ขอสอบถามผู้รู้ครับ
Plus 4 ประตู auto จำเป็นต้องติด Turbo timer มั๊ยครับ
เวลาจอดแล้วดังเครื่องเลยจะมีผลกับเครื่องยนต์มั๊ยครับ
Printable View
ขอสอบถามผู้รู้ครับ
Plus 4 ประตู auto จำเป็นต้องติด Turbo timer มั๊ยครับ
เวลาจอดแล้วดังเครื่องเลยจะมีผลกับเครื่องยนต์มั๊ยครับ
ผมใช้รุ่นเดียวกัน กับคุณ ครับ..แล้วผมก็ติด ผมว่าจำเป็นดีน่ะ..ปลอดภัยไว้ก่อนข้อดี..เวลาเราอัดมาใหม่ๆๆ หรือขับติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ...เครื่องควรจะค่อยๆๆเดินรอบเบาๆก่อนดับ...หรือเวลาอัดมา แล้วจอดดับเครื่องปุ๊บปั๊บ ..ทำให้turbo ระบายความร้อนไม่ทัน แกนอาจคตได้...หรือ เวลาเข้าปั๊ม ทำธุระ(ห้องน้ำ) จอดไม่ต้องดับเครื่อง บ่อยให้ timerทำงาน รอบเบา....ส่วนข้อเสีย เปลืองน้ำมัน...(หลายๆครั้งติดกัน)และเสียค่า ของๆๆๆๆ...แต่ใครจะติดหรือไม่แต่ผมติดเพราะรถผม.ผมรัก
ผมว่าระบบมันน่าจะทำงานอย่างนี้ไหมครับ Turbo ปกติเท่าที่ทราบบอกว่าทำงานประมาณ 2000 รอบขึ้นไป คือส่วนใหญ่ไม่มีคนขับรถวิ่งมา 120 แล้วเบรคจอดที่จอดรถเลยใช่ไหมครับ แต่เราจะต้องผ่อนจะต้องเลี้ยว จะต้องอะไรหลายๆ อย่างกว่าจะจอดได้ถูกต้องไหมครับ ส่วนใหญ่กว่าจะจอดได้เราต้องทำอะไรหลายๆอย่างอยู่แล้วและรอบรถส่วนใหญ่ก็จะไม่ถึงรอบที่ Turbo ทำงานอยู่แล้วระบบมันน่าจะดูแลกันอยู่แล้ว ดังนั้นผมคิดว่าอาจจะไม่จำเป็นก็ได้ครับผมตามความคิดผมนะ แต่ผมใช้วิธีการถ้าเดินทางไกล ก็สัก 1-2 นาที ค่อยดับเครื่องยนต์ครับผม
เข้ามาเก็บข้อมูลครับ แต่ก็แอบมีความคิดว่าจะติดเหมือนกันครับ
ของผมติดมาตั้งแต่ออกรถครับ
ข้อดีคือเครื่องไม่โทรมเร็วครับอายุการใช้งานของเครื่องและ Turbo จะยาวนานขึ้นครับ แต่ถ้าเกิดว่าเราดูแค่1-2ปีนี้ยังไม่เห็นครับต้องใช้นานแล้วจะรู้ครับ
ว่ามันดีต่อเครื่องยนต์จริงๆครับ
ถ้าเท้าหนัก อัดบ่อยๆ ก็ติดเถอะครับ สงสารมัน
แต่ส่วนตัวผมไม่ได้ติดนะครับ เป็นคนเท้าหนักอยู่เหมือนกัน แต่ด้วยทางเข้าบ้านมันบังคับไม่ให้ใช้ความเร็ว ( ถนนหมู่บ้าน มีลูกระนาด ) จึงถือว่าเป็นการ วอร์มดาวน์ เรียบร้อยแล้ว ก็เลยพ่วงการปิดน้ำยาความเย็นแอร์ไปด้วยเลย จากปากทางถึงบ้านประมาณ 5 - 10 นาที ผมว่าพอดีนะครับ พอเข้าบ้านก็ วอร์มดาวน์ นิดหน่อยแล้วก็ดับ
