กร๊ากกกกกกกกกกกกก ลืมปั๊มน้ำมัน กันหรือยังครับ
นานๆเข้าที :kapook-17196-7812:
Printable View
กร๊ากกกกกกกกกกกกก ลืมปั๊มน้ำมัน กันหรือยังครับ
นานๆเข้าที :kapook-17196-7812:
ใส่ในปาเจโร่ หรือคับน้าโจ้อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ joetriton
แป่วๆๆ น้านัทมาคนแรกเลยยย อิอิอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ Modelist
ผมลืมไปว่าของน้าเป็น 116 สงสัยต้องรอก่อนละมังครับน้า
:i37:
มาเพิ่มเติมข้อมูลครับ
ผมได้ทำอุปกรณ์เพิ่มความร้อนเพื่อเพิ่มปริมาตรของน้ำมันดีเซล ในขณะที่โมเลกุลมันเริ่มขยายตัวจะเกิดการเคลื่อนที่ครับ และเมื่อผ่านสนามแม่เหล็ก มันจะเรียงตัวกันใหม่ซึ่งเป็นผลทำให้การเผาไหม้ดียิ่งขึ้นครับ (อันนี้เป็นแค่ความคิดส่วนตัวครับ)
เมื่อวานได้มีโอกาสเดินทางไปสุพรรณบุรีเพื่อปรับปรุงระบบ LPG+ดีเซลของรถสิบล้อก็เลยถือโอกาสลองอุปกรณ์ใหม่ซะเลย
อุปกรณ์ที่เพิ่มจากเดิม 1.ครีบปั่นอากาศรุ่นพิเศษ 2.ชุดเพิ่มความร้อนและสนามแม่เหล็ก ส่วนHydrogenเปิดเลี้ยงน้อยๆครับประมาณ 3 แอมป์ และปรับจูน LPG แบบประหยัดๆ
โหลดที่เปลี่ยนไปจากเดิมของไทรตั้น เปลี่ยนยางจาก 245/70 R16 เป็น 265/70 R16 บรรทุกลังเครื่องมือพร้อมอุปกรณ์ติดแก๊สแบบเต็มพิกัด พร้อมยางอะไหล่และผู้โดยสารร่วมเดินทางอีก 2 ท่าน ความเร็วที่ใช้จะอยู่ช่วง 110-120 ครับระยะทางไปกลับรวม 214 กม.ตามเลขไมล์ เติมแก๊ส 9.7 ลิตร เติมดีเซล 12.12 ลิตร คิดค่าเฉลี่ยแก๊ส = 22.06 กม./ลิตร ดีเซล = 17.65 กม./ลิตร
ซึ่งเมื่อเทียบจากข้อมูลเดิมจะใช้แก๊สน้อยกว่าครับ (เดิมใช้แก็สประมาณ 16-17 กม./ลิตร จึงได้ดีเซลระดับ 17-18 โลลิตร) ในขณะที่ปัจจุบันใช้เส้นรอบวงยางมากกว่า และสัดส่วนกิโล/ลิตรของดีเซลค่อนข้างจะดีทีเดียว
มันทำให้ผมอยากทดลองแบบผสมทุกๆอย่างโดยไม่มี LPG ดูบ้าง มันอาจเป็นแนวทางให้เกิดการพัฒนาต่อไปก็ได้ครับ อะไรก็เกิดขึ้นได้เมื่อเรามุ่งมั่นที่จะทำ เอารูปอุปกรณ์และตำแหน่งติดตั้งมาให้ดูครับ
ดีครับ พัฒนาเรื่อยๆ ครับ หนับหนุนๆ อยากให้ครีบปั่นอากาศรุ่นพิเศษครับ มันเป็นอย่างไงครับ
เมื่อวานตอนเย็นหลังจากที่กลับจากงานบ้านน้าอ๊อดแล้ว
ก็แวะไปหา อ.ต้นสักหน่อยเห็นบอกว่าทำอุปกรณ์ขึ้นมาอีกแล้ว
แต่ผมยังไม่ได้ทดลองตัวนี้ครับ สำหรับรถผม อ.ต้นได้ขยายรูจ่ายแก๊ส
เพิ่มขึ้นอีกนิดนึง เสร็จแล้้วก็ออกไปเทสกัน ณ ถนนสายประจำกาญจนาภิเษก
ผลการทดลองวิ่ง ไม่น่าเชื่อครับเลยว่าจะประหยัดเพิ่มขึ้นมาได้เฉยเลย
ทำได้ที่ความเร็ว 100 กม/ชม 21.8 กม/ลิตรครับ ทั้งขาไปและขากลับ
ก็เลยจบการทดสอบแค่รอบเดียวครับ ไม่ต้องไปปรับอะไรเพิ่มหรือลดแล้ว
