มาอัพเดทเรื่องเคลมรถซ่อมที่อู่ประกันครับ

เมื่อวันที่ 8 พ.ค.51 นำรถไปเข้าที่อู่วิศวะที่ปราณบุรี เขาบอกให้จอดรถไว้ที่นั่นเลยเพราะเขาจะเช็คส่วนเสียหายอื่นๆเพิ่มเติม จนมาวันนี้ 12 พ.ค.51 มีเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันที่ผมทำไว้โทรมาแจ้งว่าผมต้องจ่ายค่าธรรมเนียมกรณีรถเกิดอุบัติเหตุแล้วไม่มีคู่กรณี 2,000 บาท ตอนแรกพอได้ยินแล้วปรี๊ดมากครับ ผมเลยสอบถามกลับไปว่าทำไมผมต้องจ่ายด้วยในเมื่อผมทำประกันชั้น 1 เอาไว้ และสถานที่ๆเกิดเหตุก็คือทางหลวง ที่ผู้คนทั่วไปใช้สัญจรไปมา ไม่ได้เอารถไปวิ่งบนท้องนาท้องไร่ซะก็เปล่า แล้วยางเส้นเจ้ากรรมก็กระดอนข้ามฝั่งมาหารถผมซึ่งแล่นอยู่บนถนนอย่างถูกต้องทุกอย่าง ผมเลยแจ้งไปว่าไม่ยินดีและไม่ยินยอมที่จะจ่ายเงินในส่วนนี้ และเจ้าหน้าที่คนนี้ได้ขอให้ผมทำหนังสือแจ้งความประสงค์ว่าไม่ต้องการจ่ายเงินในส่วนนี้ ผมก็เลยแจงรายละเอียดตั้งแต่เกิดเหตุจนนำรถไปเข้าอู่และก็มีเจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งเลยครับ ผมส่งแฟกซ์ไปให้เจ้าหน้าที่คนนั้นแล้ว ตอนนี้ก็รอคำตอบอยู่ว่าจะยังไง แต่ผมก็จะยังยืนยันอย่างหนักแน่นว่าผมไม่ยินยอมที่จะจ่ายในส่วนนี้.... เพื่อนๆมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างครับช่วยแชร์ไอเดียกันหน่อยครับ..

ท่านekapong มาแนวๆเดียวกับผมเลย แต่ของผมยางอะไหล่โดนขโมย ผมก็ประกันชั้นหนึ่งเหมือนกัน ตอนแจ้งเคลมทางฝ่ายเคลมไม่บอกรายละเอียดอะไรมากนัก เราก็เข้าใจว่าไม่ต้องจ่ายกะตังค์เพิ่ม พอไปถึงประกันฯพวกบอกผมว่าต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก1,500 บาทเพราะประกันจ่ายแค่80% ผมก็เลยงง! อีกทั้งจะเสียประวัติไม่ได้ส่วนลดในปีที่จะต่อประกันฯใหม่นี้อีก20% นั่งมึนและคิดอยู่ตั้งนาน เลยบอกหยั่งงั้นไม่ขอเคลมก็แล้วกัน พวกบอกถ้าอย่างงั้นพี่ก็ต้องแสดงหลักฐานไม่ขอเคลมคือจะต้องนำยางอะไหล่ใหม่พร้อมใบเสร็จที่ซื้อยางใหม่เองมาให้ดูเป็นหลักฐานถึงจะยกเลิกการเคลมได้..เอา..ทำไมมันยุ่งยากอย่างนี้:yenta4-emoticon-001ผมก็เลยถอยขบวนกลับมาตั้งหลักใหม่..มีเพื่อนๆแนะนำว่าอย่างนี้ก่อนจะหมดประกันต้องเคลมให้คุ้มสุดๆแล้วเปลี่ยนประกันใหม่ไปเลย...สะใจดี:i38:

อ้างอิง:

---

มีเพื่อนๆแนะน ำว่าอย่างนี้ก่อนจะหมดประกันต้องเคลมให้คุ้มสุดๆแล้ว เปลี่ยนประกันใหม่ไปเลย...

