สงสัยจะโดนตัว ขับโค่นไปเรียบร้อยแล้วนะครับงานนี้ 555555
Printable View
สงสัยจะโดนตัว ขับโค่นไปเรียบร้อยแล้วนะครับงานนี้ 555555
ลืมครับตัว 4 x 4 ครับ
หลังจากไม่ได้อัพมานานเลยครับ งานเยอะมากๆ จึงได้มีโอกาส เข้าเมืองก็เค้าทีเพื่อไปงานแต่งเพื่อน และได้มีโอกาสคุยกับน้าปรีชา เกี่ยวกับอุปกรณ์ช่วยให้คลัชนิ่ม เหมือนเก๋ง สำหรับเกียร์ M/T จึงได้ไปซะทีเดียวไม่เสียเวลา และจะได้ทดสอบดูว่าจริงแท้ขนาดไหน http://www.thaitritonclub.com/forum/...t=23556&page=6 หาดูเอาครับ จากปากช่อง ไปคลอง4 พยายามจับอาการ การเหยียบคลัชไปเรื่อยๆ เพราะรถเรามันชินแบบนี้ครับ ไปเรื่อยไม่มีอะไรผิดปกติ แต่พอมาแถวหนองแค เรื่อยติดครับยาวมากๆๆ เริ่มใช้คลัชมากขึ้นๆ โห้รถชนกันครับ แต่ไม่ได้สนใจครับ ไปหาน้าปรีชาต่อครับ พอไปถึงรังสิตเลี้ยวตามคลองไปถึงโลตัสคลอง4 ตึกห้องที่สามใช่แล้วครับมาถึงแล้ว น้าปรีชาไม่พูดอะไรมาก มุดไปใต้ท้องรถจัดการให้ครับ ตัวผ่อนแรงครัชทำจากสแตนเลสแท้เบอร์ 304 ปัดเงาปลอดสนิม น้าเค้าว่างั้น การติดตั้งไม่นานเท่าไหรเหมาะกับน้าๆ ที่มีความรู้เรื่องช่างครับ ถ้าไม่ใช่หาผู้รู้ครับ สำหรับผมต้องน้าปรีชาเค้าครับบบ เสร็จสับทดลองเหยียบก่อนนิ่มดีครับ น้าปรีชาจึงบอกว่าให้เราค่อยๆ ขับให้มันชินซะก่อนแล้วจากนั้นสนุกเท้าครับ จึงได้ล่ำลาน้าปรีชาไปงานแต่งเพื่อนแถวฝั่งธน จากการที่ได้ติดตัวช่วยผ่อนแรงคลัชแล้วและทำความคุ้นเคยแล้ว บอกได้เลยว่าคุ้มจริงๆ ครับ จากเดิมกว่าจะขับมาถึงน้าปรีชา ก็เริ่มปวดๆ อยู่บ้างครับ แต่พอเปลี่ยนมาแล้ว มันใช่เลยครับ มีความสุขกว่าเดิมมากครับ น้าๆ ท่านใดอยู่ใกล้ๆ และสนใจโทรถามน้าปรีชาได้เลยครับ
รูปตัวช่วยผ่อนแรงคลัช ยืมของน้าปรีชา มาครับ
มาว่ากันเรื่องน้ำมันรถตอนนี้ขับมาเรื่อย ๆตรงถึงขีดแรกแล้วเป็นที่น่าพอใจครับ เลย3ร้อยปลายๆ ดีกว่าเดิมครับมีขับในกทมด้วย นะตอนที่ทดลองยังใช้กล่องคันเร่งไฟฟ้าเบอร์1 อยู่ครับ
สุดยอด 374 กับ 1ขีด