สรุป เทอร์โบทามเมอร์ เหมาะสำหรับ ผู้ที่ชื่นชอบความแรงอัดบ่อย และขี้เกียดรอในรถเวลาจอดครับ สรุปง่ายๆ
........แต่พอเดินทางไกล....ตอนปวดฉี่จัดๆๆ......ผมก็รอไม่ไหวครับอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ 9898
ครึ่งนาทีก็หน้าเขียวแล้วครับ.........ผมเลยต้องไปจัดการติดตั้งเจ้าตัวนี้ครับ
มีประโยชน์มากครับผม
:i40:
ถ้าคุณตีนหนักเหยียบ 120-140 แช่เป็นชั่วโมงก้อหามาติดเถอะ
รถที่ติด Turbo ควรติด timer
เพราะเวลาอัดมาแล้วจอดหรือทางวิ่งไกลไม่ได้พักเป็นเวลานาน
แกนของ turbo หมุนเป็นหมื่นรอบมีความร้อนสะสมที่แกน
น้ำมันเครื่องเป็นตัวหล่อลื่น ในขณะเครื่องยนต์ทำงาน มีการหมุนเวียน
น้ำมันเครื่องเพื่อหล่อลื่นอุปกรณ์ชิ้นส่วนที่หมุนและเคลื่อนไหว
โดยเฉพาะตรงแกนเพลา Turbo ถ้าดับทันที่เครื่องน้ำมันไม่หมุนเวียน
น้ำมันเครื่องตกค้างตรงแกนอาจไหม้หลายๆครั้งเกิดเป็นคราบติดและขวาง
ทางเดินน้ำมันนานๆเข้าหล่อลื่นไม่พอ บูชกับแกนสึกน้ำมันเครื่องรั่ว
สรุป ติดก็จะยืดอายุทั้ง Turbo และเครื่องออกไปอีกนะ
ถ้าไม่ติดก็ต้องฟรีเครื่องไว้ 2-3นาที ขึ้นอยู่ว่าก่อนจอดอัดมาหรือไม่หรือวิ่งเข้าซอยกลับบ้าน ( Warm Up / Cool down เหมือนออกกำลังกาย )
เหตุผลนี้เลยครับ ที่ผมติด...:emoticon-cartoon-01อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ AeA
ผมยังอยากติดเลย เวลาเราวิ่งไกลๆไปต่างจังหวัดแล้วเวะก็ห้องน้ำ เราก็ไม่ต้องดับเครื่องแล้วก็ล็อกประตูได้ตามปกติ
ถ้าไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน
ติดเหอะ ครับ
ผม พลัส 4dr ไม่ได้ติดเพราะ ขี้เกียจหาร้านติด และ ไม่อยากเสียเงิน
ถ้ามีใครมาติดที่บ้านให้แล้วฟรีๆ ก็ดีดิคร๊าบบบป
มีตังติดก็ดีครับสะดวกสบายดี
แต่ผมไม่ได้ติดเพราะก่อนถึงบ้านก็ปิดแอร์+ลดความเร็วรถลง
เป็นการ Cooldown คิดว่าเพียงพอแล้วครับ แต่มีตังแนะนำติดได้เลยครับ
ส่วนเวลาเข้าห้องน้ำนี่มันก็จำเป็นจริงๆครับ:kapook-17342-8336:
ช่ายเลย เวลา เข้าห้องน้ำ แบบด่วนๆ แต่ไม่มีใครเฝ้ารถ ก็ปิดสวิทเลย วิ่งไปล๊อคประตูไป
ตั้งไว้สัก 1 นาที มันดับเอง นั่งห้องน้ำสบายใจ รถล๊อคแล้ว ได้ เบาการทำงานของเทอร์โบกับเครื่อง ถ้า วิ่งมาไกลๆ หรือซัดแรงๆ มา (เพราะปวดท้องมากรีบจัด) เวลานั้น ผมคนนิงล่ะ อั้นปวดไม่ค่อยได้
