PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : ผู้หญิงวัย35อัพ(ควรระวัง)ห่างไกลมะเร็ง



Alongkorn
23-09-2011, 07:54
โพสต์ทูเทย์ 23 กันยายน 2554 เวลา 07:51 น.

ผู้หญิงวัย35อัพ(ควรระวัง)ห่างไกลมะเร็ง
สถิติโรคมะเร็งกับผู้หญิง โดยเฉพาะปากมดลูก พบได้บ่อยที่สุดเป็นอันดับต้นๆ สูสีคู่คี่กับมะเร็งของเต้านม
โดย...ชุติมา สุวรรณเพิ่ม
สถิติโรคมะเร็งกับผู้หญิง โดยเฉพาะปากมดลูก พบได้บ่อยที่สุดเป็นอันดับต้นๆ สูสีคู่คี่กับมะเร็งของเต้านม
และมะเร็งมดลูกคือสาเหตุคร่าชีวิตผู้หญิงไทยเพิ่มสูงขึ้นทุกปี แม้มีการรณรงค์ให้หญิงไทยตรวจสุขภาพภายในเป็นประจำทุกปี แต่หลายคนคงไม่ปฏิเสธว่า บางปีเราก็ละเลย หรือบางครั้งเราก็รีรอเมื่อมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น เพราะกังวลว่าเป็นการตรวจภายใน
อีกหนึ่งทางเลือกใหม่ของผู้หญิง โดยโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ หัวข้อ “การส่องกล้องในโพรงมดลูก” โดยได้รับความรู้จาก ดร.โอซามา อาเมด ซอกี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการส่องกล้องระดับโลก ซึ่งเป็นวิทยากรบรรยายเกี่ยวกับการส่องกล้องโพรงมดลูกมาแล้วกว่า 37 ประเทศทั่วโลก บรรยายร่วมกับ นพ.บุญแสง วุฒิพันธุ์ สูตินรีเวชวิทยา-เวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ และผู้เชี่ยวชาญการผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช โรงพยาบาลสมิติเวช ณ ห้องประชุมบัญชาล่ำซำ โดยรายได้ทั้งหมดจากการลงทะเบียนอบรมครั้งนี้ นำไปสมทบทุนราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย
http://www.posttoday.com/media/content/2011/09/13/3F452366414F462CABA6F2C3F3E5A435.jpg
อย่าปล่อยให้ถึงขั้น ‘มะเร็ง’
ทุกวงสัมมนาเรื่องนี้ คำถามยอดฮิตก็คือ โรคมะเร็งปากมดลูกเกิดจากอะไร!?!! นพ.บุญแสง สูตินรีเวชวิทยา ผู้เชี่ยวชาญให้คำตอบว่า ไม่มีคำตอบชัดเจนว่าเพราะสาเหตุใด แต่ประเด็นนี้กลับไม่ใช่เรื่องน่ากังวลเท่ากับการละเลยตัวเอง ที่จะน่ากลัวกว่า (แน่นอน) ถ้าเกิดโรคนี้ขึ้น และเมื่อดูสถิติคนไข้ของสมิติเวช ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างประเทศที่มีทั้งกำลังทรัพย์และมีวินัยมาตรวจภายใน เป็นประจำทุกๆ ปี จึงพบโรคมะเร็งปากมดลูกที่น้อยกว่าหญิงไทยมาก
“โรคนี้ไม่ใช่โรคใหม่ครับ จึงไม่ต้องกลัว หมอเชี่ยวชาญในการรักษาเพราะพบบ่อยๆ ก็คือ สุภาพสตรีมีเลือดออกผิดปกติ ไม่ว่าออกกะปริดกะปรอย หรืออาจเป็นทั้งประจำเดือนมามากผิดปกติ สาเหตุหลักก็คือ มีติ่งเนื้อหรือมีเนื้องอกที่โพรงมดลูก ซึ่งวิธีรักษาแบบเดิม ก็คือ ขูดมดลูก ถ้ายังไม่หายก็ไปตัดมดลูกทิ้งไป แต่ปัจจุบันมีเครื่องมือแพทย์จะนำกล้องสำหรับตรวจสอดผ่านเข้าไปยังโพรงมดลูก เพื่อทำการตรวจสภาพภายใน การตรวจใช้เวลา 5-10 นาที และผู้ป่วยจะไม่รู้สึกปวดขณะตรวจและสามารถกลับบ้านได้ทันที หลังจากตรวจเสร็จ แพทย์จะอธิบายและให้ดูภาพผลจากการตรวจ พร้อมกับแจ้งแนวทางในการรักษาต่อไป” นพ.บุญแสง กล่าวถึงการรักษา
นี่คือ How to กฎ 3 ข้อ กับการดูแลตัวเองเบื้องต้นสำหรับคุณผู้หญิงทุกคน...
