้ำเดิม พัดลมเดิมครับ
รถมีกล่อง 2 ใบ โบ td บูส 35 ปอนด์ ทำปั๊มช่างเบริ์ดมาแล้วครับ ( ก่อนทำปั๊ม ไม่เคยเจอปัญหาความร้อนเลย อัดไปเมืองกาญ ยาวๆยังนิ่งครับ)
แล้วน้า ใส่พัดลมไฟฟ้ารุ่นอะไรมาครับ ราคาแพงไหม โปรเจ็คพัดลมไฟฟ้าก็น่าสนครับ:smiley-bounce016::emo019ua3:

romeoking
01-11-2010, 13:17
ความร้อนตอนอัดขึ้นสุดแค่ 90 เองหรอครับ
ของผมก่อนน้ำดัน วิ่งๆมาหลายอาทิตย์นะ มันวิ่ง 86 87....90 91 94 95 97 ครับ พอเบาคันเร่งมันจะค่อยๆลงมา รถผมหม้อน้ำเดิม พัดลมเดิมครับ
แล้วน้า ใส่พัดลมไฟฟ้ารุ่นอะไรมาครับ ราคาแพงไหม โปรเจ็คพัดลมไฟฟ้าก็น่าสนครับ:smiley-bounce016::emo019ua3:
คับน้าเล้งรถผมขึ้นอยู่90คับตอนอัดสุด แต่ว่าตอนเช้าๆอุณภูมิขึ้นช้าหน่อยนะคับ ผมซื้อพัดลมที่เชียงกงมาน่ะคับสองตัว ตัวละ400บาท แล้วก็ไปให้เค้าตีบังลมให้ใหม่คับ บังลมพอดีพี่คนที่รู้จักกันเค้าเอาไปตีให้คับ เค้าคิด600 บาท รวมแล้วก้อ1400คับ พัดลมไฟฟ้าจังหวะเดียวนะคับ ผมว่าน่าจะเหมาะกว่า2จังหวะน่ะคับ ถ้ายังไม่เปลี่ยนหม้อน้ำ พัดลมไฟ้ฟ้าก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าของเดิมนะคับ............อ่อก่อนทำปั้มไม่เป็นแน่นอนคับอาการนี้(ถ้าไม่อัดบูสสูงๆนะคับ)เพราะอุณภูมิน้ำมัน มันไม่สูงเท่าตอนที่ทำปั้มมาแร้วคับ พอทำปั้มมาแล้วมันก็ไปเพิ่มอุณภูมิในห้องเผาไหม้เราอีก มันก็เพิ่มภาระให้กับน้ำหล่อเย็นอีก ทางที่ดีผมว่าน้าใส่ ออยคูเลอร์ซักใบน่าจะดีนะคับ ใส่มันหลังพัดลมไฟฟ้าแหละคับมันจะช่วยลดอุณภูมิให้เราได้อย่างดีเรยแหละคับ
ปล.ไทรตั้นเราบอบบางมากคับเรื่องคูลลิ่งต้องค่อยๆศึกษากันไปนะคับสำหรับระบบคูลลิ่งของน้องตั้นเรา :smiley-music021::emoticon-cartoon-00

aj anucha
01-11-2010, 19:40
ครับผม
แล้วถ้าพัดลม volvo น่าใช้ไหมครับเห็นตัวมันใหญ่ดี
แล้ว 2 สเต็ป มันทำงานอย่างไงครับ??? ต้องมีอุปกรณือะไรเสริมหรือป่าว
ราคาค่าตีบังลมถูกดีนะ อย่าไงขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ

romeoking
02-11-2010, 10:47
พัดลมวอลโว่ใช้ได้เลยคับดูว่ามีอุปกรณ์ครบป่าวเท่านั้นก็เอามาแปลงใส่ได้เลยคับ ตัวใหญ่แล้วทำงานสองจังหวะ รอบต่ำก็ทำงานแบบเบาๆ แต่พอรอบสูงๆนี่มันก็เต็มเหนี่ยวเรยคับ ส่วนพัดลมผมนี่มันเป็นของเบ๊นซ์ตัวSUVเครื่องห้าพันกว่าพวกกันเค้าบอกน่ะคับ พอดีผมฟลุคได้มาราคาโครตจะถูกหรือเค้าขายผิดก็ไม่รู้....งิงิ ตอนแรกผมก็ว่าจะใส่ของวอลโว่แหละคับแต่ดันไปเจอไอ้ตัวนี้ซะก่อนพวกเรยบอกให้เอาเรย จิงๆแล้วพัดลมสองจังหวะมันก็ดีกว่าจังหวะเดียวอยู่แล้วคับ แต่วันนั้นผมไปฟลุกเจอของเบ๊นซ์เข้าซึ่งแรงลมมันจะพอๆกับจังหวะที่สองของวอลโว่แหละคับ แต่ผมมีสองตัวแล้วทำงานจังหวะเดียว คือทำงานแบบปั่นแรงตั้งแต่ต้นเรยคับ แต่ถ้าเป็นพัดลมจังหวะเดียวทั่วๆไปผมว่าน้าเล้งใส่ของวอลโว่ดีกว่าคับแรงกว่าเยอะเลย.......:smiley-bounce016:

W-ut
02-11-2010, 11:01
งานเข้าอีกแล้วแล้วเล้ง
ในส่วนรถน้ำแห้งมาแล้วก็เจออาการเดียวกับเล้งเหมือนกันแต่ปะเก็นที่ตัดมาไม่มีปัญหา
ปะเก็นแล๊ปมาแล้ววาวล์น้ำไม่พอแน่คงต้องเพิ่มขนาดหม้อน้ำขึ้นอีกสักหน่อย(เหล็กมันเคยร้อนจัดมาแล้วก็คงไม่สมบูรณ์)
ถ้าเป็นรถดิมๆทำน้อยๆวาวล์น้ำที่เปลี่ยนใหม่คงแก้อาการได้ก่อนที่จะเป็นนะครับลองซัดยาวๆแล้วยังไม่พบปัญหา
ในส่วนเรื่องออยล์น้ำมันดีเชลก็กะลังจะเล่นอยู่ว่าจะเอาแบบดีแม๊กนะครับ

aj anucha
02-11-2010, 11:18
:007:
พัดลมวอลโว่ใช้ได้เลยคับดูว่ามีอุปกรณ์ครบป่าวเท่านั้นก็เอามาแปลงใส่ได้เลยคับ ตัวใหญ่แล้วทำงานสองจังหวะ รอบต่ำก็ทำงานแบบเบาๆ แต่พอรอบสูงๆนี่มันก็เต็มเหนี่ยวเรยคับ ส่วนพัดลมผมนี่มันเป็นของเบ๊นซ์ตัวSUVเครื่องห้าพันกว่าพวกกันเค้าบอกน่ะคับ พอดีผมฟลุคได้มาราคาโครตจะถูกหรือเค้าขายผิดก็ไม่รู้....งิงิ ตอนแรกผมก็ว่าจะใส่ของวอลโว่แหละคับแต่ดันไปเจอไอ้ตัวนี้ซะก่อนพวกเรยบอกให้เอาเรย จิงๆแล้วพัดลมสองจังหวะมันก็ดีกว่าจังหวะเดียวอยู่แล้วคับ แต่วันนั้นผมไปฟลุกเจอของเบ๊นซ์เข้าซึ่งแรงลมมันจะพอๆกับจังหวะที่สองของวอลโว่แหละคับ แต่ผมมีสองตัวแล้วทำงานจังหวะเดียว คือทำงานแบบปั่นแรงตั้งแต่ต้นเรยคับ แต่ถ้าเป็นพัดลมจังหวะเดียวทั่วๆไปผมว่าน้าเล้งใส่ของวอลโว่ดีกว่าคับแรงกว่าเยอะเลย.......:smiley-bounce016:
:emo024mc1::emo024mc1:

aj anucha
02-11-2010, 11:20
งานเข้าอีกแล้วแล้วเล้ง
ในส่วนรถน้ำแห้งมาแล้วก็เจออาการเดียวกับเล้งเหมือนกันแต่ปะเก็นที่ตัดมาไม่มีปัญหา
ปะเก็นแล๊ปมาแล้ววาวล์น้ำไม่พอแน่คงต้องเพิ่มขนาดหม้อน้ำขึ้นอีกสักหน่อย(เหล็กมันเคยร้อนจัดมาแล้วก็คงไม่สมบูรณ์)
ถ้าเป็นรถดิมๆทำน้อยๆวาวล์น้ำที่เปลี่ยนใหม่คงแก้อาการได้ก่อนที่จะเป็นนะครับลองซัดยาวๆแล้วยังไม่พบปัญหา
ในส่วนเรื่องออยล์น้ำมันดีเชลก็กะลังจะเล่นอยู่ว่าจะเอาแบบดีแม๊กนะครับ
ครับพี่วุฒิ ช่วงนี้ต้องใจเย็นๆไว้ รอเก็บตังทำหม้อน้ำและพัดลมใหม่
ปีหน้าฟ้าใหม่อาจมีอะไรดีๆขึ้นครับ :emo013rk4::emo013rk4::emo024mc1:

Nuk_Black-Triton
02-11-2010, 11:31
เข้ามาตอบสักกระทู้ละกัน งง เพราะไม่เคยดัน หรือว่าแรงไม่พอก็ไม่รู้

1.ทำไม ไม่เพิ่มจุดเดือดของน้ำหล่อเย็นล่ะครับ เช่นโมถังพักใหม่ เป็นสุญญากาศ

วิธีนี้ จะทำให้จุดเดือดเพิ่มขึ้น อาการน้ำดัน ก็ควรจะลดลง

2.ส่วนตัว ผมเบิ้ล คูลแลนท์เพิ่ม 1 เท่าตัว ทำมานานมากตั้งแต่ 40000 โล

ได้สูตรมาจากนักแข่งชื่อดัง ที่โดนข้อหาลักทรัพย์ล่ะครับ

3.การระบายความร้อนจากหม้อน้ำ ควรทำได้เร็ว และควบคุมอุณหภูมิได้ดี

ทางที่ดี ควรได้แบบ นิ่งๆ ของหาได้ก็คือ พัดลมไฟฟ้า 2 จังหวะ

4.การลดความร้อนในระบบเครื่องยนต์ บางท่านใส่อินเตอร์ บางท่านใส่หม้อ(น้ำ)ใหม่

ควรใส่ใจกับระบบ ออยคูลเลอร์ ด้วยครับ อย่างน้อยผลที่ได้ จัดว่าดีทันตาเห็น

ผมไม่ค่อยมีความรู้ด้านนี้นะครับ แต่ก็เคยใช้ไทรทัน กล่อง 2 ใบ โบเดิม บูสท์ 24

เกียร์ออโต้ อายุการติดกล่องระดับ 70,000 กิโลเมตร ไม่เคยเจอปัญหาเรื่องความร้อนเลย

ทั้งๆที่ผม ก็แค่เพิ่มพัดลมไฟฟ้า 12 นิ้ว ช่วยแอร์ เบิ้ลคูลแลนท์แบบ Long Life

และไม่เคยเติมน้ำหล่อเย็นเพิ่ม แต่อย่างใดครับ

Nuk_Black-Triton
02-11-2010, 11:35
การไล่เปลี่ยนปะเก็น ผมมองว่า เป็นการซ่อมแซม ของที่เสียหายมากกว่าครับ

ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุมากกว่า หลักๆ ให้ปรับปรุง

1.เพิ่มจุดเดือดของน้ำหล่อเย็น

2.ควบคุมอุณหภูมิ ให้นิ่ง สวิงไม่เกิน 5 องศา (85-90 กำลังดีนะ)

3.เพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนน้ำมันเครื่อง

4.ประจุไอดี ให้มีความควบแน่นสูง
ลองเล่นดู

Nuk_Black-Triton
02-11-2010, 11:40
ผลเสีย มันก็มีกับ สิ่งที่ ทำกันอยู่

1.การเจาะวาล์วน้ำ จะทำให้ การควบคุมอุณหภูมิไม่ดี เย็นมั่งร้อนมั่ง

การสึกหรอ จะมากกว่าเดิม ของเย็น ไม่ได้ดีเสมอไป

2.ถอดวาล์วน้ำออกเลย ทำให้ การระบายความร้อนสูบหลังๆ แย่ลง

การสึกหรอแต่ละสูบ ไม่สัมพันธ์กัน สึกหรอมากกว่าเดิม เปลืองน้ำมัน

3.เปลี่ยนวาล์วน้ำ ทำให้เปิดเร็ว ตัวเย็นขึ้น เพราะมันก็แค่เปิดเร็วกว่าเดิม

ทำไม มันควบคุม ความร้อนที่ดีดไปเกือบๆร้อยองศา ไม่ได้ล่ะ ฉะนั้น ไปคิดดู

4.เมื่อตัวเย็น ระบบจะสั่งจ่ายน้ำมันหนาขึ้น เพื่อให้เครื่องถึงอุณหภูมิใช้งานเร็วๆ

แต่ยังไง ก็ไม่ถึงซักที ผลที่ได้ เปลืองน้ำมัน มลพิษสูง ที่สำคัญ สึกหรอมากกว่าเดิม

อาจถูกใจ กับคนชอบความแรง

5.ถ้าเปลียนวาล์วน้ำ ยี่ห้อดัง สมัยก่อน รถเดิม เอาเข้าศูนย์ อาจเลินนิ่งไม่ผ่านนะครับ

เพราะอุณหภูมิ ไม่ถึงจุดใช้งาน คิดดีดี

Nuk_Black-Triton
02-11-2010, 11:43
ไม่เคย เข้ามาตอบเลยกระทู้นี้ ตรูจะโดนรุมมั้ยนี่ ...