พอวิ่งกลับมาบ้าน อ.ต้นใช้ความเร็วเหมือนขับทั่้วไป คือมีรถติดบ้าง
ลงมาเหลือที่ 19.6 ครับ
ขากลับบ้านที่ปากน้ำ จนถึงบ้านค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 18.8 - 19.2 กม/ลิตรครับ ความเร็วที่ใช้
100 - 110 การจราจรไม่ติดขัดครับ
จบการรายงานรอบนี้ครับ ยังคงความประหยัดที่มาคู่กับความแรงเหมือนเดิม
ว้าวๆๆๆ:emo014hv3:อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ Kamo_007
แอบไปซุ่มทำไรกันอีกเนี่ย:emo085if7:
อ่านมาแล้วอยากติดเหมือนกัน แต่ผมอยู่ศรีสะเกษแน่ะ
ปรับปรุงขนาดใหญ่และยาวขึ้นอีกนิด กินไฟเพิ่มอีกหน่อย ติดตั้งไกล้ปั้มเข้าไปอีก ส่วนตัวต้นแบบตัวแรกจะไปลองใส่ในปาเจโร่สปอร์ต พร้อมด้วย Save Plus และ ครีบปั่นอากาศ จะดูซิแบบเดิมๆมันจะได้เท่าไหร่ แต่ที่แน่ๆลองขับดูคันเร่งเบาขึ้นเห็นๆ การเปลี่ยนเกียร์เร็วขึ้นครับ ต้องรอผลการใช้อีกทีครับ ตัวปาเจโร่เดิมๆจะอยู่ประมาณ 11-12 กม./ลิตรครับ
น่าสนครับ รอผลเลยครับ เดิมๆ ว่าจะได้เท่าไหร่ครับ สนใจอย่างแรง อิอิ :smiley-sport007:อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ TON_GAS
น้าโบ้ท on อยู่หรือเปล่าอยากคุยด้วย ขอเบอร์โทรหน่อยคร้าบป๋ม:yenyo-104:
ผมแค่คิดศึกษาหาข้อมูล ครับว่าถ้าเรายังคงรักษาพลังงานการจุดระเบิดให้เท่าน้ำมันเดิม ๆ
เราจะสามารถรักษา พลังงานการทำงานของ รถได้เหมือนเดิมรึเปล่า ช่วยชี้ทางด้วยครับ
และจากข้อมูลที่ผมได้แนบมา
Desel 1000 cc ให้พลังงาน 8697 K cal
LPG คิดค่า บิวเทน 1000 cc ให้พลังงาน 6240 K cal
ถ้าลดน้ำมันลง 66% หรือ ลดพลังงานความร้อนลง 8697k-5740k = 2957 k
หรือลดน้ำมันลงไว้จุดระเบิดเพียง 1000cc-660cc = 340 cc
แต่ต้อง ป้อนพลังงานทดแทน 5740 k จาก LPG ซึ่ง
LPG 1000 cc ให้พลังงาน 6240 K cal
พลังงานเกินไป 6240-5740= 500 k หรือ 8 %
ดังนั้น จึงต้องจ่าย LPG เพียง 92 % หรือ 920 cc
ก็โมเมเอาว่า พลังงานที่จะจ่ายทดแทนการระเบิด 1000 cc ของ Desel ที่ 8697 K cal ยังคงอยู่
แต่จ่าย Desel แค่ 340 cc
และจ่าย LPG เข้าไป 920 cc
ดังนั้นผมเข้าใจว่า Desel (26.59/100)x34 = 9.04 บาท
LPG 12 = 12 บาท
รวม =21.04 บาท/ Lite (8697k)
ถ้าขับได้ 12 km/L จะ = 21.04/12 คือ 1.75 บาท/ Km
อย่างงี้ จะได้ใหมครับ:i42:
น้า Kantocy ผมมีข้อมูลที่อ้างอิงได้ ขอเมล์หน่อยครับ หรือเมลล์มาที่ gottoampm@yahoo.com ครับอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ YanyonG
จะได้ช่วยกันต่อยอดให้เกรียนๆ กันไปเลย
:21-7: Mail ไปแล้วครับอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ Gotto
แจ้งในนี้ด้วยก็ดีน่ะครับ น้าท่านอื่นจะได้รู้ด้วยครับ โดยเฉพาะผม...