ปวดเมื่อไหร่ต้องรีบเลย ช่วยได้เยอะนะผมว่า
คลาน .... เข้ามา Have ข้อมูลดีๆ จั๊กกะหน่อย
สงกะสัยต้องไปติดแล้วววว
แนะนำนะครับ
ตอนเช้าติดเครื่องนิ่งๆ ไว้ก่อนอย่างน้อย 30-60 วินาที
หลังจากนั้น ค่อยๆขับไปเรื่อยๆ ช้าๆ ไม่รุนแรง
จนเมื่อความร้อนขึ้นถึงขีดแรก ก็ขับเร็วได้ปกติครับ
แต่สำหรับเกียร์ออโต้ ควรให้ความร้อนขึ้นถึงขีดกลางแล้วค่อยซัดนะครับ
เพื่อให้อุณหภูมิ น้ำมันเกียร์พร้อมใช้งาน และปลอดภัยครับ
อันนี้ เรียกว่า วอร์มอัพ
แนะนำต่อครับ
เมื่อขับรถในเมือง ที่มีสภาพการจราจรติดขัด ไม่จำเป็นต้องหน่วงเวลาดับเครื่องแต่อย่างใด
เมื่อขับรถในเมืองที่มีสภาพการจราจรคล่องตัว ใช้ความเร็วประมาณ 80 ขึ้นไป
เมื่อถึงที่หมาย ให้ทิ้งระยะก่อนดับเครื่องประมาณ 20 วินาทีครับ
ถ้าขับเร็วนอกเมืองด้วยความเร็วมากกว่า 100 ให้รอ 1 นาที ก่อนดับเครื่อง กรณี
ใช้ความเร็วสูงแต่ไม่ซัดนะครับ
ถ้าขับรถด้วยความเร็วแรงทะลุนรก ให้รออย่างน้อย 2-3 นาที แล้วค่อยดับเครื่องครับ
อันนี้ เรียกว่า คูลดาวน์
การปล่อยให้เวลานานกว่านี้ ไม่ผิดกติกาใดๆ แต่มันเปลืองน้ำมันครับ
สำหรับรถผม ไม่มีความจำเป็นใดๆครับ เพราะขับรถช้า ถึงช้ามาก
บอกให้ฟังอีกนิด
ในรอบทดสอบก่อนการแข่งขันในสนาม
รถแข่งจะต้องวิ่งเพื่อทดสอบความสามารถ และสภาพพื้นแทรค
จะเร็วช้าก็แล้วแต่ (ส่วนมากจะเร็ว) เมื่อถึงเส้นออกสตาร์ทปุ๊ป ต้องดับเครื่องทันที
ห้ามติดเครื่องไว้เด็ดขาด ซึ่งเป็นกฏของการแข่งขัน รถมันยังไม่พังเลย
ไปอีกเรื่อง อย่าง The Fast ภาคไหนก็แล้วแต่ เมื่อพระเอกขับรถมาก่อนถึงถนนที่แข่งขัน
เขาก็มาเรื่อยๆ จนถึงเส้นออกรถ แล้วเขาก็ดับเครื่อง ซึ่งก็ไม่พังเช่นกัน
ดังนั้น เวลาที่แนะนำไป ถือว่าเพียงพอแล้ว ต่อเทอร์โบของท่าน
ถ้ารถทำมาแล้วมันใช้ยุ่งยาก ผู้ผลิตคงไม่ทำออกมาหรอกครับ
ตามสูตรเลยครับ อิอิ
สมมติเครื่องปกติ รวมทั้งลูกสูบ วาล์ว เทอร์โบ ชิ้นส่วนภายใน ต่างๆที่มีการบำรุงรักษา ตามคู่มือ
อายุการใช้งานนานลากนานสุดๆได้ 500,000 km
แต่ถ้ามี timer อาจจะไปได้ถึง 600,000 km
แต่กว่าจะวิ่งไปขนาดนั้น หลายๆท่านคงเปลี่ยนรถ หรือเปลี่ยนเครื่องหมดแล้วล่ะ
แต่เป็นผม ถ้าเจอ timer แบบทำงานได้หลายๆอย่าง ผมก้ออยากติดนะ