ถ้าเป็นผม นะ ตามสูตรเลย

1.หม้อสุญญากาศ 2.ออยน้ำมันระบบอากาศ 3.อินเตอร์ดีดีสักอัน

4.คูลเบิ้ล 5.พัดลมแหล่ม

แนะนำได้แค่นี้เองครับ

romeoking
02-11-2010, 11:57
ข้อมลูเยอะจิงๆคับน้านุ๊ก ผมไปเบิ้ลคูลแล้นล์บ้างดีกว่ากันไวก่อน ขอบคุณคร๊าฟฟฟสำหรับข้อมูล :smiley-eatdrink042:

Nuk_Black-Triton
02-11-2010, 13:07
ก็ดูกันไป เพราะผมรู้สึกว่า ระบบภายในมันก็เป็นเหล็ก อ่ะนะ

เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวเย็น ผมว่า มันจะผิดรูปเอาได้เหมือนกัน

อยากให้มันนิ่งๆ ดีที่สุด

และแนะนำเพิ่มเติม สำหรับรถแรงๆ ทั้งหลาย ไหนๆ ก็โมกันได้มาถึงเพียงนี้

ความสะอาดของหน้าแผง ก็สำคัญ ทำความสะอาดบ่อยๆ ก็ดีครับ

Nuk_Black-Triton
02-11-2010, 13:14
รู้หรือไม่ว่า (สำหรับคนชอบระบบไฟฟ้า)

1.เมื่อดับเครื่องยนต์ ไม่ว่าจะคูลดาวน์ มาแค่ไหนก็ตาม

หลังการหยุดเครื่องยนต์ ระบบระบายความร้อน ก็ไม่มีการไหลเวียน

2.เมื่อไม่ไหลเวียน จะเกิดความร้อนสะสมมากบริเวณฝาสูบ ซึ่งไม่ได้มีการระบายความร้อน

3.เมื่อน้ำมีอุณหภูมิสูง จะเกิดแรงดันสูง มาที่หม้อพักน้ำ และเกิดการขยายตัว (มวล)

4.หม้อน้ำ อยู่นอกระบบเครื่องยนต์ ฉะนั้น มันจะเย็นก่อนเครื่องยนต์

5.เมื่อนั้น เมื่อแรงดันลดลง ก็จะเปลี่ยนเป็นแรงดูด กลับเข้าเครื่องยนต์ ให้เป็นภาวะปกติ

เราควรใส่ใจจุดนี้กันด้วย ด้วยการนำเทคโนโลยีล้าสมัยของรถฝั่ง มาใช้กัน

กล่าวคือ สำหรับท่านที่เพิ่มพัดลมไฟฟ้า 2 จังหวะมาแล้วนั้น

หลังการดับเครื่อง ให้พัดลมทำงานต่อไป ที่จังหวะ 1 เป็นเวลาประมาณ 10-20 นาที

ในรถฝรั่ง มันจะทำงานแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าอุณหภูมิลดลงถึงจุดที่ไม่เป็นอันตราย

แล้วมันจะดับไปเองอัตโนมัติ

สำหรับรถเราไม่ได้มีระบบนี้ แต่ดันตัวร้อนเหมือนรถฝรั่ง ก็ควร Diy มาใช้งานกันมั่ง

ระบบนี้ ได้ปรึกษา วิศวกรประจำตัว ที่ทำงานย่านพระราม 3 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เจ้านี้ คิดค้นในทางลับ กับระบบ คูลลิ่งให้รถเราๆท่านๆ กันอยู่ และได้ติดตั้ง (บางส่วน)

ไปกับรถเขาเองเป็นที่เรียบร้อย

อย่างว่าหละนะ รถคันตั้งแพง ก็ต้องรักเป็นธรรมดา

romeoking
02-11-2010, 13:37
รู้หรือไม่ว่า (สำหรับคนชอบระบบไฟฟ้า)

1.เมื่อดับเครื่องยนต์ ไม่ว่าจะคูลดาวน์ มาแค่ไหนก็ตาม

หลังการหยุดเครื่องยนต์ ระบบระบายความร้อน ก็ไม่มีการไหลเวียน

2.เมื่อไม่ไหลเวียน จะเกิดความร้อนสะสมมากบริเวณฝาสูบ ซึ่งไม่ได้มีการระบายความร้อน

3.เมื่อน้ำมีอุณหภูมิสูง จะเกิดแรงดันสูง มาที่หม้อพักน้ำ และเกิดการขยายตัว (มวล)

4.หม้อน้ำ อยู่นอกระบบเครื่องยนต์ ฉะนั้น มันจะเย็นก่อนเครื่องยนต์

5.เมื่อนั้น เมื่อแรงดันลดลง ก็จะเปลี่ยนเป็นแรงดูด กลับเข้าเครื่องยนต์ ให้เป็นภาวะปกติ

เราควรใส่ใจจุดนี้กันด้วย ด้วยการนำเทคโนโลยีล้าสมัยของรถฝั่ง มาใช้กัน

กล่าวคือ สำหรับท่านที่เพิ่มพัดลมไฟฟ้า 2 จังหวะมาแล้วนั้น

หลังการดับเครื่อง ให้พัดลมทำงานต่อไป ที่จังหวะ 1 เป็นเวลาประมาณ 10-20 นาที

ในรถฝรั่ง มันจะทำงานแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าอุณหภูมิลดลงถึงจุดที่ไม่เป็นอันตราย

แล้วมันจะดับไปเองอัตโนมัติ

สำหรับรถเราไม่ได้มีระบบนี้ แต่ดันตัวร้อนเหมือนรถฝรั่ง ก็ควร Diy มาใช้งานกันมั่ง

ระบบนี้ ได้ปรึกษา วิศวกรประจำตัว ที่ทำงานย่านพระราม 3 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เจ้านี้ คิดค้นในทางลับ กับระบบ คูลลิ่งให้รถเราๆท่านๆ กันอยู่ และได้ติดตั้ง (บางส่วน)

ไปกับรถเขาเองเป็นที่เรียบร้อย

อย่างว่าหละนะ รถคันตั้งแพง ก็ต้องรักเป็นธรรมดา
ผมต่อพัดลมไฟฟ้าเข้ากับสวิตซ์กระจกหน้าต่างอยู่คับพอดับเครื่องแล้วพัดลมยังทำงานได้อีกประมาณ30-40วิ มันจะพอป่าวคับน้านุ๊ก หรือว่าต้องให้นานกว่านี้อีกคับ :emo024mc1:

Nuk_Black-Triton
02-11-2010, 13:45
ผมต่อพัดลมไฟฟ้าเข้ากับสวิตซ์กระจกหน้าต่างอยู่คับพอดับเครื่องแล้วพัดลมยังทำงานได้อีกประมาณ30-40วิ มันจะพอป่าวคับน้านุ๊ก หรือว่าต้องให้นานกว่านี้อีกคับ :emo024mc1:

ไม่พอครับน้า

ถ้าจอดรถแล้ว (เมื่อหยุดใช้แล้ว หรือจอดนานๆ)

ผมเห็นในรถยุโรป มันทำงานต่อไปอีกประมาณ 15 นาที

ทำงานแบบ เบาๆ นะครับ ไม่ได้หมุนเอาเป็นเอาตาย

เรื่อยๆ เบาๆ นิ่มๆ พอความร้อนลง ก็หยุดเองครับ

แต่รถเราไม่มีระบบนี้ อาจต้องพึ่งพาวงจรสำเร็จรูปต่อเอาอ่ะครับ

แต่ผมรับรองว่า ระบบนี้ มีประโยชน์ในระยะยาวแน่นอนครับ

ให้เทคนิคไปแล้ว เรื่องระบบไปจัดการเอาเองนะครับ ผมทำไม่เป็น

Nuk_Black-Triton
02-11-2010, 13:46
และควรที่จะต้องหาพัดลมแบบ 2 จังหวะ จะดีกว่าครับ

กล่าวคือ ในตอนที่ต้องการระบายความร้อนอย่างเร็ว ก็ 2

เมื่อดับเครื่องไปแล้ว ก็ 1 แบบเบาๆเลย

Nuk_Black-Triton
02-11-2010, 13:49
ในระบบนี้ ถ้าเป็นรถฝรั่ง ทำงานอัตโนมัติ ตามอุณหภูมิ

ถ้าเป็นรถญี่ปุ่น จะทำงานเมื่อกุญแจ อยู่ตำแหน่ง ACC หรือ ON เท่านั้น

โดยควบคุมจาก Temp Sensor เป็นหลัก ไปสั่งการ ECU ให้พัดลมหมุน ตามจังหวะที่

เหมาะสมครับ ถ้าเป็นรถเรา ก็ต้องหาวงจรมาทำเอง แล้วแต่ Know Hour แต่ละคนครับ

มีอะไร อยากให้แบ่งปันกันครับ แม้ทุกวันนี้ ไม่ได้ใช้ไทรทันแล้ว ก็ยังเข้ามาอยู่เสมอครับ

romeoking
02-11-2010, 13:59
แย่เลยของผมมันจังหวะเดียวซะด้วยซิ หมุนแบบเอาเป็นเอาตายเลยล่ะ.....สงสัยต้องแก้ทางอื่นทำแบบที่น้านุ๊กว่า ให้มันทำงานตาม Temp Sensor ขอบคุณนะคับน้านุ๊กสำหรับข้อมูล:kapook-17195-8823:

joetriton
02-11-2010, 14:51
พังกันเยอะมั๊ยเนี่ย หลายคันเหมือนกันเน๊อะ:kapook-17193-7653:

aj anucha
02-11-2010, 15:25
ในระบบนี้ ถ้าเป็นรถฝรั่ง ทำงานอัตโนมัติ ตามอุณหภูมิ

ถ้าเป็นรถญี่ปุ่น จะทำงานเมื่อกุญแจ อยู่ตำแหน่ง ACC หรือ ON เท่านั้น

โดยควบคุมจาก Temp Sensor เป็นหลัก ไปสั่งการ ECU ให้พัดลมหมุน ตามจังหวะที่

เหมาะสมครับ ถ้าเป็นรถเรา ก็ต้องหาวงจรมาทำเอง แล้วแต่ Know Hour แต่ละคนครับ

มีอะไร อยากให้แบ่งปันกันครับ แม้ทุกวันนี้ ไม่ได้ใช้ไทรทันแล้ว ก็ยังเข้ามาอยู่เสมอครับ
ขอบคุณมากครับน้านุก สงสัยรถผมบูสเยอะไปมั้ง....
พรุ่งนี้ได้รถแล้ว เดี๋ยวคงจะไปทำพัดลมไฟฟ้า 2 stap เร็วๆนี้ครับ
โทรหาช่างฟอร์ดแล้ว เปิดฝามาไม่เป็นไรเลยฝาไม่โก่ง แต่ปะเก็นเละเทะเลยคับ
น้ำเข้าหัวลูกสูบตามเคย เห้อๆ....:21-7::21-7:

