อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ Modelist
จะให้ประหยัดกว่าน้าให้ได้....ขอสัญญา..:i38::i38:
ตอนเย็นจะไปเอาล้อหลังออกล้อนึง..จะได้ประหยัดกว่าน้านัท...:smiley-transport005:smiley-transport005 (สู้ไม่ได้ก็ให้มันรู้ไป)
Printable View
อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ Modelist
จะให้ประหยัดกว่าน้าให้ได้....ขอสัญญา..:i38::i38:
ตอนเย็นจะไปเอาล้อหลังออกล้อนึง..จะได้ประหยัดกว่าน้านัท...:smiley-transport005:smiley-transport005 (สู้ไม่ได้ก็ให้มันรู้ไป)
เอามาฝากเพื่อเป็นข้อมูลครับ
http://www.pdftop.com/view/aHR0cDovL...8xNi0xOC5wZGY=
http://www.dieselongas.com/files/Pajero_Report.pdf
http://www.pdftop.com/ebook/diesel+lpg+fumigation/
ลองศึกษากันดูนะเอาไว้เป็นทางเลือก:kapook-17195-8823:
คุณ Gotto ช่างหาข้อมูลมาจริงๆเลย ไม่ค่อยแข็งแรงด้านภาษาซะด้วยนะ นี่ถ้าเอาข้อมูลการพัฒนาของเราไปให้เขาดูบ้างน่าจะดีนะครับ ยิ่งตอนนี้ยกระดับความประหยัดดีเซลในเครื่อง 2500 ไปป้วนเปี้ยนแถวๆ 20 โลลิตรแล้ว รออย่างเดียวครับ กล่อง ECU เสร็จถ้าตามคาดหมายจะได้ความประหยัดเพิ่มขึ้นกว่าเดิมอีก และแรงเพิ่มขึ้นด้วย จะได้ไปขึ้นแท่นเทส อยากมีกร๊าฟแบบเขาบ้างจังอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ Gotto
รออยู่คับ อ.ต้น กล่องICU แรง+ประหยัดอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ TON_GAS
อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ TON_GAS
อีกเสียง สั่นๆ ครับบ อ.ต้น :smiley-eatdrink048:
..เมื่อวานครับ พอดีน้านัทเอางานมาส่งที่ มินีแบ ที่ผมทำงานอยู่ น้านัทได้โทรมาหาบอกว่าเอางานมาส่ง พอดีว่าผมเข้ากะเช้า และก้อพอดีอีกว่า..เพื่อนที่ทำงาน สนใจที่จะติดแก๊สของ อ.ต้น (ผมเล่าให้เพื่อนฟัง ที่น้านัทได้ติดมา) ก้อเลยรบกวนให้น้านัทขับรถเข้ามาด้านใน เพื่อให้เพื่อนได้เห็นและได้คุยกะน้านัท และเพื่อนสนใจที่จะติดครับ
..ฝาก อ.ต้นด้วยนะครับ รถเพื่อนผม อีซูซุ ตัวก่อนคอมมอลเรล 70-30 ติดได้ใช่มั้ยครับ น้านัทให้เบอร์ อ.ต้นไว้แล้ว เดี๋ยวเพื่อนผมคงโทรมาปรึกษาก่อนนะครับ
..ขอขอบคุณน้านัทด้วยนะครับ ที่อุตสาห์โทรมาและเสียเวลากับผม ขอบคุณมากๆครับ :21-7:
ตัวก่อนคอมมอนเรียว ดีเลยครับเท่าที่ทำไปมี 20 โลลิตรให้เห็นครับ (รถส่งของบรรทุก1.5ตัน) ส่วนดีแม็ก 3.0 ออโต้ 4 ประตูอีกคันได้ 23 โลลิตรในเมืองครับอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ mui
ส่วนฟิลลิ่งการขับขี่ ลืมไปเลยว่าเป็นอีซุซุ
อ ต้นครับ งัน อีซูซุ ก็ประหยัดกว่าไทรตันซิครับนี้ แต่จากการศึกษาระบบผมพบว่าระบบของเราเป็นแบบดูดผสม การจะประหยัดน้ำมันก็คือลดการฉีดดีเซล เอาแก๊สเข้าไปชดเชยส่วนที่หายไป ถ้าเป็นรถปั๊มดีเซลธรรมดาทำได้ด้วยการปรับลดระยะชักของลูกสูบปั๊ม อีซูซุคันเก่าผมก็ทำ ประหยัดจริงครับแต่ขึ้นเขาแรงจะตกต้องมาปรับกลับ ส่วนของเราที่เป็นคอมมอลเรล จะปรับการฉีดได้ด้วยกล่องควบคุม ตามที่น้านัทแสดงไว้ไม่ยุ่งยาก ถ้าผิดขอคำชี้แนะด้วยครับ
ตามที่คุณ Goldgear เข้าใจก็ถูกครับ แต่มันมีมากกว่านั้นครับอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ goldgear
ยกตัวอย่างอีซุซุจะเป็นระบบปั้มแบบเก่า มันสามารถทำอัตราการสิ้นเปลืองได้ประมาณ 12-14 โลลิตรได้ก็ถือว่าประหยัดแล้วในสมัยก่อน ซึ่งมันทำได้เท่านี้ด้วยข้อจำกัดหลายอย่าง เช่นประสิทธิภาพในการฉีดน้ำมัน ตามที่เรียนมาจะเป็นละอองฝอย เพราะแรงดันมันไม่มาก แต่พอเป็นคอมมอนเรียวมันฉีดน้ำมันออกไปเป็นไอ หรือเป็นหมอก ดังนั้นโดยพื้นฐานแล้วจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน แต่ทำไมบางคนบอกว่าคอมมอนเรียวไม่ประหยัดเท่าที่ควร ลองขับแบบความเร็วแบบรถรุ่นเก่าดูครับจะรู้ว่ามันประหยัดกว่า เพียงแต่เราได้กำลังที่สูงขึ้นการขับขี่ก็เป็นไปตามแรงที่เพิ่มขึ้นจากเดิม
คราวนี้มาว่าด้วยเรื่องรถรุ่นเก่าสามารถใช้ร่วม LPG ได้ประหยัดกว่าก็ด้วยเหตุผลที่ว่า เราสามารถลดการจ่ายน้ำมันได้ตั้งแต่เริ่มต้นแล้วปรับ Gas ให้เหมาะสม เพียงเท่านี้ก็จะเห็นแล้วว่าน้ำมันถูกลดลงไปเห็นๆด้วยมือเรา ส่วนความแรงไม่ต้องกลัวว่าขึ้นเขาแล้วจะหมดแรง ซึ่งถ้าระบบการนำ LPG มาใช้ร่วมหรือวิธีการปรับจูนอย่างเหมาะสมพอดี มันจะมีมาทั้งกำลัง และความประหยัดเพราะประสิทธิภาพในการจุดระเบิดได้เปลี่ยนไปดีกว่าเดิม
ส่วนเครื่องยนต์คอมมอนเรียวมันถูกสั่งจ่ายน้ำมันดีเซลด้วย ECU ซึ่งประมวลผลมาจากเซ็นเซอร์มากมาย เมื่อใช้ร่วม LPG มันไม่ง่ายอย่างที่คิด และไม่ใช่ว่าจะลดดีเซลด้วยการจูน LPG เข้าทดแทนให้มากตามหลักการทั้งหลายแหล่ ดังนั้นจะต้องเข้าใจและเข้าถึงหลักการของมันให้มาก จึงจะสามารถเอาชนะและอยู่เหนือคำสั่งการจ่ายน้ำมันของ ECU ได้ ยกตัวอย่างง่ายๆครับระบบการฉีดน้ำมันของคอมมอนเรียวปัจจุบันมีจังหวะการฉีดต่อการจุดระเบิดในแต่ละครั้งดังนี้
