PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : เอามาให้ดูเล่นๆ...ค่าวิชามันแพง



teevasabi
08-03-2011, 19:52
เครื่องตรวจจับความเร็วอัตโนมัติ


การทำงานของเครื่องตรวจจับความเร็วด้วยแสงเลเซอร์นี้สามารถใช้งานได้ทั้งระบบควบคุมเองและระบบอัตโนมัติ โดยเมื่อรถที่ใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดผ่านจุดตรวจกล้องก็จะทำการถ่ายภาพโดยอัตโนมัติ จากนั้นความเร็วและภาพรถ จะถูกส่งมาจัดเก็บและแสดงที่ชุดประมวลผลพร้อมแสดง วัน เดือน ปี เวลา สถานที่ จากนั้นข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งต่อมายังศูนย์อำนวยการตำรวจทางหลวงเพื่อที่จะตรวจสอบทะเบียนรถ และ ออกใบสั่งส่งไปยังที่อยู่ของผู้ครอบครองรถตามทะเบียน ต่อไป และหากผู้ได้รับใบสั่งไม่ไปชำระค่าปรับภายในเวลา 7 วัน กองบังคับการตำรวจทางหลวงจะส่งข้อมูลไปยังกรมการขนส่งเพื่ออายัดการต่อทะเบียนรถด้วย สำหรับความเม่นยำของเครื่องเป็นไปตามมาตรฐานขององค์กร International Association of Chiefs of Police (The IACP) ทั้งยังประสานสำนักมาตรวิทยาแห่งชาติ เพื่อทำการคาริเบธเครื่องเป็นประจำทุกปีและก่อนที่จะนำไปตรวจจับตามจุดต่างๆ ก็จะมีการทดสอบก่อนทุกครั้งด้วยจึงมั่นใจได้ว่าเครื่องจะสามารถตรวจจับได้อ ย่างแม่นยำ เส้นทางที่ตั้งกล้องตรวจจับความเร็วอัตโนมัตินี้ มีอยู่หลายจุดทั่วประเทศ ได้แก่