วันนี้กับอีกหนึ่งผลงาน และทำลายสถิติรถที่เข้ามาติดตั้งที่ใช้ระยะทางน้อยที่สุดครับ ยังเป็นป้ายแดงอยู่เลย เลขไมล์ 4374 กิโลเมตร ใส่ยาง 255 กับแม็กซ์ 18 นิ้ว ท่อสแตนเลสทั้งเส้นตัดตรงเพลา พักตรง กรองเลส พ่วงกล่องอีก 2 ใบ ปรับจูนเสร็จออกไปลองเช่นเดิมวิ่งประมาณ 80 ลองกดคันเร่งหาอัตราเร่งดูเข็มกวาดลงมา 170 ไวมากครับ ต้องยกครับรถยังใหม่อยู่ และขอแนะนำท่านใดที่คิดจะติดแก๊สร่วมดีเซลไม่ต้องไปเสียเงินพ่วงกล่องใดๆมาครับ มันจะสิ้นเปลืองเพราะต้องปรับลดการจ่ายน้ำมันให้อยู่สภาพเดิมรถครับ จะได้อัตราเร่งและความประหยัดที่ดีกว่ามาก และอีกเช่นเดิมครับนำรูปมาให้ดู ถ้ามาเร็วกว่านี้อีกวันมีหวังถูก 02 แน่ๆเลย เลขทะเบียน 2302
อัพให้ครับ
:kapook-17198-9597:พี่ต้นเดี๋ยววันนี้เราไปลุยต่อกันอีกยก..............:smiley-transport020อิ อิ อิ
ด้วยความเคารพนะครับ
ถ้าลองใช้ระบบฉีดเข้าที่เสื้อ ID บนทางเข้าแต่ละสูบผมว่าน่าจะใก้ลเคียงกับระบบฉีดนะครับ
โดยเชื่อมท่อทำรางเรลเพื่อรักษาแรงดันการฉีดให้คงที่
และไม่ต้องมีหม้อต้ม ผ่านแค่กลอง แก๊สก็พอ
สัญญานการฉีดก็ดึงสัญญานจากจังหวะนำร่อง ช่วงเวลาที่ติดไฟก็ช่วยช่วงฉีดหลักได้พอดี
(จังหวะการฉีดจะไม่ตรงกับหัวฉีดจริง เพราะขณะฉีดน้ำมัน วาล์ว ID จะปิด
ต้องไปอ้างอิงจากสูบอื่น ซึ่งตรงนั้นผมว่า อ.ต้น ทราบดีอยู่แล้ว)
การประหยัดกับประสิทธิภาพผมว่าน่าจะสมบูรณ์ครับ
:yenta4-emoticon-002
อ.ต้น รับติดดีเซลร่วม Ngv ด้วยไหมครับ ค่าเสียหายเท่าไรครับ
อย่าไปคบเลยครับ ถ้ามันดีและปลอดภัยจริงผมทำไปแล้วครับ ตัวผมเองก็ผ่านการอบรมและรับประกาศนียบัตรจากกระทรวงพลังงาน โดยรัฐมนตรีเป็นผู้มอบให้มาแล้ว ผมสามารถติดตั้งได้ทั้ง NGV และ LPG ผมพิจารณาโดยรวมแล้วว่าข้อดีของ NGV มีอยู่อย่างเดียวคือมันราคาถูก แต่ผลเสียในระยะสั้นและยาวมีมากกว่า ที่จริงแล้วมันน่าจะอยู่ในระบบโรงงานอุตสาหกรรมมากกว่าครับ ไม่ต้องเคลื่อนที่ เพราะด้วยขนาดและน้ำหนักของถัง อีกทั้งยังมีแรงดันที่สูงมากไม่ควรอยู่ในภาคขนส่งเลย ซึ่งปัจจัยเสี่ยงในภาคขนส่งมีมากกว่าเยอะเพราะมีการเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา ความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุมีมากกว่ากันมากครับ และอย่าลืมว่าถนนเมืองไทยไม่ได้เรียบนะครับ บรรทุกถังหนัก 100 กว่าโลวิ่งกระเพื่อมไปมาอยู่ตลอดทาง อายุช่วงล่างไม่นานเกินรอครับ เอาเป็นว่าเหตุผลที่ผมชี้แจงคงพอตัดสินใจได้นะครับ แต่ถ้าเชื่อคำโฆษณาจากยักษ์ใหญ่ที่สูบเลือดคนไทยในขณะนี้ก็สามารถเป็นเหยื่อรายต่อไปได้เลยครับอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ kimao
