คันเร่งไฟฟ้าทำงานช้าคับ

ทำไงดีคับเป็นตั้งแต่ซื้อแล้ว เวลาเร่งต้องรอซักพักประมาณ1วินาที เวลาถอนคันเร่งแล้วมันไม่ยอมถอนตามต้องรอเหมือนกัน ทำไงดีคับขอวิธีแก้ไขด้วย รถผมเป็น4ประตูขับสองคับ ขอบคุณคับ:kapook-17351-2909:

ผมก็เป็นครับ ลองเหยียบให้รอบถึง 2000 ก่อนแล้วค่อยยกคันเร่งดูครับ
เวลาขับจะต้องรักษารอบเครื่องไว้ ลองวิธีนี้ดูครับ

ผมก็เป็นครับ
แต่เฉพาะกดลึก ๆ เร็ว ๆ เท่านั้นนะครับ
ถ้าขับปกติ มันก็ไม่ต้องรออะไร

หรือว่ารถผมผิดปรกติ พอดีที่บ้านใช้รถ2คันมีฟอร์ด 3.0อีกคันแต่ฟอร์ดกดปุ้บมาเลยไม่ต้องรอเลย ผมเลยอยากหาวิธีแก้ไม่ให้มันหน่วงอะคับ:kapook-17342-8336:ทำไงดี

รถผมก็เป็นแบบคุณแม่ฮ่องสอนครับ

อารมณ์เดียวกัน

ถ้าไม่อยากให้มันหน่วงก็ไปหา Boost Speed มาใส่สักตัว

อาการดังกล่าวจะหายไป

โดยส่วนตัวแล้ว ถ้าขับจนคุ้นรถ มันก็ไม่จำเป็นแต่อย่างใด

ถ้ารอบมาถึงรอบกำลัง กดปุ๊บ มันก็มาปั๊ป เหมือนกัน

เช่นถ้าเรากำลังจะแซง ให้ลดเกียร์ลง 1 สเตป (ทั้งธรรมดาและออโต้)

จนรอบมันมารอมากกว่า 2000 รตน. เมื่อนั้นกดยังไง ก็มาครับ

อาจดูเหมือนคันเร่งรถเรา มันดูหน่วงๆ มันไม่ได้เป็นที่คันเร่งหรอกครับ

ส่วนนึงมาจาก ระบบเทอร์โบของเราด้วย ที่บูสต์มันค่อนข้างมาช้า

ไม่ได้เหมือนระบบแปรผัน ที่กดเป็นมา

รู้สึกว่า ถ้าจำไม่ผิด รถผม 140 แรงม้า

แต่ถ้ารอบอยู่ประมาณ 1400-1600 รตน.

ม้ามันมาแค่ 60-70 ตัวเองครับ

แรงบิดก็ยังไม่ถึงเท่าไร เพราะบูสต์ยังมาไม่เต็ม ประมาณนี้

ถ้ารู้รถ ก็จะขับสนุกครับ

อาการที่เราเป็น ส่วนตัว ผมเรียกว่า Turbo Lag มากกว่าครับ

สังเกตุดูว่า ถ้าออกรถปกติ เรื่อยๆตอนออกจากไฟแดง เราก็ออกได้ไว

มอไซค์ไล่ไม่ทันหรอกครับ (แสดงว่า คันเร่งมันไม่ได้ช้ามากมายอะไร)

ถ้าอยากออกล้อฟรีหมด สำหรับออโต้

ก็เข้าเกียร์ 2 เหยียบเบรคจม

กดคันเร่งให้ถึง 1800 รตน. แล้วปล่อยเบรค

จะได้รู้ครับว่า ออกฟรีจนท้ายดิ้นได้ ไม่ต้องโม้

ปัจจุบันนี้ การ "รอ" เป็นสิ่งที่ทำได้ยากมากขึ้นนะครับ

Internet ต้องเร็ว ขี้เกียจ "รอ"
"รอ" สายโทรศัพท์ ก็ต้องมีเพลงฟัง

จริง ๆ แล้วมันก็ไม่ได้ต้องรออะไรนานนะครับ
แค่ไม่เกิน 1 - 2 วินาที
มันน้อยมาก ๆ เลย

แล้วเราก็ไม่ได้ใช้มันบ่อย ๆ หรอกครับ

อาการของเทอร์โบ ที่บูสช้าครับ ทำให้ช่วงรอบที่เทอร์โบยังไม่บูศ อัตราเร่งก็จะไม่พุ่งตามเสมือนรถที่ เป็นระบบ N/A แต่อาจจะแย่กว่านั้นเพราะการระบายไอเสีบส่วนหนึงต้องถูกนำไปปั่นที่แกน เทอร์โบด้วย เพื่อให้ เทอร์โบบูสตามที่รวบกำนหดนะครับ

