อีกรูปดูขนาดถังกับตัวรถเมื่อติดแล้วรับลองมองไม่เห็นเลย
Printable View
อีกรูปดูขนาดถังกับตัวรถเมื่อติดแล้วรับลองมองไม่เห็นเลย
สวิทซ์ ออกแบบสำหรับดีเซลโดยเฉพาะ หรือนำไปใช้กับงานอื่นได้ครับเช่น การติดตั้งเครื่องผลิด Hydrogen
การทำงานเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก ตราปใดที่เปิดกุญแจแล้วเครื่องยนต์ยังไม่ติดจะอยู่ในสภาวะกระพริบเตรียมพร้อมการใช้งานครับ และในขณะมที่เครื่องยนต์ทำงานแล้วดับกระทันหันซึ่งด้วยสาเหตุใดก็ตามแต่ มันจะตัดการทำงานของแก๊สทั้งหมด อันนี้ก็ภูมิใจในความคิดที่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้งานครับ
การเริ่มทำงานตั้งได้ 4 ระดับ อันแรกทำงานทันที 2 .หน่วง 10 วินาที 3. 20 วินาที 4. 30 วินาที โดยปกติเมื่อเครื่องยนต์ติดกล่อง ECU จะเช็คความพร้อมของเซ็นเซอร์ทุกกตัวภายใน 10 วินาที จึงควรตั้งสวิทการทำงานไว้หลังจากนั้นเพื่อการทำงานที่ดีและถูกต้อง มีระดับบอกระดับแก๊สไว้ 3 ดวงซึ่งตั้งให้สลับกันได้ ระหว่าง 0-100 โอมม์ หรือ 100-0 โอมม์แล้วแต่ยี่ห้อของวาวล์ และระบบเซฟตี้ตั้งเป็น ON หรือ OFF ก็ได้ สามารถทำงานได้ครับ ที่สำคัญขนาดมันพอดีกับช่องของรถที่มีมาครับ อย่างมากก็ตะไบนิดนึงก็เข้ากันได้ครับ
ด้วยราคาค่าดำเนินการไม่ถึงสองหมื่นบาท พร้อมรับประกันผลงานตลอดชีพได้ทั้งแรง (ไม่ต้องต่อพ่วงอุปกรณ์เพื่มแรงม้าใดๆให้เปลืองกะตังค์) ไม่มีควัน ประหยัดค่าน้ำมัน เครื่องยนต์สะอาด ไม่ต้องถอดแคททิ้งให้เปล่าประโยชน์ ฟิลลิ่งการขับขี่เนียลกว่าหัวฉีด(เป็นคำยืนยันของ อ.อนุชิต เทคนิคดอนเมืองแผนกช่างยนต์ ซึ่งท่านเป็นที่ปรึกษาของผู้ประกอบการเกียวกับพลังงานร่วม ทั้ง NGV ,LPG และเป็นวิทยากรอบรมใบอนุญาตุด้วย )
และตอนนี้การใช้ร่วม LPG Oxy-Hydrogen ที่ผมพัฒนาอยู่ก็ไกล้บรรลุเต็มทีแล้ว ตัวเลขคร่าวๆ แตะ 19 โลลิตรไปแล้วนะในและนอกเมือง เหลือเช็ดอัตราการกิน LPG หน่อยเดียวครับ
สำหรับผู้สนใจ ศึกษาให้มากๆในทุกๆค่าย ถ้าลองได้ให้ได้ลอง แล้วค่อยตัดสินใจอีกที แนะวิธีเทสง่ายๆ ออกตัวแรงๆถ้าได้ยินแกร๊กเมื่อไหร่ไม่ต้องคิดติดเลยครับไม่ว่าจะหัวฉีดหรือ อะไรคอนโทลก็ตาม (เราคำนึงถึงประโยชน์กับผู้บริโภคครับ ซึ่งในปัจจุบันมีอยู่มาก เสียสตังค์ที่แพงแล้วได้ไม่คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป )
ข้อมูลมาใหม่เพียบ...ขอบคุณครับ
เพิ่งได้เข้ามาอ่านและก็สนใจมากครับ แต่ไม่รู้จะติดต่อยังไง ผมขอเบอร์ด้วยครับน้า Kamo ตัดสินใจจะดมแก็สแล้วครับ
สนใจแล้ว 75 %
อีก 25 % รองบหนับหนุน ขอบคุณ คูณตา กาโม่ ที่แบ่งปัน
ขอบคุณ น้านุ๊กที่ ใส่ใจครับ
ผมต้องการติดเลยนะ แต่ติดที่ ผบ.ทบ. บอกว่า จะอันตรายไหม
แล้วมีใบรับประกันหรือเปล่า
รบกวนพี่ๆที่ติดกับ อ.ต้นแล้ว มาบอกหน่อยนะครับ
