ตอบ: กระทู้ สำหรับวิเคราะห์เครื่องเสียงที่เรามีอยู่ ว่ามันเด่น มันด้อยยังไง ควรเพิ่มอะไร แนวเสียงเป็นยังไงมาคุยกัน
อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ
Arin2000
เรื่องเครื่องเสียงนี่ "หูใครหูมัน" ครับ "เสียงดี" ของแบบผมอาจไม่ใช่ "เสียงดี" ในแบบของคนอื่น และนิยามคำว่า "เสียงดี" กับ "เสียงดัง" นั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ผมเองเล่นทั้งเครื่องเสียงรถและบ้าน Hi-End ในระดับราคาชุดละประมาณ 3-5 แสนมานับสิบชุดครับ ตอนหลังเบื่อก็เลิกไปเอง โดยครื่องเสียงในรถปัจจุบันนี่มีไว้ฟังข่าวกับให้ลูกดูการ์ตูนแค่นั้น เมื่อก่อนนี้ลำโพงบ้านใช้ ProAc, Totem, FocusAudio ก็ไปหาดอกลำโพง ScanSpeak, Dynaudio, Eton มาใส่รถ Cross-Over ก็ปรับปรุงแบบสุดๆ สายไฟ สายสัญญาณในรถก็ใช้ของ Kimber, Furutech, Cardas แต่คุณภาพที่ได้รับนั้นช่าง "ต่างกันฟ้ากับเหว" เมื่อเทียบกับชุดที่ฟังในบ้าน ทั้งที่พิกัดราคาใกล้เคียงกัน
เครื่องเสียง Hi-End ในรถนั้น เมื่อเทียบราคากับคุณภาพแล้ว "จัดได้ว่าไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน" (ยกเว้นมีตังค์เหลือเยอะแล้วไม่รู้จะทำอะไร) เนื่องจากปัญหาเบื้องต้นเลยก็คือระบบอคูสติกในรถนั้นไม่เอื้อต่อการฟังเพลงเชิงคุณภาพ อีกทั้งยังมีตัวแปรเชิงด้อยมากมาย เช่น...
1. การรบกวนเชิงไฟฟ้า
2. การซับ/สะท้อนเสียงของห้องโดยสาร
3. การจัดวางตำแหน่งลำโพง
4. ตำแหน่งนั่งฟัง
5. เสียงรบกวนจากภายนอก และจากตัวรถเอง
ถ้าจะให้อธิบายละเอียดคงยาวมาก โดยข้อจำกัด 5 ข้อนี้ ทำลายคุณภาพของอุปกรณ์ชั้นดีลงไปได้มากกว่าครึ่งเลยทีเดียว นั่นหมายถึง "ซื้อ 100 อาจได้ใช้แค่ 20-30 บาท"
จากประสบการณ์(อันเจ็บปวด)ของผม เครื่องเสียงชุดละ 3 แสน (ไม่ว่าในบ้านหรือในรถ) กับเครื่องเสียงชุดละ 3 หมื่น ไม่ได้มีคุณภาพต่างกัน 10 เท่าตามราคาครับ
นานาทัศนครับท่าน คุณภาพเสียงที่ดี ต้องไม่มีอะไรมาบดบังเสียงจนถึงหูคนเรา ยิ่งฟังในรถแล้วยี่งไม่สามารถเอามาเปรียบเทียบกับเครื่องเสียงบ้านได้เลย เช่น เบาะอิง บดบังเสียงภายใน ก็จบแล้ว แต่จะแตงอย่างไรให้รายละเอียดครบ น้ำหนักได้ เท่านั้นพอครับ
ตอบ: กระทู้ สำหรับวิเคราะห์เครื่องเสียงที่เรามีอยู่ ว่ามันเด่น มันด้อยยังไง ควรเพิ่มอะไร แนวเสียงเป็นยังไงมาคุยกัน
คับ เครื่องเสียงในรถ กับในบ้านมันเทียบกันไม่ได้หรอกคับ เพราะกระแสไฟที่ขับพลังเสียงในบ้านส่วนใหญ่ก้อจะสม่ำเสมอ แต่ในรถมันขึ้นบ้าง ลงบ้าง การระบายความร้อน ก้อมีผลกับเสียง แต่เครื่องเสียงในรถมันก้อดีอยู่อย่าง มันสามารถจะเคลื่อนที่ไปแล้วเปิดได้เลย และก้ออุปกรณ์ของเครื่องเสียงในรถก้อน่าจะทนทานกว่า ถ้าเราลองเอาเครื่องเสียงในบ้าน เคลื่อนย้ายบ่อยๆ ตกหลุมบ้างอารัยบ้าง ไม่นานคับ พังแน่นอน และอีกอย่างเครื่องเล่นซีดี ในบ้านจับเขย่าเหมือนในรถ ตกร่องแน่นอน มันก้อเลยมีมุมมองหลายอย่างคับ ระหว่างเครื่องเสียงรถ กับในบ้าน มันเทียบกันลำบากคับ
ตอบ: กระทู้ สำหรับวิเคราะห์เครื่องเสียงที่เรามีอยู่ ว่ามันเด่น มันด้อยยังไง ควรเพิ่มอะไร แนวเสียงเป็นยังไงมาคุยกัน
อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ
Arin2000