---

ไม่ได้ครับ ประกันเจ้าใหม่ มันก็เช็คเคลมกับประกันเจ้าเก่า ถ้าไม่เคลมกับประกันเก่าเลยถึงจะได้ส่วนลด ถ้าเคลมกับประกันเจ้าเก่า ประกันเจ้าใหม่ก็ไม่ลดให้อยู่ดี ผมเจอมากับตัวเองครับ
แต่ยังพอมีวิธีซิกแซกอยู่ อันนี้ต้องคุยกับโบรกเกอร์เอาเอง

ถ้าอย่างนั้น..อย่าเพิ่งแจ้งเคลมกับบริษัทเก่าก่อนจะต่อประกันกับที่บริษัทใหม่ ควรเก็บไว้รอต่อกับที่บริษัทใหม่ให้ได้เลขรับแจ้งให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยกลับไปเคลมกับที่บริษัทเก่า ซึ่งคุณต้องต่อประกันกับที่บริษัทใหม่ก่อนที่ ประกันที่บริษัทเก่าจะหมดนะครับ ประวัติดี(ถ้ามี) ก็จะไม่เสีย ไปบริษัทใหม่ก็อาจจะได้เบี้ยประกันถูกลง..ครับ ..ไม่ต้องเป็นลูกค้าก็ปรึกษาได้ ยินดีครับ ..081-3542485....089-1348985

การเคลมก่อนหมดประกันอย่างเช่นการเคลมรอบคันนั้นต้องระวังเรื่องค่า Accept ด้วยครับ เพราะจะโดนเรียกเก็บเพิ่มประมาณ 4-5 พันบาท จะให้ดีนะครับ ทำเคลมไปเรื่อย ๆ โดยเคลมสีครั้งละไม่เกิน 5 จุด และสะสมใบเคลมไว้ไปทำทีเดียวครับ อย่างนี้จะไม่เสียค่า Accept ครับ อันนี้เจ้าหน้าที่อู่ที่ผมไปเคลมเค้าแนะนำมาครับ

มันขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ด้วย ครับ ผมต่อที่ใหม่ เขาไม่ดูอะไรเลย ครับ ไม่เช็คประวัติด้วย ไม่ต้องเอารถไปดูด้วยแต่ว่าอันนี้ไฟแนนซ์ เขาแนะนำเอง ครับ

แล้วการเคลมเนี้ยผมเคลม ประมาณ 8 จุด มั้ง จำไม่ผิด ตอนแรกให้เสีย ค่า เิอกเซป 2000 แต่ผมไม่จ่ายครับ เขาก็ให้ทำหนังสือยกเว้นค่า except แต่ว่าผมต้อง ยกเลิกการซ่อมสี 1 จุดด้วย

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ EKAPONG

เมื่อวันที่ 8 พ.ค.51 นำรถไปเข้าที่อู่วิศวะที่ปราณบุรี เขาบอกให้จอดรถไว้ที่นั่นเลยเพราะเขาจะเช็คส่วนเสียหายอื่นๆเพิ่มเติม จนมาวันนี้ 12 พ.ค.51 มีเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันที่ผมทำไว้โทรมาแจ้งว่าผมต้องจ่ายค่าธรรมเนียมกรณีรถเกิดอุบัติเหตุแล้วไม่มีคู่กรณี 2,000 บาท ตอนแรกพอได้ยินแล้วปรี๊ดมากครับ ผมเลยสอบถามกลับไปว่าทำไมผมต้องจ่ายด้วยในเมื่อผมทำประกันชั้น 1 เอาไว้ และสถานที่ๆเกิดเหตุก็คือทางหลวง ที่ผู้คนทั่วไปใช้สัญจรไปมา ไม่ได้เอารถไปวิ่งบนท้องนาท้องไร่ซะก็เปล่า แล้วยางเส้นเจ้ากรรมก็กระดอนข้ามฝั่งมาหารถผมซึ่งแล่นอยู่บนถนนอย่างถูกต้องทุกอย่าง ผมเลยแจ้งไปว่าไม่ยินดีและไม่ยินยอมที่จะจ่ายเงินในส่วนนี้ และเจ้าหน้าที่คนนี้ได้ขอให้ผมทำหนังสือแจ้งความประสงค์ว่าไม่ต้องการจ่ายเงินในส่วนนี้ ผมก็เลยแจงรายละเอียดตั้งแต่เกิดเหตุจนนำรถไปเข้าอู่และก็มีเจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งเลยครับ ผมส่งแฟกซ์ไปให้เจ้าหน้าที่คนนั้นแล้ว ตอนนี้ก็รอคำตอบอยู่ว่าจะยังไง แต่ผมก็จะยังยืนยันอย่างหนักแน่นว่าผมไม่ยินยอมที่จะจ่ายในส่วนนี้.... เพื่อนๆมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างครับช่วยแชร์ไอเดียกันหน่อยครับ..

