จริงหรือครับ:kapook-17327-8367:
Printable View
จริงหรือครับ:kapook-17327-8367:
ไม่รู้เหมือนกันนะครับ ใช้มาตลอด 35,000 โลแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรอ่ะ ผมแค่เก็บใบเสร็จไว้อย่างเดียว เผื่อเป็นอะไรก็ไปร้องเรียนกับปั๊มที่รับผิดชอบเอาอะครับ มี 2 ยี่ห้อปั๊มแระ
อย่าไปโทษน้ำมันเลยครับ
ก็เห็นอยู่ว่า เติม วี ยังเปนเลย
ทางที่ดี อะไรก็เติมได้ครับ ในสายพันธุ์ ดีเซล
แนะนำ ถ้าวิ่งในเมือง ให้เติม บี 5 ครับ (วันนี้ราคา 20.74)
ถ้าวิ่งนอกเมือง ให้ใช้ดีเซลธรรมดา (วันนี้ ราคา 22.24)
ต่างจังหวัด วิ่งยาว ดีเซลธรรมดา ให้ความประหยัดกว่าครับ
ผมก็เติมแหลกมั่วไปหมดทั้D100/B5ไม่รู้ว่าถ้าเป็นจะไปโทษจ้าวไหนแต่ผมเลือกแต่ปั้มใหญ่ๆทันสมัยสอาดๆไว้ก่อนเพราะตู้จ่านน้ำมันมัมแพงหลายล้าน น้ำมันต้องผ่านกรองก่อนเข้าตู้จ่ายพอจะเห็นสภาพของน้ำมันที่ไม่มีเศษสนิมลงมาในถังเรา ส่วนมากก็ ปตท/บางจาก ตอนนี้ยังไม่มีอาการเพราะแค่ 7เกือบ8,000โลแล้วรถ6เดือนครับ อ้อแต่ไม่เติมของV-ver.ๆ.นะมันอำพลางก็มันเป็นB-2
sale ใช้รถยี่ห้ออะไรครับ
ผมวิ่งมา 100,000 กว่าโลแล้ว ไม่เห็นเป็นไรเลย
ผมลองแล้ว มันอืดๆ บอกไม่ถูก เครื่องมันดังกว่าเดิม นะ รู้สึกไปเองป่าว ก็ไม่รู้ แต่พอกลับมาใช้ วีพาวเวอร์ วิ่งปล๋อเลย เครื่องก็เงียบเบาลง
แล้วจะยังไงดีหว่า B5 :kapook-17201-6012: D100
โอ กระทู้เก่าแล้ว แต่ตอบด้วย
ผมใช้ บี๕ (ห้ามผวน) หมื่นกว่าโล ประมาณ ๑,๐๐๐ ลิตร แล้ว
ยังไม่พบปัญหาครับ
ว่าแต่ ดีเซลธรรมดา หรือ วี มันก็คือ บี๒ นี่ครับ
เซลล์บางคน ผมว่ารู้น้อยกว่าคนในคลับอีนะครับ
จากน้องใหม่ครับ-แบ่งปันความรู้ครับ!!
อันที่จริงการใช้เชื้อเพลิงเผาไหม้เนี่ย ผมก็เคยถามเซลล์ที่ขายรถให้ ซึ่งผลเหมือนกัน
แต่ก็ไม่หูเบาครับ(เชื่อหู-ไว้หู) เลยถามเพื่อนซี้!!ก็ได้ความว่า การใช้งานน้ำมันประเภท
B5 หรือ ไบโอดีเซล5เปอร์เซ็นต์ นั้นขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้งานรถเราครับผม คือ
ถ้าใช้งานทั้งวันหรือไม่ต่ำกว่า150Km.ต่อวัน หรือว่าจอดต่อเนื่องไม่เกิน48ชม.