1. เส้นทางสายพหลโยธิน ช่วงรังสิต ถึง สระบุรี 2 จุด


2. เส้นทางสายมิตรภาพ ระหว่าง สระบุรี ถึง นครราชสีมา 2 จุด


3. เส้นทางสายมิตรภาพ ระหว่าง นครราชสีมา ถึง ขอนแก่น 2 จุด


4. เส้นทางสายเอเชีย ระหว่าง อยุธยา ถึง นครสวรรค์ 1 จุด


5. เส้นทางสายเอเชีย ระหว่าง นครสวรรค์ ถึง ตาก 1 จุด


6. เส้นทางสายเอเชีย ระหว่าง ตาก ถึง เชียงใหม่ 1 จุด


7. เส้นทางสายกรุงเทพ นครปฐม วังมะนาว 1 จุด


8. เส้นทางสายกรุงเทพ วังมะนาว 1 จุด


9. เส้นทางสาย วังมะนาว ถึง หัวหิน 1 จุด


10. เส้นทางสายเพชรเกษม ( เลี่ยงเมือง ) ชะอำ ถึง ปราณบุรี 1 จุด


11. เส้นทางสายเพชรเกษม ประจวบคีรีขันธ์ ถึง ชุมพร 1 จุด


12. เส้นทางสายเพชรเกษม ชุมพรถึง สุราษฎร์ธานี 1 จุด


13. เส้นทางสายบางนา - ตราด ระหว่าง กรุงเทพ ถึง บางปะกง 1 จุด


14. เส้นทางสายสุขุมวิท ระหว่าง ชลบุรี ถึง พัทยา 1 จุด


15. เส้นทางสายมอเตอร์เวย์ ชลบุรี ถึง ระยอง 2 จุด


16. และเส้นทางสายสุขุมวิท ระหว่าง ระยอง ถึง จันทบุรี 1 จุด



ซึ่งตำรวจทางหลวงจะทำการสุ่มเปลี่ยนจุดตรวจทุกครั้งที่มีการติดตั้งด้วย หลังจากตำรวจทางหลวงจึงได้จัดหาเครื่องตรวจจับความเร็วด้วยแสงเลเซอร์ จำนวน 45 ชุด แจกจ่ายให้กับสถานีตำรวจทางหลวงกองกำกับการ และกองบังคับการตำรวจทางหลวงทั่วประเทศได้ใช้ติดตั้งเพื่อปรามบรรดาตีนผีเหล่านี้ โดยข้อมูลจากหน่วยตรวจจับความเร็วไฮ - เทคทั่วประเทศที่ถูกส่งมายังศูนย์อำนวยการตำรวจทางหลวงพบว่าเพียงแค่ 3 เดือนแรกที่มีการติดตั้งเครื่องก็ได้จ่ายใบสั่งให้ผู้ที่ขับรถเร็วเกินกำหนดไปแล้วจำนวนมากถึง 42,304 ราย ซึ่งจะนำไปสู่การปรามผู้ขับรถเร็วได้ในอนาคต โดยตำรวจทางหลวงยังได้มีแผนที่จะติดตั้งเครื่องตรวจจับความเร็วเพิ่มอีก 45 ชุด เพื่อให้แต่ละหน่วยงานมี 2 ชุดคลอบคลุมพื้นที่การใช้งานในอนาคตด้วย หลักฐานที่แสดงให้เห็นประสิทธิภาพของเครื่องตรวจจับความเร็วอัตโนมัติ คือ ใบสั่งที่ส่งให้ทางไปรษณีย์ ........ระวังอาจตกเป็นเหยื่อของเจ้าเครื่องมือไฮ-เทคล่าสุดนี้ 5555

teevasabi
08-03-2011, 21:31
แก้ไขแล้วครับ

เห็นน้าโดนกันมาเลยเอามาลงให้รู้จุดของทีตั้ง

ยังไงก็อย่าขับเกิน200นะครับ-*-

thammanoon
08-03-2011, 21:41
?????

nineyuth
08-03-2011, 21:55
ไรว้า......:i41:

hamrook
09-03-2011, 07:33
'''งงงง

krai^^
09-03-2011, 07:41
สุดยอด ทำได้ไงเนี่ย

MEAW_SAN
09-03-2011, 08:03
โอ้วววว คุ้มค่าวิชามาก

decskong
09-03-2011, 08:10
งง.................

namwhanyo@hotmail.com
09-03-2011, 08:20
ง่าาาาาาา

teevasabi
09-03-2011, 08:26
ขอโทษครับน้าๆๆมันลงให้ดูไม่ได้ครับ

ลงได้แล้วครับ-*-

hs5pwj
09-03-2011, 08:33
มันแพงสมคำล้ำลือจริงๆ

teevasabi
09-03-2011, 08:39
เครื่องตรวจจับความเร็วอัตโนมัติ
การทำงานของเครื่องตรวจจับความเร็วด้วยแสงเลเซอร์นี้สามารถใช้งานได้ทั้งระบบควบคุมเองและระบบอัตโนมัติ โดยเมื่อรถที่ใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดผ่านจุดตรวจกล้องก็จะทำการถ่ายภาพโดยอัตโนมัติ จากนั้นความเร็วและภาพรถ จะถูกส่งมาจัดเก็บและแสดงที่ชุดประมวลผลพร้อมแสดง วัน เดือน ปี เวลา สถานที่ จากนั้นข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งต่อมายังศูนย์อำนวยการตำรวจทางหลวงเพื่อที่จะตรวจสอบทะเบียนรถ และ ออกใบสั่งส่งไปยังที่อยู่ของผู้ครอบครองรถตามทะเบียน ต่อไป และหากผู้ได้รับใบสั่งไม่ไปชำระค่าปรับภายในเวลา 7 วัน กองบังคับการตำรวจทางหลวงจะส่งข้อมูลไปยังกรมการขนส่งเพื่ออายัดการต่อทะเบียนรถด้วย สำหรับความเม่นยำของเครื่องเป็นไปตามมาตรฐานขององค์กร International Association of Chiefs of Police (The IACP) ทั้งยังประสานสำนักมาตรวิทยาแห่งชาติ เพื่อทำการคาริเบธเครื่องเป็นประจำทุกปีและก่อนที่จะนำไปตรวจจับตามจุดต่างๆ ก็จะมีการทดสอบก่อนทุกครั้งด้วยจึงมั่นใจได้ว่าเครื่องจะสามารถตรวจจับได้อ ย่างแม่นยำ เส้นทางที่ตั้งกล้องตรวจจับความเร็วอัตโนมัตินี้ มีอยู่หลายจุดทั่วประเทศ ได้แก่