---

ต้องดูที่กรมธรรม์ครับว่ามีระบุไว่ป่าว ไอ้ค่าเสียหายส่วนแรกนะ ถ้ามีระบุไว่ก็คงต้องจ่ายครับ แต่ถ้าไม่ได้ระบุไว้ก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายอะไร คือตอนทำประกันต้องคุยรายละเอียดให้ชัดเจนครับว่าเราไม่ระบุค่าเสียหายส่วนแรก...แต่เบี้ยแพงนิด ถ้าระบุ...เบี้ยถูกกว่าหน่อย

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ chaimote

ต้องดูที่กรมธรรม์ครับว่ามีระบุไว่ป่าว ไอ้ค่าเสียหายส่วนแรกนะ ถ้ามีระบุไว่ก็คงต้องจ่ายครับ แต่ถ้าไม่ได้ระบุไว้ก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายอะไร คือตอนทำประกันต้องคุยรายละเอียดให้ชัดเจนครับว่าเราไม่ระบุค่าเสียหายส่วนแรก...แต่เบี้ยแพงนิด ถ้าระบุ...เบี้ยถูกกว่าหน่อย

---

บางบริษัทระบุว่าต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกไว้ยังงั้นเองครับ..พอเอาเข้าจริงไม่ต้องจ่ายก็ได้แต่ในกรมธรรม์อาจจะระบุไว้...บางกรณีก็ขอยกเว้นค่าเสียหายส่วนแรกได้ แล้วแต่บริษัทครับ..บางทีตัวแทนก็ขอยกเว้นค่าเสียหายส่วนแรกให้ได้ครับ..อยู่ที่ว่าเค้าจะทำให้หรือไม่เท่านั้นแหละครับ..

ผมก็ทำอย่างคุณสิงห์ว่าแหละครับ ต่อประกันใหม่ก่อน แล้วไปเคลมกับประกันเก่าอย่างสบายใจเฉิบ แต่ ๆๆๆๆๆๆๆ แต่แล้วก็เกิดปัญหาที่ผมคาดไม่ถึง

ประกันใหม่เกิดงอแง ไม่ยอมออกกรมธรรม์ให้ จนกว่าผมจะไปทำสีรถที่เคลมไว้ให้เสร็จเสียก่อน ด้วยเหตุผลว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุกับรอยเก่า ประกันใหม่ไม่อยากมีปัญหาเกี่ยงกันซ่อมกับประกันเก่า (เหตุผลฟังดูชอบกล) แต่ผมนั้นใช้รถเกือบทุกวัน ยังไม่มีเวลาเอารถไปทิ้งไว้ที่อู่
ผมเลยตัดปัญหาให้โบรกเกอร์เปลี่ยนไปทำประกันอีกเจ้าหนึ่งให้ ซึ่งเขาไม่เกี่ยงเรื่องนี้

ทีนี้ปัญหาก็เลยเกิด เพราะประกันเจ้าใหม่ล่าสุดที่ผมตกลงทำกับเค้า ทีนี้เค้าก็เช็คเคลม เพราะผมเคลมไปซะเต็มที่แล้ว เบี้ยจากตอนแรก ถ้าเลือกประกันเจ้านี้ตั้งแต่ทีแรก จะได้เบี้ย 14,000 บาท แต่พอมาทำทีหลังเช็คเคลม กลายเป็น 17,xxx บาท ซะงั้น รู้งี้ทำกะเจ้านี้ตั้งแต่แรกก็ดี

แต่ก็ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าประกันบางเจ้าจะมีการงี่เง่าเรื่องแบบนี้ด้วย

เล่าให้เพื่อน ๆ พี่ๆน้องๆ ฟังจากประสบการณ์จริงครับผม

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ tritonjames

ผมก็ทำอย่างคุณสิงห์ว่าแหละครับ ต่อประกันใหม่ก่อน แล้วไปเคลมกับประกันเก่าอย่างสบายใจเฉิบ แต่ ๆๆๆๆๆๆๆ แต่แล้วก็เกิดปัญหาที่ผมคาดไม่ถึง