แนวทางการแก้ไข

1 อาจจะต้องปรับการเปลี่ยนเกียร์ให้สัมพันธ์กับรอบเครื่องในขณะนั้นๆ
เพื่อลดอาการรอรอบของเครื่องยนต์ ( ในกรณีเกียร์ธรรมดา )
2 อาจจะต้องปรับปรุงเรื่องของ โข่งท้ายเทอร์โบ ( ในกรณีนี้ มันมาจากโรงงาน เขาคำนวนดีอยู่แล้วว่าเหมาะสมกับเทอร์โบ นะครับ )
3 เพิ่มกล่องพ่วงเข้าไป ไม่ว่าจะ กล่อง Mega , Peek , ECU Shop หรือแม้แต่กล่อง จูนจาก ญี่ปุ่น ตระกูล F-Con v Pro , หรือจาก ออสเตเรีย คือ EMS , Wolf นะครับ

ส่วนที่ง่ายและประหยัดที่สุดคือ การยอมรับในตัวรถของเราว่ามันได้เท่านี้ ถ้ามีความต้องการมากกว่านี้ ควรมองหา Spec ใหม่ หรือ อุปกรณ์มาเสริมข้อด้อย ตรงจุดนี้นะครับ

เห็นด้วยครับ ว่า turbo lag
ตอนหลังๆต้องเผื่อรอบนิดนึงตอนเปลี่ยนเกียร์ ให้เปลี่ยนแล้วรอบตกมาใกล้ๆช่วงบูสต์พอดี
แค่นี้ก็ปรี๊ดๆล่ะ

ของผมก็เป็นขึ้นช้า ลงช้า

ขับให้อยู่ในช่วงกำลัง (2000-4000 รตน) จะได้อัตราเร่งที่ดีตลอดเวลา

ขับอยู่ในช่วงแรงบิด 80-100% (1700-2000 รตน) จะได้ความประหยัดเชื้อเพลิง

ถ้าขับน้อยกว่านี้ แรงบิดมาไม่ถึง รถไม่แรง กินน้ำมันมากด้ววยครับ แนะนำเท่านี้

ดูจากอาการ รถคุณน่าจะเกียร์ธรรมดานะ ทำท่อสิครับ มาอีกนิดหน่อย

ปกติคันเร่งไฟฟ้าecmจะทำการหน่วงการทำงานให้ช้ากว่าความเป็นจริงในจังหวะเริ่มต้นเสมอ เพื่อรักษาสภาพเครื่องยนต์ไม่ให้ใช้เชื้อเพลิงสิ้นเปลืองมากไปและเพื่อลดความสึกหรอของชิ้นส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องกับแรงบิดขณะนั้นซึ่งกระชากตัวอย่างรุนแรง ดังนั้นหากปัญหาที่ท่านว่าเป็นความจริงที่เกิดกับคันเร่งไฟฟ้าไม่ใช่อย่างอื่นและที่สำคัญไม่ใช่ความรู้สึก ก็สามารถปรับการทำงานให้มาไวกระฉับกระเฉงได้นิดหน่อยครับ แจ้งศูนย์ตอน Reset กล่องก็ได้ครับ
แต่ถ้าเป็นความรู้สึกที่ท่านสัมผัสได้ขณะใช้รถท่าน อันนี้เป็นกรณีเฉพาะตัวทางแก้ที่เหมาะสม คงเหมือนที่สมาชิคท่านอื่นๆแนะนำไปหล่ะครับ หากล่องพ่วงspeed Bosterมาใช้แล้วปรับให้เข้ากับการขับของท่านได้เลยครับ
แต่ฝากข้อคิดการใช้กล่องspeed Boster นิดนึงนะครับโดยเฉพาะเกียร์ออโต้ด้วย ทุกครั้งที่ปรับให้คันเร่งมายเร็วขึ้นเท่าไหร่ กล่องecmจะเข้าใจว่าท่านกดลึกและเร็วมากใน1หน่วยเวลา นั่นแสดงว่าท่านต้องการกำลังมากและยาวนาน กล่องจะทำการจัดโปรแกรมสนองตอบการทำงานที่รับรู้ได้นั้นทั้งในเรื่องการฉีดน้ำมันและการหน่วงรอบเครื่องให้นานขึ้นเพื่อเปลี่ยนเกียร์ ผลที่ได้ก็คือการกินน้ำมันมากกว่าใช้งานปกติที่ไม่ได้ติด Speed Boster นิดนึงละครับ สำหรับเกียร์ธรรมดาไม่แตกต่างครับ