มาว่ากันต่อครับหลังจากขับไปงานแต่งเพื่อนและวิ่งไปหาที่หลับที่นอน อีกวันขับไปเที่ยวในเมืองไปหาเพื่อน หลายๆที่ และขับกลับปากช่อง แวะเติมน้ำมัน และแก๊สน้ำมันก็เติมบางจาก เต็มถังตัดไม่ขย่มจนเต็มคอน่ะครับ ส่วนแก๊สเติมเต็มตัดครับ
ช่วงนี้เพี้ยน จำสับกันระหว่าง Trip A น้ำมัน กับ Trip B แก๊ส แต่ระยะเติมแก๊สกับน้ำมันของเดิมห่างกัน 0.8 km ครับ จากรูปที่ลงไว้ครับ
น้ำมัน วิ่งได้ 483.9 km เติมเต็มบี5 25.88 ลิตร ที่ราคา 28.59 บาท/ลิตร รวม 740 บาท หารออกมาแล้ว ได้18.69 กม/ลิตร ตกอยู่ที่ 1.52 บาท/กม
แก๊ส วิ่งได้ 487.5 กม เติมเต็มตัด 22.74 ลิตร ที่ราคา 10.99 บาท/ลิตร รวม 250 บาท หารออกมาแล้ว ได้ 21.43 กม/ลิตร ตกอยู่ที่ 0.51 บาท/กม
รวมแล้วตก 2.03 บาท/กม ครับบบ
ส่วนการเติมน้ำมันและแก๊สใหม่ทำการรีเซ็ทค่าเป็นศูนย์โดย ใช้ Trip B เป็นน้ำมันและ Trip A เป็นแก๊ส ระยะห่างจากน้ำมันกับแก๊สครั้งใหม่นี้ 3.6 กม. และครั้งนี้ ได้ทำการปิดกล่องคันเร่งไฟฟ้า เพื่อทำการทำสอบหาประหยัดจาก นนทบุรี ไปปากช่องครับ...
หลังจากเติมเต็มทั้งน้ำมันและแก๊ส และได้ทำการปิดกล่องคันเร่งไฟฟ้า การขับขี่ช้ากว่ากล่องขันเร่งในการออกตัวและการกดคันเร่งครับกดลึกกว่าเดิมนิดๆ การวิ่งอัตราเฉลี่ยที่ 90-110 กม/ชมเป็นส่วนใหญ่ จากการได้ทดสอบการวิ่งแบบปิดกล่องคันเร่งไฟฟ้าแล้ว รู้สึกได้ถึงกดเร่งเร่งช้ากว่าลึกกว่าเล็กน้อยแต่มีผลจนรู้สึกได้ครับ และการกดคันเร่งเหมือนว่ากดลึกกว่า และรถผมไม่ได้ติด Smart Gauge ในการทดสอบ ไว้จะหามาติดตั้งครับ ตอนนี้อาศัยความรู้สึกของเท้าเป็นหลักครับบ
จากที่ได้ทดลองขับเปรียบเทียบระหว่างเปิดและปิดกล่องคันเร่งไฟฟ้า พบว่าอัตตรากินน้ำมันที่ขีดบนสุด จากเดิมเปิดกล่องที่กว่าจะตกขีดบนสุดประมาณ 165-170 กม ปิดกล่องเป็น 140-146 กม เริ่มตกขีดมาเรื่อยๆ ซึ่งทำให้อยากเิปิดกล่องทันที แต่ต้องลองปิดไปถึงขีดน้ำมันแรกก่อนเพื่อหาค่าการกินน้ำมันอีกครั้ง เพื่อเปรียบเทียบ และหลังจากนั้นจะทำการเปิดกล่องคันเร่งไฟฟ้า แต่จะเปิดเป็นเบอร์ 2 เพื่อหาค่าการกินน้ำมันอีกทีว่าจะกินหรือประหยัดมากขนาดไหนครับ
