Printable View
อ้อ ประกันขาดนะ ถ้าแกะโม...อิอิ
เคยมีช่างเครื่องเสียงที่ไหนบอกเรื่องนี้กับท่านบ้างไหมครับ ผมยังไม่เคยเขาพูดกันซะที
แต่พวกหูทองทั้งหลายเขารุ้ดีกว่าควรปรับปรุงเสียงให้ดีขึ้นอย่างไร
เริ่มจากตรงไหน
สำหรับเราๆ ถ้าติดตั้งมาถูกวิธีแล้ว แต่คิดว่าเสียงยังพริ้วไม่ถึงใจ
จัดการเลยครับ confirm...
อ้าวน้า เล่นอยู่ใน OCZ เหรอครับ นึกว่าไม่มีใครเล่น แบบนี้เล่น DAC ด้วยเป่าเนี่ยอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ anuchit330
ส่วนตัวผม opamp มีหลายเบอร์งง แต่ละอันก้อมีแนวเสียงของตัวเอง สีสันไม่รู้จบผมกำลังตามหาอันที่ flat ที่สุด ผมชอบแบบแนว studio mix ครับ
dac เล่นมาแล้วน้าแม็ค แต่ผมมันแนว 5.1 เลยไปเล่นซาวการ์ดแทน ซาวการ์ดก็โมกระจาย
แนวน้าแม็ค จัดไปเลยครับ opa2111kp ตัวนี้แนว flat เสียงดนตรีมาครบๆ ชัดเจน ใสๆ ไม่เพี้ยน เอาไปมิ๊กเพิ่มเติมสบาย
ผมก็ชอบเบอร์นี้ครับ
เบอร์อื่นๆ ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะ ดีครับ แต่เป็นแนวเสียงที่เขาmix มาแล้ว เด่นด้านใด ก็แล้วแต่ละเบอร์
น้าพอจะมีภาพตัวอย่างป่าวครับ แล้วทำยากมั้ย ปล. ไม่รู้เรื่องอิเล็กครับ จะได้ลองเล่นป้าง ขอบคุณครับ
น้าครับ ตอนนี้ผมใช้ช่อง optic จาก soundcard คอม ส่ง pass เข้า AVR รุ่นเก่ามันมาได้แบบ dolby 5.1 และ dts ถ้าไฟล์มาแบบนั้นอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ anuchit330
แล้วแบบนี้การที่เราจะเปลี่ยน opamp ควรไปทำที่ AVR น่าจะมีผลกว่าถูกมั้ยครับ
ใช่เลยน้าแม็กอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ mckyparty
ลืมถ่ายรูปเก็บไว้ เดี๋ยวหารูปได้ จะเอามาเล่าสู่กันฟังนะครับอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ thitot_inkman@sanook.com
หาเบอร์ที่แทนกันได้ ถอดอุปกรณ์ให้เป็นก็ทำได้แล้วครับ เครื่องมือก็ หัวแร้ง ที่ดูดตะกั่ว ตะกั่ว แล้วก็ความชอบครับ แรกๆมันจะดูดยากหน่อยครับตะกั่ว แต่ทำบ่อยๆเดียวก็เจอเทคนิคการดูดไปเองหละครับ ผมก็ลืมหมดและ ตอนนี้ถอดตัวเก่าออกแทนตำแหน่งด้วย t6 แล้วจะโมตัวเก่าซะหน่อยชอบเสียงซับตัวเก่า แต่ชอบกลางแหลม t6 เลยว่าจะใส่สองตัวครับ พอดีฟอนท์มีไลน์เอาท์ 2 ไลน์ มีเวลาว่างลองดูครับเห็นผลแน่นอนอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ thitot_inkman@sanook.com
upๆ รอความรู้เพิ่ม
:21-7::21-7::21-7:มาเก็บเกี่ยวความรู้ครับ
เก็บด้วยคน
แต่ก่อนซ้อมเอฟเฟ็กกีต้าร์ก็ไอ้ตัวนี้ล่ะที่มีหน้าที่หลักเลย แต่ตอนนี้ความรู้กลับคืนอาจารย์หมดแล้วใครถอดก็ระวังลายปริ้นหลุดด้วยนะแล้วจะหาว่าไม่บอก555
***ไม่เคยโดนฟันจากร้านติดตั้งเครื่องเสียงแต่โดนฟันจากร้านขายเครื่องเสียงที่ไม่มากเท่าไร***
1. จากการที่เราสเปคหรือเลือกยี่ห้อและรุ่นไว้ในใจแล้วเดินดุ่มๆไปหาตามร้านขายในคลองถมรับรองได้เลยโดนฟันเละ
2. ยิ่งหามากหลายร้านยิ่งโดนแบบสุดๆ เพราะราคาจะสูงกว่าปกติมาก
