สอบถามเกี่ยวกับ run in หน่อยครับ

คือผมเพิ่งได้รับรถ triton 4x4 เมื่อวานนี้ครับ

อยากทราบว่าระยะการ run in 1000 กม. ต้องถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ รึป่าวครับ

พอดีว่าผมได้ยินช่างเทคนิคที่ 0 บอกว่าไม่จำเป็นต้องถ่ายเนื่องจากรถได้ผ่านการ run in ที่โรงงานมาแล้วครับ

รบกวนผู้รู้ช่วยตอบหน่อยครับ

ขอบคุณครับ

ช่วยๆๆหน่อยครับ

ช่วยๆดันอีกคนครับ

ควรครับ..เพราะเมื่อผ่านการใช้งานมาซักระยะ..อาจมีเศษของโลหะที่มาจากกระบวนการประกอบและการใช้งาน..น้ำมันทั้งหลายนอกจากมีหน้าที่หล่อลื่นแล้วยังทำหน้าที่ชำระเศษต่างๆดังกล่าวด้วย..ถ้าไม่มีก็ดีไป..แต่ถ้ามีและฝืนใช้โดยที่เราไม่รู้..อาจสร้างความเสียหายให้กับระบบขับเคลื่อนของเราได้ครับ..

ใช้สิทธิ์คูปองค่าแรงฟรีคับน้า

ค่าแรงฟรี แต่ค่าน้ำมันเครื่อง กับน้ำมันเกียร์ต้องจ่ายเองใช่ป่าวครับ

แน่นอนครับ..

กดเลยครับ ผมกดมาแล้วกับตีน 0 เขาบอกว่าพังเครม เขารันอินมาเเล้ว

รถที่เรารับมาระหว่างที่เราวิ่งอาจมีเศษเหล็กในห้องเครื่องที่เกิดจากการเสียดสีของกระบอกสูบกับเสื้อสูบตกค้างอยู่ ถามว่าจำเป็นไหมผมว่าจำเป็นครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่าก่อนการส่งมอบ รถเราได้มีการวิ่งภายในโรงงานมาระยะหนึ่งแล้วนะครับ คือทางโรงประกอบต้องวิ่งเข้าทดสอบด่านต่างๆ เช่นทดสอบด้านการป้องกันการซึมของน้ำเข้าห้องโดยสาร และอื่นๆอีกเยอะแต่คงไม่ถึงระยะรันอิน (1000 กิโลเมตร)หรอกครับ หลังจากนั้นเขาได้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องให้เราใหม่หรือเปล่าเราก็ไม่รู้ใช่เปล่าครับ ดังนั้นผมว่าน่าจะเปลี่ยนดีกว่า คือผมก็เปลี่ยนมาเหมือนกันกันไว้ดีกว่า สบายใจดีครับ
เราก็หาเข้าศูนย์ที่เอาน้ำมันเครื่องไปเองดิครับจะได้ประหยัดงบอีกเยอะ ว่าแต่ น้ำมันเกียร์ด้วยเหรอครับ ผมจำไม่ได้ว่าผมเปลี่ยนหรือเปล่า....

เกียร์และเฟืองท้ายด้วยคับ..อันนี้สำคัญมาก..

ไม่มีโรงงานผลิตครื่องยนต์ไหน รันอิน ให้หลอกครับเขาแค่ประกอบขันน็อตตามสเปคที่วางไว้แล้วทดลองหมุนเครื่องปรืนเดียวจากนั้นก็ส่งไปรอการประกอบเข้ากับตัวถังรถและใช้การรับประกันเครื่องแทนเช่นที่ 150,000 กม. เมื่อประกอบเข้ากับตัวรถเรียบร้อยแล้วและวางระบบต่างๆพร้อมที่จะส่งขายได้แล้ว ก็จะมีพนักงานขับไปจอดที่ลานเก็บตากแดดตากฝน นานเท่าไหร่ไม่รู้แล้วแต่ยอดสั่งหรือรถขนส่ง แต่การขับไปยังลานเก็บนี่ดิน่าสนใจ แล้วแต่ว่าพนักงานมันจะอารมณ์ไหน ถ้ามันคึกมันก็เหยียบแหลกเหมือนกันบางครั้งแข่งกันมา 3-5 คัน บางครั้งมันก็ขับแบบชิวๆ ยิ่งใครที่ทำงานแถบอิสเทรินซีบอร์ดและขับรถช่วงเวลา 9.30-11.30 และ 14.00-15.00 แต่ถ้าไฮไลท์ต้องหลังเที่ยงคืน น่าจะพอเคยเห็นบ้าง ถามว่าทำไมโรงงานถึงไม่ รันอินให้ วันหนึ่งโรงงานจะต้องทำยอดประกอบรถที่สูงมากและลองคิดดูว่าเครื่องยนต์ที่ติดเครื่องโดยไม่ใส่ท่อไอเสียนั้นเสียงจะดังขนาดไหน ยิ่งถ้าประกอบเป็นคันแล้วก็จะมีบ้างที่ติดเครื่องทิ้งไว้เพื่อเช็คการทำงานขั้นตอนสุดท้ายแต่ก็ไม่เกิน 15 นาทีแน่นอน ดังนั้นเมื่อรถมาอยู่ที่เราแล้วเราควรทำการ รันอินใหม่ จะดีกว่าอย่างน้อยก็ได้ความสบายใจครับ

เห็นด้วยครับ เปลี่ยนเถอะ ไม่แพงมากมายนักหรอก อะไรอยู่ข้างในเครื่องยนต์ก็ไม่รู้ เพื่อความสะอาดของเครื่องยนต์และความสบายใจของเรา จริงอยู่ถ้ามีปัญหาก็เคลมใหม่ได้ แต่ไม่มีใครอยากเครมหรอกครับ เสียเวลา เสียความรู็สึกดีๆที่มีต่อกันด้วย

ผมว่าถ้าอยากเปลี่ยนจริงๆ เปลี่ยนแค่กรองน้ำมันเครื่องก็พอครับ เพราะทุกสิ่งอย่างที่น้าๆ บอกมามันน่าจะอยู่ที่กรองน้ำมันเครื่องครับ และที่น๊อตถ่ายน้ำมันเกียร์ + เฟืองท้ายแล้วครับ

แต่ที่แน่ๆ ครับ ผมออกป้ายแดงมาคันนี้เป็นคันที่ 4 แล้วครับ ไม่เคยเปลี่ยนที่ 1000 โล เลยครับ ลุย 10000 โล ตลอด แต่ตอนเปลี่ยนอย่าลืมใช้น้ำมันเครื่องดีๆ นะครับ

แต่ถ้าอยากสบายใจ + มีเวลา + ทุนทรัพย์ ก็โอเคครับ

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ Joe Ry

ไม่มีโรงงานผลิตครื่องยนต์ไหน รันอิน ให้หลอกครับเขาแค่ประกอบขันน็อตตามสเปคที่วางไว้แล้วทดลองหมุนเครื่องปรืนเดียวจากนั้นก็ส่งไปรอการประกอบเข้ากับตัวถังรถและใช้การรับประกันเครื่องแทนเช่นที่ 150,000 กม. เมื่อประกอบเข้ากับตัวรถเรียบร้อยแล้วและวางระบบต่างๆพร้อมที่จะส่งขายได้แล้ว ก็จะมีพนักงานขับไปจอดที่ลานเก็บตากแดดตากฝน นานเท่าไหร่ไม่รู้แล้วแต่ยอดสั่งหรือรถขนส่ง แต่การขับไปยังลานเก็บนี่ดิน่าสนใจ แล้วแต่ว่าพนักงานมันจะอารมณ์ไหน ถ้ามันคึกมันก็เหยียบแหลกเหมือนกันบางครั้งแข่งกันมา 3-5 คัน บางครั้งมันก็ขับแบบชิวๆ ยิ่งใครที่ทำงานแถบอิสเทรินซีบอร์ดและขับรถช่วงเวลา 9.30-11.30 และ 14.00-15.00 แต่ถ้าไฮไลท์ต้องหลังเที่ยงคืน น่าจะพอเคยเห็นบ้าง ถามว่าทำไมโรงงานถึงไม่ รันอินให้ วันหนึ่งโรงงานจะต้องทำยอดประกอบรถที่สูงมากและลองคิดดูว่าเครื่องยนต์ที่ติดเครื่องโดยไม่ใส่ท่อไอเสียนั้นเสียงจะดังขนาดไหน ยิ่งถ้าประกอบเป็นคันแล้วก็จะมีบ้างที่ติดเครื่องทิ้งไว้เพื่อเช็คการทำงานขั้นตอนสุดท้ายแต่ก็ไม่เกิน 15 นาทีแน่นอน ดังนั้นเมื่อรถมาอยู่ที่เราแล้วเราควรทำการ รันอินใหม่ จะดีกว่าอย่างน้อยก็ได้ความสบายใจครับ