1.ฉีดนำ 2.ฉีดจริง 3.ฉีดตาม (ไปหาข้อมูลละเอียดอีกทีนะ) ซึ่งเจ้าตัวหลังนี่มันอาจจะมีผลในการฉีดทิ้งฉีดขว้างได้เลย และยังมีการเปลี่ยนองศาการจุดระเบิดเพื่อรักษาเครื่องยนต์ไว้ไม่ให้พังอีกด้วย มันมีน๊อกเซ็นเซอร์ คอยตรวจการผิดปกติของการจุดระเบิด เพียงแค่เสี้ยววินาทีที่เกิดการน๊อกของการจุดระเบิดมันก็จะเปลี่ยนองศาการจุดระเบิดเพื่อลดการเสียหายของเครื่องยนต์
ฉะนั้นไม่ง่ายเลยใช่ไหมครับ เมื่อก่อนผมไม่เคยคิดเลยว่าจะสามารถทำความประหยัดของไทรตั้นได้ถึงระดับเลย 20 กม/ลิตรขึ้นไป แรกๆได้แค่ 13-14 โลลิตรเท่านั้น และต่อมา 15-16 โลลิตรผมคิดว่ามันที่สุดแล้ว แต่ก็ไม่เคยหยุดในการทดลองและค้นหาความเหมาะสมของมัน และปัจจุบันก็รอกล่อง MCU ที่กำลังทำอยู่และหวังว่าเมื่อสำเร็จดังคาดมันจะทำงานได้ตามที่เราโปรแกรมเอาไว้
เพื่อจะได้ความประหยัดและการทำงานที่เข้ากันแบบหาที่ติไม่ได้ครับ (ไม่ได้โม้)
ยืมสมรักษ์มาใช้หน่อย
ถ้ามีน้าๆเิอารถไปติดแก๊สกับ อ.ต้น ตอนนี้ แล้วกล่องตามออกมาภายหลัง อ.ต้นจะอัพเกรดให้ฟรีหรือมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม และประมาณเท่าไรครับอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ ton_gas
สำหรับท่านที่ติดตั้งไปก่อนแล้วก็อัปได้ตามใจชอบครับ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มนิดหน่อย (จิบจิบ) แต่ราคาชุดติดตั้งใหม่พร้อมเทคโนโลยีใหม่ค่อยแจ้งข้อมูลกันอีกทีครับ ให้ทดสอบทดลองเสร็จก่อนครับอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ kimao
รอๆ ครับอ.ต้น ปีหน้าฟ้าใหม่คงได้ใช้น่ะครับ อิอิ...
สนใจอยากจะติดมั่ง กำลังเก็บเิงินครับ:emo012eu7:
สุดยอดเลยครับ
กับการใช้งานจริงกับระบบดูดรุ่นแรกๆเลยครับ ก่อนขับทางไกลไปเขื่อนอุบลรัตน์ใช้ในตัวเมืองนครสววรค์ ระหว่างทางใช้ความเร็วคงที่ต่อเนื่องไม่ค่อยได้ระยะทางไกลนัก เพราะเป็นทางหลวงชนบทเกือบตลอดเส้นทาง และขับผ่านภูเขาพังเหยและภักดีชุมพล จากนครสวรรค์ถึงขอนแก่น ความเร็วผมพยามยามไม่ให้เกิน 110 กม.ต่อชม. ทั้งยังถึงบ้านยังใช้งานขนกระสอบปุ๋ยคอก 19 กระสอบ และขนอิฐอีกจำนวนหนึ่งเป็นระยะทางประมาณ 20 กม. ขับรถไปถ่ายรูปพระใหญ่และเขื่อนอุบลรัตน์ วันเดินทางกลับนครสวรรค์แวะเข้าซื้อของฝากในตัวเมืองขอนแก่น ถึงนครสวรรค์ขับในเมืองนครสวรรค์เอาของฝากให้เพื่อนๆอีก ได้ผลดังนี้ครับ