เป็นประจำ(ขอย้ำว่าเป็นประจำครับ) ก็จะไม่เกิดผมข้างเคียงใดๆ แต่....!!ถ้าพี่ๆใช้รถ
น้อยมากๆ คือ จอดมากกว่าวิ่งเค้าจะไม่แนะนำครับ เพราะเหตุผลที่ว่า ไขจาก
ไบโอดีเซลล์5เปอร์เซ็นต์นี้จะเกิดการอุดตันที่ชุดหัวฉีดได้ครับ
จากอะไร? จากที่การที่รถจอดนานๆไม่มีการปล่อยเชื้อเพลิงฉีดเข้าห้องเผาไหม้ครับ
ทำให้เกิดการอุดตันที่ชุดหัวฉีดหรือถ้าโชคดีก็อาจจะเจอปัญหาก่อนอาการจะเกิด
ขึ้นรุนแรงครับ(อยู่ที่ประสบการณ์การสังเกตุของแต่ละบุคคล) แต่ปัญหาการใช้งาน
ในรูปแบบนี้ก็จะเกิดปัญหากับระบบอื่นๆอีกเช่น Cat. และ สภาพน้ำมันเครื่อง.ฯลฯครับ
ทั้งนี้หากพี่ใช้งานรถทุกวันก็น่าจะหมดห่วงนะครับผม
ผมก็ใช้ปกติ
พลัส 140 ม้า 4x4 140 ม้า ต่างกันมั้ย มันก็ไม่ต่างเครื่องตัวเดียวกันผม B5 มาตั้งแต่วันแรกที่รับรถจนทุกวันนี้ หนึ่งปี 3 เดือน เก้าหมื่นกว่ากิโล ยังไม่เป็นไรเลยเชลล์สงสัยจะรู้ไม่จริงแล้วล่ะครับ
ผมว่าใช้B5 มีปัญหาที่วิ่งไม่ค่อยออก มันอืด แล้วอีกไม่นาน scv อาจตัน(ขึ้นอยู่กับการใช้งาน) ของผมใช้ดีเซลธรรมดาตันตอน 70000 โล (อีกไม่นาน น้ำมันดีเซลทุกยี่ห้ออาจเปลี่ยนเป็น B5 )
โดยส่วนตัวคิดว่า บีห้า มีผลกับแคตครับ
เพราะรถผมแค่ 15000 โล แคตมีเขม่าสะสมมาก
แต่หลังจากถอดแคตออกแล้ว ปรากฏว่า บี 5 ควันเหม็นน้อยกว่าดีเซลครับ
น้องใหม่ขอแสดงความคิดเห็นเรื่องb5หน่อยคับจากที่ใช้งานมาตลอด2 ปี 50,000 กว่าโลเกือบ60,000โล ของผม4ประตูสีดำเดิมๆ อยู่3 จชต.กลับบ้านที่หัวหินเดือนละ 1 ครั้ง อยู่หัวหิน 10 วัน ใช้งานทุกวันแล้วว่าจะไปใกล้ไกลแค่ไหน การใช้น้ำมัน ใช้ทั้งธรรดาและ B5
(รวมทั้งน้ำมันหลวงด้วย) ยังไม่เคยมีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น (เข้าเช็คศูนย์ตามระยะกิโล/b5 เติมของ ปตท.เท่านั้น ) ความเร็วที่ใช้ระหว่างกลับไปหัวหินและหัวหินกลับมา 3 จชต. ประมาณ 130-140 กม./ชม. เป็นความเร็วมาตรฐาน ระยะทางประมาณ 900 กิโล/1 เที่ยว (ไป-กลับ 1800 กิโล ) ความเร็ว-การเร่งแซง เป็นปกติ(แซงที่เกียร์5ไม่เปลี่ยนเกียร์ที่ความเร็ว100 ขึ้นไปไม่มีลุ้น/แซงได้ตามใจสั่ง) เมื่อกลับมาถึง3 จชต. จะจอดนิ่งไม่มีการเคลื่อนไหว เป็นเวลา 1 เดือน (ติดเครื่องบ้างเป็นบางครั้ง) สลับยาง/ตั้งศูนย์ 1 ครั้ง ที่ระยะ 20,000 โล หวังว่าคงจะทำให้หลายท่านที่สงสัยคลายความกังวลได้บ้างไม่มากก็น้อยนะคับ
ถ้าได้วิ่งไกล ๆ จะลองเติม B5 - Plus ใส่ Triton Plus ดูซิว่า Plus 2 ตัวนี้ไปด้วยกันได้หรือเปล่า.....
เติมบ่อยครับทั้ง B5,b5 Plus,desel สลับกันบ้าง
แต่ส่วนใหญ่ใช้ประจำคือ B5 ถูกดีประหยัดด้วย
31000 แล้วครับ ใช้ดีเครื่องไม่มีตก ปรกติดีทุกอย่าง