ส่วนแก๊ส 3 ขีดเต็ม กินมากเหมือนกันครับ ดวงแรกดับที่ 140-146 เหมือนกันครับ จากเดิมกินน้อยกว่านี้ครับ... ขอบคุณที่ติดตามครับบ
:smiley-transport023
แล้วน้ำมัน 1 ถังวิ่งกันได้ กี่กิโล แจ้งด้วย
1ถัง V power วิ่งได้640 กม. ครับ 4 ประตู plug A/T ปี08
ได้ครับน้า kob1 ต้องรอลองปิดกล่องและเปิดกล่องคันเร่งไฟฟ้า เบอร์2 ก่อนเปรียบเทียบกับเปิดกล่องคันเร่งเบอร์1 ว่าแบบไหนประหยัดสุด แล้วถ้าได้ที่แน่นอนแล้วจะมารายงานกันต่อไปเลยครับ รอและลองกันยาวๆ ครับ
แล้วรถน้าkob1 เป็นไงครับขาแรงจะประหยัดได้ขนาดไหนแล้วครับบบ หลังกลับจากบ้านอ.ต้น ครับบบ:i40:
กลลับมาแล้วคับ เอาเลย วิ่งยาวๆ100-120 น้ำมันได้ 15.6 กม/ลิตร แก๊ส 20.7กม/ลิตร
ขาไป น้ำมันครึ่งถัง 500 กม. เอาแบบคร่าวๆก่อน ส่วนขากลับ วิ่งทำเวลา 100-140 และ170 กม. ในบางเวลา น้ำมัน12.5กม/ลิตร ส่วนแก๊ส 17กม/ลิตร
มารายงานหลังจากหายไปนานเลยครับ กลับการปิดระบบกล่องคันเร่งไฟฟ้า วิ่งแบบเดิมๆ ครับระยะทางน้ำมัน 310 กม.
- น้ำมันบี5 ราคา 28.84บาท/ลิตร เติมไป 18.0.3 ลิตร ราคา 520 บาท ตก 17.19 กม/ลิตร 1.67 บาท/กม.
ระยะทางแก๊ส 307.2 กม.
- แก๊ส ราคา 11.60 บาท/ลิตร เติมไป 16.21 ลิตร ราคา 188 บาท ตก 18.95 กม/ลิตร 0.61 บาท/กม.
สรุป น้ำมัน+แก๊ส 1.67+0.61 = 2.28 บาท/กม.
พอปิดกล่องคันเร่งแล้ว กินแก๊สมากกว่า เปิดเบอร์ 1 ครับ กับระยะขีดน้ำมันเกือบถึงขีดแรกนิดเดียว อัตราเร่งสู้เปิดกล่องคันเร่งไม่ได้ครับ ระยะทางยังได้ 300 อัพอยู่ครับ กับการวิ่งแบบปกติทั่วไปครับ
พอเติมน้ำมันจนเต็มก็ทำการเปิดกล่องคันเร่งไฟฟ้า เป็นเบอร์ 2 เพื่อหาค่ากันต่อไปครับ และเติมแก๊สเต็มตัด ณ ร้านเดิม
เติมเสร็จได้ทำการทดสอบอัตราการเร่ง เห็นได้ว่าต้นมาแบบรวดเร็วมากๆครับ วิ่งสนุกเหมือนกับที่อ.ต้น เคยบอกไว้ครับ ณ ตอนนี้วิ่งไปได้ สองร้อยกว่าโลแล้วครับ อัตราการกินน้ำมันกว่าจะตกขีดบนสุดประมาณ 160 กม. เห็นจะได้ครับ และเข็มแก๊ส ณ ตอนนี้ยังอยู่ที่ ขีดที่ 2 กินแก๊สน้อยลงครับ แต่อาจกินน้ำมันมากขึ้นครับ แต่รอให้ถึงขีดแรกก่อนครับ แล้วเติมหาผลที่แน่นอนแล้วจะมารายงานครับ....