1. เส้นทางสายพหลโยธิน ช่วงรังสิต ถึง สระบุรี 2 จุด
2. เส้นทางสายมิตรภาพ ระหว่าง สระบุรี ถึง นครราชสีมา 2 จุด
3. เส้นทางสายมิตรภาพ ระหว่าง นครราชสีมา ถึง ขอนแก่น 2 จุด
4. เส้นทางสายเอเชีย ระหว่าง อยุธยา ถึง นครสวรรค์ 1 จุด
5. เส้นทางสายเอเชีย ระหว่าง นครสวรรค์ ถึง ตาก 1 จุด
6. เส้นทางสายเอเชีย ระหว่าง ตาก ถึง เชียงใหม่ 1 จุด
7. เส้นทางสายกรุงเทพ นครปฐม วังมะนาว 1 จุด
8. เส้นทางสายกรุงเทพ วังมะนาว 1 จุด
9. เส้นทางสาย วังมะนาว ถึง หัวหิน 1 จุด
10. เส้นทางสายเพชรเกษม ( เลี่ยงเมือง ) ชะอำ ถึง ปราณบุรี 1 จุด
11. เส้นทางสายเพชรเกษม ประจวบคีรีขันธ์ ถึง ชุมพร 1 จุด
12. เส้นทางสายเพชรเกษม ชุมพรถึง สุราษฎร์ธานี 1 จุด
13. เส้นทางสายบางนา - ตราด ระหว่าง กรุงเทพ ถึง บางปะกง 1 จุด
14. เส้นทางสายสุขุมวิท ระหว่าง ชลบุรี ถึง พัทยา 1 จุด
15. เส้นทางสายมอเตอร์เวย์ ชลบุรี ถึง ระยอง 2 จุด
16. และเส้นทางสายสุขุมวิท ระหว่าง ระยอง ถึง จันทบุรี 1 จุด


ซึ่งตำรวจทางหลวงจะทำการสุ่มเปลี่ยนจุดตรวจทุกครั้งที่มีการติดตั้งด้วย หลังจากตำรวจทางหลวงจึงได้จัดหาเครื่องตรวจจับความเร็วด้วยแสงเลเซอร์ จำนวน 45 ชุด แจกจ่ายให้กับสถานีตำรวจทางหลวงกองกำกับการ และกองบังคับการตำรวจทางหลวงทั่วประเทศได้ใช้ติดตั้งเพื่อปรามบรรดาตีนผีเหล่านี้ โดยข้อมูลจากหน่วยตรวจจับความเร็วไฮ - เทคทั่วประเทศที่ถูกส่งมายังศูนย์อำนวยการตำรวจทางหลวงพบว่าเพียงแค่ 3 เดือนแรกที่มีการติดตั้งเครื่องก็ได้จ่ายใบสั่งให้ผู้ที่ขับรถเร็วเกินกำหนดไปแล้วจำนวนมากถึง 42,304 ราย ซึ่งจะนำไปสู่การปรามผู้ขับรถเร็วได้ในอนาคต โดยตำรวจทางหลวงยังได้มีแผนที่จะติดตั้งเครื่องตรวจจับความเร็วเพิ่มอีก 45 ชุด เพื่อให้แต่ละหน่วยงานมี 2 ชุดคลอบคลุมพื้นที่การใช้งานในอนาคตด้วย หลักฐานที่แสดงให้เห็นประสิทธิภาพของเครื่องตรวจจับความเร็วอัตโนมัติ คือ ใบสั่งที่ส่งให้ทางไปรษณีย์ ........ระวังอาจตกเป็นเหยื่อของเจ้าเครื่องมือไฮ-เทคล่าสุดนี้ 5555 [/quote]


แก้ไขแล้วครับ

เห็นน้าโดนกันมาเลยเอามาลงให้รู้จุดของทีตั้ง

ยังไงก็อย่าขับเกิน200นะครับ-*-

teevasabi
09-03-2011, 08:40
เครื่องตรวจจับความเร็วอัตโนมัติ
การทำงานของเครื่องตรวจจับความเร็วด้วยแสงเลเซอร์นี้สามารถใช้งานได้ทั้งระบบควบคุมเองและระบบอัตโนมัติ โดยเมื่อรถที่ใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดผ่านจุดตรวจกล้องก็จะทำการถ่ายภาพโดยอัตโนมัติ จากนั้นความเร็วและภาพรถ จะถูกส่งมาจัดเก็บและแสดงที่ชุดประมวลผลพร้อมแสดง วัน เดือน ปี เวลา สถานที่ จากนั้นข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งต่อมายังศูนย์อำนวยการตำรวจทางหลวงเพื่อที่จะตรวจสอบทะเบียนรถ และ ออกใบสั่งส่งไปยังที่อยู่ของผู้ครอบครองรถตามทะเบียน ต่อไป และหากผู้ได้รับใบสั่งไม่ไปชำระค่าปรับภายในเวลา 7 วัน กองบังคับการตำรวจทางหลวงจะส่งข้อมูลไปยังกรมการขนส่งเพื่ออายัดการต่อทะเบียนรถด้วย สำหรับความเม่นยำของเครื่องเป็นไปตามมาตรฐานขององค์กร International Association of Chiefs of Police (The IACP) ทั้งยังประสานสำนักมาตรวิทยาแห่งชาติ เพื่อทำการคาริเบธเครื่องเป็นประจำทุกปีและก่อนที่จะนำไปตรวจจับตามจุดต่างๆ ก็จะมีการทดสอบก่อนทุกครั้งด้วยจึงมั่นใจได้ว่าเครื่องจะสามารถตรวจจับได้อ ย่างแม่นยำ เส้นทางที่ตั้งกล้องตรวจจับความเร็วอัตโนมัตินี้ มีอยู่หลายจุดทั่วประเทศ ได้แก่



