กล่องยก Vs กล่องดัน อันไหนดีกว่ากัน ????

:smiley-transport024คือมีข้อสงสัยอ่ะครับ ว่า กล่องพ่วงใบแรก ในกรณีที่รถเรายังเดิม ไม่ได้ทำอะไร นอกจาก DIY เบื้องต้น
-ท่อแทนแคต
-อุด EGR
-หม้อพักไส้ตรง
-เดินท่อ 2.5 นี้ว
-รองแหวน + หมุนหอย อยุ่ที่บูสท์ 20-22 ปอนด์
คือ มีรถไตตั้นในกลุ่มสเต๊ปแบบนี้เหมือนๆกัน แต่อีกคัน ใส่กล่องดันราง
ส่วนอีกคัน ใส่กล่องยกหัวฉีด แล้วลองวิ่งกันดู
เลยสงสัยว่ากล่องใบแรกที่สมควรใส่ เพื่อเพิ่มอัตราเร่งต้น กลาง ปลาย เนี่ย ควรใส่กล่องอะไรดีครับ ระหว่างกล่องดันราง หรือว่า กล่องยกหัวฉีด
เพราะเท่าที่ผมลองหลังไมค์ไปหาสำนักโมต่างๆ ก็บอกว่าได้ม้าเพิ่มมาไม่ต่างกันเท่าไหร่
แต่ล่าสุดที่เจอมาเมื่อวาน อีสุ ดีแม็กซ์ น้องในกลุ่ม เครื่องเดิมๆ ทุกอย่าง รถใช้ส่งสินค้า (แค็บหมู) ไปทำแค่คลัทช์ใหม่ 1 ชุด + กล่องยกหัวฉีด 1 ใบ ยี่ห้อ E.....U จูนเนียนๆ
หลังจากการได้เห็นได้ลอง ทำไมมันจัดจ้านจริงครับ 1-2-3 โอ๊คๆๆๆๆ ยาวๆ ทุกเกียร์เลยอ่ะครับ:4-9:
เลยสงสัยไม่หาย นั่งเถียงกับเพื่อนๆในวงสุรากันตลอด ว่า ใบแรก ควรใส่อะไรดี ระหว่าง กล่องดัน หรือว่า กล่องยก :kapook-17351-2909:
ยังไงรบกวนผู้รู้ช่วยมาให้คำชี้แนะด้วยนะครับ อยากรู้จริงๆ ครับ ตอนนี้เวลาตั้งวงสุรา:Banane35: จะมีข้อห้ามกันอยู่ 3 ข้อที่ห้ามคุยกัน :kapook-17202-3451:คือ
1..เรื่องเสื้อเหลือง เสื้อแดง
2..เรื่องทีมบอล ลิเวอร์พูล-แมนยู
3..เรื่อง กล่องดันราง VS กล่องยก อันไหนใส่แล้วดีกว่ากัน
ด้วยความเคารพครับ..:21-7:

รบกวนให้คำแนะนำด้วยนะครับ:21-7:

...โหน้าตั้วบูสต์มาตั้ง20-22 ปอนด์ยังไม่พออีกเหรอครับ ผมอัดเต็มๆสุดๆมาแค่14ปอนด์เองอ่ะ...:4-9:

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ dsign

...โหน้าตั้วบูสต์มาตั้ง20-22 ปอนด์ยังไม่พออีกเหรอครับ ผมอัดเต็มๆสุดๆมาแค่14ปอนด์เองอ่ะ...:4-9:

---

ครับน้าหนุ่ม..ของผมทั้ง รองแหวน + บิดหอย ด้วยอ่ะครับกล่องดันรางใบนึงได้ ณ.ตอนนี้สุด 190+ อีกนิสอ่ะครับ ตอนนี้เพื่อนมันไปใส่ กล่องยกหัวฉีดมาอย่างเดียว เลยงงกัน ว่า ทำไมมันวิ่งไปดีเหลือเกินอ่ะครับ เลยเถียงกับเพื่อนๆในกลุ่มกันว่า สรุปแล้ว ใส่กล่องอะไรก่อนดีอ่ะครับ :emo019ua3:
ปล.น้าหนุ่ม ยังไงผมขออนุญาติหลังไมค์ไปหาน้าหนุ่มสักหน่อยนะครับ จะขอปรึกษาเรื่องการจูนกล่องหลักอ่ะครับว่าความรู้สึก พ่วงกล่อง กับการจูนกล่องหลักเท่าที่น้าหนุ่มลองสัมผัสมาความแตกต่างเป็นยังไงบ้างอ่ะครับ:i40:
ด้วยความเคารพครับ...:21-7:

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ กรุงเก่า

ครับน้าหนุ่ม..ของผมทั้ง รองแหวน + บิดหอย ด้วยอ่ะครับกล่องดันรางใบนึงได้ ณ.ตอนนี้สุด 190+ อีกนิสอ่ะครับ ตอนนี้เพื่อนมันไปใส่ กล่องยกหัวฉีดมาอย่างเดียว เลยงงกัน ว่า ทำไมมันวิ่งไปดีเหลือเกินอ่ะครับ เลยเถียงกับเพื่อนๆในกลุ่มกันว่า สรุปแล้ว ใส่กล่องอะไรก่อนดีอ่ะครับ :emo019ua3:
ปล.น้าหนุ่ม ยังไงผมขออนุญาติหลังไมค์ไปหาน้าหนุ่มสักหน่อยนะครับ จะขอปรึกษาเรื่องการจูนกล่องหลักอ่ะครับว่าความรู้สึก พ่วงกล่อง กับการจูนกล่องหลักเท่าที่น้าหนุ่มลองสัมผัสมาความแตกต่างเป็นยังไงบ้างอ่ะครับ:i40:
ด้วยความเคารพครับ...:21-7:

---

...ครับน้าตั้วยินดีครับ อะไรดีๆเราก็เล่าสู่กันฟังครับ... :21-7:

มันทำงานคนะอย่างครับ ไม่ได้มีอะไรดีไปกว่ากันครับ ต้องเกื้อกูล เพื่อการปรองดองครับ

1.ถ้าใส่กล่องยก จูนหนักก็ไม่วิ่ง เพราะแรงดันรางตก จูนเนียนๆ ก็วิ่งดี แต่ออกตัวไม่ทันดันรางครับ

ในกรณีที่น้ากล่าวมา จับรถสมาชิกพลัสเกียร์ธรรมดาสีดำดูสิ ว่าใครออกตัวดีกว่า

2.ถ้าใส่ดันราง ไม่ทำท้ายราง ก็ไม่มีอะไรในกอไผ่ หลังทำรางมาแล้ว ถ้าปรับหนักไป รถจะเสื่อมเร็ว

และปลาย คงสู้ข้อแรกไม่ได้ครับ

3.ใส่ยกดันของ E+p แล้วจะรู้ว่าแจ่มแมวสุดๆ

คำแนะนำดังต่อไปนี้

1.สำหรับรถยกหัวฉีด ไม่ควรจูนหนักเกินไป จะทำให้ควันจุก น้ำมันมาก แรงดันตก วิ่งไม่ออก

2.สำหรับรถดันราง ไม่ควรจูนหนักเกินไป จะทำให้ภาระระบบฉีดจ่ายมาก จนเสื่อมสภาพในเวลารวดเร็ว

3.รถดันยก จูนได้ตามความต้องการ เอาข้อดีข้อด้อย แต่ละอัน มาปรับปรุง และปฎิรูป ความแรง

เพื่อความ สมานฉันท์ (รถ+กล่องแต่ง+คน) ครับ

สำหรับ ใบแรก ถ้าอยากใส่ และอยากให้รถอยู่กับเรานานๆ คือ กล่องยก ครับ

ราคาแพงกว่า การทำงาน เซฟรถมากกว่า แต่ถ้าคุณโดนสวนดวยรถดันรางใบเดียว

ความน้อยเนื้อต่ำใจ จะแวะมาทักทายในจิตใจทันที ว่าของกูก็แพง ทำไมฟระ ไปโดนของแบบนี้

ถ้าวัดกันในระยะยาว รถยกหัวฉีด จะเหนียวกว่า

ถ้าเริ่มต้นด้วยการดันราง คุณอาจ แดรกกกก รถยกหัวฉีดได้แบบ ขนมๆ (ถ้าเขาทำแบบด้านบน)

ความฮึกเหหิม จะเกิดขึ้นกับตัวเอง และเริ่มหาสเตป ปรับเพิ่มจนพัง ในที่สุด หรือถ้ายังไม่พัง

คุณก็ต้องหากล่องยก มาเพิ่มประสิทธิภาพอีก


สรุป .... ถ้าจะใส่กล่องแต่ง

1.หาเงินทำคลัตช์ก่อน

2.เมื่อรถแต่งแล้ว อุปกรณ์วัดค่า ต้องเพิ่มเติม (วัดบูสท์ สมาร์ทเกจ)