1.ไม่ละเลยตรวจเช็กตรวจภายในทุกๆ ปี
2.ไม่ปกติ รีบปรึกษาแพทย์
3.ไม่ลังเล รีบตัดสินใจรักษาตามวิธีมาตรฐาน เมื่อได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง
“ตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีที่ผมเป็นหมอสูตินรีเวชวิทยา ได้เห็นวิธีคิดของคนไข้ยุโรป อเมริกา รวมถึงผู้หญิงญี่ปุ่น ที่ไม่ยอมเสียอวัยวะโดยไม่จำเป็น เพราะเขากลัวการดมยาสลบ ซึ่งถ้าถามว่าโอกาสเสียชีวิตมีไหม? น้อยมาก แต่ (อาจ) มีนะ เขาจึงไม่เสี่ยง และเมื่อมีการผ่าตัดที่สั้นที่สุด น้อยที่สุด ถ้ามีให้เลือกเขาไม่รีรอใช้วิธีนี้นะครับ”
อาการที่ผู้หญิงควรมาตรวจภายใน ได้แก่ มีเลือดออกกะปริดกะปรอย ตกขาว หรือปวดในท้องน้อย นอกจากนั้นอาจคลำได้ก้อนเนื้อที่ท้องน้อย หรือมีกิจวัตรที่ผิดปกติไป เช่น การถ่ายอุจจาระลำบาก ปัสสาวะบ่อยขึ้น ถ้ามีอาการเหล่านี้ คือสัญญาณปากมดลูกไม่ปกติ ให้รีบมาหาคุณหมอรักษาก่อนมะเร็งมากล้ำกราย
http://www.posttoday.com/media/content/2011/09/13/53B393F4B2214B539928F1CEDEFC4056.jpg
‘ผู้หญิงยุคใหม่’ ไม่กลัวมะเร็ง
วิธีการส่องกล้องตรวจในโพรงมดลูก ถือเป็นการดูแลสุขภาพเบื้องต้นของผู้หญิงให้ห่างไกลจากโรคภัยต่างๆ นพ.บุญแสง กล่าวว่า การส่องกล้องสามารถแสดงภาพในโพรงมดลูกขยายกว่าการมองเห็นด้วยตาเปล่า 4-5 เท่า ส่งผลให้การวินิจฉัยโรคได้ชัดเจน และละเอียดแม่นยำกว่าการตรวจคลำด้วยมือแบบดั้งเดิม
“เครื่องมือแพทย์สมัยใหม่ทั้งขนาดเล็ก และไม่ต้องส่องเข้าช่องท้อง กล้องส่องแค่ในโพรงมดลูกมีประสิทธิภาพชัดเจน ก็สบายทั้งหมอผ่าตัดและคนไข้ แต่อย่างที่บอก ฝรั่งผู้หญิงไปตรวจสุขภาพ ได้พูดคุย ได้ความรู้กับคุณหมอทุกๆ ปี เขารู้กันดีเลยนะครับว่า ผ่าตัดในโพรงมดลูก อย่าให้เกิน 3 ซม. แต่ผู้หญิงไทยบางคนมาหาหมอด้วยติ่งเนื้อขนาดใหญ่ถึง 5-6 ซม. หมอคิดว่าคนไทยเราอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ บางครั้งก็รู้สึกอุ่นใจปลอดภัย ใครป่วยเป็นอะไร บางครั้งก็ผัดวันเอาไว้ทีหลังก็ได้ ขณะที่ฝรั่งอยู่กันเป็นครอบครัวเดี่ยวๆ ไม่กี่คน เลือดออกมากก็ต้องวิ่งมาหาหมอแล้ว จะได้แก้ปัญหาให้จบโดยเร็ว ผมผ่าตัดมาไม่เคยพบเคสติ่งเนื้อใหญ่ๆ ในคนต่างชาติเลย
เมื่อ 2-3 วันก่อน ผู้หญิงไทยอายุ 59 ปี มาพร้อมกับติ่งเนื้อเต็มโพรงมดลูกแล้ว ซึ่งต้องมีเลือดออกผิดปกติแน่นอนแต่ก็ยังปล่อยไว้ ผู้หญิงยุคใหม่อย่าไปกลัวว่า มาหาหมอแล้วจะตัดมดลูกทิ้ง เพราะแพทย์ (ก็สมัยใหม่) ย่อมเข้าใจว่า มดลูกคือสัญลักษณ์ความเป็นเพศหญิง มีผลต่อสุขภาพจิตเพราะในทางเพศ เมื่อถึงจุดสุดยอดมดลูกจะบีบรัดตัว จึงเป็นเรื่องสำคัญกับชีวิตคู่ด้วยและสำคัญที่สุด มดลูกคืออวัยวะห่อหุ้มอวัยวะภายในทั้งหมด แพทย์จะตัดสินใจตัดมดลูกเมื่อไม่มีทางเลือกแล้ว ซึ่งก็แค่เปอร์เซ็นต์เลขตัวเดียวเท่านั้น อย่างกรณีนี้ หมอไม่ได้ตัดมดลูกนะครับ ก็แค่ตัดติ่งเนื้อทิ้งไป ตัดออกก็จบ หาย”
นพ.บุญแสง ให้ความรู้อีกว่า สตรีที่แต่งงานช้ามีอัตราเสี่ยงกว่า เพราะผู้หญิงแต่งงานที่มีบุตรแล้ว รังไข่หยุดการทำงาน ไม่มีประจำเดือน แต่เมื่อมีอาการเลือดออก อย่างที่บอกว่าแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อปากมดลูกไม่ปกติ และจะขยายเป็นโรคมะเร็งนั้น ใช้เวลาประมาณ 3-5 ปี ไม่ใช่แค่วันสองวัน
ดังนั้น หากคุณผู้หญิงได้รับการตรวจภายในประจำปี ซึ่งคุณหมอจะตรวจหามะเร็งปากมดลูกให้ทุกครั้งอยู่แล้ว รับรองได้ว่าต้องพบความผิดปกติ ก่อนที่ปากมดลูกจะเป็นมะเร็งแน่นอน
การมาตรวจเช็กสุขภาพประจำปี ควรมาหาหมอปีละ 1 ครั้ง หลังมีประจำเดือนไปแล้วไม่นานนัก เพราะถ้าช่วงนั้นยังมีเลือดออก แสดงว่านั่นคือปัญหาที่แท้จริง ขณะที่ถ้ามาก่อนประจำเดือนอาจไม่ใช่ปัญหาก็ได้

samapong2003
23-09-2011, 09:16
โพสต์ทูเทย์ 23 กันยายน 2554 เวลา 07:51 น.