1. เส้นทางสายพหลโยธิน ช่วงรังสิต ถึง สระบุรี 2 จุด
2. เส้นทางสายมิตรภาพ ระหว่าง สระบุรี ถึง นครราชสีมา 2 จุด
3. เส้นทางสายมิตรภาพ ระหว่าง นครราชสีมา ถึง ขอนแก่น 2 จุด
4. เส้นทางสายเอเชีย ระหว่าง อยุธยา ถึง นครสวรรค์ 1 จุด
5. เส้นทางสายเอเชีย ระหว่าง นครสวรรค์ ถึง ตาก 1 จุด
6. เส้นทางสายเอเชีย ระหว่าง ตาก ถึง เชียงใหม่ 1 จุด
7. เส้นทางสายกรุงเทพ นครปฐม วังมะนาว 1 จุด
8. เส้นทางสายกรุงเทพ วังมะนาว 1 จุด
9. เส้นทางสาย วังมะนาว ถึง หัวหิน 1 จุด
10. เส้นทางสายเพชรเกษม ( เลี่ยงเมือง ) ชะอำ ถึง ปราณบุรี 1 จุด
11. เส้นทางสายเพชรเกษม ประจวบคีรีขันธ์ ถึง ชุมพร 1 จุด
12. เส้นทางสายเพชรเกษม ชุมพรถึง สุราษฎร์ธานี 1 จุด
13. เส้นทางสายบางนา - ตราด ระหว่าง กรุงเทพ ถึง บางปะกง 1 จุด
14. เส้นทางสายสุขุมวิท ระหว่าง ชลบุรี ถึง พัทยา 1 จุด
15. เส้นทางสายมอเตอร์เวย์ ชลบุรี ถึง ระยอง 2 จุด
16. และเส้นทางสายสุขุมวิท ระหว่าง ระยอง ถึง จันทบุรี 1 จุด


ซึ่งตำรวจทางหลวงจะทำการสุ่มเปลี่ยนจุดตรวจทุกครั้งที่มีการติดตั้งด้วย หลังจากตำรวจทางหลวงจึงได้จัดหาเครื่องตรวจจับความเร็วด้วยแสงเลเซอร์ จำนวน 45 ชุด แจกจ่ายให้กับสถานีตำรวจทางหลวงกองกำกับการ และกองบังคับการตำรวจทางหลวงทั่วประเทศได้ใช้ติดตั้งเพื่อปรามบรรดาตีนผีเหล่านี้ โดยข้อมูลจากหน่วยตรวจจับความเร็วไฮ - เทคทั่วประเทศที่ถูกส่งมายังศูนย์อำนวยการตำรวจทางหลวงพบว่าเพียงแค่ 3 เดือนแรกที่มีการติดตั้งเครื่องก็ได้จ่ายใบสั่งให้ผู้ที่ขับรถเร็วเกินกำหนดไปแล้วจำนวนมากถึง 42,304 ราย ซึ่งจะนำไปสู่การปรามผู้ขับรถเร็วได้ในอนาคต โดยตำรวจทางหลวงยังได้มีแผนที่จะติดตั้งเครื่องตรวจจับความเร็วเพิ่มอีก 45 ชุด เพื่อให้แต่ละหน่วยงานมี 2 ชุดคลอบคลุมพื้นที่การใช้งานในอนาคตด้วย หลักฐานที่แสดงให้เห็นประสิทธิภาพของเครื่องตรวจจับความเร็วอัตโนมัติ คือ ใบสั่งที่ส่งให้ทางไปรษณีย์ ........ระวังอาจตกเป็นเหยื่อของเจ้าเครื่องมือไฮ-เทคล่าสุดนี้ 5555 [/quote]

korn_4door
09-03-2011, 12:28
ซุ่มจับตามถนนหลักทุกสายเลยนะครับ สรุปแล้วเราไม่รู้จุดตรวจที่แน่นอน คงต้องขับช้าๆไปตลอดสาย.....พอมีวิธิเลี่ยงครับ.....ก็เดินทางตอนกลางคืนไงครับ