Nuk_Black-Triton
02-11-2010, 15:32
ค่อยๆขับก็ได้ น้าเล้ง

ว่างๆ แวะมามั่งละกัน

aj anucha
02-11-2010, 15:40
5555+ คับๆๆ

toto45
03-11-2010, 15:12
สวัสดีครับน้า พอดีว่าพึ่งโพสได้ครับน้า
รถผมคันที่น้าวุฒิเอามาลงอ่ะครับ น้ำดันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ:kapook-17327-8367:
สงสัยต้องหาทางทำอย่างน้านุกบอกเอาไว้แล้วอ่ะครับ ไม่งั้นมันก็จะกลับมาเป็นอีก ตอนนี้กดเป็นไม่ได้ต้องขับไม่เกินร้อยตลอดเลยอ่ะครับ
ถ้ากดเมื่อไรน้ำดันออกความร้อนพุ่งขึ้นทันทีเลยครับ
ถ้าว่างคงต้องเอาไปให้น้าโย่งเปิดฝาอีกรอบอ่ะครับ
ส่วนเรื่องวาล์วน้ำของ a32 ผมว่าเวลามันเย็นก็เย็นเกินไปหน่อย
แต่เวลาซัดบางทีความร้อนมันก็พุ่งขึ้นไปเกือบร้อยถึงลดอ่ะครับ
เวลามันลดมันก็ลดเร็วเวอร์อะครับ
เหมือนมันคุมอุณหภูมิไม่ค่อยนิ่ง
(หรือว่ามันเป็นแต่รถผมคนเดียวก็ไม่รู้ครับ) :yenta4-emoticon-001
ตอนนี้ก็เปลี่ยนมาใช่ของเดิมละครับ
ผมว่ามันคุมอุณหถูมิได้นิ่งกว่าอ่ะครับ

jee4x4
03-11-2010, 15:19
พัดลมไฟฟ้าก็น่าสนใจนะครับถ้าอยากทำ temp control เดี๋ยวผมจะลองเขียนโปรแกรม MCU มาควบคุมโดยเอาสัญญาณมาจาก sensor ECT เดี๋ยวต้องวัดค่าต่างๆดูก่อนว่าจะควบคุมยังงัยแต่คอนเซ็ปน่าจะเป็นแบบเมื่ออุณหภูมิน้อยกว่า xxx 'C สัญญาณไฟฟ้า=xxxV.ให้พัดลม run แบบ slow แต่เมื่อ temp มากกว่า XXX 'C สัญญาณไฟฟ้า XXX V ก็ให้ run fast ไปคงต้องให้เวลาและหาอุปกณ์กันนิดนึง

evoda3
03-11-2010, 19:10
จะเล่นพัดลมไฟฟ้าตรงไหนน้าจีพัดลมใหญ่เหรอ ผมว่าให้ใหญ่กว่านี้ก็ไม่ทันครับน้า
มีบางท่านที่ผมเห็น ปลดสายพานพัดลมออกทำพัดลมไฟฟ้ามาแทนก็ดีนะครับ
แต่ที่ลดได้แน่ๆและไม่กระทบกับเครื่องให้ ใส่หม้อน้ำโลมิเนี่ยมดีที่สุดเอาใหญ่ๆเลยอยู่แน่ๆ

jee4x4
03-11-2010, 19:32
จะเล่นพัดลมไฟฟ้าตรงไหนน้าจีพัดลมใหญ่เหรอ ผมว่าให้ใหญ่กว่านี้ก็ไม่ทันครับน้า
มีบางท่านที่ผมเห็น ปลดสายพานพัดลมออกทำพัดลมไฟฟ้ามาแทนก็ดีนะครับ
แต่ที่ลดได้แน่ๆและไม่กระทบกับเครื่องให้ ใส่หม้อน้ำโลมิเนี่ยมดีที่สุดเอาใหญ่ๆเลยอยู่แน่ๆ
หม้อน้ำอะลูมิเนียมก็ดันจนบวมมาแล้วครับน้าเกียง ซ่อมทั้งฝาเปลี่ยนทั้งหม้อน้ำ ที่ว่าจะทำก็คือตัดพัดลมฟรีปั้มออกใส่พัดลมไฟฟ้าแทน รอน้าเล้งทำให้ดูก่อนในฐานะเป็นประธานน้ำดัน อิอิ:kapook-17195-8823:

evoda3
03-11-2010, 19:48
เอาใบใหญ่เลยนะน้า รอชมด้วยคนครับ เครื่องยนต์น่าจะตัวเบาขึ้นนะครับ ไม่ต้องเสียแรงให้กับ พัดลม แล้วต้องความเร็วเท่าไหร่อ้ะน้า

W-ut
03-11-2010, 20:16
อีกส่วนหนึ่งที่จะขาดไม่ได้
การเพิ่มความดัน เช่นฝาหม้อน้ำเป็น 1.1 ก็จะป็นการเพิ่ม จุดเดือดให้สูงขึ้นไปในตัวด้วยครับ
ในส่วนวาวล์น้ำเปิดเร็วเท่าที่มองตอนนี้ สำหรับรถที่เดิมๆ อย่างผม เป็นตัวเลือกแรกๆที่น่าลงทุน
ฝาหม้อน้ำใหม่เพิ่มจุดเดือด ไม่กี่ตังค์(กำลังหาของเล่นอยู่)เคยใส่ e-car 1.1
การเพิ่มจุดเดือดให้เร้นท์สูงขึ้น กดยาวๆเร็วๆ อุหภูมิยังขึ้นไปเกือบร้อย แต่สามารถลงมาได้เร็ว
ทำไมลงมาเร็วสังเกตุกันดีๆรถเปลี่ยนวาวล์น้ำจากเดิม 89-91ไปเป็นร้อยหรือร้อยกว่า(จุดเดือด น่าจะราว110-120) ไม่คอนเฟิร์ม
จากที่ลองมา 91-97 นั้น มองดูรวมโอเค แต่ลองดูยาวๆ 97 ไม่ยอมลง ทั้งๆที่วาวล์น้ำมันทำงานตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว 82.5 แต่ความร้อน ที่เห็นแกว่งค่อยๆลงอาจจะเป็นเหตุผลการหล่อเย็นในรถธรรมดา(หม้อเดิม หล่อเย็นห่วย)
วาวล์น้ำใหม่ในรถโมกล่อง ดีเชลค่าความร้อนสูง ยิ่งเพิ่มยิ่งร้อนแล้วมันไปไหน มันไปรอบกระบอกสูบ แต่ต้องรออุหภูมิถึงจุดที่วาวล์น้ำทำงานแล้วมันจะปล่อยออกไปที่หม้อน้ำแล้วเอาน้ำในหม้อน้ำที่เย็นมาวนในกระบอกสูบใหม่
แต่วาวล์เก่าเกิดอะไรขึ้นมันรอน้ำในเครื่องขึ้นไปถึงตัวมันที่พร้อมจะเปิดแต่แล้วเกิดอะไรขึ้นน้ำรอบเครื่องร้อนแสนเข็ญจากที่เราตะปี้ตะปันยัดน้ำมันให้มันกินเข้าไป
มันคงบอก กูร้อนแล้วนะร้อนอย่างเร็วด้วย มึงจะเปิดทันป่าว
วาวล์น้ำเปิด......แต่เหมือนกรรมซัด น้ำร้อนมากเกิดการขยายตัววิ่งผ่านวาวล์น้ำอย่างเร็วไปดันน้ำในหม้อน้ำเข้ามา
มาที่เสือ้สูบทั้งที่มันยังร้อนๆอยู่ ไอ้น้ำร้อนที่อยู่หม้อน้ำมันก็ยังไม่เย็นลงเท่าไรมันก็โดนดันกลับเข้ามาอีก
อุหภูมิสะสมในระบบสูง.....กว่าจะลดต้องลดคันเร่งลง
หม้อน้ำเดิมๆใบกะเปี๊ยก อุปกรณ์ขวางทางลมเพียบ ถึงจะได้วาวล์น้ำเปิดเร็วอย่างเดียวคงไม่พอ
ยกตัวอย่างรถผม 81-83 ตอนนี้ วิ่งปกติรถติดมากหรือน้อย แกว่งแค่นี้ กดยาวขึ้นมาอีกหน่อย แต่ด้วยที่วาวล์มันทำงานเร็ว ระยะทางที่มันจะเดือดก็เลยมากขึ้น ลดคันเร่งนิดนึ่งมันก็ลงมาให้อยู่ในขอบเขตที่สบายใจ ทำใจเรื่องกินเพราะจับอัตรการสิ้นเปลื่องดีไม่เคยได้ตั้งแต่ออกรถ
ในอีกทางหนึ่งถ้าเราใช้วาวล์เดิมแล้วเพิ่มจุดเดือดของน้ำไปอีก โดยใช้ฝาหม้อหม้อใหม่ มันก็เป็นการเพิ่มจุดเดือด อีกทางหนึ่ง

W-ut
03-11-2010, 20:25
เจาะวาวล์ก็คงไม่ใช่ทางออกที่ดีเพราะมันคุมอะไรแทบไม่ได้เลย
ข้อสังเกตุ รถที่ยังน้ำไม่ดันเปลี่ยนวาวล์ใหม่แล้วไม่ค่อยพบปัญหาหรือยังไงบอกหน่อย
ใครยังไม่ดันเปลี่ยนวาวล์เปลี่ยนฝาหม้อน้ำแล้วเป็นยังไงกันลองมาคุยหน่อย

aj anucha
04-11-2010, 00:46
วันนี้รับรถออกจากอู่แล้วจ้า พอดีเข้าไปทำก่อนวันศุกร์
"คุยกับช่าง"
ช่าง; ไทรทันทำไงก็ดันถ้าอุณหภูมิสูงมากๆ เพราะบล๊อคเครื่องยนต์ไทรทัน ออกแบบกระบอกสูบชิดกันมาก แล้วระหว่างสูบมันจะมีช่องตาน้ำ ทีนี้เราไปเพิ่มบูสมากๆ ความร้อนสะสมเยอะ โอกาสที่กำลังอัดจะรั่วเข้าตาน้ำก็สูงเพราะว่ามันใกล้ตาน้ำ ถ้าไม่อยากให้ดันก็อุดตาน้ำซะ
ผมถาม; แล้วรถแข่งได้อุดไหมครับ
ช่าง; รถไทรทันที่ส่งลงสนาม บูส 50 ปอนด์ ผมก็ไม่ได้อุดนะครับ
ผม; อ้าวแล้วต้องอย่างไงล่ะครับ
ช่าง; เราก็ต้องยอมรับนะว่ามันจะต้องมีสักวันที่ดันนะครับ ขั้นแรกเลยที่จะพอทำได้ ( ถ้าได้เปิดเครื่องนะครับ) เวลาประกอบฝาสูบก็จะกวดเพิ่มปอนด์ฝาสูบให้แน่นขึ้นครับ ใช้ปะเก็นฝาสูบเดิมๆ พ่นสเปร์ทองแดง ทั้ง 3 ชั้น ปะเก็นเดิมทนแล้วล่ะ ขอร้องอย่าแช่นานๆแล้วกัน
อีกอย่างต้องคุมอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นให้นิ่งๆอ่ะครับ ไม่ให้สูงจนเกินไป ตัวอย่างเช่น รถไทรทันที่ทำแข่งได้เปลี่ยนหม้อน้ำกับพัดลมไฟฟ้ามา ผลก็คือความร้อน เดินเบาอยู่ 85 แหละมั้ง แล้วพอวิ่งเทสไป 1 ถึง 2 รัน ความร้อนขณะวิ่งก็จะขึ้นไม่เกิน 92 นะครับ แล้วเดี๋ยววิ่งขากลับมันก็จะลงมาเรื่อยๆ
ผม ; แล้วหม้อน้ำนี่เปลี่ยนลงตำแหน่งเดิมหรอครับ แบบนี้ขนาดหลอดเท่ากันไหม
ช่าง; เท่ากันเลยครับ เท่ากันแป๊ะ เพียงแต่ว่าหม้อที่เปลี่ยนมาใหม่ ขอบหม้อน้ำจะตีเป็น
มิเนียมมา แต่ตัวหลอดจะเท่าสเป็คเดิมๆ พูดง่ายๆก็เหมือนหม้อเดิมตีขอบใหม่นั่นแหละครับ

พอก่อนส่งรถ ช่างสตาร์ทเครื่องดูเพื่อเช็คความเรียบร้อย จากนั้นเร่งเครื่องดู
อุณหภูมิน้ำขึ้นมา 85 c ครับ จากนั้นพอเร่งรอบเพิ่ม แล้วกดค้างไว้ อุณหภูมิก็ขยับมา 85 87 88 c (ขณะจอดนะครับ) ช่างเลยเอยปากว่า รถคันนี้ความร้อนขึ้นเยอะนะครับ นี่แค่เบิ้ลๆอย่างเดียว ยังขึ้นไป 88 c เลย ความร้อนออกจะสูงไปหน่อยนะครับ แบบนี้ผมว่าคุณต้องทำระบบระบายความร้อนดีๆแล้วล่ะ ขืนเป็นแบบนี้เดี๋ยวก็ได้รื้ออีก..... พัดลมไฟฟ้าก็ช่วยได้นะ ไปลองดูซิครับ อุณหภูมิน่าจะนิ่งกว่าล่ะมั้ง แต่แนะนำว่าเป็นแบบ 2 speed นะครับถึงจะดี
เห้อ...............................เสียตังอีกแล้วล่ะมั้งผม

aj anucha
04-11-2010, 00:57
โปรเจ็คสำหรับรถผม ว่าจะลองกับ พัดลมไฟฟ้าก่อนนะคับ เพราะแลดูมันจะไม่ยุ่งยากมาก
ถ้ายังเอาไม่อยู่สงสัยต้องหม้อ 2 ใบ หรือไม่ก็ย้ายแผงคอนเดนเซอร์ไปประจำด้านท้ายกะบะแล้วมั้ง 5555 สำหรับแบบหลังนี้โหดจัด ไม่อยากทำเลยครับ มันไม่ใช้รถใช้งานแล้ว