ไม่ได้เอากล้องไปครับเลยไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูครับบบบ
มาดูความลงตัวของ ปาเจโร่สปอร์ท กันบ้างครับ ความงามก็ไม่ยิ่งหย่อนไปจากไทรตั้นเลยแม้แต่น้อย ถัง 31 ลิตรมัลติ ติดตั้งแทนยางอะไหล่ และจุดเติมแก๊สมิดชิดแต่เติมง่าย หม้อต้มเป็นของโทมัส ทางด้านห้องเครื่องยนต์เน้นสวยงามแบบมองไม่รู้ว่าติดแก๊สเช่นเคยครับ
เอา Ford มาให้ดูด้วย 2.5 A/T 5 Speed ของเขาแรงจริงครับ การเปลี่ยนเกียร์ก็นุ่มนวลและไวดีครับ คันนี้ก็ติดแก๊สพร้อมตัวเพิ่มอ็อกซิเจน ด้วยครับ จุดเข้าแก๊สกลึงงานมาอย่างดี ตำแหน่งหม้อต้มอยู่อย่างลงตัวแบบมองไม่เห็นครับ
ส่วนถัง 36 ลิตรมัลติวางบนกระบะ รอดูผลความประหยัดครับ ส่วนข้อมูลเดิม แม็กซ์น่าจะประมาณ 20 นิ้ว ยางหน้ากว้าง 9 นิ้วกว่าๆ การสิ้นเปลืองเดิมอยู่ที่ 8-10 กม./ลิตรครับ ส่วนความเร็วเทียบ GPS ที่ 100 ไมล์รถโชว์ที่ 95 มันแก่งักเชียว ดังนั้นถ้ามีมาที่ 15 โล/ลิตรที่ความเร็ว 110-120 ก็คุ้มแล้วครับ เอามาโชว์ไว้เป็นข้อมูลเช่นเคยครับ
สมาชิกเพิ่มมากขึ้นสงสัยคงต้องมีสติกเกอร์ ประจำรถซะแล้วครับ อ.ต้น รออยู่ครับบ พร้อมกล่อง Mcu ตัวแรงและประหยัดครับ
อ.ต้นคับ หม้อต้มเป็นของโทมัส กับของ ชาร์ฟ ต่างกันยังไงคับ งง+สงสัย
ผมก็สงสัยด้วยคน ข้อดี ข้อเสีย แต่ราคาของใต้หวันน่าจะถูกกว่านะดูจากชื่อช่วยชี้แจ้งด้วยครับ
สมัยก่อนอ.ต้นใช้หม้อต้ม โทมัส อยู่แต่มีปัญหาบางอย่างจึงไปให้หม้อต้มชาร์ป แทนครับ ต้องรออ.ต้นมาชี้แจงครับบบบ ของผมก็ชาร์ป ครับ
โดยปกติผมใช้หม้อ Shap ครับ ตั้งแต่ดั้งเดิมแล้ว ไม่เคยมีปัญหา แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งอยากอัพให้ดีขึ้นเกรดเป็นอิตาลี เพราะก็คิดเหมือนกับคนอื่นเขาว่ามันน่าจะดีกว่า ส่วนราคานั้นไม่ได้แตกต่างกันเลย ห่างกันแค่ 100 กว่าบาท เลยจัดการมาติดตั้งไป 5 คัน ในนี้รวมรถน้ากาโม่ด้วยครับ และอีก 3 คันมีปัญหาต้องเปลี่ยนหม้อมาเป็น Shap เหมือนเดิมปัญหาที่เกิดจึงหมดไป อย่างอาการของน้ากาโม่ใช้โทมัสความเร็วปลายได้ 140 ลากไม่ขึ้น พอเปลี่ยนมาเป็น Shap ลองกดดูความเร็วปลายเกิน 170 ไหลได้อีก
ส่วนปัจจุบันหม้อ Shap รุ่นที่เคยสั่งมันหมด แล้วก็ไม่อยากรอเพราะงานมีมาอยู่ตลอด จึงสั่งหม้อโทมัสมา 1 ลูกจัดการถอดรื้อดูว่าปัญหามันเกิดจากอะไรกันแน่ และแล้วก็จัดการโมดิฟายอุปกรณ์บางตัวให้ได้ตามสเปกที่เราต้องการ แล้วก็ติดตั้งใช้งานจริง ผลก็ OK ครับ