ของมิตซู ไม่แน่ใจว่าสามารถปรับได้มั้ยครับ

แต่ของนาวาร่า สามารถปรับได้ครับ แต่การปรับพวกนี้มีผลข้างเคียงดังนี้ครับ

1.รอบจะค้างนาน กว่าจะลง

2.การกินน้ำมันมากขึ้นไม่ว่าเกียร์ธรรมดาหรือออโต้

3.รอบเดินเบาจะสูงกว่าปกติ

ในความรู้สึกส่วนตัว มันหน่วงจริง แต่ไม่นานครับ

คุณลองไปขับเบนซ์ C180 รุ่นแรกดูสิ

อันนั้นน่ะ ของแท้ กดแล้วรอ นานพอตัว จนมันนึกได้ว่าจะต้องไปถึงทะยานออกไปครับ

ของเราน่ะ ไวมากแล้ว ลองเร่งเครื่องอยู่กะที่ดูสิครับ ว่าต้องรออะไรมั้ย

สิ่งที่ต้องรอ ก็คือรอบนิดหน่อยด้วยระบบควบคุมแรงบิด รถใหม่ๆมีมาหมดแล้วครับ

แต่ของเรารอนานตอนเร่งจากโบ ที่ยังไม่บูสท์เป็นตัวประกอบอีกตัวนึงด้วย

อย่างที่คุณ Pord กล่าวถึงนั้นคือหลักการคำนวณ นิดหน่อย ถูกต้องครับ

แต่ ECU สมัยใหม่ 32 บิท แล้ว ประมวลผลได้รวดเร็วกว่าแต่ก่อนครับ

ไม่ได้ช้ามากมายครับ คนติดตัวปรับลิ้นเร่งแล้วดี

แต่อย่าลืมเรื่องผลข้างเคียงนะครับ

คันเร่งไฟฟ้าแต่หนักตังครับ ใช้แบบสาย ยังเบากว่าซะงั้น
ผมขับใหม่ๆ ตอนผ่อนคันเร่ง รถเหมือนยังไปเหมือนเดิม แต่ตอนนี้ไม่รู้สึกแล้วครับ

ของผมไม่มีอาการค้างตอนปล่อย แต่จะช้าตอนกดเร่งนี่แหละ มันตอบสองช้าตอนกดเร่งครับ แล้วกว่าโบจะมาก็ต้อง 2000 รอบ บางทีต้องเชนจ์เกียร์ลงมาก่อนแซง อยากให้โบเรียกได้ตั้งแต่ซัก 1500 คงจะดี แซงง่ายขึ้น

บูสท์ ทีมานะครับ

1. 1000 รตน 1 ปอนด์

2. 1200 รตน 2 ปอนด์

3. 1500 รตน 4 ปอนด์

4. 1600 รตน 7 ปอนด์

5. 1800 รตน 13 ปอนด์

6. 2000 รตน เกือบ 15 ปอนด์

และมันจะฟาดไป 15 ปอนด์ เวลาเร่งเต็มที่ และตกลง เหลือ 14 นิดๆ

เมื่ออยู่เกียร์สุดท้าย สังเกตุดูว่า มันเริ่มติดที่ 1600 รตน ครับ

เวลาขับให้ประหยัด เร่งไปให้ถึง 110 กม.ชม. และยกคันเร่ง คลึงให้เหลือบูสท์ 4-7 ปอนด์

เครื่องจะไม่ต้องออกแรงมาก ได้ความประหยัดด้วยครับ แนะนำให้ฟังครับ

มีวิธีจูน ให้โบมาเร็วมั้ยครับ ไม่ต้องการขับเร็วหรอก อยากให้่งแซงได้ไวขี้น ปลอดภัยขึ้นเท่านั้นครับ

ต้องจูน ตูดเทอร์โบใหม่ ให้อากาศเข้าได้รวดเร็วขึ้น (โข่งหลังเล็ก)

แต่ พอหมดรอบเทอร์โบแล้ว มันคือตัวภาระเลยนะครับ

อั้นด้วย เปลืองน้ำมันด้วย ถ้าปรับบูสท์ เกิน 20 ปอนด์

ก็เสี่ยงเรื่องแกนเทอร์โบขาดอีก

ถ้าเอาแบบไม่อยากเสียตัง ก็ เปลี่ยนเกียร์ในรอบกำลัง เท่านั้นเองครับ