อ.ต้นที่เคารพคับแบบว่า 1.รถผมติดกล่องมา 1 ใบ อยากได้แบบ ว่าถ้าใช้น้ำมันอย่างเดียว+กล่อง 2. ถ้าใช้น้ำมัน+แก๊ส ไม่มีกล่อง ต้องทำยังไงคับ อยากได้ทั้ง 2 ระบบ เอาไวเลือกใช้คับ ช่วยชี้แนะด้วยคับ เพราะเร้วๆนี้จะไปติดกับอ.ต้นคับเก็บเงินครบแล้วคับ แล้ตอนนี้ติดเท่าเดิมเปล่าคับ เห็นมีของเล่นใหม่เอาด้วยนะคับ ขอแบบครบสูตรอ.ต้นเลยนะคับ แล้วถัง36 ลิตร มายังครับ ถ้ายังจะได้หาไปคับ เด็กรอความหวัง(เรื่องประหยัด+แรงๆ)อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ TON_GAS
โดยเทคนิคสามารถทำได้ครับ ต้องทำชุดลีเลย์เพิ่มเติมก็เป็นการสร้างงานเพิ่มขึ้นครับ แรงแบบร่วม LPG มันจะขึ้นแบบสมูทกว่านะ คันเร่งเบาๆ ไม่มีควันและประหยัดน้ำมัน ถ้าแรงแบบกล่องกินน้ำมันมากกว่า มีควันด้วย เอาไว้เราลองมาสัมผัสดูครับว่าอันไหนน่าใช้กว่าครับ ส่วนถัง 36 ลิตรผมให้ทางร้านที่จำหน่ายจัดหามาได้ประมาณ 30 ลูกครับ (ถ้าไม่มีคนอื่นโฉบไปซะก่อน) ส่วนที่ชอบประหยัดและแรงลองโทรหาคุณเหน่งดู อยู่ในเวปเรานี่เหละ ถามว่าต้องทำยังไงบ้าง คุณเหน่งใช้ร่วม LPG ไม่พ่วงกล่อง ผมลองที่เกียร์ 2 ล้อฟรีแบบรถโดด แต่ประหยัดน้ำมัน ลองโพสถามแล้วขอเบอร์คุยกันเองเลยครับอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ kob1
อ.ต้นคับใครคับคุณเหน่ง ไม่รู้จักแบบว่าผมศรัทธาอ.คับแค่อยากถามไว้จะได้เข้าใจจะได้ใช้ความสงสัยในการตัดสินใจเพราะยังไงผมก็ต้องติดกับอ.ต้นอยู่แล้ว ขอบคุณคับอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ TON_GAS
คุณเหน่งเป็นสมาชิกในคลับเรานี่แหละครับ ติดร่วม LPG ไปแล้ว แล้วเขาไปทำท่อเพื่มเติม ผมลองขับดูแล้ว ใช้คำว่าแรงโคตได้เลยครับ เห็นว่าชอบแบบแรงก็ให้ลองสอบถามและปรึกษาได้เลยครับ เบอร์ 086-6665264อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ kob1
ขอบคุณคับอ.ต้นที่แนะนำ แล้วอ.มีคิวว่างวันไหนคับ เดี๋ยวผมจะโทรหาคับ สนใจประหยัดและแรงคับอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ TON_GAS