หม้อโทมัสมันเหมาะกับเบนซินเพราะมันจ่ายแก๊สได้มากพอ และละเอียดกว่า สังเกตุดูเวลาเดินเบาจูนดีๆจะไม่มีกลิ่นแก๊สออกท่อไอเสีย ส่วนดีเซลใช้ร่วมไม่ต้องการแก๊สมาก ดังนั้นไม่ใช่ว่ามาจากอิตาลีจะดีกว่าเสมอไปครับ
หม้อ Shap มันจ่ายแก๊สได้หยาบสำหรับเครื่องเบนซิน เดินเบาไม่ค่อยเรียบ มักจะมีกลิ่นแก๊สออกท่อไอเสีย แต่มันเข้าทางดีเซลใช้ร่วม เพราะจะต้องไม่จ่ายแก๊สฮวบฮาบในขณะที่เทอร์โบบู๊ท ไม่งั้นเชื้อเพลิงท่วมวิ่งไม่ออกเปลืองทั้งแก๊สและน้ำมัน ผมว่ามันเหมาะสมดีครับสำหรับประสบการณ์ของผมกับหม้อต้มทั้งสองรุ่นนี้ครับ
รายระเอียดยังพอมีอีกเอาไว้ใครข้องใจโทรมาคุยครับ จะได้หายข้องใจ (จริงๆนะ ไม่ใช่นักเลงเด้อ)
ข่าวดี....วันนี้ได้ประกอบอุปกรณ์และเดินระบบไฟใหม่ เพื่อที่จะติดตั้งกล่อง Mcu ตัวต้นแบบไว้ในไทรตั้นคันเก่งของผม กว่าจะรื้อของเก่าออกแล้วทำใหม่ใช้เวลาร่วมครึ่งวัน เพราะระบบมากมายเหลือเกินครับ (รถต้นแบบ)
เสร็จเอาช่วงเย็นกะว่าจะออกไปเทสซะหน่อย ใจมันร้อน พอติดเครื่องโอ้มายก๊อต อารายวะยังไม่เหยียบคันเร่งเลยแก๊สดันทำงานแระ จากที่กำลังจะหายเหนื่อยเลยเหนื่อยหนักกว่าเดิมอีก งานเข้า
ตอนนี้รอน้องที่ทำโปรแกรมให้เอาอุปกรณ์เครื่องมือวัด และทำการโปรแกรมเข้าไปใหม่ คาดว่าถ้าแก้ตรงนี้ได้สำเร็จพรุ่งนี้ผมก็จะเริ่มทำการทดสอบและเก็บข้อมูล คาดว่าไม่นานเกินรอครับ ถ้าสมบูรณ์แล้วขึ้นไลน์การผลิตไม่น่าจะนาน
อาจได้เป็นของขวัญปีใหม่ก็ได้ครับ
ส่วนรายละเอียดการทำงานจะมาแจ้งอีกที
รอดูของใหม่ครับ อนาคตอาจจะได้ใช้บริการ
รอหยอดกระปุก
มารายงานผล จากการใช้งานจริง
วิ่งในเมือง 0-90 กม. น้ำมัน 12.5กม./ลิตร แก๊ส 17.5ก./ลิตร
วิ่งทางยาวระยะ 100-120 กม. น้ำมัน 15.5กม./ลิตร แก๊ส 20.5 กม/ลิตร
วิ่งแบบเร็วระยะ 120-150 กม. น้ำมัน 12.5 กม./ลิตร แก๊ส 17.8 กม/ลิตร
แบบนี้ ต้องปรับอะไรเพิ่ม อีกคับ อ.ต้น (แรงบิดยังแรงอยู่) รูปรถ
มารายงานความประหยัดกันครับ หลังหายไปสักระยะ จึงมีโอกาสได้วิ่งกันยาวๆ จึงได้นำมาให้ชมกันครับ ซึ่งน้ำมันเต็มถัง และแก๊สด้วย และได้ปรับตัวกล่องคันเร่งไฟฟ้า โดยใช้เบอร์ 2 ในการทดสอบครั้งนี้ครับ โดยการขับขี่เป็นแบบปกติทั่วไปครับ ล้อขอบ 16 ยางเดิมติดรถครับ