น้ำมันบีห้า 60.61 ลิตร กับระยะทาง 1134.2 กม. ผลลัพธ์ 18.71 กม.ต่อลิตร
แอลพีจี 36.13 ลิตร กับระยะทาง 983.1 กม. ผลลัพธ์ 27.21 กม.ต่อลิตร
ผลอาจจะยังไม่มากเท่าที่เทคโนโลยีปัจจุบันทำได้ แต่ผมก็ค่อนข้างพอใจครับ เพราะใช้งานรถคันนี้หนักพอได้ แต่หากมีโอกาส เวลาและทรัพย์มากกพอคงต้องรบกวนอ.ต้นในการปรับปรุงระบบอีกครับ
ความประหยัดที่ได้ก็ถือว่าดีแล้วนะครับ สำหรับมีโหลดบรรทุก แต่ระบบที่คุณ Eszo ใช้อยู่มันใช้ตัวจ่ายแก๊สที่เริ่มทำงานที่ประมาณ 1500 รอบ ฉะนั้นช่วงความเร็วรอบต่ำกว่านั้นมันจะไม่ช่วยเรื่องความประหยัด และยังไม่มีระบบปรับสัดส่วนของดีเซลให้เหมาะสมกับปริมาณการจ่ายแก๊ส แต่ถ้าเพิ่มเติมและปรับปรุงระบบให้ดีขึ้นคงใช้ทุนทรัพย์ไม่มากเพราะหลายอย่างมีอยู่แล้ว ผมยินดีที่จะทำให้ จะได้มีระบบความปลอดภัยที่ดีขึ้น แต่อย่าลืมโทรล่วงหน้าด้วยนะครับอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ Eszo
อ.ต้นครับ หากผมจะปรับปรุงระบบดูดให้ประหยัดขึ้นและปลอดภัยมากขึ้น ต้องเสียคชจ.อีกประมาณเท่าไหร่ครับ ตอบทางอีเมล์ผมก็ได้นะครับ เพื่อจะได้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจครับ ขอบคุณครับอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ TON_GAS
ไว้รอรุ่น Top ก่อนดีกว่าครับ มีกล่อง MCU คอนโทรล จ่ายแก๊สโดยใช้รอบเครื่องยนต์กำหนด และยังแบ่งการปรับความเหมาะสมของการจ่ายน้ำมันไว้ 3 ระดับความเร็วรอบเครื่อง 1000-1800 1801-3000 3001-4200 รอบ ซึ่งจะได้ความประหยัดที่เพิ่มจากเดิมและความเร็วปลายที่จะสามารถให้ถึง 185 ได้แบบไม่ยาก (จะกำหนดอีกทีครับเน้นความปลอดภัย) และยังไม่ต้องมีสวิทที่คันเร่งเพื่อคอยตัดแก๊สเหมือนก่อน รับรองเวลาวิ่งลงเขาจะไม่วิ่งแบบไม่คิดชีวิตเหมือนกับระบบอื่นๆครับ ไม่ว่าจะเป็นแบบกล่อง ECU ที่มีในปัจจุบันมักต้องทำสวิทที่คันเร่งเอาไว้เพราะเขาจ่ายแก๊สด้วยรอบเครื่อง พอวิ่งลงทางชันด้วยความเร็ว รอบเครื่องจะสูง ECU มันก็สั่งจ่ายแก๊สตามโปรแกรมที่ทำไว้ ดังนั้นรถมันจะวิ่งแบบไม่คิดชีวิต เขาเลยต้องทำสวิทไว้ตัดระบบแก๊สเมื่อยกคันเร่งครับอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ Eszo