Nuk_Black-Triton
04-11-2010, 13:43
ชมรมนี้ คนเยอะจริงๆ

Nuk_Black-Triton
04-11-2010, 13:51
อีกส่วนหนึ่งที่จะขาดไม่ได้
การเพิ่มความดัน เช่นฝาหม้อน้ำเป็น 1.1 ก็จะป็นการเพิ่ม จุดเดือดให้สูงขึ้นไปในตัวด้วยครับ
ในส่วนวาวล์น้ำเปิดเร็วเท่าที่มองตอนนี้ สำหรับรถที่เดิมๆ อย่างผม เป็นตัวเลือกแรกๆที่น่าลงทุน
ฝาหม้อน้ำใหม่เพิ่มจุดเดือด ไม่กี่ตังค์(กำลังหาของเล่นอยู่)เคยใส่ e-car 1.1
การเพิ่มจุดเดือดให้เร้นท์สูงขึ้น กดยาวๆเร็วๆ อุหภูมิยังขึ้นไปเกือบร้อย แต่สามารถลงมาได้เร็ว
ทำไมลงมาเร็วสังเกตุกันดีๆรถเปลี่ยนวาวล์น้ำจากเดิม 89-91ไปเป็นร้อยหรือร้อยกว่า(จุดเดือด น่าจะราว110-120) ไม่คอนเฟิร์ม
จากที่ลองมา 91-97 นั้น มองดูรวมโอเค แต่ลองดูยาวๆ 97 ไม่ยอมลง ทั้งๆที่วาวล์น้ำมันทำงานตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว 82.5 แต่ความร้อน ที่เห็นแกว่งค่อยๆลงอาจจะเป็นเหตุผลการหล่อเย็นในรถธรรมดา(หม้อเดิม หล่อเย็นห่วย)
วาวล์น้ำใหม่ในรถโมกล่อง ดีเชลค่าความร้อนสูง ยิ่งเพิ่มยิ่งร้อนแล้วมันไปไหน มันไปรอบกระบอกสูบ แต่ต้องรออุหภูมิถึงจุดที่วาวล์น้ำทำงานแล้วมันจะปล่อยออกไปที่หม้อน้ำแล้วเอาน้ำในหม้อน้ำที่เย็นมาวนในกระบอกสูบใหม่
แต่วาวล์เก่าเกิดอะไรขึ้นมันรอน้ำในเครื่องขึ้นไปถึงตัวมันที่พร้อมจะเปิดแต่แล้วเกิดอะไรขึ้นน้ำรอบเครื่องร้อนแสนเข็ญจากที่เราตะปี้ตะปันยัดน้ำมันให้มันกินเข้าไป
มันคงบอก กูร้อนแล้วนะร้อนอย่างเร็วด้วย มึงจะเปิดทันป่าว
วาวล์น้ำเปิด......แต่เหมือนกรรมซัด น้ำร้อนมากเกิดการขยายตัววิ่งผ่านวาวล์น้ำอย่างเร็วไปดันน้ำในหม้อน้ำเข้ามา
มาที่เสือ้สูบทั้งที่มันยังร้อนๆอยู่ ไอ้น้ำร้อนที่อยู่หม้อน้ำมันก็ยังไม่เย็นลงเท่าไรมันก็โดนดันกลับเข้ามาอีก
อุหภูมิสะสมในระบบสูง.....กว่าจะลดต้องลดคันเร่งลง
หม้อน้ำเดิมๆใบกะเปี๊ยก อุปกรณ์ขวางทางลมเพียบ ถึงจะได้วาวล์น้ำเปิดเร็วอย่างเดียวคงไม่พอ
ยกตัวอย่างรถผม 81-83 ตอนนี้ วิ่งปกติรถติดมากหรือน้อย แกว่งแค่นี้ กดยาวขึ้นมาอีกหน่อย แต่ด้วยที่วาวล์มันทำงานเร็ว ระยะทางที่มันจะเดือดก็เลยมากขึ้น ลดคันเร่งนิดนึ่งมันก็ลงมาให้อยู่ในขอบเขตที่สบายใจ ทำใจเรื่องกินเพราะจับอัตรการสิ้นเปลื่องดีไม่เคยได้ตั้งแต่ออกรถ
ในอีกทางหนึ่งถ้าเราใช้วาวล์เดิมแล้วเพิ่มจุดเดือดของน้ำไปอีก โดยใช้ฝาหม้อหม้อใหม่ มันก็เป็นการเพิ่มจุดเดือด อีกทางหนึ่ง

ข้อมูลเก่าๆที่ผมมี คือว่า

การทำงานของเครื่องยนต์อุณหภูมิประมาณ 85-90 องศาครับ

เท่าที่เห็นการจับการทำงานของระบบระบายความร้อนรถดีดี จะขึ้นไปประมาณ

92 องศาครับ

น้ำเมื่อผ่านการควบคุมความดันที่ประมาณ 1.1 Bar ถ้าจำไม่ผิด

จุดเดือดอยู่ที่ 117 องศาครับ สำหรับความร้อนขีดก่อนเข้า Red Zone

จะอยู่ตรงนี้ครับ ถ้าเป็นรถที่ไม่มีเกจเตือน ไฟเตือนเครื่องร้อนจัดจะสว่างขึ้น

เมื่ออุณหภูมิที่ 117 ครับ

ถ้าเครื่องยนต์มีความร้อนมากไปกว่านี้ บ่งบอกว่าเครื่องยนต์ร้อนจัด

จนเมื่อขีดสุดท้าย คือสุดเกจอยู่ที่ 138 องศาครับ

ความร้อนที่มากกว่า 95 องศาไปแล้ว อาการเครื่องยนต์จะเริ่มแย่ลง

จนเมื่อ 117 องศา จะเข้าสู่สภาวะเครื่องยนต์ร้อนจัด ความเสียหายจะมาก

ขึ้นไปอีกเมื่อ ฝืนขับรถต่อไป ส่งผลให้เครื่องยนต์เสียหายอย่างร้ายแรงได้ครับ

Nuk_Black-Triton
04-11-2010, 13:56
วิธีป้องกันเครื่องยนต์ร้อนจัด ...

1.ใช้เกียร์ให้เหมาะสมกับความเร็ว (Eco Zone หรือ Power Band)

- ถ้าขับเน้นประหยัด ให้คุมรอบในช่วงก่อน 2000 รอบ คลึงคันเร่งดีดี

- ถ้าต้องการกำลัง ให้คุมรอบในช่วง 2000-4000 รอบ

- ใช้เกียร์ให้เหมาะสมกับ กำลังที่เราต้องการ

2.ไม่ลากเกียร์ยาวๆ ในรอบที่เลย Power Band มีแต่ความสึกหรอ และความร้อนที่เกินไป

3.ไม่สับเกียร์เร็วเกินไป เช่นให้อยู่ Eco Zone แต่กดมิด โหลดเครื่องจะมาก ทำให้ความร้อน

สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

4.ทำความสะอาดแผงระบายความร้อน บ่อยๆ

5.พัดลมเครื่อง เช็คฟรีปั๊มเป็นประจำ

6.ตรวจการทำงานของพัดลมไฟฟ้า ว่าทำงานปกติหรือไม่

7.อย่าให้แอร์ทำงานหนักเกินไป

8.ตรวจสอบน้ำหล่อเย็นเป็นประจำ

9.รู้ความสามารถ คนและรถ แค่นี้ ก็ไม่พังครับ

เกร็ดเล็กๆ แต่ช่วยได้ครับ

W-ut
04-11-2010, 23:19
ตรูละกลุ้มแทน.....พี่น้องเราจริงๆ

toto45
05-11-2010, 00:42
ตรูละกลุ้มแทน.....พี่น้องเราจริงๆ
กัว แตกใน มากกว่าอ่าน้าวุฒิ
ถ้าต้องเปลี่ยนฝาละ หัวบานแน่เลยครับน้า

aj anucha
05-11-2010, 00:59
ฮ่าๆๆๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเช็ดพัดลมอีกทีครับ ลองหมุนดูคราวๆเหมือนกับว่ามันไม่ค่อยหนืดเลย

รถผมนะ ถ้าขับปกติแบบชาวบ้านก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ผมของขับด้วบรอบสูงๆเป็นเวลานานๆครับ ผลที่ได้ก็น้ำดันทุกรอบไปครับ แต่ถ้าขับอัดเป็นครั้งคราว ..เวสเกตลั่นแค่สั้นๆ
มั้งจะไม่เป็นไรเลยครับ

Nuk_Black-Triton
05-11-2010, 11:14
ฮ่าๆๆๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเช็ดพัดลมอีกทีครับ ลองหมุนดูคราวๆเหมือนกับว่ามันไม่ค่อยหนืดเลย

รถผมนะ ถ้าขับปกติแบบชาวบ้านก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ผมของขับด้วบรอบสูงๆเป็นเวลานานๆครับ ผลที่ได้ก็น้ำดันทุกรอบไปครับ แต่ถ้าขับอัดเป็นครั้งคราว ..เวสเกตลั่นแค่สั้นๆ
มั้งจะไม่เป็นไรเลยครับ

อย่าเอาให้หนืดมากไปนะครับ

เพราะมันกินแรงเครื่องพอตัว

เคยลองเทียบ รถตาบอม กับรถผมเอง

เห็นความต่างเหมือนกัน

bomgrade
05-11-2010, 11:48
อย่าเอาให้หนืดมากไปนะครับ

เพราะมันกินแรงเครื่องพอตัว

เคยลองเทียบ รถตาบอม กับรถผมเอง

เห็นความต่างเหมือนกัน

เทียบอะไรกับรถผม รถผมเดิมๆ น้ำยังไม่แตกครับ แต่ก็เสียวๆ อยู่ ช่วงนี้มีเสียวบ่อยด้วย

Nuk_Black-Triton
06-11-2010, 14:25
เทียบอะไรกับรถผม รถผมเดิมๆ น้ำยังไม่แตกครับ แต่ก็เสียวๆ อยู่ ช่วงนี้มีเสียวบ่อยด้วย

ฟรีปั๊มโว้ยยยย อีนี่ ....