ผู้หญิงวัย35อัพ(ควรระวัง)ห่างไกลมะเร็ง
สถิติโรคมะเร็งกับผู้หญิง โดยเฉพาะปากมดลูก พบได้บ่อยที่สุดเป็นอันดับต้นๆ สูสีคู่คี่กับมะเร็งของเต้านม
โดย...ชุติมา สุวรรณเพิ่ม
สถิติโรคมะเร็งกับผู้หญิง โดยเฉพาะปากมดลูก พบได้บ่อยที่สุดเป็นอันดับต้นๆ สูสีคู่คี่กับมะเร็งของเต้านม
และมะเร็งมดลูกคือสาเหตุคร่าชีวิตผู้หญิงไทยเพิ่มสูงขึ้นทุกปี แม้มีการรณรงค์ให้หญิงไทยตรวจสุขภาพภายในเป็นประจำทุกปี แต่หลายคนคงไม่ปฏิเสธว่า บางปีเราก็ละเลย หรือบางครั้งเราก็รีรอเมื่อมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น เพราะกังวลว่าเป็นการตรวจภายใน
อีกหนึ่งทางเลือกใหม่ของผู้หญิง โดยโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ หัวข้อ “การส่องกล้องในโพรงมดลูก” โดยได้รับความรู้จาก ดร.โอซามา อาเมด ซอกี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการส่องกล้องระดับโลก ซึ่งเป็นวิทยากรบรรยายเกี่ยวกับการส่องกล้องโพรงมดลูกมาแล้วกว่า 37 ประเทศทั่วโลก บรรยายร่วมกับ นพ.บุญแสง วุฒิพันธุ์ สูตินรีเวชวิทยา-เวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ และผู้เชี่ยวชาญการผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช โรงพยาบาลสมิติเวช ณ ห้องประชุมบัญชาล่ำซำ โดยรายได้ทั้งหมดจากการลงทะเบียนอบรมครั้งนี้ นำไปสมทบทุนราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย
http://www.posttoday.com/media/content/2011/09/13/3F452366414F462CABA6F2C3F3E5A435.jpg
อย่าปล่อยให้ถึงขั้น ‘มะเร็ง’
ทุกวงสัมมนาเรื่องนี้ คำถามยอดฮิตก็คือ โรคมะเร็งปากมดลูกเกิดจากอะไร!?!! นพ.บุญแสง สูตินรีเวชวิทยา ผู้เชี่ยวชาญให้คำตอบว่า ไม่มีคำตอบชัดเจนว่าเพราะสาเหตุใด แต่ประเด็นนี้กลับไม่ใช่เรื่องน่ากังวลเท่ากับการละเลยตัวเอง ที่จะน่ากลัวกว่า (แน่นอน) ถ้าเกิดโรคนี้ขึ้น และเมื่อดูสถิติคนไข้ของสมิติเวช ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างประเทศที่มีทั้งกำลังทรัพย์และมีวินัยมาตรวจภายใน เป็นประจำทุกๆ ปี จึงพบโรคมะเร็งปากมดลูกที่น้อยกว่าหญิงไทยมาก
“โรคนี้ไม่ใช่โรคใหม่ครับ จึงไม่ต้องกลัว หมอเชี่ยวชาญในการรักษาเพราะพบบ่อยๆ ก็คือ สุภาพสตรีมีเลือดออกผิดปกติ ไม่ว่าออกกะปริดกะปรอย หรืออาจเป็นทั้งประจำเดือนมามากผิดปกติ สาเหตุหลักก็คือ มีติ่งเนื้อหรือมีเนื้องอกที่โพรงมดลูก ซึ่งวิธีรักษาแบบเดิม ก็คือ ขูดมดลูก ถ้ายังไม่หายก็ไปตัดมดลูกทิ้งไป แต่ปัจจุบันมีเครื่องมือแพทย์จะนำกล้องสำหรับตรวจสอดผ่านเข้าไปยังโพรงมดลูก เพื่อทำการตรวจสภาพภายใน การตรวจใช้เวลา 5-10 นาที และผู้ป่วยจะไม่รู้สึกปวดขณะตรวจและสามารถกลับบ้านได้ทันที หลังจากตรวจเสร็จ แพทย์จะอธิบายและให้ดูภาพผลจากการตรวจ พร้อมกับแจ้งแนวทางในการรักษาต่อไป” นพ.บุญแสง กล่าวถึงการรักษา
นี่คือ How to กฎ 3 ข้อ กับการดูแลตัวเองเบื้องต้นสำหรับคุณผู้หญิงทุกคน...
1.ไม่ละเลยตรวจเช็กตรวจภายในทุกๆ ปี
2.ไม่ปกติ รีบปรึกษาแพทย์
3.ไม่ลังเล รีบตัดสินใจรักษาตามวิธีมาตรฐาน เมื่อได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง
“ตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีที่ผมเป็นหมอสูตินรีเวชวิทยา ได้เห็นวิธีคิดของคนไข้ยุโรป อเมริกา รวมถึงผู้หญิงญี่ปุ่น ที่ไม่ยอมเสียอวัยวะโดยไม่จำเป็น เพราะเขากลัวการดมยาสลบ ซึ่งถ้าถามว่าโอกาสเสียชีวิตมีไหม? น้อยมาก แต่ (อาจ) มีนะ เขาจึงไม่เสี่ยง และเมื่อมีการผ่าตัดที่สั้นที่สุด น้อยที่สุด ถ้ามีให้เลือกเขาไม่รีรอใช้วิธีนี้นะครับ”
อาการที่ผู้หญิงควรมาตรวจภายใน ได้แก่ มีเลือดออกกะปริดกะปรอย ตกขาว หรือปวดในท้องน้อย นอกจากนั้นอาจคลำได้ก้อนเนื้อที่ท้องน้อย หรือมีกิจวัตรที่ผิดปกติไป เช่น การถ่ายอุจจาระลำบาก ปัสสาวะบ่อยขึ้น ถ้ามีอาการเหล่านี้ คือสัญญาณปากมดลูกไม่ปกติ ให้รีบมาหาคุณหมอรักษาก่อนมะเร็งมากล้ำกราย
http://www.posttoday.com/media/content/2011/09/13/53B393F4B2214B539928F1CEDEFC4056.jpg
‘ผู้หญิงยุคใหม่’ ไม่กลัวมะเร็ง
วิธีการส่องกล้องตรวจในโพรงมดลูก ถือเป็นการดูแลสุขภาพเบื้องต้นของผู้หญิงให้ห่างไกลจากโรคภัยต่างๆ นพ.บุญแสง กล่าวว่า การส่องกล้องสามารถแสดงภาพในโพรงมดลูกขยายกว่าการมองเห็นด้วยตาเปล่า 4-5 เท่า ส่งผลให้การวินิจฉัยโรคได้ชัดเจน และละเอียดแม่นยำกว่าการตรวจคลำด้วยมือแบบดั้งเดิม
“เครื่องมือแพทย์สมัยใหม่ทั้งขนาดเล็ก และไม่ต้องส่องเข้าช่องท้อง กล้องส่องแค่ในโพรงมดลูกมีประสิทธิภาพชัดเจน ก็สบายทั้งหมอผ่าตัดและคนไข้ แต่อย่างที่บอก ฝรั่งผู้หญิงไปตรวจสุขภาพ ได้พูดคุย ได้ความรู้กับคุณหมอทุกๆ ปี เขารู้กันดีเลยนะครับว่า ผ่าตัดในโพรงมดลูก อย่าให้เกิน 3 ซม. แต่ผู้หญิงไทยบางคนมาหาหมอด้วยติ่งเนื้อขนาดใหญ่ถึง 5-6 ซม. หมอคิดว่าคนไทยเราอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ บางครั้งก็รู้สึกอุ่นใจปลอดภัย ใครป่วยเป็นอะไร บางครั้งก็ผัดวันเอาไว้ทีหลังก็ได้ ขณะที่ฝรั่งอยู่กันเป็นครอบครัวเดี่ยวๆ ไม่กี่คน เลือดออกมากก็ต้องวิ่งมาหาหมอแล้ว จะได้แก้ปัญหาให้จบโดยเร็ว ผมผ่าตัดมาไม่เคยพบเคสติ่งเนื้อใหญ่ๆ ในคนต่างชาติเลย