ใจจริงจะเอาเงื่อนไขสำคัญๆมาไว้อีกเช่น ความเร็วรถเกิน 40 กม./ชม.แก๊สค่อยทำงานเพื่อหลีกเลี่ยงการสิ้นเปลืองแบบเปล่าประโยชน์เวลารถติดในเมือง
อุณหภูมิอากาศภายนอก เพื่อกำหนดการปรับลดน้ำมันที่ต่างกันในขณะอากาศเย็นในตอนเช้าและเย็น กับอากาศที่ร้อนกว่าในเวลากลางวัน
ส่วนอุณหภูมิเครื่องยนต์ไม่ต้องสนเลยครับเพราะเทสที่ 180 อุณหภูมิยังไม่เกิน 95 องศาเลย (รถเดิมๆนะ)
รอกันอีกนิดครับ ภายในอาทิตย์นี้ผมจะเอาตัวต้นแบบมาติดตั้งที่รถผมแล้ววิ่งหาข้อมูลโดยละเอียดเพื่อโปรแกรมลงกล่อง คงต้องใช้เวลาสักระยะครับเพราะรถผมมันไม่มี RV แบบ 4x4 แต่คงไม่นานเกินรอครับ นี่ถ้าหากทำได้ทุกเงื่อนไขที่กล่าวมา มันจะเป็นระบบร่วมดีเซลแอลพีจีขั้นเทพเชียวนะ (ไม่ได้โม้)
ดีครับอาจารณ์ต้นครับ ข้อมูลดีมีมาเรื่อยๆ อย่าลืมลองกะรถที่ใส่กล่องพ่วงด้ยนะครับ รอรุ่นท๊อปครับ
สำหรับกล่องคันเร่งไฟฟ้าใช้ร่วมได้ครับ แต่กล่องดันอื่นๆไม่สามารถใช้ร่วมได้เพราะมันสวนทางกัน ทางเราทำเพื่อต้องการลดการจ่ายน้ำมัน แต่กล่องดัน-ยกต่างๆมันจะเพิ่มการจ่ายของน้ำมัน ดังนั้นต้องแยกทางกันครับอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ evoda3
หมายถึงใช้ร่วมกันไม่ได้เหรอครับ อ.ต้น
น้ำมันบีห้า 20.88 ลิตร กับระยะทาง 244.0 กม. ผลลัพธ์ 11.68 กม.ต่อลิตร
แอลพีจี 09.10 ลิตร กับระยะทาง 244.0 กม. ผลลัพธ์ 26.81 กม.ต่อลิตร
ของผมมิตซูบิชิstrada วิ่งในเมือง ยังไม่ได้ออกต่างจังหวัดเลยครับผมว่านํามันน่าจะได้ถึง13กม.นะครับ อ.ต้นว่ายังไงครับ ตอนนี้เกียร์2ขึ้นสะพานจะไม่ไหวต้นเปลี่ยนเกียร์เป็นเกียร์1ครับ
อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ TON_GAS
รอ.....อยู่ครับอาจารย์:kapook-17332-8238:
อยากได้ 18 โล/ลิตรในเมืองบ้าง
ตอนนี้วิ่งได้เฉลี่ย 14.5 - 15.2 โล/ลิตร ครับอาจารย์ (ในเมืองเงื่อนไขเหมือนเดิม):yenta4-emoticon-002
อ้อลืมบอก ยังไม่ได้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องเลยอ่ะ 15,000 โลแล้วรอบนี้ 3 เดือนพอดี
มันยังไม่ดำเลยครับอาจารย์ ออกน้ำตาลหน่อยๆ
มันสมควรเปลี่ยได้รึยังครับอาจารย์
รอครับอ.ต้น.....
