PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : โซ่ทามมิ่ง กับ สายพานทามมิ่ง ??



yoo
17-12-2008, 16:42
อยากรู้น่ะครับ ข้อดี - ข้อด้อย ของแต่ล่ะอันน่ะครับ
เพื่อนที่ใช้ d-max เค้าคุยว่า ของเค้าไม่ต้องเปลี่ยนสายพาน ทามมิ่ง เหมือนเรานะ
เพราะเป็นโซ่ รบกวนน้าๆ อีกเช่นเคยครับ
:kapook-17324-3522:

sirawitr
17-12-2008, 17:22
มา Up อยากรู้เหมือนกัน

Winmark
17-12-2008, 17:25
โซ่หรือสายพานต้องเปลี่ยนเหมือนกันครับถ้าไม่เปลี่ยนไม่อยากจะพูดเลยครับพังมานับคันไม่ได้ มันมีอายุครับเคยถืบจักรยานไหมครับถีบๆไปแล้วโซ่มันยืดหย่อน...555 อายุการใช้งานโซ่อยูที่ประมาณ150000-180000โลต้องเปลี่ยนหรือบางคนเปลี่ยนยัน2แสนกว่าก็มีแต่ถ้าไม่เปลี่ยนก็ไม่ว่ากันเพราถึงตอนนั้นคงต้องซื้อเครื่องเชียงกงมาใส่แทนสายพานเปลี่ยนตั้งแต่ช่วง80000-150000แล้วแต่ใช้งานหนักเบาแต่ถ้าขาดมันยังเบากว่าโซ่เสียงเครื่องจะเงียบกว่ากันมากก้เท่านั้น

Nuk_Black-Triton
17-12-2008, 18:32
Isuzu ไม่ได้ใช้โซ่ครับ และก็ไม่ใช้สายพานนะครับ แต่ใช้เฟืองไทม์มิ่ง

ปรับระยะอัตโนมัติ ไม่ต้องเปลี่ยนตลอดอายุการใช้งาน

ไทรทัน เครื่อง 3200 ใช้โซ่ไทม์มิ่ง

ส่วนเครื่อง 2500 ใช้ สายพานไทม์มิ่งครับ

สรุปง่ายๆนะครับ

สายพานดีที่สุดครับ เพราะว่าต้องมีการดูแลรักษาเป็นระยะ ให้ความทนทานได้ดี

และที่สำคัญ เครื่องเงียบครับ

ส่วนโซ่นั้น ถึงแม้ว่าจะทนทานกว่า แต่ก็ต้องแลกมาด้วยเสียงอันดังกว่า

และต้องดูแลเหมือนกัน แม้จะมีตัวปรับโซ่อัตโนมัติก็ตาม เมื่อมันหย่อนได้ที่แล้ว

ก็ต้องเปลี่ยนครับ

ส่วนเฟืองนั้น ไม่ต้องพูดถึงครับ ทนทานมากมาย และก็ดังมากมาย

ตอนเฟืองมันสึกมากๆแล้ว ไม่อยากคิดครับ

เคยเห็นรถยี่ห้อนี้ เมื่อเวลาผ่านไปสัก 20 ปี เครื่องเสียงสนั่นขนาดไหน

นึกว่าฝนตกใหญ่มาเลย แต่ก็ทนทานมากจริงๆ ข้อนี้ยอมรับ




ถ้าระบบสายพานไม่ดี คงไม่มีใครใช้หรอกครับ ต้นทุนก็ถูก เสียงก็เงียบ ดูแลตามระยะ

ไม่มีปัญหากวนใจครับ

Triton4x4PE
17-12-2008, 18:38
ระบบของเครื่องยนต์ทุกเครื่องจะต้องมีวาร์วครับ (ยกเว้นเครื่องโรตารี่)
ซึ่งจะมีทั้งวาร์วควบคุมไอดี และไอเสีย โดยวาร์วจะทำงานโดยเพลาลูกเบี้ยว(Cam Shaft)เป็นตัวดันให้วาร์วเปิด-ปิด โดยเพลาลูกเยี้ยวจะหมุนได้ ก็ต้องรับแรงขับมาจากเพลาข้อเหวี่ยง(Crank Shaft)อีกที โดยวิธีการส่งผ่านแรงขับจากเพลาข้อเหวี่ยงมายังเพลาลูกเบี้ยวมีอยู่ 3 รูปแบบดังนี้:
1.ใช้สายพาน(Belt) เป็นตัวขับ ข้อดีคือเงียบ ข้อเสียคืออายุการใช้งานสั้นที่สุด
2.ใช้โซ่ (Chain) เป็นตัวขับ ข้อดีคืออายุการใช้งานยาวนานกว่าสายพาน ข้อเสียคือเสียงดัง
3.ใช้เฟือง (Gear) เป็นตัวขับ ข้อดีคืออายุการใช้งานยาวนานที่สุดจากทั้งหมดที่กล่าวมา ข้อเสียคือชิ้นส่วนเยอะ(ใช้เฟืองหลายตัว)ทำให้สูญเสียแรง(ในเชิงวิศกรรม), ซ่อมยาก ถ้าต้องซ่อมก็คือต้องเปลี่ยนเฟืองใหม่ทั้งหมดและต้องตั้งระยะขบของเฟืองแต่ล่ะตัวให้ได้ตาม Spec ด้วย (งานช้างเลยครับ) แต่มันก็พังยากที่สุดเหมือนกัน
ระบบสายพานขับ นิยมใช้กับรถยนต์ทั่วๆไป
ระบบโซ่ขับ รถยุโรปชอบใช้เช่น Benz, BMW (โซ่ Timing ของ BMW เส้นละสามหมื่นกว่าบาทครับ พี่ชายผมโดนมาแล้ว)
ระบบเฟืองขับ เป็นพวกเครื่องยนต์หนักครับ เช่น แทรคเตอร์, รถขุด, รถเหมืองแร่ Caterpillar.
ส่วน Triton ของเราถ้าเป็นเครื่อง 3,200 (4M41) จะเป็นโซ่ขับครับ
(จริงๆก็เป็นโซ่ขับมาตั้งแต่ Strada 2,800 4M40 แล้วครับ)

iGnUs
17-12-2008, 18:53
ข้อมูลแน่นปึ้กเลยครับ

yoo
19-12-2008, 16:20
ข้อมูลสุดยอด ขอบคุณมากๆเลยครับ

king00759
21-12-2008, 18:14
แน่น แบบไม่มีข้อสงสัย