มัวแต่มอง ปั๊มฟรี อยู่นั่นแหละ

หม้อจริงๆ เพื่อนตู ว่างๆ ก็เอารถไป "ทำเบรค" ได้แล้ว ไป๊.... :01cbb16d12:

aj anucha
07-11-2010, 11:26
55555

W-ut
15-11-2010, 21:23
ใครไม่รู้ก็รู้หมดว่ามาสุ่มหัวกินเหล้ากันประจำ

joetriton
15-11-2010, 21:35
ใครไม่รู้ก็รู้หมดว่ามาสุ่มหัวกินเหล้ากันประจำ
:kapook-17340-6327::kapook-17340-6327::kapook-17340-6327:

aj anucha
18-11-2010, 01:12
ช่วงนี้ สมาชิก"น้ำดัน" เริ่มเงียบลง
สงสัยตอนนี้อากาศเย็น ตัวเลยไม่ค่อยร้อนกัน 555

jee4x4
18-11-2010, 01:26
ช่วงนี้ สมาชิก"น้ำดัน" เริ่มเงียบลง
สงสัยตอนนี้อากาศเย็น ตัวเลยไม่ค่อยร้อนกัน 555
ช่วงนี้ไม่ค่อยไดขับครับเลยไม่ดัน :smiley-transport016

toto45
19-11-2010, 15:40
ตอนนี้น้าเล้งใช้ปะเก็นแบบไหนอยู่ครับ
เผื่อครั้งหน้าจะลองมั่ง ของผมมันยังไม่หายดันเลยครับ
แบบว่าถ้ากดเต็มที่ รอบเดียวน้ำดันความร้อนขึ้นเลยอะครับน้า
แต่ถ้าขับไปเรื่อยๆไม่เกินร้อยไม่เป็นไรครับ
ตอนนี้อึดอัดมากมาย จะกดตามใครก้อไม่ได้อ่าาา
:kapook-17327-8367:

aj anucha
19-11-2010, 15:49
ทำเสร็จแล้วออกมาลอง ก็เป็นหรอครับ หรือว่าใช้ได้สักพัก
แล้วตอนถอดมาได้เช็คฝาสูบไหมครับน้า เผื่อฝาโก่งนะ( แต่โดยมากแล้วไม่ค่อยโก่ง)
ตอนนี้ผมก็ใช้ปะเก็นเดิมพ่นสเปร์ทองแดงครับ เคยใช้ปะเก็นคาร์บอนเสียไปแล้ว ( ห่วยมาก)

ทางเลือกมี 2 ทาง
1.ใช้ปะเก็นเบิกศูนย์ครับ และมาพ่นสเปร์ทองแดง พร้อมอัดปอนด์ฝาสูบเพิ่มเป็น 110-120 ครับ หลังจากนั้นใช้ไปสัก 1000โล ก็ย้ำน๊อตฝาสูบอีกรอบครับ
2.พี่ในคลับทำอยู่กับสำนักดัง เค้ารื้อฝามาอุดตาน้ำเลยครับ พร้อมใส่ปะเก็นร้าน ช. ซึ่งเป็นปะเก็นทองแดง
แกก็บอก "ผมใช้มานานแล้วก็ยังไม่ดันนะครับ หม้อน้ำเดิมๆเลย" อืมมม...แต่ผมเองก็ยังไม่ได้ลองเหมือนกัน ก็เอาไว้เป็นแนวทางครับ

aj anucha
19-11-2010, 16:16
สมาชิก น้ำดันกี่คนแล้วครับ...อิอิ

bird3255
19-11-2010, 20:48
พี่เอาใจช่วย...คับ เล้ง

aj anucha
19-11-2010, 21:41
ครับพี่เบริ์ด :Banane35:

toto45
20-11-2010, 00:23
ขอความรู้หน่อยครับน้า
เรื่องอุดตาน้ำอ่ะครับ มันจะมีผลเสียอะไรบ้างหรือป่าวครับ
ถ้าอุดแล้วจบคงต้องลองมั่งละครับ

joetriton
20-11-2010, 00:44
ตรูละกลุ้มแทน.....พี่น้องเราจริงๆ
พระคุ้มครอง เพื่อนเอ๊ย...ตอนนี้เริ่มทานน้ำล๊ะรถฉัน
สงสัยจะเน่าในเร็ววันนี้:emo021vj6:ฝา 3200 เอามายัดข้ามรุ่นได้มั๊ยค๊าบพี่น้องครับ:kapook-17195-8823:แปลงเยอะมั๊ยจ๊ะ

joetriton
20-11-2010, 00:45
แล้วถ้าเป็นฝา2800 จะลงได้มั๊ยครับ:kapook-17195-8823:

aj anucha
20-11-2010, 12:09
วางเครื่อง 3.2 เลยครับน้า อิอิ

aj anucha
20-11-2010, 12:12
ขอความรู้หน่อยครับน้า
เรื่องอุดตาน้ำอ่ะครับ มันจะมีผลเสียอะไรบ้างหรือป่าวครับ
ถ้าอุดแล้วจบคงต้องลองมั่งละครับ

ต้องรอพี่เบริ์ดมาตอบครับผม เพราะแกทำมานานแล้ว

romeoking
20-11-2010, 23:29
ขอความรู้หน่อยครับน้า
เรื่องอุดตาน้ำอ่ะครับ มันจะมีผลเสียอะไรบ้างหรือป่าวครับ
ถ้าอุดแล้วจบคงต้องลองมั่งละครับ
ผมว่าถ้าอุดตาน้ำไปแล้วความร้อนระหว่างสูบมันน่าจะเพิ่มขึ้นนะคับเพราะมันไม่มีน้ำระบายผ่านได้ รอผู้รู้มาตอบต่อนะคับ อันนี้เป็นความคิดของผมเอง :yociexp55:

aj anucha
21-11-2010, 00:17
นั้นเลยครับที่ผมกลัว

เต้ยTRITON
21-11-2010, 10:20
ไม่ต้องไปอุดหลอกครับตาน้ำ รถผม(ยังไม่อุดเลย)ใช้แข่งในสนามบู๊ทส์ 40 ปอนด์วิ่งวนรอบด้วยความเร็วสูงตลอดความร้อนสูงสุดอยู่ที่ 97 องศาครับแต่เวลายกคันเร่งแล้วมันลงเร็วมากจะร้อนแค่ช่วงแช่ทางตรงก็มีวิธีช่วยด้วยการสเปรย์น้ำลดความร้อนช่วยไม่ให้เกินไปกว่านั้น

ส่วนที่เครื่องยนต์ของผมนั้นเปลี่ยนสตรัท Bolt ยึดฝาสูบใหม่เลยครับทั้งหมดให้รับแรงกวดขันได้สูงกว่าปกติและก็ใช้ปะเก็นเบิกศูนย์เอามาพ่นกาวก็เอาอยู่แล้วครับน้ำไม่มีดันส่วนหม้อน้ำก็ขยายใช้หม้อน้ำอลูมิเนียมลูกใหญ่ของอู่พี่กาหลง บวกกับน้ำยาหล่อเย็นเข้าไปช่วยในเรื่องแลกเปลี่ยนความร้อนก้เอาอยู่ครับ

ส่วนต้นเหตุของความร้อนหลักๆน่าจะมาจากการจูนไม่ลงตัวครับ มีค่าความร้อนไอเสียสูงเกินไปลองไล่จูนส่วนผสมน้ำมันกับอากาศให้ลงตัวปัญหานี้ผมว่าจะไม่เกิดขึ้นครับ
เพราะของผมเองกว่าจะเซ็ตโปรแกรมเอาไปลงแข่งได้ก็เล่นขึ้นไดโน่กันหลายรันทีเดียวหลักๆการจูนจะต้องหาจุดพอดีระหว่างแรงม้า แรงบิด และก็ความร้อนไอเสียและความร้อนเครื่องยนต์ที่พอเหมาะพอควรกับการใช้งานได้จริง ไม่ใช่แรงแต่ขับแช่ไม่ได้เลยอย่างนี้ต้องแก้ไขครับ
โชคดีกับการแก้ไขทุกท่านนะครับ อย่าหลงทางแก้กันแล้วกันครับ เงินจะไหลแถมแก้ไม่จบ พาเบื่อรถจนต้องทำใหท่านอยากเปลี่ยนยี่ห้อรถหนีเลยครับ

aj anucha
21-11-2010, 15:42
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จากน้าเต้ยด้วยนะครับ
หม้อน้ำที่ร้านน้าหลง ก็น่าสนใจค่าหม้อน้ำ+ ค่าติดตั้ง ต้องเตรียมเงินไปเท่าไหร่ครับ??
ผมอยากจะทำมานานแล้ว ตอนนี้บูส 35 psi เวลากดแช่ ECT ขึ้นเกิน 97 C
ต้องค่อยยกคันเร่งตลอดเลย รู้สึกกังวลกับการใช้งานมาก..........

toto45
25-11-2010, 21:00
ขอบคุณสำหรับความรู้คร๊าบบบ

nongboat32
26-11-2010, 02:33
สรุปเรื่องประเก็น แบบไหนทำแล้วจบที่สุดครับ เริ่มกลัวแล้ว

aj anucha
26-11-2010, 22:22
เทสมากๆระวังนะครับ 5555
งานนี้สงสัยต้องโดนหม้อน้ำหนาๆ วันนี้เห็นมาแล้วหม้อรถน้าเต้ย
หลอดหนา 2.5 " ผมว่าตัวนี้จะคุ้มค่ามากๆ พร้อมติดตั้ง 10000 บาท สะใจ สเป็ครถเซอร์กิต
แต่ถ้าหนา 36 มิล พร้อมติดตั้ง 6500 บาท

W-ut
28-11-2010, 00:09
วีโก้ สามพันมันไม่มีตาน้ำ ขั้นปลอกว่ะ พี่น้อง เปิดฝามา ตาน้ำมันไม่มีอ่ะ ไทรทันมีขั้นระหว่างปลอกสูบสะงั้น

aj anucha
28-11-2010, 08:35
อ้าว ...งานมาเลย ไอเดียบรรเจิดหรอพี่วุฒิ 555

aj anucha
28-11-2010, 10:44
:emo022nj0::emo022nj0:

W-ut
28-11-2010, 13:40
รถพวกๆกันที่เขตอะเล้งเขาบอกมาเปลี่ยนแหวนให้ผมไปช่วยดู อู่แถวๆที่ทำงาน ผมเลยแวะไปดู รถวิ่งสองแสนกว่าโล เปิดฝาออกเออมันไม่มีตาน้ำสะงั้นแถมปลอกห่างยัดลูกโตๆได้สบายเลย

aj anucha
28-11-2010, 19:16
ไหนๆ รถใครน้ำดันมาอีก เผยตัวสะดีๆ 555555

aj anucha
30-11-2010, 20:32
วันนี้มีเสื้อสูบวีโก้มาให้ดูครับ เป็นอย่างที่พี่วุฒิบอกไว้จริงๆด้วย กระบอกสูบห่างกัน และไม่มีตาน้ำระหว่างสูบครับ
รูปแรกเป็น ของวีโก้ 3000 นะครับ
รูปที่ 2 ไทรทัน 2500

aj anucha
02-12-2010, 19:56
ตื่นตัวกันอีกครั้งนะครับ ชาวไทรทัน น้ำดัน 5555

วันนี้จากการปรึกษาพี่ๆหลายคน ก็หลายความคิดนะ มีทั้งปะเก็นสั่งตัดเนื้อทองแดง ปะเก็นเหล็กย้ำขอบ แต่ที่เด็ดสุดน่าจะเป็น ปะเก็นสตาด้า 2.5 ตัวไม่โบแหละครับ
เหตุผล
1.เพราะว่าราคาถุกกว่าเพื่อน
2.เป็นของแท้ๆโรงงาน
3. ความหนาใกล้เคียงกับเครื่อง 2.5 คอมมอนเรล
4. ชิ้นงานมีความทนทานกว่า เพราะขอบชิ้นงานย้ำขอบมา ตัวหน้าสัมผัสเป็นไฟเบอร์ ใส่กลางเป็นเหล็ก
5. รูน๊อต สลักเท่ากันแป๊ะ แต่จะมีรูบางจุดที่จะต้องดัดแปลง เพราะมันไม่ตรง)
6. ระหว่างสูบ ตัวเนื้อปะเก็นสตาด้าจะมีเนื้อนูนออกมา ** ตัวนี้แหละที่เป็นตัวซิลแรงดันที่จะรั่วเข้าตาน้ำอย่างดี** ทำไทรทัน 2.5 คอมมอนเรลไม่ทำมานะ วิศวกร.....@!#$


จากข้อดีก็มีประมาณนี้แหละครับ ส่วนการแก้ไขช่องทางเดินบ้างจุดที่ไม่ตรงกับของไทรทัน จะต้องส่งร้านดัดแปลงเดี๋ยวก็ใช้ได้

aj anucha
02-12-2010, 20:10
อ้างอิงจากรูปนี้แหละครับ นี่คือเสื้อสูบ ไทรทัน 2.5 ตรงที่ทำกรอบไว้
นี่คือตาน้ำครับ ตรงนี้แหละที่อู่บางแห่งตัดปัญหาโดยการอุดครับ ซึ่งจะต้องรื้อเครื่องมาทั้งตัวครับ เรียกว่ารื้อมาจนเป็นเศษอะไหล่ไร้ค่า เจ้าของต้องทำใจครับ ราคาค่าทำก็ตก เฉียดหมื่นในการอุดตามน้ำและประกอบเครื่องครับ


การที่กำลังอัดในกระบอกสูบขึ้น จึงเป็นเหตุทำให้ปะเก็นเดิมรับไม่ไหว แรงอัดลอดเข้าตาน้ำ
ผมจึงคิดว่า ถ้าเราใช้ปะเก็นที่นูนระหว่างสูบนาจะดี ไม่ว่าจะปะเก็นสั่งตัดหรือปะเก็นสตาด้าแปลงใส่ก็ตามครับ เพราะเวลาปะกบ ตรงนี้แหละมันจะเข้าไปยัดในร่องระหว่างตาน้ำครับ
ทำให้การซิลระหว่างสูบดีขึ้น เพราะถ้าไม่ดี ทำไมของสตาด้าที่โมเครื่อง ใส่โบใหญ่ บูสหนัก ถึงไม่เจอปัญหาปะเก็นข้ามล่ะครับ ทั้งๆที่ปะเก็นเดิมจริงไหม??
( ที่จริง ปะเก็นฝาไทรทัน มันก็จะทับปิดร่องนี้อยู่แล้วครับ เพียงแต่ว่าหน้ามันเรียบๆเลยกันแรงดันเข้าตาน้ำไม่ไหว)