สมควรเปลี่ยนแล้วนะครับ 15000 แล้วอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ Gotto
วันอาทิตย์เช้าเข้ามาปรับสัดส่วนใหม่อีกนิดครับ กินแก๊สน้อยไปนิด ไม่ต้องตกใจ ส่วนเกียร์ 2 ขึ้นสะพานไม่ค่อยไหวค่อยมาดูกันครับเพราะวันแรกที่ติดตั้งไปวิ่งความเร็วต่ำที่เกียร์5 กดคันเร่งก็ยังมีแรงดีโดยไม่ต้องลดเกียร์ลงมาอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ DUMRONG
ผมขอดูอีกนิดแล้วออกเทสอัตราสิ้นเปลืองกันใหม่ ซึ่งค่าเชื้อเพลิงส่วนนี้ผมออกเองครับ.....วันอาทิตย์เจอกันครับ
ถ้าเป็นเซมิบางจาก ได้ถึง 20000 โลครับ แต่เขาแนะนำให้เปลี่ยนกรองทุกๆ 10000 กิโลเมตร แต่ผมว่าในเมื่อเครื่องยนต์สะอาดขึ้น เขม่าที่ถูกชะล้างลงอ่างน้ำมันเครื่องน้อยลง ก็ย่อมส่งผลให้กรองใช้งานได้นานขึ้นด้วยครับ การไหลของน้ำมันที่ผ่านกรองง่ายขึ้น แรงดันจะไม่มากตัวไส้กรองก็ไม่รับบทหนัก ผมเคยลองถึง 20000 โลมาแล้ว ทั้งสภาพน้ำมันเครื่องและกรองก็ยังดีอยู่อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ Gotto
ผมว่าบ้านเราใช้น้ำมันเครื่องเปลืองครับ ในขณะที่เทคโนโลยีด้านการหล่อลื่นพัฒนาไปไกลมาก เราก็ยังยึดหลักเปลี่ยนที่ 5000 8000 10000 โลอยู่เหมือนเดิม อย่างงี้ทั้งศูนย์บริการและผู้ค้าน้ำมันหล่อลื่นก็นั่งยิ้มกันเลยซิครับ
อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ TON_GAS
มันน่าคิดนะ.....คับอ.ต้น หากินบนความวิตกจริตของผู้บริโภค...:i42:
อืมมมม.....มันน่าคิด.......อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ namwhanyo@hotmail.com
รถยุโรปบางยี่ห้อเปลี่ยนกันที่ 50,000 โลก้อมีเนาะ
เอ๊ะ!......มันยังใงๆ อยู่นา:i42:
มารอผล.... .test....คับ อ.ต้น
หลังจากไปปรับจูนมาใหม่ได้ตามนี้ครับ อ.ต้นอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ DUMRONG
แอลพีจี 23.94 ลิตร กับระยะทาง 330.0 กม. ผลลัพธ์ 13.78 กม.ต่อลิตร
น้ำมันบีห้า 20.63 ลิตร กับระยะทาง 330.0 กม.ผลลัพธ์ 15.99 กม.ต่อลิตร อ.ต้นว่าเป็นยังไงบ้างครับ
อัตราการกินน้ำมัน + แก๊ส น่าดู... เหมือนกันครับสำหรับในเมือง:emo013rk4:อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ DUMRONG
กราบมิตรรักแฟนคลับทุกท่านครับ
พาหัวหายไปนานครับ
เนื่องจากบิดา ท่านต้องทำการผ่าตัด ต้อกระจกที่นัยย์ตา
เนื่องว่ากระผมลูกชายคนโต และมีรถคันเดียวในบ้านจึงต้องรับภาระนี้ไปครับ ด้วยความเต็มใจอย่างยิ่งครับ
กระผมใค่รขอแนะนำสภาพบริเวณบ้านผมครับ ในสุดๆครับ ทางส่วนใหญ่เป็นดินลูกรัง ดินแดง