เมื่อ 2-3 วันก่อน ผู้หญิงไทยอายุ 59 ปี มาพร้อมกับติ่งเนื้อเต็มโพรงมดลูกแล้ว ซึ่งต้องมีเลือดออกผิดปกติแน่นอนแต่ก็ยังปล่อยไว้ ผู้หญิงยุคใหม่อย่าไปกลัวว่า มาหาหมอแล้วจะตัดมดลูกทิ้ง เพราะแพทย์ (ก็สมัยใหม่) ย่อมเข้าใจว่า มดลูกคือสัญลักษณ์ความเป็นเพศหญิง มีผลต่อสุขภาพจิตเพราะในทางเพศ เมื่อถึงจุดสุดยอดมดลูกจะบีบรัดตัว จึงเป็นเรื่องสำคัญกับชีวิตคู่ด้วยและสำคัญที่สุด มดลูกคืออวัยวะห่อหุ้มอวัยวะภายในทั้งหมด แพทย์จะตัดสินใจตัดมดลูกเมื่อไม่มีทางเลือกแล้ว ซึ่งก็แค่เปอร์เซ็นต์เลขตัวเดียวเท่านั้น อย่างกรณีนี้ หมอไม่ได้ตัดมดลูกนะครับ ก็แค่ตัดติ่งเนื้อทิ้งไป ตัดออกก็จบ หาย”
นพ.บุญแสง ให้ความรู้อีกว่า สตรีที่แต่งงานช้ามีอัตราเสี่ยงกว่า เพราะผู้หญิงแต่งงานที่มีบุตรแล้ว รังไข่หยุดการทำงาน ไม่มีประจำเดือน แต่เมื่อมีอาการเลือดออก อย่างที่บอกว่าแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อปากมดลูกไม่ปกติ และจะขยายเป็นโรคมะเร็งนั้น ใช้เวลาประมาณ 3-5 ปี ไม่ใช่แค่วันสองวัน
ดังนั้น หากคุณผู้หญิงได้รับการตรวจภายในประจำปี ซึ่งคุณหมอจะตรวจหามะเร็งปากมดลูกให้ทุกครั้งอยู่แล้ว รับรองได้ว่าต้องพบความผิดปกติ ก่อนที่ปากมดลูกจะเป็นมะเร็งแน่นอน
การมาตรวจเช็กสุขภาพประจำปี ควรมาหาหมอปีละ 1 ครั้ง หลังมีประจำเดือนไปแล้วไม่นานนัก เพราะถ้าช่วงนั้นยังมีเลือดออก แสดงว่านั่นคือปัญหาที่แท้จริง ขณะที่ถ้ามาก่อนประจำเดือนอาจไม่ใช่ปัญหาก็ได้

555 ป๋าไปตรวจมาแล้วยังครับ สงสัยจะตรวจ 35 รอบ2 แล้ว 555

NN mobile
23-09-2011, 21:54
ขอบคุณคร้าบบบบบบบบบบบบบบบ ป๋า

เจอมากะตัวคร้าบบบบบบบบบบบบบ
เนื่องจากแม่ผมอายุมากขึ้นทุกวันบ่สบายบ่อย เลยพาไปตรวจ หวยออกที่แม่คร้าบบบบบบบบบบ เปนมะเร็งปากมดลูก
ตอนแรกแม่กะผมก็ยังทำใจกันไม่ค่อยใด้ (เนื่องจากผึ่งเสียลุงด้วยมะเร็งตับไปเมือเดือนที่แล้ว)แล้วยังมาเกิดกะแม่ผมอีก
ตอนนี้ เริ่มกานรักษาด้วยเคมี ครั่งแรก มันมีผลข้างเคียง ต่างๆหมดแรง จะเปนลมหรือ อาจช๊อก ไปเดื่อๆ อาเจียน เปนจุดดำทีขา
หมอห้ามให้ผู้ป่วยอยู่คนเดียวเด็ดขาด
เดือนหน้าหมอนัดให้เคมีอีกครัง แล้วเดือนต่อไปก็ผ่าตัดเอาเนื้อร้ายออก เหนแม่แล้วก็สงสารแกครับ ในการรักษาครังต่อไปเดียวเอามาเล่าให้ฟังครับเพือเปนกรณีศึกษา
ฝากเตือนน้าๆทุกๆคนนะครับ มะเร็งเปนภัยเงียบที่เราไมรู้ว่าเราจะตรวจเจอมันเมือใร พาคนที่คุณรักไปตรวจ เจอแล้วจะใด้รักษาทันครับ