ประกันใหม่เกิดงอแง ไม่ยอมออกกรมธรรม์ให้ จนกว่าผมจะไปทำสีรถที่เคลมไว้ให้เสร็จเสียก่อน ด้วยเหตุผลว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุกับรอยเก่า ประกันใหม่ไม่อยากมีปัญหาเกี่ยงกันซ่อมกับประกันเก่า (เหตุผลฟังดูชอบกล) แต่ผมนั้นใช้รถเกือบทุกวัน ยังไม่มีเวลาเอารถไปทิ้งไว้ที่อู่
ผมเลยตัดปัญหาให้โบรกเกอร์เปลี่ยนไปทำประกันอีกเจ้าหนึ่งให้ ซึ่งเขาไม่เกี่ยงเรื่องนี้

ทีนี้ปัญหาก็เลยเกิด เพราะประกันเจ้าใหม่ล่าสุดที่ผมตกลงทำกับเค้า ทีนี้เค้าก็เช็คเคลม เพราะผมเคลมไปซะเต็มที่แล้ว เบี้ยจากตอนแรก ถ้าเลือกประกันเจ้านี้ตั้งแต่ทีแรก จะได้เบี้ย 14,000 บาท แต่พอมาทำทีหลังเช็คเคลม กลายเป็น 17,xxx บาท ซะงั้น รู้งี้ทำกะเจ้านี้ตั้งแต่แรกก็ดี

แต่ก็ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าประกันบางเจ้าจะมีการงี่เง่าเรื่องแบบนี้ด้วย

เล่าให้เพื่อน ๆ พี่ๆน้องๆ ฟังจากประสบการณ์จริงครับผม

---

ต้องเช็คอีกนิดครับ ว่าบริษัทใหม่ที่เราจะเปลี่ยนเค้าเช็คเคลมหรือเปล่า ส่วนใหญ่ที่ผมทำให้ลูกค้าจะต้องถามลูกค้าก่อนว่ามีเคลมกับที่เก่าหรือไม่ก่อนที่จะไปเปลี่ยนบริษัทให้ลูกค้ามิฉะนั้น ถ้าไปเจอบริษัทที่เช็คเคลม ก็เรียบร้อย เบี้ยประกัน
เพิ่มขึ้นแน่นอน ครับ แต่ก็ยังมีวิธีอื่นอีก ถ้าเราไม่อยากสียค่าเบี้ยประกันที่เพิ่มอย่างกรณีเคสของคุณtriton james ครับ

ใจเย็นๆครับ ศึกษาสัญญาให้ละเอียดก่อนว่าเขามีเงื่อนไขในการเคลมอย่างไรบ้าง ถ้าเป็นตามพนักงานบอกก็ทำเรื่องขอยกเว้น 2,000 บาทที่ว่า ค่อยๆคุยกับเขาเพื่อประโยชน์สูงสุดของเราถ้านิ่งเฉย เรานะเสียหายครับ พนักงานก็เสียเวลาและอารมณ์ บริษัทก็เสียลูกค้าไป ใจเย็นๆเจรจาให้ได้ประโยชน์สูงสุดครับ เพราะเราซื้อแล้วการต่อรองเป็นรองบริษัทแน่นอนเพราะเขามีเจ้าหน้าที่เฉพาะ เอาครับทดลองใช้มธุรสวาจาให้เป็นประโยชน์ครับ จะได้ไม่เครียด โชคดีครับ สวัสดี

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ chachino

ใจเย็นๆครับ ศึกษาสัญญาให้ละเอียดก่อนว่าเขามีเงื่อนไขในการเคลมอย่างไรบ้าง ถ้าเป็นตามพนักงานบอกก็ทำเรื่องขอยกเว้น 2,000 บาทที่ว่า ค่อยๆคุยกับเขาเพื่อประโยชน์สูงสุดของเราถ้านิ่งเฉย เรานะเสียหายครับ พนักงานก็เสียเวลาและอารมณ์ บริษัทก็เสียลูกค้าไป ใจเย็นๆเจรจาให้ได้ประโยชน์สูงสุดครับ เพราะเราซื้อแล้วการต่อรองเป็นรองบริษัทแน่นอนเพราะเขามีเจ้าหน้าที่เฉพาะ เอาครับทดลองใช้มธุรสวาจาให้เป็นประโยชน์ครับ จะได้ไม่เครียด โชคดีครับ สวัสดี

---

น้าขุดมาคุยเลยนะเนี่ย