ดูภาพ อันนี้ปะเก็นไทรทัน 2.5 ครับ หน้าระหว่างสูบเรียบๆครับ ไม่มีเส้นนูนออกมา
Vv

aj anucha
02-12-2010, 20:22
อันนี้ปะเก็นฝาสูบ สตาด้า2.5ครับ
เนื้องานระหว่างสูบจะนูนออกมารับกับช่องตาน้ำเลยครับ เวลาอัดลงไปคงแนบสนิทดีจริงๆ เหมือนกับการอุดตาน้ำนั้นแหละ:kapook-17195-8823:
ดูตามภาพนะครับ
มีทั้งภาพปะเก็นสตาด้า และเสื้อสูบสตาด้า ซึ่งจะมีร่องตาน้ำระหว่างสูบเหมือนกับของไทรทันคอมมอนเรล แป๊ะๆครับ:emo022nj0::emo022nj0:

aj anucha
02-12-2010, 20:24
เสื้อสูบ สตาด้าครับ มีร่องตาน้ำเหมือนไทรทันเลย:smiley-eatdrink055:

aj anucha
02-12-2010, 20:35
เทียบระหว่างปะเก็น สตาด้าและไทรทันครับ ช่องใกล้กันมากๆ
แต่สตาด้าดีตรงที่มันย้ำขอบ และมีแนวนูนรับกับตาน้ำไว้ครับ:kapook-17195-8823:
ตรงมาร์คสีแดง นั้นคือส่วนที่ต้องแก้รูและย้ำใหม่ครับ


รูป บนปะเก็นไทรทัน
อันล่างสตาด้า
:yenta4-emoticon-001
รูปสุดท้าย ผมเอามาปะกบกันระหว่างสองรุ่นนะครับ ใกล้มากๆเลย

aj anucha
02-12-2010, 20:45
สำหรับเรื่องการอุดตาน้ำนั้น ทำได้ครับ
** แต่ผมคิดว่าจะต้องอุดแต่ตรงร่องยาวๆอ่ะนะ แล้วเหลือช่องไว้รูนึงเพื่อให้น้ำ สามารถวิ่งขึ้นมาหล่อเย็นที่ฝาสูบได้ครับ เพราะถ้าไม่มีรูออก น้ำร้อนก็จะค้างอยู่ในเสื้อสูบแบบนั้นแหละครับ ไม่ดีแน่ๆๆ....**
สำหรับการใช้ปะเก็นที่มีรอยนูนมาปิดช่องตาน้ำ นั้นก็จะไม่ว่างผลเสียครับ
ถ้าดูจากรูป เสื้อสูบและฝาสูบจะเห็นเลยว่าในแนวร่องยาวๆ ตรงฝาสูบจะไม่มีครับ
จะมีแค่รูเดียวให้น้ำผ่านขึ้นเท่านั้นเองว ดังนั้นจึงตัดปัญหาฝาสูบร้อนออกไปได้เลย:kapook-17195-8823::kapook-17195-8823:

aj anucha
02-12-2010, 20:57
อันนี้ฝาสูบไทรทันอ่ะครับ รูน้ำระหว่างสูบจะมีรูเดียวเหมือนกัน มันจะไม่มีร่องยาวๆเหมือนกับตัวเสื้อสูบครับ ดังนั้นสบายใจได้เลย:kapook-17195-8823:

aj anucha
02-12-2010, 20:59
ในข้อมูลทั้งหมด จากพี่ๆในคลับไทรทัน ช่างประจำตัว ช่างร้านดัง
จึงทำให้ผมลองจับงานมาสังเกต และได้แนวคิดใหม่ๆมาเสนอครับ ดังนั้นต้องขอบคุณพี่ๆมากครับ

bird3255
02-12-2010, 21:00
จัดกันต่อไป...มีอะไรสงสัยก็โทรมาถามอีกน่ะ.เล้ง. ปรึกษาได้
เพราะเจ้าtriton เรามันมีอะไรให้ค้นหาอีกเยอะ..อาการน้ำดันมันแค่เริ่มต้นคร้าบบ

aj anucha
02-12-2010, 21:04
สำหรับแนวทางของผมนะ มี2 ทางเลือก

คือ
1. ใช้ปะเก็นสั่งตัดแต่จะต้องสั่งให้เค้าตีนูนตรงร่องตาน้ำให้ด้วยครับ พร้อมย้ำขอบชื้นงาน
2. ดัดแปลงปะเก็นสตาด้ามาใส่ครับย ซึ่งจะต้องแก้ช่องทางเดินบางจุดครับ แต่จะมีปัญหาในการใช้งานหรือป่าวอันนี้ไม่ทราบครับ เพราะความหนาผิดของเดิมนิดๆนะครับ

ถ้าได้ทดลองเมื่อไหร่จะมาบอกให้ฟังครับ เร็วๆนี้แหละ เพราะตอนนี้น้ำดันอีกระลอกครับ
เซงๆ.......

nopgoon
02-12-2010, 21:27
เล้งพี่ขอเบอร์โทรหน่อยดิ มีเรื่องจะถามหน่อย

aj anucha
02-12-2010, 21:28
จัดกันต่อไป...มีอะไรสงสัยก็โทรมาถามอีกน่ะ.เล้ง. ปรึกษาได้
เพราะเจ้าtriton เรามันมีอะไรให้ค้นหาอีกเยอะ..อาการน้ำดันมันแค่เริ่มต้นคร้าบบ
ครับพี่เบริ์ด สู้ต่อไป ทาเคชิ:kapook-17194-2887::kapook-17194-2887:

aj anucha
02-12-2010, 21:29
เล้งพี่ขอเบอร์โทรหน่อยดิ มีเรื่องจะถามหน่อย
ได้ครับพี่นพ 084-9442977 ครับ:kapook-17195-8823::smiley-eatdrink048:

W-ut
02-12-2010, 22:32
กลุ้มแทนจริงๆ พี่ว่าสั่งตัดตีนูนตาน้ำละกัน
ถ้าเอาของสตาด้าไปทำ เจาะช่องต้องเนียนๆกันหน่อย

aj anucha
02-12-2010, 22:39
ได้ครับพี่วุฒิ ผมก็ว่างั้นแหละครับ เพราะถ้าแปลงของสตาด้าต้องเนียนจริง ไม่งั้นเสียของแน่แล้วที่ร้านน้าโย่งสั่งตีนูนได้ป่าวครับ ส่วนปะเก็นที่พี่วุฒิเคยเอามาโพสไว้ใช้ได้เลยครับ ถ้าตีนูนตาน้ำได้ แจ่มครับ

อย่างไงรบกวนหาข้อมูลให้หน่อยครับ ช่วยๆกัน อิอิ

tomm
02-12-2010, 22:53
:emo019ua3:

aj anucha
03-12-2010, 12:39
555 วันนี้ไปสั่งปะเก็นมาแล้วล่ะ ต้องรอดูผลงาน
แต่ว่าปะเก็นสั่งตีนูนระหว่างตาน้ำไม่ได้นะครับ ทำได้แต่ย้ำขอบกระบอกสูบทั้งหมดให้เป็นเนื้อเดียวครับ


เพิ่งได้สูตรจากร้านน้าโย่ง เดี๋ยวลองทดสอบดูก่อน งานนี้ผมอุดตาด้วยน้ำแน่นอนครับ ไม่ไหวแล้ว.....+++

jee4x4
03-12-2010, 14:17
555 วันนี้ไปสั่งปะเก็นมาแล้วล่ะ ต้องรอดูผลงาน
แต่ว่าปะเก็นสั่งตีนูนระหว่างตาน้ำไม่ได้นะครับ ทำได้แต่ย้ำขอบกระบอกสูบทั้งหมดให้เป็นเนื้อเดียวครับ


เพิ่งได้สูตรจากร้านน้าโย่ง เดี๋ยวลองทดสอบดูก่อน งานนี้ผมอุดตาด้วยน้ำแน่นอนครับ ไม่ไหวแล้ว.....+++
รอดูผลครับท่านประธาน :smiley-transport024

kit3.2
03-12-2010, 16:13
555 วันนี้ไปสั่งปะเก็นมาแล้วล่ะ ต้องรอดูผลงาน
แต่ว่าปะเก็นสั่งตีนูนระหว่างตาน้ำไม่ได้นะครับ ทำได้แต่ย้ำขอบกระบอกสูบทั้งหมดให้เป็นเนื้อเดียวครับ


เพิ่งได้สูตรจากร้านน้าโย่ง เดี๋ยวลองทดสอบดูก่อน งานนี้ผมอุดตาด้วยน้ำแน่นอนครับ ไม่ไหวแล้ว.....+++
เหนื่อยใจแทนเลยนะเนี้ย คิดในใจดีนะทีเลือก 3.2
เป็นกำลังใจให้นะครับ เพื่อไทรทัน 2.5 ทั้งหลาย:kapook-17195-8823:

kai triton 2009.com
03-12-2010, 18:08
ไหนๆ รถใครน้ำดันมาอีก เผยตัวสะดีๆ 555555
รถเค้าเองละตัวเอง:emoticon-cartoon-01

aj anucha
03-12-2010, 19:32
ครับ ขอบคุณพี่ๆทุกคนนะครับ
คราวนี้ผมจะอุดตาน้ำด้วยล่ะครับ แต่จะทำโดยวิธีใดต้องลองปรึกษาช่างก่อน
เพราะว่าเริ่มจะแย่แล้วล่ะ เก็บตั้งไปแต่งสวยๆดีกว่าความแรงเอาพอประมาณครับ

aj anucha
03-12-2010, 19:36
+++ " triton ปะเก็นซิ่ง" make in order .......... comming soon+++

สู้โว้ยยยยยยยยยยย

kai triton 2009.com
04-12-2010, 19:08
+++ " triton ปะเก็นซิ่ง" make in order .......... comming soon+++

สู้โว้ยยยยยยยยยยย
ยังไม่เสร็จอีกหรือครับ แล้วอย่างลืมเทนต์ยาวๆๆพี่รอฟังผลอยู่:kapook-17194-2887:

aj anucha
04-12-2010, 21:21
ยังไม่ได้ทำเลยพี่ไก่ ตอนนี้ก็อยู่สระบุรี ครับ
ขับมันมาทั้งๆที่น้ำดันนั้นแหละพี่ จัดบทโหดไปเลย

คาดว่าวันพฤหัส ได้ยกฝาสูบลงครับ คราวนี้ต้องเปลี่ยนน๊อตฝาสูบทั้งหมดเลย
กวดสัก 125 lb อุดตาน้ำ+ปะเก็นซิ่ง

aj anucha
04-12-2010, 21:23
ให้มันรู้กันไป "เจ้าตั้น"

teejung
05-12-2010, 01:00
รอผลด้วยคนคับน้า

toto45
07-12-2010, 17:03
ป๋มขอรอผลด้วยคร๊าบบบบบ:21-7:

rookiechy
07-12-2010, 17:37
เสร็จยังคับ

W-ut
07-12-2010, 18:48
กลุ้มใจแทน....แต่เป็นแรงใจ......ประสบการณ์.....ข้อมูล....ไม่ได้ใช้.....แค่ตัวเอง......ยังหลายหัว.....หลายมุม.......ป้องกันไม่ทัน.......แต่...ช่วยคนอื่น...มากมาย
ปักหมุดครับกระทู้นี้