กระทู้ยอดฮิตครับ เฝ้าดูอยู่นะจ้ะขาแรงมาลงข้อมูลด้วย
น้าเกียงครับอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ evoda3
ผมส่งเมล์ไปหานะครับ
เรื่องประกันครับ
ถามน้าเกียง ว่าติดแก๊สแล้ว ประกันเพิ่มมาน้อยเท่าไหรครับ อยากรู้เป็นข้อมูลครับ มีผลยังไงบ้างครับอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ Kamo_007
แจ้งขึ้นทะเบียนขนส่งแจ้งประกันว่าติดเท่าไหร่ให้คุ้มครองอุปกรณ์หรือไม่ ถ้าคุ้มครองเบี้ยเพิ่มหรือไม่อยู่ที่ ประกันครับความคุ้มครองมีเปลี่ยนครับ
รับทราบครับเอกสารครบมากเท่าไหร่ต่อลองส่วนลดได้เยอะครับอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ Kamo_007
อ.ต้นคับขอข้อมูลหน่อยคับว่าระหว่างมีกล่อง Ecu กับไม่มี คุมการจ่ายแก๊สแตกต่างยังไงคับ แล้วของอ.ต้นเป็นแบบไหนคับ
ก็ต่างกันอยู่ครับ ด้านราคาทั้งตอนติดตั้งและราคาอะไหล่อุปกรณ์เมื่อเกิดการชำรุดเสียหาย อายุการใช้งาน การจูนนิ่งให้เหมาะสมกับความต้องการอย่างสมบูรณ์ที่สุด(ขึ้นอยู่กับบุคคลที่จูนและทำโปรแกรมไว้) ความปลอดภัยต่อเครื่องยนต์ และฟิลลิ่งในการขับขี่หรือการใช้งาน (สามารถขับขี่ได้แบบปกติการใช้งาน ไม่บังคับว่าต้องค่อยๆกดคันเร่งนะเดี๋ยวมันจะเขก) เอาประมาณนี้อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ kob1
ของผมเป็นแบบจ่ายแก๊สตามแรงดูดของเครื่องยนต์อย่างแท้จริง โดยผมทำอุปกรณ์ที่ปรับส่วนผสมแก๊สกับอากาศไว้ในสายแก๊สครับ หลักการทำงานของมันก็ให้นึกถึงนมหนูในเครื่องยนต์เบนซินแบบคาบูเรเตอร์ จะมีขนาดตามรุ่นและซีซีของเครื่องยนต์ซึ่งผมได้ออกแบบไว้และใช้ได้อย่างเหมาะสมกับทุกๆคันที่ติดตั้งไปครับ เมื่อรอบเครื่องต่ำแรงดูดน้อยอากาศที่เข้าเครื่องก็น้อยอัตราการไหลก็น้อยตามแรงที่กระทำนั้นด้วย และเมื่อรอบเครื่องสูงขึ้นอากาศเข้ามากแรงดูดมากขึ้นแก๊สก็จะถูกดูดแรงขึ้น ทำให้สัดส่วนแก๊สกับอากาศที่เข้าไปมีสัดส่วนที่พอเหมาะตามที่เราได้ปรับจูนไว้ตลอดเวลาทุกๆย่านความเร็ว สามารถลากรอบไปจนถึง 4200 รอบได้โดยไม่พังและความร้อนไม่สูงไปกว่าเดิมๆครับ ที่กล้าบอกว่าไม่พังก็เพราะว่า อุปกรณ์คุมการจ่ายแก๊สของผมมันยอมให้แก๊สผ่านได้สูงสุดในขอบเขตที่ปลอดภัยครับ เกินจากนั้นดีเซลก็จะจ่ายมากขึ้นตามคันเร่งที่เราเหยียบ แต่ผมโปรเทคไว้ทุกคันครับสังเกตุจากความเร็ว 100-150 มาไวมากพอเริ่มเข้า 160 ไปเรื่อยๆก็จะค่อยๆไหล แต่เมื่อเทียบกับเดิมๆรถแล้วก็ยังถือว่าเหนือกว่ามากเพราะได้ลองเปรียบเทียบมาเยอะแล้ว และผมยังมีกล่องคุมการจ่ายดีเซลให้เหมาะสมกับปริมาณแก๊สที่จ่ายให้กับเครื่องยนต์ ซึ่งทำงานร่วมกันทั้งระบบแล้วถือว่า เป็นหลักแห่งความคงทนและปลอดภัยจริงๆเท่าที่คิดค้นได้ในขณะนี้ครับ และอีกไม่นานก็จะมีกล่อง ICU มาเป็นคู่แข่งของ ECU ครับ กำลังทำตัวต้นแบบอยู่ไม่นานเกินรอครับ
ข้อดีของระบบที่ผมทำ
1.อายุการใช้งานของอุปกรณ์ที่ว่านี้ไม่มีวันพังครับ
2.ราคาอุปกรณ์ไม่แพงให้ฟรียังได้เพราะคิดเอง ทำเอง ไม่ลอกแบบใคร
3.เครื่องยนต์ไม่มีพังถ้ายังคงอุปกรณ์ตัวนี้อยู่ในระบบจ่ายแก๊ส (ไม่ปรับขนาดด้วยตนเอง)
4.ฟิลลิ่งการขับขี่เนียนกว่าระบบหัวฉีด แรงแบบโปรแกรมเดิมรถแต่มีม้าเพิ่มประมาณ 20-30ตัว
เอาเป็นว่าผมเน้นเรื่องความปลอดภัยและความคงทนของเครื่องยนต์มาเป็นอันดับแรกๆ ความประหยัดและความแรงตามมาอีกที โทรมาคุยรายระเอียดแบบไม่เกรงใจใครก็ได้ครับ ทั้งข้อดีข้อเสีย ความคุ้มค่าในการลงทุน บางอย่างข้อมูลลึกๆของแต่ละระบบที่มีในปัจจุบันไม่สามารถเขียนให้ดูได้ครับ มันจะไปขัดกับหลักการทำมาหากินเขาเข้า แค่เราหาข้อมูลให้มาก ให้ได้ลองบ้าง ไปดูไปลูบไปคลำของจริงเพื่อเป็นแนวทางในการพิจารณาในการตัดสินใจอีกที โบราณว่า ช้าช้าได้พล้าสองเล่มงาม แต่ถ้าช้าเกินไปก็ไม่ค่อยงามครับเพราะรถใช้ทุกวัน ระยะทางเดินไปเรื่อยๆเผลอแป๊บเดียวเป็นแสนโลแล้ว กะตังค์ทั้งนั้น
:kapook-17342-8336:มาแว้วคร้าบ พี่ต้น แบบว่าบ้านอยู่ใกล้กันนะฮะ น้า KAMO อยากเจอมั้ย 18 โลลิตรในการเทสครั้งแรก แล้วก็ fine tune อีกนิด แล้วก็.......... เติมน้ำมันเต็มถัง,แก็สเต็มถัง(31ลิตร)กรุงเทพ-โคราชบ้านผมไปกลับ 760 โล น้ำมันเหลือครึ่งถังเป่ะ แก็สไฟแดงกระพริบคร้าบลองไม่รู้มันหมดหรือเปล่า คิดดูจ้าน้า ไอ้รถคันนี้แหละที่มันติแก็สแล้วเอายางอะไหล่ขึ้นได้:kapook-17201-6012:รถผม Plus 4 doorคร้าบ เดิมๆคร้าบ
1.ไม่มีแคท
2.รองแหวน 4 mm
3.ครีบปั้นอากาศ
4.อุด EGR
5.Header 5 inc
6.Pro 3200 มีแล้วและเอาออกแล้วเช่นกัน
7.แล้วก็ชุดแก็สของพี่ต้นคร้าบ
next step เอาไว้จับไขควงกันอีกรอบนะพี่ต้นนะแล้วก็.........