เรื่องเครื่องเสียงนี่ "หูใครหูมัน" ครับ "เสียงดี" ของแบบผมอาจไม่ใช่ "เสียงดี" ในแบบของคนอื่น และนิยามคำว่า "เสียงดี" กับ "เสียงดัง" นั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ผมเองเล่นทั้งเครื่องเสียงรถและบ้าน Hi-End ในระดับราคาชุดละประมาณ 3-5 แสนมานับสิบชุดครับ ตอนหลังเบื่อก็เลิกไปเอง โดยครื่องเสียงในรถปัจจุบันนี่มีไว้ฟังข่าวกับให้ลูกดูการ์ตูนแค่นั้น เมื่อก่อนนี้ลำโพงบ้านใช้ ProAc, Totem, FocusAudio ก็ไปหาดอกลำโพง ScanSpeak, Dynaudio, Eton มาใส่รถ Cross-Over ก็ปรับปรุงแบบสุดๆ สายไฟ สายสัญญาณในรถก็ใช้ของ Kimber, Furutech, Cardas แต่คุณภาพที่ได้รับนั้นช่าง "ต่างกันฟ้ากับเหว" เมื่อเทียบกับชุดที่ฟังในบ้าน ทั้งที่พิกัดราคาใกล้เคียงกัน
เครื่องเสียง Hi-End ในรถนั้น เมื่อเทียบราคากับคุณภาพแล้ว "จัดได้ว่าไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน" (ยกเว้นมีตังค์เหลือเยอะแล้วไม่รู้จะทำอะไร) เนื่องจากปัญหาเบื้องต้นเลยก็คือระบบอคูสติกในรถนั้นไม่เอื้อต่อการฟังเพลงเชิงคุณภาพ อีกทั้งยังมีตัวแปรเชิงด้อยมากมาย เช่น...
1. การรบกวนเชิงไฟฟ้า
2. การซับ/สะท้อนเสียงของห้องโดยสาร
3. การจัดวางตำแหน่งลำโพง
4. ตำแหน่งนั่งฟัง
5. เสียงรบกวนจากภายนอก และจากตัวรถเอง
ถ้าจะให้อธิบายละเอียดคงยาวมาก โดยข้อจำกัด 5 ข้อนี้ ทำลายคุณภาพของอุปกรณ์ชั้นดีลงไปได้มากกว่าครึ่งเลยทีเดียว นั่นหมายถึง "ซื้อ 100 อาจได้ใช้แค่ 20-30 บาท"
จากประสบการณ์(อันเจ็บปวด)ของผม เครื่องเสียงชุดละ 3 แสน (ไม่ว่าในบ้านหรือในรถ) กับเครื่องเสียงชุดละ 3 หมื่น ไม่ได้มีคุณภาพต่างกัน 10 เท่าตามราคาครับ
ที่น้าเล่ามานี้ ก็น่าจะเป็นที่มาของการแข่งขัน sq นะครับ ผมว่านะ เพราะจะทำให้เครื่องเสียง มีความสมดุล สม่ำเสมอ เสียงใส มีมิติ ไร้มลทิน อิอิ....ยกเว้น spl ไม่ต้องพูดถึง...
ตอบ: กระทู้ สำหรับวิเคราะห์เครื่องเสียงที่เรามีอยู่ ว่ามันเด่น มันด้อยยังไง ควรเพิ่มอะไร แนวเสียงเป็นยังไงมาคุยกัน
อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ
anuchit330
opamp มีหลายเบอร์ แล้วแต่ว่าใครจะชอบแนวเสียงแบบไหน
มีหลายราคา ตั้งแต่ ร้อยกว่าบาท จนถึง หลัก พัน
ที่ทำๆมาใช้ ตัวละ ไม่ถึง 2ร้อยครับ ก็โอแล้ว
ลองหาข้อมูลกันต่อนะครับ
ผมสั่งซื้อจากที่นี่
http://www.overclockzone.com/forums/...-OPAMP-Adapter
เบอร์แนะนำจะเป็น 2111 2107 2134 627 637
opamp มันใช้ได้กับทุกเครื่องหรือครับทุกยี่ห้อหรือครับ
ตอบ: กระทู้ สำหรับวิเคราะห์เครื่องเสียงที่เรามีอยู่ ว่ามันเด่น มันด้อยยังไง ควรเพิ่มอะไร แนวเสียงเป็นยังไงมาคุยกัน
อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ
keytakarn
opamp มันใช้ได้กับทุกเครื่องหรือครับทุกยี่ห้อหรือครับ
opamp มีอยู่ในทุกๆ ที่ที่มีเสียงออกมาทางลำโพงเกือบทุกตัวครับ...แล้วแต่ว่ามันมีกี่ขา...8 16 24 ว่ากันไป
ถ้าในการทำปรี
ตัวที่ดังๆ หายากก็ JRC4558DD IC ในตำนานเค้าว่างั้นนะ อิอิ...
และตัวเสียงดีก็ได้แี่ก่ NEC4570C,JRC4558D พวกนี้หาได้ ไม่กี่บาท
เดี๋ยวว่างๆ จะนำเรื่องการเปลี่ยนอุปกรณ์ ปรี จากบ้านโน้นมารวบรวมไว้ที่นี่ครับ รอความสมบูรณ์ของการเปลี่ยนก่อน