ทางฝุ่น ฝกตกไม่ต้องพูดถึงครับ ทั้งถนนขาด น้ำท่วม ติดหล่ม ไฟฟ้า ยังเข้าไม่ถึง ต้องโยงสายเข้ามาเอง ดั่งที่เห็นลิบๆนั่นละครับ ต้องจอดรถใว้ที่สูงแล้วเดินเข้าบ้านครับ
ผมเกิด และโตที่นี้ครับ ภูมิใจที่สุดครับ
ช่วงระยะเวลาที่ผมอยู่ทีบ้าน ต้องขับรถจากบ้านไป รพ อำเภอ เป็นระยะไป กลับ วันล่ะ 60 กม
ปั้มน้ำมันใหญ่ๆไม่มีครับ มีแต่แบบปั่นขาย ลิตรล่ะ 40 บาท ปั้มใกล้สุดมีอยู่ในอำเภอ ครบุรี และเสิงสาง
ระยะทางมากพอดู และน้ำมันผมคิดว่า ไม่ดีแน่นอน สังเกตุได้จากทีร้านค้าแบ่งขาย ผมจึงไม่เติมน้ำมันเลย
ผมจึงต้องใช้น้ำมันทุกหยดให้มีค่ามากที่สุด
แก้สไม่ต้องพูดถึงครับ หมดไปตั้งแต่ เจ็ดร้อยโลแล้วครับ
ตอนนี้ผมวิ่งได้ 1363 km ไฟเตือน
และต่อมา 1429 km ไฟยังเตือน
ยังไม่เติมเต็มถังครับ เติมกลับไป 3 ลิตร 120 บาท
เพือขับรถเข้าอำเภอ เพื่อมารายงานผลครับ
เหตุที่ขับได้มากขนาดนี้
1 ปิดแอร์วิ่ง อากาศ ดีมากครับ เช้าหด เย็นหด ดึกๆยิ่งหด
2 ขับไม่เร็ว ด้วยไม่มีเหตุให้ขับไว
ฯลฯ
โอ้โห้ น้านัท สุดยอดมากๆครับ ทำไปได้ ขนาดแก๊สหมดไปก่อนน่ะครับ แต่รถยังดูดีฝุ่นไม่เกาะรถมาก เพราะไปอยู่ในรถหรือเปล่าครับ อิอิ แต่น้ำมันใกล้หมดนี่ลุ้นเหนื่อยน่ะครับ ขอให้ท่านพ่อหายไวๆ น่ะครับผม... บรรยากาศที่บ้านน้านัทธรรมชาติสุดๆครับ น่าไปเที่ยวช่วงนี้หนาวแล้วด้วยครับรักษาสุขภาพด้วยน่ะครับ
น้านัทสู้ๆ คับ
ดีเซลผลมาดีแล้วครับ อันนี้ในเมืองอย่างเดียวหรือเปล่าครับ อีกอย่างหนึ่งวิธีการขับขี่ดูจากอัตราการกินแก๊สแล้วน่าจะมีออกตัวแบบเท้าหนัก แต่ถ้าวิ่งยาวทางไกล ผลจะดีกว่านี้ครับ ไม่เป็นไรหาทางลดแก๊สลงอีกนิดนึ่ง หรือใช้กรองอากาศที่โล่งกว่าเดิมครับ หรือปรับวิธีการขับขี่แบบนุ่มนวลขึ้นจะช่วยได้มากเลยอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ DUMRONG
จากอัตราการกินเดิมประมาณ7-9 กม./ลิตรในรถรุ่นนี้ ณ.ราคาดีเซล 29.39/ลิตรก็ประมาณกิโลเมตรละ 3.26 - 4.19 บาท แต่ตอนนี้มีค่าใช้จ่ายรวม/กิโลเมตรอยู่ที่ แก๊ส .81 บาท ดีเซล 1.83 บาท = 2.64 บาท/กิโลเมตร ก็ประหยัดไปได้เกิน 60 สตางค์/กิโลเมตร ถือว่าได้ตามเป้าครับ แต่ผมว่ามันน่าจะได้มากกว่านี้อีกหน่อยนะครับ
อ.ต้นครับผมวิ่งในเมืองอย่างเดียวครับช่วงนี้ยังไม่ได้ออกตจว.ครับผมออกตัวแบบเท้าหนักครับทุกเกียร์ครับอ.ต้นว่าต้องให้ผมไปปรับอีกหรือเปล่าครับ:kapook-17199-4683:อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ TON_GAS
อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ DUMRONG
ขาแรงอีกแล้วครับท่าน... :emoticon-cartoon-01