3. แต่ละร้านเล่นยี่ห้อไม่ครบตามที่เราต้องการ คุณจะเดินขาลากกว่าจะได้ครบ
วิธีที่ผมทำตั้งแต่เริ่มต้น
1. เข้าถามตามที่เราต้องการและสเปค ให้ร้านที่เราไว้ใจแนะนำและบอกแนวเสียงให้เลย(เสี่ยงพอควรถ้าเราไม่ศึกษาข้อมูลรายละเอียดสเปคมาก่อน)
2. ราคาที่ได้รับไม่สูงโดด แต่พอรับได้ และจะได้ราคาส่ง การรับประกันเปลี่ยน100% (จะดูเหมือนคุณเป็นเจ้าของร้านติดตั้ง)
3. คุณจะได้รับการไว้วางใจและได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อยๆจนเซียนยอมรับ
สิ่งที่ผมได้รับจากประสบการณ์ทั้งหมดจนผมทำสำเร็จได้ดังรูปและราคาถูกกว่าร้านติดตั้งเครื่องเสียงเท่าตัว
รุ่นเล็ก
ฟร้อน3ปรีเอ้าท์ ได้รายละเอียดครบส่งแบบตรงๆเข้าแอมป์ก็เพียงพอไม่ต่างจากปรีแอมป์ปรับได้แนวเสียงพอกับเครื่องเสียงราคาแสน ลดครอส และ ลดการต่อผ่านอุปกรณ์หลายๆชิ้น เพื่อให้ได้เสียงดีที่สุด
4ประตู
6.5" ติดแบบเน้นรายละเอียดครบไว้ฟังในรถ ชุดนี้ใช้ฟร้อนขับ
เพิ่มซาวด์คู่หน้าหลังแหลมจานและมิดเบสใช้แอมป์ขับโดยคู่หลังให้ติดกับตู้ซับเลยแต่ต้องแบ่งห้อง
ซับ10"-12"หลังเบาะ
คาปาเพิ่มการไหลลื่นเวลาอัดฟัง
จบแล้วตามนี้ รอแต่งสวย งบไม่เกินสามหมื่น อิอิ
ไฟล์แนบ 143784
ว๊าว..สวยๆๆทั้งนั้นเลยครับ...ข้อมูลเพียบ
นี่เลยกระทู้โดน..ปี55
เปลี่ยนออปแอมป์ ต้องเปลี่ยนทั้งในปรีแอมป์ และในพาวเวอร์แอมป์ ต้องเปลี่ยนไหมครับ แล้วถ้าจะเปลี่ยนควรเปลี่ยนแบบเดี่ยว หรือแบบเบิ้ลสองตัว พอจะมีรูปประกอบไหมครับ
ขอบคุณครับ
มาติดตามชม
ขออนุญาตมาแชร์เล่าประสบการณ์ ละครน้ำเน่า และความรู้ด้านเครื่องเสียงรถยนต์ที่มีอันน้อยนิดของผมบ้างนะครับเผื่อจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่คิดว่าจะไปติดเครื่องเสียงสักชุด เจ้าตั้น 4D ของผมเองก็ติดเครื่องเสียงมา 1 ชุด ผมเน้นฟังนุ่มไม่เน้นดัง ฟังข้างรถพอได้ และไม่มีการขยับเบาะ หรือเจาะแผงประตูใดใดทั้งสิ้นนอกจากยัดตู้ปิดพร้อมดอกซับ 10 นิ้วหลังเบาะ 1 ตัว ตำแหน่งแม่แรงยังคงเดิม แต่ย้ายเครื่องมือขันต่างๆนิดหน่อย สภาพโดยทั่วไปภายในห้องโดยสารจึงอยู่ในสภาพเดิมมากๆ ถ้าไม่สังเกตุเห็นเพาเวอร์แอมป์ที่ใต้เบาะคนนั่ง หรือไม่พับเบาะหลังก็ไม่มีใครรู้แน่ๆว่าเราไปติดเครื่องเสียงมา ของผมเปลี่ยนลำโพงที่ฝังในประคูทั้ง 4 ตัว มีปรี และเพาเวอร์ 4 ch ใช้ขับลำโพงที่ประตูคู่หน้า ทวิสเตอร์ที่มุมบนประตูหน้าและดอกซับ ส่วนลำโพงประตูคู่หลังใช้ฟร้อนของเดิมขับ(เล่นได้แค่วิทยุ,CD,MP3 ใครที่ขับ4X4จะรู้ดี) ร้านที่ติดตั้งให้ก็เซ็ทเสียงให้ซะโดนใจผม คือนุ่ม ใส เบสลึก ไม่ถึงกับจุกอก แต่กระจกหลังสั่นสะเทือนตามลูกเบส(ไม่ได้แด้มป์) ใช้มาซักระยะก็มีกำลังทรัพย์ที่จะเปลี่ยนฟร้อนตัวใหม่ที่เล่นDVDและเสียบช่องUSBได้ ก็เลยไปเปลี่ยนฟร้อนที่ร้านเดิม อยู่มาอีกหน่อยก็ลองหาความรู้เกี่ยวกับวิธีการปรับแต่งรายละเอียดเสียงในเพาเวอร์แอมป์ ซึ่งก็ได้อะไรมาอีกหลายอย่าง ก็เลยลองมาปรับเอง