aj anucha
08-12-2010, 09:07
ยังไม่ได้เริ่มทำเลยมั้งครับ
อาการรถไม่ค่อยดีตั้งแต่ สระบุรีแล้ว เครื่องยนต์มีอาการน้ำดันนิดหน่อย แต่เครื่องไม่ฮีทนะ
ที่น่าเป็นห่วงคือเสียง ดังแกร๊กๆ ในเครื่องยนต์ครับ ยิ่งเบิ้ลเครื่องดังชัดเจนครับ แต่ผมก็
คลานขับมาใช้รอบแค่ไม่เกิน 2000 rpm เมื่อวานเป็นวันที่ผมไม่มีความสุขกับการขับเลย
กลัวว่าจะดับกลางทาง แต่แล้วก็กลับมาถึงกรุงเทพจนได้ สุดท้ายก็มาดับก่อนถึงร้านน้าโย่ง เครื่องดับยูเทริ์นตรงปั๊มเชลล์ แถวบางบอน 5 พอดีเลยครับ
ก็เลยเดินที่เอาปะเก็นที่สั่งไว้ จากนั้นก็เลยโทรเรียกพี่ตี๋ เจ้าของ"อู่ตี๋แสมดำ" ที่ผมจะเอารถเข้าไปทำประจำ พอลากที่ถึงก็โล่งอกครับ ถือมือช่างแล้ว เลยจับปะเก็นที่สั่งตัดมาเทียบกับของศูนย์ งานที่ตัดมาโอเคเลยครับ เนียนใช้ได้ย้ำขอบมาตามที่บอกไว้ แต่ความหนานี่รู้สึกจะหนากว่าเดิมๆ นิดนึงครับ:yenyo-104:
ก็ไม่เป็นเดี๋ยวรอช่างที่ร้านรื้อเครื่องยนต์ออกมาก่อนครับ งานนี้ไม่รู้ต้องซ่อมอะไรบ้าง เพราะอาการมันแลดูแย่มากๆ........อย่างไงจะแจ้งผลให้ทราบนะครับ:emo013rk4::emo013rk4:

aj anucha
08-12-2010, 09:13
สุดท้ายแล้วถ้าเสียค่าซ่อมเยอะหรือว่าถ้าผมเบื่อๆจะว่าถอดของแต่งออกให้หมดแล้วขับเดิมๆครับ เอาเงินไปแต่งเครื่องเสียง ทำสวยๆขับแล้วล่ะครับ

bird3255
08-12-2010, 10:51
บอกให้ไปทำร้านที่พี่บอก ก็ไม่ไปจะได้จบปัญหาน้ำดันร้านก็อยู่ฝั่งเรา..ดื้อจิงๆน้องคนนี้:i40::i40:

aj anucha
08-12-2010, 13:29
อิอิ ได้ครับพี่เบริ์ดผมขอลองครั้งนี้ดูอีกที ถ้าไม่หายเดี๋ยวไปร้านที่พี่บอกแล้วกันนะครับ
จุ๊บๆๆ....5555

IFRIT By R&D Group
08-12-2010, 13:41
มารอชมอีกคนครับรถน้องผมเริ่มมีอาการรอบ2แล้วครับ อิอิ

aj anucha
08-12-2010, 17:55
ถ้าดันสักทีนึง ก็จะเริ่มเป็นแบบนี้เรื่อยๆนะ ผมเห็นหลายคันแล้วครับ
ถ้ามีอาการน้ำดัน ก็อย่าปล่อยไว้นานนะครับ เดี๋ยวงานเข้าเครื่องดับแบบผมอีก
เดี๋ยวพรุ่งนี้เก็บข้อมูลมาให้ดูกันครับ

W-ut
08-12-2010, 18:24
สงสัยตาโย่งแกคงลืมอะเล้งหรือไม่ก็มึน
หรือกันตอนปาดฝาเพราะส่วนใหญ่ เวลาน้ำดันบ่อยๆสาเหตุส่วนหนึ่งก็คือเรื่องฝาโก่ง เอาละไม่เป็นไรถ้าติดยากลองจูน(เกรน)ดันรางลง

aj anucha
08-12-2010, 21:43
ครับผม ถ้าติดปัญหาตรงนี้รบกวนพี่วุฒิจูนดันรางลงทีนะครับ

coppy42
08-12-2010, 21:58
ผมไม่ได้เข้ามาอ่านตั้งนาน นึกว่าจบไปแล้ว เรื่องห้องอัดรั่ว น้ำดันสำหรับคันนี้ เอาใจช่วยครับน้าaj anucha (http://www.thaitritonclub.com/forum/member.php?u=105)
แต่ก็อย่าลืมครับ ฝาปาดแล้วห้องอัดถ้ายังไม่หายรั่ว เสื้อสูบก็ทรุดได้เหมือนกันครับ เคยเห็นดีแม็ก2.5ตัวแรกแก้ไม่หาย
อู่ข้างบ้านรับมาทำ ต้องยกรื้อเอาเสื้อสูบไปใสหน้าเรียบครับ ผลรับดีกว่าเก่าแต่ก็ไม่รู้ว่าได้ดีและนานแค่ไหนครับ

aj anucha
09-12-2010, 09:36
ขอบคุณที่ให้กำลังใจครับ
ต้องลองซ่อมครับ ไม่รู้ครั้งนี้จะจบไหม เมื่อไหร่จบสักที ผมเบื่อมาก...

aj anucha
09-12-2010, 20:29
เห้อ สงสัยงานเข้ายาวๆเลยครับ
ช่างโทรมาบอกว่า สายพานไทมิ่งเฟืองมันรูดอ่ะครับ เลยทำให้หมุนผิดจังหวะ สงสัยวาล์วคดแน่ๆเลย เพราะดับคาเท้าไปเลยครับ
คงที่รอรถอีกหลายวันครับ เพราะต้องส่งโรงกลึงเช็คระเอียดเลย งานนี้โดนค่าซ่อมหมื่นอัพอยู่แล้วครับ รถวิ่ง 85000 เอง สายพานไปสะแล้ว.....

nopgoon
09-12-2010, 20:46
เห้อ สงสัยงานเข้ายาวๆเลยครับ
ช่างโทรมาบอกว่า สายพานไทมิ่งเฟืองมันรูดอ่ะครับ เลยทำให้หมุนผิดจังหวะ สงสัยวาล์วคดแน่ๆเลย เพราะดับคาเท้าไปเลยครับ
คงที่รอรถอีกหลายวันครับ เพราะต้องส่งโรงกลึงเช็คระเอียดเลย งานนี้โดนค่าซ่อมหมื่นอัพอยู่แล้วครับ รถวิ่ง 85000 เอง สายพานไปสะแล้ว.....
อย่าเพิ่งท้อ ก็รถเรามันแรงนิแล้วเราก็ใช้งานมันหนักด้วย

triton9908
09-12-2010, 20:50
ของผมหายสนิทแล้วครับ ซัดมา 2-3 รอบแล้ว ใครที่ยังไม่หาย ก็ขอให้หายไวๆนะครับ
ของแบบนี้ใครเจอแล้วจะรู้เองว่ามันหงุดหงิดขนาดไหน หายไวๆนะครับน้า

:kapook-17195-8823::kapook-17195-8823::kapook-17195-8823:

W-ut
09-12-2010, 20:51
เห้อ สงสัยงานเข้ายาวๆเลยครับ
ช่างโทรมาบอกว่า สายพานไทมิ่งเฟืองมันรูดอ่ะครับ เลยทำให้หมุนผิดจังหวะ สงสัยวาล์วคดแน่ๆเลย เพราะดับคาเท้าไปเลยครับ
คงที่รอรถอีกหลายวันครับ เพราะต้องส่งโรงกลึงเช็คระเอียดเลย งานนี้โดนค่าซ่อมหมื่นอัพอยู่แล้วครับ รถวิ่ง 85000 เอง สายพานไปสะแล้ว.....
ถ้าได้รื้อแล้ว พี่มี 2 ข้อให้มอง
1 วาง 3.2 ชนเกียร์เดิม เหนียวหน่อยราคาตอนนั้นไปดูมา ห้าหมื่น
2 ยกเสื้อมาเชื่อมอุดตาน้ำพร้อมไสหน้าเรียบ(เคยแก้มาแล้วได้ผล)

aj anucha
09-12-2010, 20:55
ข่าวร้ายมากจริงๆครับ
เมื่อกี้ช่างโทรมาอีกรอบ พบว่าแคมไอดีขาดครับ ปะกับและกระเดื่องกดวาล์วแตก
นี่ยังไม่ได้เช็ควาล์วไอดี //ไอเสียนะครับว่ายังใช้ได้กี่ตัว
ผมว่าแล้วอาการนี้ไม่ธรรมดาแน่นอนครับ เพราะถึงขั้นสายพานรูดนี่ร้ายแรงครับ
สุดท้ายแล้วคงยุติเรื่องความแรงลงอย่างแน่นอนครับ ทำเดิมทุกอย่างครับ
ฝากไว้ด้วยว่า หากใครอยากจะทำแรง ทำได้ครับ แต่ทุกอย่างก็ต้องเตรียมพร้อมไว้เสมอครับ
:emo023vv3::emo023vv3::emo023vv3::emo023vv3:

W-ut
09-12-2010, 20:58
ข่าวร้ายมากจริงๆครับ
เมื่อกี้ช่างโทรมาอีกรอบ พบว่าแคมไอดีขาดครับ ปะกับและกระเดื่องกดวาล์วแตก
นี่ยังไม่ได้เช็ควาล์วไอดี //ไอเสียนะครับว่ายังใช้ได้กี่ตัว
ผมว่าแล้วอาการนี้ไม่ธรรมดาแน่นอนครับ เพราะถึงขั้นสายพานรูดนี่ร้ายแรงครับ
สุดท้ายแล้วคงยุติเรื่องความแรงลงอย่างแน่นอนครับ ทำเดิมทุกอย่างครับ
ฝากไว้ด้วยว่า หากใครอยากจะทำแรง ทำได้ครับ แต่ทุกอย่างก็ต้องเตรียมพร้อมไว้เสมอครับ
:emo023vv3::emo023vv3::emo023vv3::emo023vv3:
หาเครื่องตัวใหม่เล้ง
3.2
3000 อีสุ

dsign
09-12-2010, 21:10
...โอวววววววว ท่านประธานถึงขั้นโคม่าเลยนะเนี่ย ขอให้ลงเอยด้วยดีนะฮะ... :emo014hv3:

rookiechy
09-12-2010, 22:14
อย่าพึ่งถอยคับน้าวางเครื่องใหม่ไปเลย

aj anucha
09-12-2010, 22:26
ยอมแพ้แล้วครับ สู้ไม่ไหวจริงๆ ซ่อมทั้งปีเลย
คงเป็นเพราะผมเตรียมพร้อมรถไม่ดีเอง สมน้ำหน้าตัวเอง

bird3255
09-12-2010, 23:22
ยอมแพ้แล้วครับ สู้ไม่ไหวจริงๆ ซ่อมทั้งปีเลย
คงเป็นเพราะผมเตรียมพร้อมรถไม่ดีเอง สมน้ำหน้าตัวเอง
อาการหนัก..น่ากลัวใจเย็นๆ ค่อยคิดว่าเอาไงทำเดิมๆก็ดีอย่างที่พี่บอกไป:i40:

aj anucha
10-12-2010, 00:46
ครับพี่เบริ์ด ต้องถอยแล้วล่ะครับ เพราะผมไม่มีตังทำอย่างอื่นเพิ่ม เพื่อรองรับความแรงได้แล้วครับ ปะเก็นสั่งตัด ย้ำขอบ ใครสนใจบอกนะครับผมขายให้ 1500 บาท เพราะรถผมไม่มีความจำเป็นต้องใช้แล้ว.....

kai triton 2009.com
10-12-2010, 14:53
ครับพี่เบริ์ด ต้องถอยแล้วล่ะครับ เพราะผมไม่มีตังทำอย่างอื่นเพิ่ม เพื่อรองรับความแรงได้แล้วครับ ปะเก็นสั่งตัด ย้ำขอบ ใครสนใจบอกนะครับผมขายให้ 1500 บาท เพราะรถผมไม่มีความจำเป็นต้องใช้แล้ว.....
เล้งเก็บปะเก็นไว้ให้พี่แล้วกัน ใจเย็นๆน้องของทุกอย่างมีทางแก้เสมอแต่เราต้องหาจุดให้เจอ รถพี่ตอนนี้ก็ควันขาวเช็คหัวฉีดใหม่ก็ไม่หาย เป็นกำลังใจให้นะแต่โทรหาไม่ติดเลย:1182440014:

kai triton 2009.com
10-12-2010, 14:55
ข่าวร้ายมากจริงๆครับ
เมื่อกี้ช่างโทรมาอีกรอบ พบว่าแคมไอดีขาดครับ ปะกับและกระเดื่องกดวาล์วแตก
นี่ยังไม่ได้เช็ควาล์วไอดี //ไอเสียนะครับว่ายังใช้ได้กี่ตัว
ผมว่าแล้วอาการนี้ไม่ธรรมดาแน่นอนครับ เพราะถึงขั้นสายพานรูดนี่ร้ายแรงครับ
สุดท้ายแล้วคงยุติเรื่องความแรงลงอย่างแน่นอนครับ ทำเดิมทุกอย่างครับ
ฝากไว้ด้วยว่า หากใครอยากจะทำแรง ทำได้ครับ แต่ทุกอย่างก็ต้องเตรียมพร้อมไว้เสมอครับ
:emo023vv3::emo023vv3::emo023vv3::emo023vv3:
แล้วช่างแจ้งปัญหาว่าเป็นเพราะอะไร พี่ได้ระวังไว้บ้าง

Nuk_Black-Triton
10-12-2010, 15:42
โห ... น้าเล้ง งานงอกบานตะไท เลย ....

ถ้าตอนนี้ ถึงขนาดนี้แล้ว ผมว่า เปลี่ยนเครื่องใหม่ดีกว่าครับ

เพราะมันคงกลับมาไม่เหมือนเดิมแล้วล่ะครับ

ขับเดิมๆ สบายใจดีครับ ทำสวยขับทนกว่าทำแรงครับ

coppy42
10-12-2010, 16:12
ข่าวร้ายมากจริงๆครับ
เมื่อกี้ช่างโทรมาอีกรอบ พบว่าแคมไอดีขาดครับ ปะกับและกระเดื่องกดวาล์วแตก
นี่ยังไม่ได้เช็ควาล์วไอดี //ไอเสียนะครับว่ายังใช้ได้กี่ตัว
ผมว่าแล้วอาการนี้ไม่ธรรมดาแน่นอนครับ เพราะถึงขั้นสายพานรูดนี่ร้ายแรงครับ
สุดท้ายแล้วคงยุติเรื่องความแรงลงอย่างแน่นอนครับ ทำเดิมทุกอย่างครับ
ฝากไว้ด้วยว่า หากใครอยากจะทำแรง ทำได้ครับ แต่ทุกอย่างก็ต้องเตรียมพร้อมไว้เสมอครับ
:emo023vv3::emo023vv3::emo023vv3::emo023vv3:
โอ้วววว :kapook-17327-8367: วันนั้นอ่านรู้แค่ว่าสะดุดน้ำดันยังไม่เห็นบอกว่าสายพานข้ามมาร์คเฟืองไทม์มิ่ง แล้ววันนั้นว่าจะถาม จะบอกแล้ว ว่าเคมป์จะขาดมั้ยถ้าวาวล์มันชนลูกสูบ เพราะจากประวัติของเครื่องมิตซู แคมป์จะขาดกับตู๊กตามันจะแตกซะส่วนมาก มันเป็นมาแบบนี้ตั้งแต่สมัยซเลนเดอร์แล้วด้วยซ้ำไป :emo022nj0:

aj anucha
10-12-2010, 16:59
ขอบคุณทุกท่ายที่ให้กำลังใจครับ ตอนนี้ก็จอดอู่ยาวๆเลยล่ะ เพราะติดวันหยุด
อาทิตย์หน้าแหละครับ กว่าจะได้เริ่มซ่อม
ไม่รู้นะเห็นเบื้องต้น ช่างตี๋บอกว่า คราวที่แล้วไปเปลี่ยนปะเก็นที่ไหนมา เค้าบอกผมว่า
ผมเปิดเครื่องออกส่วนมา น๊อตไม่แน่นสักตัวเลย อาจเป็นสาเหตุทำให้สายพานมันรุดอ่ะครับ
แล้วจังหวะผิด แคมเลยขาดอ่ะครับ เซงเลย.....

aj anucha
10-12-2010, 17:11
ท่อนล่างไม่เป็นไรครับ แต่ท่อนบนนี้พังไปเยอะพอสมควร
กระเดื่องกดวาล์วหักไป 6 ตัว ส่วนวาล์วไอดี ไอเสีย และฝาสูบต้องส่งโรงกลึงเช็คดูครับ

aj anucha
10-12-2010, 17:25
:emo022nj0::emo022nj0: สายพานไทมิ่งครับ

rookiechy
10-12-2010, 17:34
อย่างงี้ที่เค้าบอกว่าไทรทันทำแล้วจุกจิก
ก็น่าจะจริงมั้ยคับ

น้องขาวมุก
10-12-2010, 18:03
งานงอกเลย น้าเล้ง

เป็นกำลังใจให้ครับ :i37:

decskong
10-12-2010, 18:47
ยังไม่ได้เริ่มทำเลยมั้งครับ
อาการรถไม่ค่อยดีตั้งแต่ สระบุรีแล้ว เครื่องยนต์มีอาการน้ำดันนิดหน่อย แต่เครื่องไม่ฮีทนะ
ที่น่าเป็นห่วงคือเสียง ดังแกร๊กๆ ในเครื่องยนต์ครับ ยิ่งเบิ้ลเครื่องดังชัดเจนครับ แต่ผมก็
คลานขับมาใช้รอบแค่ไม่เกิน 2000 rpm เมื่อวานเป็นวันที่ผมไม่มีความสุขกับการขับเลย
กลัวว่าจะดับกลางทาง แต่แล้วก็กลับมาถึงกรุงเทพจนได้ สุดท้ายก็มาดับก่อนถึงร้านน้าโย่ง เครื่องดับยูเทริ์นตรงปั๊มเชลล์ แถวบางบอน 5 พอดีเลยครับ
ก็เลยเดินที่เอาปะเก็นที่สั่งไว้ จากนั้นก็เลยโทรเรียกพี่ตี๋ เจ้าของ"อู่ตี๋แสมดำ" ที่ผมจะเอารถเข้าไปทำประจำ พอลากที่ถึงก็โล่งอกครับ ถือมือช่างแล้ว เลยจับปะเก็นที่สั่งตัดมาเทียบกับของศูนย์ งานที่ตัดมาโอเคเลยครับ เนียนใช้ได้ย้ำขอบมาตามที่บอกไว้ แต่ความหนานี่รู้สึกจะหนากว่าเดิมๆ นิดนึงครับ:yenyo-104:
ก็ไม่เป็นเดี๋ยวรอช่างที่ร้านรื้อเครื่องยนต์ออกมาก่อนครับ งานนี้ไม่รู้ต้องซ่อมอะไรบ้าง เพราะอาการมันแลดูแย่มากๆ........อย่างไงจะแจ้งผลให้ทราบนะครับ:emo013rk4::emo013rk4: น้าเล้งโทษนะครับ ขออนุญาติ ที่ว่าดังแกร๊ก ๆ หาสาเหตุเจอหรือยังอ่ะครับ ของผมก็ดังแถวๆ ทอร่วมไอดี เวลาเหยียบคันเร่ง เสียงมันจะลงตามเสียงเครื่องอ่ะครับน้า หรือว่าของผมจะเป็นเหมือนของน้าเล้ง ช่วยอธิบายอีกนิดครับน้า ขอบคุณครับ:i40:

aj anucha
10-12-2010, 20:06
ของน้า รถวิ่งมากี่โลแล้วครับ รถสภาพเดิมๆไม่น่าเป็นอะไรมากนะครับ
รถผมดัดแปลงเยอะ แล้วยังพกพร่องเรื่องการดูแล มันเลยพังอ่ะครับ
ถ้ารถน้าเดิมๆผมว่าเสียงที่ดัง น่าจะมาจากเสียงน๊อตยึดอะไรหลวมล่ะมั้ง ลองไล่ดูตามท่อไอดี หรือรอบๆข้างอ่ะครับ
ส่วนของผมนี่มันดังจนน่ากลัวเลยดังในเครื่องยนต์ตรงฝาครอบวาล์ว แคร๊กๆ.. แคร๊กๆ


ถ้าดังมากลองเข้าศูนย์ เช็คเพื่อความสบายใจนะครับ ก่อนที่อะไรมันจะบานปลายไปเยอะมากแบบผม....

decskong
10-12-2010, 20:11
รถวิ่งมา 72000 โลครับ พรุ่งนี้เด๋วลองเช็ค ลองรอกดูครับ

aj anucha
11-12-2010, 09:12
สายพานไทมิ่ง น่ากลัวกว่าที่คิดครับ ที่ตอนแรกผมวิ่ง 85000 ก็คิดว่าจะเปลี่ยนตอน
9 หมื่นโล เพราะรถทำมาเยอะ แต่แล้วก็ไม่ทันครับ...

jee4x4
11-12-2010, 09:28
สายพานไทมิ่ง น่ากลัวกว่าที่คิดครับ ที่ตอนแรกผมวิ่ง 85000 ก็คิดว่าจะเปลี่ยนตอน
9 หมื่นโล เพราะรถทำมาเยอะ แต่แล้วก็ไม่ทันครับ...
:i40: สู้ๆครับน้าเล้ง ถ้าซ่อมเกิน 30K เปลี่ยนเครื่องดีกว่านะครับ

kit3.2
11-12-2010, 09:30
รถมันแรงเกินการใช้งานมากความสึกหรอมันก็เยอะเป็นเท่าตัว งานนี้ส่งใส จะแรงแบบพอเพียง เอาขอให้ออกมาแล้ววิ่งชิวนะครับ
ว่าแต่ทำเดิม ๆ แล้วห้ามใจไว้หรือ คนเคยแรง 555555555

aj anucha
11-12-2010, 10:47
:i40: สู้ๆครับน้าเล้ง ถ้าซ่อมเกิน 30K เปลี่ยนเครื่องดีกว่านะครับ
ครับน้าจี ให้ผมยืมป่าวครับ 5555:kapook-17199-4683::kapook-17199-4683:

aj anucha
13-12-2010, 23:35
ปะเก็นซิ่งมาแล้วครับ งานเนียนดีนะ เดี๋ยวต้องทดสอบใช้ดูครับ
ตอนนี้ผมไม่ขายปะเก็นแล้วครับ ลองใช้เองดีกว่าทำกันไว้อ่ะครับ
เพราะขี้เกียจรื้ออีก ตอนนี้จะลงแค่โบ 04lบูสน้อยๆไว้ใช้งานครับ
:emo024mc1::emo024mc1:

aj anucha
13-12-2010, 23:52
สาเหตุที่ แคมผมขาด วาล์วคด กระเดื่องหัก
เพราะสายพานไทมิ่งรูด ไม่รู้ว่ามันกระชากมากเกินไปหรือว่าน๊อตลูกรอกไม่แน่น
นะครับ งานนี้ต้องเปลี่ยนแคมสองเส้นเลย อีกเส้นไม่ขาดนะ แต่กลัวมันคด เลยเปลี่ยนเพื่อความสบายใจมากกว่าครับ:yenta4-emoticon-002:yenta4-emoticon-002

jee4x4
13-12-2010, 23:53
ครับน้าจี ให้ผมยืมป่าวครับ 5555:kapook-17199-4683::kapook-17199-4683:
:kapook-17196-7812: ตังค์น้อยครับรอโบนัส อิอิ


ปะเก็นซิ่งมาแล้วครับ งานเนียนดีนะ เดี๋ยวต้องทดสอบใช้ดูครับ
ตอนนี้ผมไม่ขายปะเก็นแล้วครับ ลองใช้เองดีกว่าทำกันไว้อ่ะครับ
เพราะขี้เกียจรื้ออีก ตอนนี้จะลงแค่โบ 04lบูสน้อยๆไว้ใช้งานครับ
:emo024mc1::emo024mc1:
หวังว่าผมคงไม่ได้ใช้นะครับน้าเล้งประเก็นแบบนี้ :emo023vv3: แล้วราคาแรงมั้ยครับ อิอิเผื่อไว้
แล้วตาน้ำอุดเปล่าน้าเล้ง

aj anucha
14-12-2010, 00:04
กำจัดจุดอ่อนด้วยวิธีที่เรียบง่ายสุดๆ ไม่ต้องส่งโรงกลึงครับ

เราจะไม่อุดทิ้งทั้งหมดครับ จะเหลือไว้รูนึงให้น้ำวิ่งขี้นระบายความร้อนที่ฝาสูบได้ ที่อุดตรงนี้เพราะมันเป็นช่วงที่กระบอกสูบใกล้ตาน้ำมากที่สุดครับ
ทำกันไว้ดีกว่าครับหากบูสเยอะ เพราะมันไม่ส่งผลเสียอยู่แล้วล่ะครับ สังเกตจากปะเก็นก็จะรู้ว่าจะไม่มีร่องให้น้ำวิ่งขึ้นมาครับ พออุดแล้วก็ขัดหน้าให้เรียบ กระดาษทรายลูบแต่งเอานิดหน่อย รูปน้อยไปนิดครับเพราะแบตหมด 555
:emo024mc1::emo024mc1:

aj anucha
14-12-2010, 00:13
ปะเก็นย้ำขอบ+ อุดร่องตาน้ำ จะเป็นอย่างไรต้องรอผมทดสอบสักพักนะครับ

สำหรับสเต็ปตอนนี้
ก็มีแค่ โบ 04l (กะบูส 25 psi) + ปั๊มโม+ กล่องยกหัวฉีด+ ดันราง+ scvโม+ อินเตอร์ 3นิ้ว
ท่อโล่งๆเส้นนึงครับ รถใช้งาน