ไม่ต้องบอกครับว่า ฟิลลิ่งในการขับเป็นยังไง สำหรับพี่น้องท่านอื่นๆที่สนใจให้ลองไปเทสกับเพื่อนสนิทในคลับของเราที่ได้ทำการติดตั้งไปแล้วหรือดโทรไปไปขอเทสกับรถพี่แกก็ได้พี่เขาใจดี 55555555555 จริงมั้ยพี่ต้น อิอิอิ
สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น
สิบตาเห็นไม่เท่ามือคลำ
สิบมือคลำไม่เท่าแหย่ดู
เอาละเข้าเรื่อง ผมคิดว่าท่านที่สนใจและเก็บข้อมูลอยู่ถ้าไม่แน่ใจก็เก็บข้อมูลต่อไปแล้วก็หาที่เทสจนกว่าจะทำให้ท่านมั่นใจ ซึ่งตัวผมเองก็ใช้เวลานานพอสมควรสำหรับการเก็บการค้นหาข้อมูล เกี่ยวกับเรื่องนี้
เดี๋ยววันหลังลงรูปให้ดูกันครับ
คำเตือน w2saw
แก็สมันเป็นสารเสพติดสำหรับรถที่ติดแก็สแล้ว เป็นเรื่องเลยถ้าหมดถังมันต้องเติมไม่เติมใจมันจะขาดจะขาด จริงๆ
**อะไรกันจะขนาดน้านน....เริ่มต้นก็ไปซะที่ 18 กม/ลิตรซะแล้วเหรอเนี่ยะ :kapook-17195-8823: มาทำให้เราอิจฉาจนได้นะ..อิ...อิ...อิ... ไปกลับกรุงเทพ-โคราช น้ำมันไม่ถึงครึ่งถังอีกด้วยเหรอ..ไม่เป็นไร เดี๋ยวรอเจอกับน้านัทเพื่อนผม..อิ..อิ...อิอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ jong_ja
น้ำมันปรับราคาขึ้นอีกแล้วครับ (13 ตค 53) ขึ้นติดๆกัน 3 ครั้งเข้าไปแล้ว จะเข้าสู่วัฏจักรเดิมอีกหรือเปล่า
ตอนที่ 47 บาท/ลิตร ยังหลอนอยู่เลย นี่ก็เกือบลิตรละ 30 บาทเข้าไปทุกทีแล้ว...
เข้ามานั่งปลื้มอีกครั้ง นั่งคุย10คน มี2คนที่บอกว่าแกสดีนี่คือความคิดเดิมๆ
เราต้องหาข้อหักล้างให้ได้นะน้าๆและ อ.ต้น สู้ๆ
น้าตะเกียง น้า KAMO ครับผมว่านะสิ่งเหล่านี้มันจะเกิดขึ้นได้มันต้องมาจากการศึกษา ค้นคว้าแล้วก็ทดลองแล้วก็ลงมือทำ:kapook-17199-4683:ถ้าไม่ลองแล้วเราจะรู้ได้ไงว่ามันใช้ได้ใช้หรือแล้วดีหรือเปล่า อีกอย่างครับ ยิ่งถ้ามี smart grade ติดรถนะเราก็จะสามารถตรวจสอบค่าของอุปกรณ์ในส่วนต่างๆได้ สบาย สบาย แล้วยังเงี้ยะ:i38:มีใครกล้าคิดที่จะเริ่มกันได้หรือยัง:kapook-17198-9597:
:kapook-17335-3382:อย่างนี้ก็มีด้วยโดนตบไป 200
ผมโดนจับข้อหาไม่ติดยางอะไหล่ดีนะที่มันไม่เห็นถังแก็สผมไม่งั้นคงเจออีกข้อหา
วิ่งประมาณ 110-120 ครับ
ระวังเด้อใครจิกับโคราช ตร.มันเยอะ :smiley-transport020งานนี้ใครสายตายาวได้เปรียบ
แล้วหลังจากที่ติดตั้ง แก็สเราต้องไปจดทะเบียนอะไรอีกหรือเปล่าครับอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ jong_ja
และที่ จารย์ ต้น ติดให้มีที่แนะนำที่จะขอใบรับรอง ได้ใช่ใหมครับ
วันนี้ผม เอารถไป เปลี่ยน Version ECU กลับ เดิม ๆ จะทดลองซัก อาทิตย์
จับความแตกต่างก่อนติดดูก่อนครับ หลังจากนั้นถึงจะไปปรึกษา อาจารย์ อีกทีครับ:emo015ny9:
อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ YanyonG
ยินดีต้อนรับน้า Kanto ล่วงหน้านะครับ
เด๋ว 2 นักค้นคว้าพัฒนามาเจอกันอะไรมันจะเกิดขึ้นหนอ.........
คงมีอะไรดีๆมาฝากเพื่อนสมาชิกกันอีกแน่ๆ:smiley-sport020: