Printable View
ผมใช้ 4d plus 178 แรงม้า ขับขึ้นอำเภอเวียงแหงทางชันมาก เป็นบางช่วง เจ้าตั้นผมมีอาการเกียรค้างอยู่ที่เกียร 2 ใช้ AT ก็แล้ว MT ก็แล้ว มันกระด้างไปเชยๆเลยครับวิ่งได้แค่เกียร 2 ตกใจมาก แต่พอขับทางลาดชันน้อยๆ ซัก 3-4 นาที่ ก็ใช้ได้ปกติ จนถึงปัจจุบันนี้ เลยยังไม่ได้ถามช่างที่ศูนย์ ขอรบกวนน้าๆที่มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์รุ่นนี้ช่วยชี้แนะหน่อยครับ:139::128:
รอบเครื่องอาจจะไม่เหมาะกับความเร็วที่ใช้มันจะมีอาการกระด้างหรือถือๆ ครับ
เกียร์ออโตใช่ม่ะ น้ำมันเกียร์เกิดอาการร้อนครับอุณภูมิมันสูงบางที่เล่นกันหนักไฟน้ำมันเกียร์จะโชว์ครับ ต้องค่อยกดเลี้ยงแป้นแร่งมันหน่อยอย่าใช้แต่กำลังเครื่อง เขาขึ้นแล้วเดี๋ยวมันก็ลง เวลาโดนรถคันอื่นไล่เราต้องปล่อยเค้าแซงไปครับ ออโตต้องรู้ใจมันนิดๆ
แล้วเจ้าตัว178ม้านี้ก็แปลกไม่มีออยคูลฯติดตั้งมาให้ซะด้วยมั้ง
น้า ผมก็เข้าเวียงแหงบ่อย ขับสนุกดีครับ แต่ของผมเกียร์ ธรรมดา สบาย ๆ
อาการอย่างที่น้าว่าง ยังไม่เคยเกิดครับ หายไว ๆ นะครับ
เอ ของผมไม่ไม่เคยเป็นหว่า ที่ขึ้นมา ก็ป่าเขาเลยละ แค่ใช้ให้เหมาะสมกับสภาพทาง อลย่างในรูป ลงเขาใช้ l ขึ้นเขา ใช้ 2 โอเวอไดรฟ์ไม่เล่น พลัส 08 สปอตโทรนิคกะไม่มี
ขอบคุณน้าๆมากครับ อย่างนี้ถือว่าปกติหรือเปล่าครับ เพราะตอนขากลับจากเวียงแหงมาเชียงใหม่มไมอาการดังเดิมอีก จนถึงปัจจุบันนี้ก็ใช้งานได้ดี กะว่าไว้เข้าศูนย์ตอนเช็ค 5000 กม คอยถามช่าง(แสงชัยเชียงใหม่)น่าจะไม่มีปัญหานะครับ
ตามน้า เลยครับ ผม 4at VG ใช้ 1 กับ 2 ตอนไปอุ้มผาง จังหวัดตาก ไม่มีค้างครับอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ CONMAN
น่าจะอย่างน้าohm 4door และน้าcoppy 42 ว่าครับเพราะผมเพิ่งจะขับออโต้มือใหม่เลยอัดซะ เคยขับแต่เกียร์ธรรดาน่าจะ น่าจะ ขอบคุณน้าๆที่ช่วยแนะนำครับอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ ohm4door
ไม่เป็นไรหรอกน้ามันเป็นการสั่งการจากกล่องครับ ตอนขับขึ้นน้าคงเหยียบคันเร่งลึก กล่องมันจะเอาไปคำนวน + กับภาระโหลดแล้วสั่งการทำงานของเกียร์อีกที ขอเดาต่ออีกหน่อย
ไม่รู้น้าได้ลองสังเกตุหรือเปล่า เวลาลงเขาถ้าน้าปล่อยคันเร่งลง ช่วงแรกรถมันจะไหลไปค่อนข้างเร็วจากนั้นกล่องมันจะสั่งการใช้เชียนเกียร์ลงเอง(ห้ามเหยียบคันเร่งนะแต่ให้คอยแตะเบรกรักษาความเร็ว)แต่ไทรทันจะสั่งการช้าหน่อย ถ้าใครเคยขับ Lancer At ส่วนใหญ่จะรู้ครับ
มันไม่เหมือนเลยซิครับน้าJoe Ry เจ้าตั่นA/T4WDผม มันชะลอเบรคจะถึงไฟแดง(ทางเรียบในเมือง)เกียร์มันดาล์วลง(ที่เกียร์D)ไม่กระตุกชัดเจนที่ละเกียร์ลงจนรู้สึกได้เหมือนLancer AtตัวCK-2เลยนะ