3.ควรลงกล่องยกและดัน พร้อมกันไปเลย ถ้าไม่พร้อม

3.1 ลงกล่องดัน ในกรณีที่คุณลง 3200 มาแล้ว

3.2 ลงกล่องยก ถ้าท่านไม่สนโปร 3200

การจะทำกล่องนั้น สำหรับรถเกียร์ธรรมดา ควรเตรียมเงิน 35000-40000 บาท (ราคากลาง)

ราคาที่กล่าวมาคือ ไม่ได้ทำแต่กล่อง ต้องทำให้ครบ (แรงแล้วต้องเบรคอยู่)

ในรถเกียร์ออโต้ ถ้าอยากใช้ยาวๆ เตรียมค่าโมเกียร์ด้วยครับ (ไม่ใช่ค่าซ่อมนะ เป็นค่าโมดิฟาย)

เพราะเดี๋ยวนี้ เกียร์ออโต้ ทำแรงๆได้แล้วครับ (เกียร์ออโต้ มีค่าใช้จ่ายมากกว่าด้านบนอีก 30000 บาท)

ปล.อย่าเอาราคาถูกๆ มาคุยกันเพื่อเรียกความสนใจครับ

เพราะจริงๆแล้ว มันก็ไม่ได้จบแค่นั้น จริงไหม?

โอ้ว......:21-7:ขอบคุณมากๆ เลยครับน้านุ๊ก กระจ่างศาสตร์ไปเลยครับ งานนี้:i40:
ด้วยความเคารพครับ...:21-7:

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ กรุงเก่า

โอ้ว......:21-7:ขอบคุณมากๆ เลยครับน้านุ๊ก กระจ่างศาสตร์ไปเลยครับ งานนี้:i40:
ด้วยความเคารพครับ...:21-7:

---

กล่องเดิมดีกว่าครับ ทั้งดันทั้งยกทั้งปลดบูส อิ..อิ:kapook-17195-8823:

-*- ช่าย โมกล่องเดิมก้อน่าสนนะครับ

ใบแรก น่าจะเป็นดันราง ครับ เพื่อความสนุก

และเห็นผลอย่างชัดเจน อัตราการบริโภคน้ำมัน ก้อกินน้อยกว่า

ใส่ยกมา แดรกก นะครับ

จะดันจะยกได้ทั้งนั้น ขอให้มีกะตังค์จับมันมาใส่ก็พอ นอกจากนี้ยังอยู่ที่น้ำหนักเท้าและใจของท่านด้วย เพราะมันจะฮึกเฮิมอยากออกศึกตลอด 55555555555

ตอนนี้ผมสนใจสแตนอโลนอยู่ครับ อยากได้มาทดสอบอยู่เหมือนกันครับ แต่ยังไม่มีโอกาสได้ลอง หุ หุ

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ bomgrade

ตอนนี้ผมสนใจสแตนอโลนอยู่ครับ อยากได้มาทดสอบอยู่เหมือนกันครับ แต่ยังไม่มีโอกาสได้ลอง หุ หุ

---

จะแรงไปไหนน้าบอม เล่น stan เลยขับแถวบ้านมีหวังกวาดลงข้างทาง อิอิ

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ bomgrade

ตอนนี้ผมสนใจสแตนอโลนอยู่ครับ อยากได้มาทดสอบอยู่เหมือนกันครับ แต่ยังไม่มีโอกาสได้ลอง หุ หุ

---

สงสัยอยากทำใส่ในใหม่

แน่นครับน้าทั้งเนื้อนและน่ำ

ยังงัยถ้าอยากแรง แล้วไม่เค้นรถเยอะก็ต้อง ทั้งดันราง และยกหัวฉีด

สเต็ปแรกโดยทั่วไปที่ลงกันก็คือ กล่องดันราง เพราะมีราคาถูก สามารถจูนประหยัดได้ หรือจะจูนแรงก็ได้ แต่เค้นเยอะหน่อย
แต่ถ้าสเต็ปแรกเล่นกล่องยกหัวฉีด ก็ดีสำหรับคนมีทุน แรง!! เปิด-ปิดได้ ไม่ต้องเค้นรถเยอะ

แต่ยังงัยแล้วถ้ามีครบ2ใบ การจูนเข้าหากันจะทำได้ดีกว่า ไม่ต้องไปเค้นการทำงานตรงส่วนใหนให้มากเกินขีดจำกัด จูนสเต็ปพื้นๆทั้ง2อย่างก็แรงแล้ว