---

รู้จักพี่คนนึงทำงานที่ 0 รถแห่งหนัง
เขามีหน้าที่ขับรถส่งที่ต่างๆ
พี่แกบอกว่า รถใหม่ๆ เหยียบแหลกกกกกกกกกกกก!!!!!! (เพราะไม่ใช่รถตัวเอง)

ขออนุญาตินะครับ รถของผมเปลี่ยนครับยอมเสียค่าน้ำมันเครื่อง-เกียร์ใหม่ไม่กี่บาทหรอก ลองเทียบกับราคารถดู

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำต่างๆมากครับ แต่ขอถามเพิ่มหน่อยครับ


1.ผมซื้อสีดำครับ อยากทราบว่าปกติสีดำเวลาโดนไรข่วน(เช่นเล็บกีด) จนเกิดคล้ายๆรอยแมวข่วนอ่ะครับ พอจะมีวิธีแก้ไขไหมครับ ตอนนี้ผมลองไปสังเกตรอบๆคันรถเจอตรงกะบะครับ

2.ปกติแล้วเวลาเร่งที่ประมาณ60-80km/hr ที่ประมาณเกียร์ 3-4 ภายในรถจะได้ยินเสียงรถรึป่าวครับ

ลองหาน้ำยารบรอยขีดข่วนดูคับ

ได้ยินคับ

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ EagleWings

ผมว่าถ้าอยากเปลี่ยนจริงๆ เปลี่ยนแค่กรองน้ำมันเครื่องก็พอครับ เพราะทุกสิ่งอย่างที่น้าๆ บอกมามันน่าจะอยู่ที่กรองน้ำมันเครื่องครับ และที่น๊อตถ่ายน้ำมันเกียร์ + เฟืองท้ายแล้วครับ

แต่ที่แน่ๆ ครับ ผมออกป้ายแดงมาคันนี้เป็นคันที่ 4 แล้วครับ ไม่เคยเปลี่ยนที่ 1000 โล เลยครับ ลุย 10000 โล ตลอด แต่ตอนเปลี่ยนอย่าลืมใช้น้ำมันเครื่องดีๆ นะครับ

แต่ถ้าอยากสบายใจ + มีเวลา + ทุนทรัพย์ ก็โอเคครับ

---

ขออนุญาตครับ กรองไม่ใช่คำตอบของทั้งหมดเพราะว่าที่กรองมันสามารถกรองสิ่งสกปรกได้แค่ระดับหนึ่ง ซึ่งผมไม่แน่ใจว่า กี่ไมคอน แต่ก็ไม่น่าต่ำกว่า 5 ไมคอนหรืออาจจะ 10 ไมคอนด้วยซ้ำ( ถ้า 5 ไมคอน มองด้วยตาเปล่าจะมองไม่เห็น) แต่อนุภาคที่หลุดออกมามันมีหลายขนาด ถ้าขนาดใหญ่ๆส่วนมากก็จะติดอยู่ที่กรอง ถ้าขนาดเล็กๆก็จะหลุดผ่านกรองไปได้แล้วก็ไปสะสมที่น้ำมันเครื่อง จากนั้นปั้มก็จะดูดไปใช้งานใหม่ เปรียบแล้วก็เหมือนกับกระดาษทรายละเอียดนี่เอง ถามผม ผมแนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องดีกว่าครับ เพราะมันไม่ส่งผลในระยะแรกๆ แต่ระยะยาวนี่สิน่าคิด

แล้วในช่วงruninผมกดไปที่130-140 จะเป็นไรรึป่าวครับน้าๆ

รถรุ่นใหม่สมัยนี้ ไม่มีรันอินแล้วครับ เหยียบแหลกกันอย่างเดียว เพราะถ้ามีอะไรเสียหาย หรือพังขึ้นมาก็เคลมกันทันที เช็คพันโลแรกก็แค่เข้าไปตรวจนู่นดูนี่ ว่าน๊อตตัวไหนมันหลวมรึเปล่า น้ำยาลดผิดปกติมั้ย จากนั้นก็นู่นเลยครับ เจอกันตอนหมื่นโลเพื่อถ่ายน้ำมันเครื่อง