จึงได้รู้ว่าจริงแล้วไอ้ชุดเครื่องเสียงเล็กๆของเรามันสามารถแสดงพลังเสียงออกมาได้เต็มประสิทธิภาพของมันถ้าเรารู้วิธิการดึงความสามารถของสิ่งที่เรามีอยู่ออกมาให้หมด ไม่ว่าเราจะฟังเพลงแนวไหน ลักษณะของเสียงทุ้ม กลาง แหลม ใครชอบแบบไหนก็ลองปรับกันดูตามหัวข้อต่อไปนี้ที่ผมจะแนะนำให้ไปหาความรู้เพิ่มเติมกันเอาเองเพราะรายละเอียด ผมไม่สามารถอธิบายได้ลึกซึ้งเท่าผู้รู้จริง ถ้าท่านซนแบบผมลองปรับเล่นดูก็ได้ครับ ถ้าไม่ดีขึ้นก็วิ่งไปหาร้านอีกทีนึงละกัน(อิอิ..หาเรื่อง) ผมจะเน้นการปรับที่เพาเวอร์แอมป์เป็นหลักนะครับ เพราะในปรีแอมป์มันปรับไม่ยากเท่าไหร่(แต่ก็ต้องทำควบคู่กันด้วย)
1. เกนของสัญญาณที่มาเข้าเพาเวอร์แอมป์ต้องพอดีไม่มากไม่น้อยเกินไป
2. hight pass filter ปรับเพื่อเลือกความถี่เสียงกลาง-แหลม(ลำโพงกลาง,แหลม)
3. low pass filter ปรับเพื่อเลือกความถี่เสียงต่ำ(ลำโพงซับเบส)
4. full เสียงจะออกมาทุกความถี่ใช้กับลำโพงฟูลเร้นท์
ปรับเลือกเอาตามข้างต้น 4 ข้อละกัน ผมบอกไม่ได้ว่าปรับไปแค่ไหน เอาเป็นว่าเลือกปรับฟังแล้วเครื่องดนตรีออกมาครบทุกชิ้นละกัน จะเอาเบส-กลาง-แหลม อะไรดังมากอะไรดังน้อย ปรับได้ที่เกนของแต่ละความถี่ครับ
จริงคับ มันไม่จบไม่สิ้นหรอกครับเครื่องเสียง เอาให้ใช้งานสะดวก เอาแค่พอใจและสบายกระเป๋า น่าจะดีที่สุด
เรื่องเครื่องเสียงนี่ "หูใครหูมัน" ครับ "เสียงดี" ของแบบผมอาจไม่ใช่ "เสียงดี" ในแบบของคนอื่น และนิยามคำว่า "เสียงดี" กับ "เสียงดัง" นั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ผมเองเล่นทั้งเครื่องเสียงรถและบ้าน Hi-End ในระดับราคาชุดละประมาณ 3-5 แสนมานับสิบชุดครับ ตอนหลังเบื่อก็เลิกไปเอง โดยครื่องเสียงในรถปัจจุบันนี่มีไว้ฟังข่าวกับให้ลูกดูการ์ตูนแค่นั้น เมื่อก่อนนี้ลำโพงบ้านใช้ ProAc, Totem, FocusAudio ก็ไปหาดอกลำโพง ScanSpeak, Dynaudio, Eton มาใส่รถ Cross-Over ก็ปรับปรุงแบบสุดๆ สายไฟ สายสัญญาณในรถก็ใช้ของ Kimber, Furutech, Cardas แต่คุณภาพที่ได้รับนั้นช่าง "ต่างกันฟ้ากับเหว" เมื่อเทียบกับชุดที่ฟังในบ้าน ทั้งที่พิกัดราคาใกล้เคียงกัน
เครื่องเสียง Hi-End ในรถนั้น เมื่อเทียบราคากับคุณภาพแล้ว "จัดได้ว่าไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน" (ยกเว้นมีตังค์เหลือเยอะแล้วไม่รู้จะทำอะไร) เนื่องจากปัญหาเบื้องต้นเลยก็คือระบบอคูสติกในรถนั้นไม่เอื้อต่อการฟังเพลงเชิงคุณภาพ อีกทั้งยังมีตัวแปรเชิงด้อยมากมาย เช่น...
1. การรบกวนเชิงไฟฟ้า
2. การซับ/สะท้อนเสียงของห้องโดยสาร
3. การจัดวางตำแหน่งลำโพง
4. ตำแหน่งนั่งฟัง
5. เสียงรบกวนจากภายนอก และจากตัวรถเอง
ถ้าจะให้อธิบายละเอียดคงยาวมาก โดยข้อจำกัด 5 ข้อนี้ ทำลายคุณภาพของอุปกรณ์ชั้นดีลงไปได้มากกว่าครึ่งเลยทีเดียว นั่นหมายถึง "ซื้อ 100 อาจได้ใช้แค่ 20-30 บาท"
จากประสบการณ์(อันเจ็บปวด)ของผม เครื่องเสียงชุดละ 3 แสน (ไม่ว่าในบ้านหรือในรถ) กับเครื่องเสียงชุดละ 3 หมื่น ไม่ได้มีคุณภาพต่างกัน 10 เท่าตามราคาครับ