รบกวนน้าๆที่มีประสบการณ์+ทริป & เทคนิค ในการใช้รถเกียร์ออโต้ขึ้นลงเขา หน่อยครับ พอดีปลายเดือนจะพาเจ้าเหมียวไป รันอินบนดอยแถว เชียงใหม่ซะหน่อยเคยลุยแต่เกียร์ธรรมดา เพื่อเป็นแนวทางในการขับขี่ให้ปลอดภัย555
Printable View
รบกวนน้าๆที่มีประสบการณ์+ทริป & เทคนิค ในการใช้รถเกียร์ออโต้ขึ้นลงเขา หน่อยครับ พอดีปลายเดือนจะพาเจ้าเหมียวไป รันอินบนดอยแถว เชียงใหม่ซะหน่อยเคยลุยแต่เกียร์ธรรมดา เพื่อเป็นแนวทางในการขับขี่ให้ปลอดภัย555
อย่างแรกเลย คนพร้อม+รถพร้อม=ถึงจุดหมาย
.....ขับด้วยเข้าใจค่ะ ออโตจะเปลี่ยนเกียร์ตามเงื่อนไข (โหลดเครื่อง+องศาคันเร่ง+ความเร็วรอบขณะนั้น) ปกติดีเซลได้เปรียบเบ็นซิลอยู่แล้วเมื่อขึ้นเขา แต่ปัญหามันจะมีสองประเด็นอะค่ะ
1. ขึ้นเขาโดยไม่ใช้เกียร์ต่ำ ก่อนที่กล่องจะสั่งลดจังหว่ะเกียร์เพื่อสร้างกำลังในรอบต่ำ กล่องจะพยายามถมน้ำมันเพื่อเอาชนะโหลดเครื่องยนต์ณเวลานั้น ผลคือ เปลืองน้ำมันและความร้อนขึ้นสูง (สมาร์ทเกจจับความร้อนเกียร์Dขึ้นทางชันในรอบเท่าๆกันกะเกียร์2อุณหภมิต่างกัน5-7องศา สับลงต่ำตัวเย็นลงเห็นๆเลยค่ะ)
2. ลงเขา ถ้าเคยคุ้นกะเกียร์ธรรมดาอาจจะทดเกียร์แค่2ก็พอดึงรถให้ค่อยๆหน่วงตัวช้าๆเพื่อความปลอดภัยตอนลง แต่ ออโตต้องมากกว่านั้นค่ะ ใส่Lหรือd1ไปเลย เครื่องอาจจะครางถึง3500รอบได้แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เครื่องหมุนรอบสูงน้ำมันจ่ายไม่มากความร้อนไม่เยอะ(น้อยกว่าปกติ)เพื่อความปลอดภัยโดยรวมค่ะ
......ที่สำคัญที่สุด คือเบรค เบรคเมื่อมีความจำเป็นอย่าเหยียบแช่นานๆ เสี่ยงเบรคไหม้ได้ ลงเขายาวๆแตะเบรคช่วยบ้างหมั่นสังเกตุอาการเบรคปกติไหม กลิ้นไหม้หรือยัง และ ก็พักรถเป็นระยะๆค่ะไม่ต้องรีบ
สรุปง่ายๆว่า
.......ขึ้นเกียร์ไหน(ต่ำ) เวลาลงก็ใช้เกียร์(ต่ำ)เดียวกันอะค่ะ
ผมกดอย่างเดียวครับวิ่งขึ้นดอยเดือนละ4-5เทียวตอนนี้250000โลแล้วครับยังไม่พังถ่ายน้ำมันเกียร์ทุก20000
ขาขึ้นดูรอบเครื่องยนต์อย่าให้เกิน3000 ถ้าเกินเครื่องจะทำงานหนัก ความร้อนอาจจะตามมาได้ ถ้ารอบเครื่องยนต์เริ่มต่ำกว่า2000รอบเตรียมเปลี่ยนเกียร์ได้เลย ครับ
ขาลงดูรอบอย่าให้เกิน3500 ถ้าชันจริงๆเบรคมือดึงมาช่วยได้ครับ ถึงโค้งแล้วก็ดึงลง ขาลงอย่าลงd อย่าเหยียบเบรคแช่ เดินทางปลอดภัย ครับ
ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ๆครับ ลืมบอกไปนิดครับรถผมมันเป็นตัว2013ครับ มีเกียร์สปอร์ตโทนิคอะครับใช้ตัวนี้ได้เปล่าครับช่วยแนะนำหน่อยครับบอกตรงๆไม่ถนัดเลยเกียร์ออโต้อะครับ
เสริมท่านอื่นๆ ถ้าหากขับขึ้นเขาทางออฟโรดให้ใช้เกียร์ l เลยจะดีกว่าใช้ d และเวลาลงทางชันเป็นดินโคลนอย่าเหยียบเบรกเด็ดขาดนะครับท้ายรถจะปัดและควบคุมทิศทางไม่ได้ ให้ใช้เกียร์ d ปล่อยรถไหลลงไปเลยแต่ให้ดึงเบรกมือเบาๆ ประคองไม่ให้รถไหลลงเร็วเกินไป เพราะรถเราไม่มีเกียร์ 4l เราก็จะควบคุมทิศทางและความเร็วตอนลงเนินเละๆ ได้
เกียร์ออโต้ ตัวไหนครับ ถ้าสปอตโทรนิค ไม่มี 2 ไม่มี L ไม่มีโอเวอไดฟ์ มีแต่ + -
เข้าไปศึกษามาพอควรในบ้านปาเจโร วีจี 178 ตัวนี้ โรงงานตัดออยคูลเลอ เกีย ออก ขึ้นเขาเนินยาวๆ เกียร์ล็อคกันบานตะไทย (ความร้อนสะสม ถ้ามีสมาร์ทเกจจะรู้เลยมันร้อนกว่าวิ่งบนทางราบมาก)
ทางราบ 80-140 อุณภูมิ 88-91 แต่พอขึ้นเขายาวๆชันมากๆ ผมเคยพีคสุดไปที่ 97 ครับ พอสุดเนินยกคุนเร่งก็วูบลงมาที่ 89 เหมือนเดิม แต่เกียไม่ล็อคค้าง
ใช้ + - ตลอดทางครับหาจะหวะและรอบเครื่องให้เหมาะสม เล่นดีๆพอคุนเคยแล้ว ขาไป ครั้งแรกเลยที่ใช้ +- สูงสุดที่ 97 ขากลับ เนินเดียวกัน ขึ้นลงพอกัน เราเริ่มคุ้นเคยการใช้เกียร์ สูงสุดที่ 93 องศา
http://www.pajerosport-thailand.com/...?topic=13642.0
ล่าสุดขึ้นเขาค้อ Cedia 1.8 ใส่เกียร์D ขึ้น สบายครับ อาศัยกดคันเร่งอย่างเดียวไม่โหม รอบอยู่ที่ 2000-3000 รอบช่วงขึ้นทางชัน
เกียร์ค่อนข้างฉลาดอยู่พอสมควร ขาลงก็ใส่ D เหมือนกันกดคันเร่งแค่ช่วงขึ้นเนิน
ตอนลงไม่ได้เหยียบคันเร่งเกียร์จะเปลี่ยนให้เป็นเกียร์ต่ำตามความเหมาะสม โค้งไหนเข้ายากอาศัยเบรคลึกๆเพื่อลดความเร็วแล้วปล่อยก่อนถึงโค้ง
ไม่แช่เบรคไว้ โค้งไหนเข้าง่ายก็สาดไปเลย
สรุปสุดท้าย ลงมาถึงข้างล่าง แม่บ้าน ขาสั่น ลูกชายคนโต ไปอ๊วกใส่ปุ๋ยให้ต้นมะขามเพราะดันนอนกดเกมส์ ส่วนลูกชายคนเล็ก สบายหลับบนตักแม่ 5555
เจอมาเมื่อสิ้นปีตัว178ม้ามีบานสไลย์หลัง น่าจะออโต้ปีนทับเบิกนำหน้าผม ผมตามก็เห็นมีเหวอหยุดชงักเกียร์ไม่ลงเหมือนกันครับน้าเชษฐ์ส่วนผมสับlและ2เอาครับอิๆโดยที่ยังใช้2hไม่ได้สับไปที่4lนะ.อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ munic
4WD parttime ถ้าเผลอใส่4hลงเขาถนนดำ คงสนานพอควรค่ะป๋า บิดไม่ส่งลงเพลาเพราอาศัยรอบเครื่องบวกอัตราทดเกียร์พอหน่งให้ลงช้าก็เท่านั้น เพลาหน้ามันขืนเอาเรื่องอยู่เวลาหักเลี้ยงแคบๆน่าจะมีเฮ ลงตรงๆคงพอได้อยู่มั๊งคะอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ coppy42
เหอะๆทางแค่นั้นจะใช้ 4l ก็คงจะดูถูกถนนไปหน่อยละครับป๋า 555อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ coppy42
เก็บๆข้อมูลดีๆทั้งนั้นเลย ขอบคุณน้าๆครับ
โอ้ขอบคุณมากครับ ข้อมูลดีๆ ทั้งนั้นเลยครับ
ลุยมาก็ 2 ครับสำหรับออโต้ สบาย ๆ เลี้ยงรอบไปเรื่อย ๆ ใครอยากแซง แซงไปครับ ไปช้า ๆ แต่ปลอดภัย พวกเหยียบขึ้นเขาเพราะคนอง ครัชไหม้ก็มีให้เห็นครับ ส่งวนตอนลงง่ายหน่อย 2 เหมือนกัน แตะเบรค ใช้วิธี แตะ ปล่อย ๆ รักษารอบเครื่องไม่ให้เกิน 3000 รอบ วิธีเดิม อยากแซง แซงไป ผมไม่รีบ
บ้านนี้มีแต่ความอบอุ่น จริงๆ ขอบคุณอีกครั้งครับ
ตอนผมไปเที่ยวเชียงใหม่ ก็หาข้อมูลแบบนี้เหมือนกัน ขึ้นดอยสุเทพ ก็ดึงลงมาต่อจากd อะครับ ถ้าชันมากๆ ก็ดึงมาอีกที ไม่แน่ใจว่า 1 แล้ว 2 หรือเปล่าจำไม่ได้... ลงเข้าก็ 1 กับ 2 ครับ ส่วนรอบรถ ผมไม่ได้สังเกตุ ใช้ฟังเสียง กับความรู้สึกเอาครับ ขอให้เที่ยวให้สนุกนะครับ กุมภาฯผมก็จะไปเชียงใหม่เหมือนกัน แต่มะด้ายเอาเจ้าเหมียวไปอะครับ ไปเช่ารถที่นู้นเอา....
ความรู้ ตอนนี้ขับmtแต่อนาคตแก่ตัวลงไปอยากขับatบ้าง
ใช้เกียร์สปอร์ตโทนิค ช่วยในการขึ้น-ลง ก็เพียงพอแล้ว กำลังเครื่องมันเหลือๆอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ starphone_tk
เพิ่งไป ดอยอินทนนท์ + แม่แจ่ม เกียร์ออโต้
ขับมันมากครับ ช่วงขึ้นสับ จาก d เป็น s ครับ แต่ชันมากก็ สับเป็น l ขับไปจับความรู้สึกไป รู้เลยครับว่าอันไหนได้กำลังดีกว่า
ช่วงขาลง ก็สับ d เป็น s ครับ ถ้าลงเร็วมากก็ l ช่วย เบรคบ้างแต่แค่แตะ ไม่กดเบรคยาว (ช่วงลงอินทนนท์ จะได้กลิ่น คลัชไหม้เพียบ แต่ไม่ใช้คันผมนะ)
ช่วงดอยอินทนนท์ ไปแม่แจ่ม จะขึ้นๆ ลงๆ สับเกียร์เหมือนเกียร์กระปุกเลย (d บ้าง s บ้าง l บ้าง ผมไปกลับ 4 เที่ยวเพราะค้างแม่แจ่มแต่มาเที่ยวอินทนนท์) ไม่รู้ว่าขับถูกหลักหรือเปล่า รู้แต่ ไทรทัน ขับสนุกมาก เครื่องมีกำลังดี ช่วงล่างดี
ไป ปาย แม่ฮ่องสอน ดอยอิทนนท์ มาครับ ออโต้ ไม่มี + - มี l,2,d , โอเวอร์ไดร์ ใช้ d และ 2 บ้าง เอาอยู่ครับ