แบบอาการของเจ้าของกระทู้ผมเจอมาทุกแทบครั้งที่อัดหนักขึ้นเขาที่จะต้องเจอทางชันมากๆและยาวแล้วเจอหักศอกเลี้ยวช่วงนี้จะเรียกว่ามันคำนวนรอบไม่ทันแรงเฉี่อยไม่พอรอบเกียร์ตามไม่ทัน (มีวืดครับ) วิธีแก้ของผมคือถึงสันเขาแล้วชะลอหยุด+ออกตัวต่อไปด้วยเกียร์เริ่มต้นใหม่เหมือนเจ้าของกระทู้แจ้งมา(หมดทางลาดชัน)นั่นละ
ของผม plus vg a/t ปี2012 เกียร์ sportronic เพิ่งไปลองขับขึ้นภูทับเบิก เจออาการเหมือนกันคือ ช่วงขึ้นเขาช่วงแรกๆ ก็เปลี่ยนเกียร์ไปมา 2 กับ 3 เพราะบางช่วงมันเหมือนจะลากเกียร์ถ้าใส่เกียร์ 2 เลยจะตบขึ้น 3 แทน แต่พอขับไปถึงช่วงกลางๆ มันก็ค้างที่เกียร์ 2 อย่างเดียว ตบขึ้น 3 ไม่ได้ ก็เลยพยายามลากไปเรื่อยๆ ตบกลับมา D ก็ยังรู้สึกว่ามันค้าง เลบขับทั้งอย่างนั้นจนถึงทางราบๆ ช่วงทางแยกขึ้นทับเบิกกับไปภูหินร่องกล้า มันก็ค่อยเปลี่ยนเกียร์ได้ครับ เลยไม่รู้ว่าตกลงมันปกติหรือเปล่า เพราะช่วงแรกยังเปลี่ยนได้ ขับตามวีออส วีโก้ได้ทัน แต่พอเกียร์ค้างเลยต้องปล่อยเขาไป เราก็ค่อยๆ ตามไปห่างๆ แทน
น่ากลัวอ่ะ ใช้รุ่นเดียวกัน จะเจอแบบนี้ไหมเนี๊ย วอนผู้รู้ช่วยตอบหน่อยว่าเกิดจากอะไร
เป็นเหมือนกันเลยครับน้า ของผม VG 178 ม้า ขึ้นดอยอินทนนท์มาเมื่อก่อนปีใหม่ ค้างที่เกียร์สอง แต่ไม่มีไฟอะไรขึ้นเตือนเลยนะครับ ไม่ว่าจะเปลี่ยนเป็น sportronic หรือว่า auto ก็ไม่หาย ผมเลยจอดข้างทาง ดับเครื่องประมาณ 2 นาที สตาร์ทเครื่องใหม่ ก็ขับได้เหมือนเดิมปกติ ลงมาก็เข้าศูนย์ที่แสงชัยตรงแยกรวมโชค ช่างเค้าบอกว่าเจอเป็นคันที่สอง สาเหตุไม่ทราบ แต่เค้าก็ learning เกียร์ให้เห็นบอกว่าเป็น version ใหม่ จนถึงตอนนี้ก็ขับได้ปกติดี ไม่มีปัญหาครับ
รถออกเมื่อเดือนสิบเอ็ดทางศูนย์เค้าจะ learning ให้เราหรือเปล่าครับ แล้วจะมีโอกาศเป็นไหมครับอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ saritkaj
เคยเเต่อ่านของน้าๆส่วนตัวยังไม่เคยลองขึ้นเขาขึ้นดอยกับเค้าซักที ของผมเป็นเเบบนี้ครับ หลังจากขับใช้งานมาปกติเเล้วมาจอดทิ้งไว้จนปิดร้านเสร็จ(จนเครื่องเย็นนั่นเเหละ)เเล้วพอจะขยับรถไปเก็บในซอยอีกที่หนึ่งระยะทางน่าจะประมาณซัก500เมตร ตอนขับเข้าในซอยตอนดึกๆผมก็จะขับเเบบคลานเข้าไปเพราะซอยมันเเคบเเละมีหลุมคิดว่าเสียงเครื่องเรามันดังเคยใส่ D มันเหมือนไม่ยอมเปลี่ยนเป็นเกียร์2คือเหมือนมันลากรอบอยู่อาจเป็นเพราะเราขับช้ารอบมันยังไม่ถึง ก็เลยลองใส่เเบบsportronic ได้ผลครับเสียงเครื่องไม่ลากมาก ออกตัว1พอกดไปซักหน่อยรอบเครื่องได้เราก็เปลี่ยนเป็น2ไม่เคยเกินไปถึง3 ในขณะนั้นถ้าตรงไหนมีหลุมเราก็เบรคสังเกตุเกียร์ก็จะลงมาที่1เหมือนเดิมเราก็ขับเเบบเดิมไปจนถึงที่จอด เเต่มีอยู่วันนึงผมก็ขับเเบบเดิมเข้าซอยจะเอารถไปเก็บ เเต่ระหว่างทางมีรถสวนมาก็เลยเบรคจนรถหยุดรอรถผ่านไปเเล้วเราก็กดคันเร่งออกตัว เเต่ที่ผิดปกติก็คือรถไม่มีเเรงซึ่งเราเคยเร่งเเค่นี้รถก็ออกตัวได้เเล้ว เลยมองไปที่หน้าปัดใช่เเล้วครับ เกียร์ยังอยู่ที่เกียร์2อยู่ที้งที่รถหยุดอยู่ ก็เลยเปลี่ยนมาที่เกียร์1ก็ออกตัวได้ปกติ ไม่ทราบว่าอย่างนี้เกียร์มีปัญหาหรือป่าวครับ หรือว่าผมยังไม่ชินกับเกียร์ระบบนี้
ลองเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมในเวบ ปาเจโร่คลับ บ้างก็ดีครับ ผมอ่าน อาการนี้ในคลับปาเจโณ่ก็เจอกันบ่อยมาก เพราะเครื่องพลัสกับปาเจใช้ตัวเดียวกัน:97 2:
At 178 vg 4d ของผมขึ้นทางชันๆก็เป็นครับ แต่ไม่ทุกครั้ง ผมว่าน่าจะปกติ มันแล้วแต่น้ำหนักบรรทุก ความเร็ว รอบเครื่อง ความชัน พอเราขับทางปกติสักพักก็อาการหายเป็นปกติครับ นี่ผมเพิ่งกลับจากขับรถท่องเที่ยวเมื่อคืนครับ ไปสุรินทร์ อุดร บึงกาฬ ปากคาด โพนพิสัย เลาะถนนเลียบน้ำโขงไปถึง หนองคาย ท่าบ่อ แล้วก็เลาะน้ำโขงไปจนถึง เชียงคาน จ.เลย แล้วก็ขึ้นภูเรือ ลงมาเพชรบูรณ์ ภูทับเบิก ภูหินร่องกล้า ภูลมโล ทั้งหมดนี้ตั้งแต่อุดรใช้ทางชนบทตลอดทางครับลง ดินตลอด ยิ่งภูหินร่องกล้าเข้าไปลึกๆทางภูลมโลนี่โหดใช้ได้ครับ แต่ก็สนุกมากครับ แค่ขับสองก็มันส์แล้วครับ
คัดลอกมาจากคลับพี่ปาครับ:
ทำไม เกียร์เหมือนทำงานไม่ตรงความต้องการ เหมือนเกียร์ค้าง ในบางครั้ง ?
จากระบบเกียร์ IGS ( intelligent gear system ) ที่เราเรียกกันเสมอๆนั้น มีการออกแบบที่มีเงื่อนไขซับซ้อนอยู่พอสมควร ซึ่งในแต่ละเงื่อนไขนั้นเป็นการออกแบบการทำงานของระบบให้สอดคล้องกับประเภทรถ ประเภทการใช้งาน และประเภทการดูแลรักษา รวมถึงความนุ่มนวลในการทำงาน
ในเกียรของปาเจโร่ สปอต รุ่นที่เป็นระบบออโตเมติก นั้นออกแบบมาสำหรับการใช้งานทั่วไป เน้นการตอบสนองที่นุ่มนวล ไม่มีแรงกระตุกหรือกระชากระหว่างการเปลี่ยนเกียร์ สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเมื่ออุณหภูมิน้ำมันเกียร์สูงพร้อมใช้งาน โดยจะมีแรงดันจากน้ำมันกียรมาช่วยให้ระบบทำงานได้ดีขึ้น แรงดันและอุณหภูมิของน้ำมันเกียร์ในรุ่นที่ไม่มี oil gear ให้สังเกตุจาก engine temp หรือ water temp (ค่าที่เหมาะสมคือช่วงประมาณ 185-205 องศา F หรือประมาณ 83-96 องศา C ) สำหรับเครื่อง 4D56 Ti และทนแรงบิดสูงสุดใช้งานได้มากกว่า 600 Nm ในรอบใช้งานปกติ
แต่จากการทดสอบและใช้งานจริง จะมีตัวแปรเรื่องความเสื่อมสภาพของเครื่องยนต์ คุณภาพของน้ำมันหล่อลื่น น้ำหนักบรรทุก จากดูแลรักษา ความร้อนสะสม การตกแต่งสมถนะเครื่องยนต์มาเป็นตัวแปรร่วมด้วยมากมาย หากจะปรับแต่งกล่องอะไรก็แล้วแต่ ให้ระวังเรื่องผลจากกาปรับแต่งให้มาก ว่าวางเป้าหมายไว้ที่อะไรและคาดหวังอะไรในการปรับแต่ง และหากต้องการปรับจริงแนะนำให้ปรับแต่งจากแรงบิดเดิมในรุ่นดังเดิม (140แรงม้า)หรือรุ่น Turbo ธรรมดา ไม่เกิน 70% และในรุ่นที่ปรับแต่งเครื่องยนต์มาจากโรงงาน(178แรงม้า) ไม่เกิน 35 % ทั้งนี้ให้ระวังเรื่องแรงบิดในรอบต่ำไม่ควรเกิน 520-580 Nm ในช่วงรอบไม่เกิน 1400 - 2100 rpm และระวังเรื่องการออกรถด้วยแรงบิดสูงๆในรอบต่ำบ่อยๆจะสร้างความเสียหายให้กับระบบเกียร์อย่างมาก
คราวนี้มาเข้าปัญหาเรื่องการใช้งานเกียร์ในเงื่อนไขของการทำงานของเครื่องยนต์ที่มีความแตกต่างจากการใช้งานปกติ ในสภาวะต่างๆ
1. เมื่อความกดอากาศมีการเปลี่ยนแปลง อุณหภูมิอากาศมีการเปลี่ยนแปลง การทำงานของเกียร์กับความสัมพันธ์ของรอบเครื่องอาจมีความผิดปกติอันเนื่องมาจาก ตัวแปรภายนอก บ้างแต่อาจไม่มากนัก วิ่งสักพักจนเครื่องร้อน อาการจะดีขึ้น
2. การใช้รถบนทางลาดชัน ด้วยเกียร์ D โดยการขับด้วยรอบเครื่องที่ต่ำและเพิ่มความเร็วคันเร่งในขณะที่รถอยู่ในลักษณะการฉุดลากเครื่องยนต์ หรือน้ำหนักบรรทุกเยอะหรือกำลังไต่ทางชันที่มีระยะทางยาว จนมีผลทำให้ในหนึ่งช่วงเวลาอัตราตอบสนองของเกียร์และรอบเครื่องห่างกันมาก ระบบจะรู้ทันทีว่าขณะนี้รถกำลังอยู่ในสภาวะต้องการแรงฉุดลากจึงคงเกียร์นั้นไว้ แต่หากเราไปเพิ่มความเร็วด้วยการกดคันเร่ง ระบบจะพยายามเร่งเครื่องเพื่อเปลี่ยน step gear แต่ด้วยเงื่อนไขนั้นคงอยู่ระบบ gear จึงยังไม่เปลี่ยน บางทีถึงกับเอ๋อ งง ไปเลยก็มี ผลคือมีการตอบสนองแต่รอบเครื่องแต่เครื่องเร่งไม่ไป แต่หากวิ่งมาด้วยรอบเครื่องที่สูงกว่าพอประมาณและนิ่งจะได้ความสัมพันธ์ของเกียร์กับแรงฉุดลากในรอบต่ำขณะเข้าเกียร์ D ได้การตอบสนองที่ดีกว่า แต่ความจริงจะเป็นเช่นนั้นหรือป่าว ต้องอยู่ที่จังหวะและโอกาศเท่านั้น ( วิธีแก้ไข : หากพบอาการนี้ ให้เปลี่ยน Gear มาที่ select mode แล้วลดลง 1 step เครื่องจะกลับมามีแรงทรงตัวขับเคลื่อยขึ้นไปได้ ด้วยการคงที่รอบเครื่องไว้ จาพ้นทางลาดชันนั้น)
3. หลังจาก ผ่านอุปสรรคในข้อ 2 แล้วลงมาบนพื้นราบหรือแนวระนาบ หากพบหรือมีอาการเกียร์ค้างไม่ยอมเปลี่ยน อย่าเพิ่งตกใจ เพราะเครื่องยนต์จะไม่รู้ว่าคุณยังต้องการสภาวะฉุดลากอยู่หรือป่าว ให้ทำดังนี้
a. ขับไปปกติแบบนั้นแหละ ใช้รอบเครื่องปกติ วิ่งด้วยระยะทางยาวสักนิด เดี๋ยวระบบจะคืนกลับมาเอง
b. ขับด้วยรอบเครื่องนิ่งๆไปสักพัก อย่าเร่งมาก ระบบจะกลับสู่สภาวะปกติ
c. หรือจอดรถเข้าเกียร์ N ปล่อยเดินเบาสักพัก ค่อยเข้า Gear D ออกตัวไป
d. หรือจอดรถดับเครื่อง สักพักแล้วค่อย start ใช้งานใหม่
ขอบคุณครับ...
น่าจะได้นะครับน้า ของผมออกมาเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้วเค้ายังทำให้เลยครับ ที่สำคัญฟรีครับ :dอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ peewad