พอเปลี่ยนกล่องคันเร่งเป็นเบอร์ 2 แล้วทำให้การขับขี่มาไวขึ้นแบบหลังติดเบาะได้โดยที่กดคันเร่งนิดเดียวครับ พอใจมากครับเหมือนกับครั้งที่ยังไม่ได้ติดแก๊สแล้วใช้กล่องคันเร่งเบอร์ 4 โดยที่ขับไปได้เข็มน้ำมันมาที่ขีดแรกกับระยะทางที่ได้ครับ 340.9 กม. น้อยกว่าเบอร์ 1 แต่ดูกันยาวๆครับ
หลังจากขับทำธุระ และขับเที่ยวไปเรื่อยๆ ในบริเวณรอบกทม และจังหวัดใกล้เคียง สมุทรสาคร สมุทรสงคราม นครปฐม อ้อมเชียวครับ ระยะ 665.1 กม. น้ำมันครึ่งถัง รู้สึกดีครับ เมื่อเทียบกับก่อนติดแก๊สที่วิ่งได้สุดๆ ก็ 500 กม. ครับขับแบบเขียมๆนิ่งๆสุดไม่เกิน 100 กม/ชม ความเร็วรอบไม่เกิน 2000-2200 รอบน่ะครับ แต่ตอนนี้วิ่งแบบตามใจตัวเองมากๆแล้วครับกับกล่องคันเร่งเบอร์ 2 สนุกสนานมากครับ
หลังจากหาอะไรลองท้องแถวองค์พระปฐมเจดีย์แล้ว และถึงเวลากลับปากช่อง จึงได้ขับกลับทางเส้นถนนปิ่นเกล้า นครชัยศรี เพื่อมาเติมน้ำมันกับแก๊ส แถวบางบัวทอง กับระยะที่วิ่งมาได้ 707.2 กม.
น้ำมันบี5 ราคา 29.39 บาท/ลิตร
ระยะทาง 707.2 กม. น้ำมันเติมเต็ม 37.43 ลิตร เป็นเงิน 1100 บาท ตก 18.89 กม/ลิตร ที่ 1.55 บาท/กม
แก๊ส ราคา 10.99 บาท/ลิตร
ระยะทาง 710.9 กม. แก๊สเติมเต็ม 27.30 ลิตร เป็นเงิน 300 บาท ตก 26.04 กม/ลิตร ที่ 0.42 บาท/กม
รวมน้ำมัน + แก๊ส = 1.97 บาท/กม. กับกล่องคันเร่งไฟฟ้า เบอร์ 2 ดีมากๆครับดีกว่าเบอร์ 1 ซะอีกครับถ้าวิ่งยาวๆไปเรื่อยๆ น่ะครับ กินแก๊สก็น้อยกว่าจนรู้สึกได้ครับบ
เบอร์ 2 เข็มแก๊สตกขีดแรกประมาณ 200 กม.เห็นจะได้
เบอร์ 1 ประมาณ 160
ปิดกล่องประมาณ 140 กม.
ส่วนน้ำมันกับระยะขีดน้ำมันแรก
เบอร์ 2 ประมาณ 340.9 กม.
เบอร์ 1 ประมาณ 374.4 กม.
ปิดกล่อง ประมาณ 310 กม.
แต่พอวิ่งยาวๆ เบอร์ 2 กลับประหยัดทั้งแก๊ส และน้ำมันมากกว่าครับ และอัตราเร่งดีกว่าด้วยครับ
ซึ่งตอนเติมเต็มครั้งนี้กลับไปใช้กล่องคันเร่งเบอร์ 1 ซึ่งอัตราการกินต่างๆ ก็เป็นไปเหมือนที่เก็บข้อมูลเอาไว้ครับ คือกินแก๊สมากกว่าเบอร์ 2 แต่ประหยัดน้ำมันมากกว่าเบอร์ 2 ครับ ส่วนปิดกล่องนี้คงไม่แล้วครับเพราะมันอึดมากกว่ากินมากกว่าครับบบ
ความลงตัวของผม ณ ตอนนี้คงใช้กล่องคันเร่งเบอร์ 2 ครับบ โอกาสหน้าคงจะไปใช้กล่องคันเร่งเบอร์ 3 ครับน่าจะแรงกว่านี้คับ และจะได้หาค่าความประหยัดอีกทีครับบ
ขอบคุณที่ติดตามครับบ