ว่าหลังติดแล้วเป็นงัย ใครวิ่งได้เท่าไหร่ แล้วแต่ละเดือน
พี่ๆวิ่งกันกี่กิโลครับ
มาดูความสะอาดของเครื่องยนต์กันบ้าง ตอนนี้รถผมใช้งานระยะทางทั้งหมด 133226 กิโลเมตร ในระยะเวลา 3 ปีกว่า โดยใช้ร่วม LPG ประมาณ 9 หมื่นโล และ LPG Oxy-Hydrogen อีกประมาณ หมื่นกว่าโล ผมเลยถ่ายให้ดูสีของน้ำมันเครื่องหลังจากเปลี่ยนถ่ายมาเมื่อเร็วๆนี้ ได้ระยะทางทั้งหมด 6548 กิโลเมตร ให้ดูถึงความใสของน้ำมัน ท่านจะเห็นได้ว่ายังไปได้อีกไกล ซึ่งเมื่อครั้งที่แล้วผมลองไปจนครบ 2 หมื่นโลแล้วจึงเปลี่ยนถ่ายอย่างที่เคยให้ข้อมูลไว้ อันนี้เอาข้อมูลมายืนยันว่าไม่ได้โม้จริงๆ ส่วนน้ำมันเครื่องผมใช้บางจากเทอร์โบพลัส ซึ่งราคาน้ำมันพร้อมกรองอยู่ในงบประมาณ 1000 บาท ท่านคิดดูขอแค่ 15000 โลเปลี่ยนที มันจะลดค่าสิ้นเปลืองลงไปไม่น้อยครับ และไม่ต้องกลัวพังเพราะบางจากประกัน 20000 กิโลเมตร ส่วนถ้าท่านใดต้องการแพงกว่านี้อีกหน่อยก็ใช้ตัว D3 Gold ไปเลย เขาประกันที่ 50000 โลครับ ซึ่งผมได้ถามข้อมูลทางฝ่ายเทคนิคของเขาแล้วได้ข้อมูลมาว่า รถทดสอบใช้จนถึง 1 แสน 5 หมื่นโลแล้วนำน้ำมันเครื่องมาเข้าห้องแล็ปปรากฏว่าคุณภาพของน้ำมันเครื่องยังมีอยู่ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ อันนี้เป็นข้อมูลมาเล่าสู่กันฟังครับ
อ.ต้นครับ ผมสนใจติดตั้งระบบแกสกับท่านครับ แต่ผมอยู่ ตจว.(อุบลฯ)
ต้องใช้เวลานานแค่ไหนครับ แบบตั้งแต่ติดตั้ง จูน จนเสถียรดี ระดับน่าพอใจ
ต้องเตรียมอะไรบ้างครับ
ตอนนี้ผมสนใจอยากติดแก็สอย่างแรง เหตุผลก็คือผมขับรถเดือนละประมาณ 5,000 โล
อัตราการกินน้ำมันรถผมอยู่ที่ 12 กม/ลิตรใช้น้ำมันต่อเดือน =5000/12= 417 ลิตร ถ้าคิดลิตรละ 28.59 บาท
ค่าน้ำมันต่อเดือน 11,922 บาท ต่อเดือน
ถ้า ติดแก็ส อัตราการกินน้ำมันลดลงเป็น 25 กม/ลิตร
ใช้น้ำมันต่อเดือน =5000/25= 200ลิตร ถ้าคิดลิตรละ 28.59 บาท
ค่าน้ำมันต่อเดือน 5,718 บาท ต่อเดือน
ส่วนต่างต่อเดือน 6,200 บาท ต่อเดือน หรือ 74,400 บาทต่อปี
:i42:แต่รถผมยังป้ายแดงอยู่เลย คิดไม่ตกครับ
ผมว่า น้าAuto Bot ลืมบวกค่าแก็สนะครับ ผมเองก็กำลังศึกษาข้อมูลอยู่
อยากติดเหมือนก้นครับ แต่รถผมวิ่งเดือนละพันกว่าโลเอง
ถ้าบางเดือนเดินทาง จอดอยู่บ้านเฉยๆ สองอาทิตย์..
เศร้า..
คิดไม่ตกเหมือนกันครับ
ผมสนใจ LPG Oxy-Hydrogen ครับมีรูปให้ดูไหมครับ
น้า Nat ครับ รถผมยิ่งแล้วใหญ่เลยครับ เข้าปีที่ 5 แล้วเลขไมล์เพิ่งได้ 60000 กว่าโลเองน่ะ
ใช้งานวันละ 40 กิโลเมตรครับ แต่ที่ทำเพราะว่าเอาไว้เวลาไปเที่ยวน่ะครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าค่าติดจะ
คืนทุนเมื่อไหร่ แต่อย่างที่เคยบอกไว้ครับ ติดแก๊สกับไม่ติด ฟีลลิ่งต่างกันคนละฟากเลยครับน้า
ผมลองขับแบบปิดระบบแก๊สดู ปรากฏว่าวิ่งได้เดี๋ยวเดียวต้องเปิดระบบทันทีเลยครับ.....
น้ากาโม่วิ่งน้อยจัง เหมือนยังกะเห็นไปเที่ยวถ่ายรูปบ่อยๆออกนะครับ
ถ้าผมสนใจติดนี่คืนทุนเร็วกว่าน้าเท่าตัวแหงๆครับ เพราะผมวิ่ง 3 ปี แสนโล พอดี
สนใจเหมือนกันครับรถผม 2.5 4 ประตู ขับ 2 ปัจจุบันอัตราการกินน้ำมันเฉลี่ย 12-13 กม./ลิตร ถ้าติดแล้วค่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณเท่าไรครับ รบกวน อ.ต้นตอบหน่อยครับ วิ่งเฉลี่ย 3,000 กม./เดือน
น้านัทครับ เรื่องคืนทุนอ่ะ ผมว่าไม่ต้องไปคิดหรอกครับ คิดแต่ว่าทุกวันนี้ที่เราเดินทางจะใกล้หรือไกล จะทำงานหรือเที่ยวเดินทางไปที่ต่างก็แล้วแต่ เราควักเงินในกระเป๋าจ่ายค่าเชื้อเพลิงที่ถูกกว่าก็น่าจะพอใจแล้วล่ะครับ เพราะถ้ามาคิดว่าจะคืนทุนเมื่อไหร่ใช่ระยะเวลาเท่าไหร่ จบกันไม่ได้ติดกันซะัที จริงมั้ยครับน้ากาโม่
บางคนสิ้นปีหรือเทศกาลอยากไปเที่ยวเหนือ เที่ยวใต้ หรือ ภาคอื่น ๆ อย่างน้อยก็ไม่ต้องมาพะวงเรื่องค่าเชื้อเพลิงกันให้มากมาย ผมคิดอย่างนี้นะ
น้าครับ ถังน้าหามาจากไหนครับเล็กดีจัง ไม่เคยเห็นอ่ะครับ ตอนแรกนึกว่าต้องวางที่กระบะ ติดเบาะหลัง
เล็กๆแบบนี้ ย่อมต้องมีผลกับการเติมบ่อยแน่เลย
ถังนี้เป็นขนาด 31 ลิตรครับ ตอนนี้น่าจะหาไม่ได้แล้วครับ ถ้าใหญ่กว่านี้ต้องหาที่วางถังใหม่ครับ
ก็น่าจะเป็นกระบะท้ายแหละ ส่วนเรื่องที่กลัวว่าแก๊สจะหมดน่ะ ไม่ต้องกังวลครับ เพราะของเราเป็น
ระบบเชื้อเพลิงร่วมครับ ฉนั้นแก๊สขนาดนี้ อ.ต้นก็สามารถพาเราไปได้ไม่ต่ำกว่า 600 - 700 กิโลเมตร
สบายๆครับ ที่ผมเคยลองมาถังที่แล้วก็ได้ 500 กิโลเมตรได้ครับ แต่ที่สำคัญจริงๆในความคิดของผมนะครับ ต้องให้แก๊สหมดก่อนน้ำมันนะครับ ถ้าน้ำมันหมดก่อนแก๊สแล้ว น่าจะเป็นผลเสียมากกว่าครับผม
อ. ต้นครับ ช่วยรบกวนเมล ราคาติดตั้งหน่อยได้ไหมครับ
ของผม 2.5 แคป
ขอราคา +hydrogen ด้วยครับ
เอาเป็นว่าเดิมใช้อยู่เท่าไหร่ เมื่อใช้ร่วมแล้วบวกไปอีก 5-6 กิโลเมตร/ลิตรครับแล้วแต่ฝีเท้า ส่วนค่าใช้จ่ายคิดค่าแก๊สไปด้วยครับ ปกติประมาณกิโลเมตรละ 40-50 สตางค์ โดยรวมจะประหยัดไปโลละประมาณ 60-80 สตางค์ครับ คิดง่ายๆครับถ้าใช้งานไป 1 แสนกิโลเมตร จะประหยัดตังค์ 6-8 หมื่นบาท ณ.ราคาน้ำมัน ประมาณลิตรละ 28 บาท ถ้าราคาดีเซลทะลุ 30 ขึ้นไปตัวเลขจะเปลี่ยนไปอีกครับ
ตอบได้เลยครับ ไม่ถึงสองหมื่นครับ ส่วน Hydrogen ประมาณ หมื่นห้าครับ อันนี้หลังไมล์ก็ได้ ส่วนการติดตั้งให้รอความพร้อมของชุดติดตั้งชุดใหม่ครับ เพราะชุดที่มีอยู่เหลือติดตั้งได้แค่คันเดียวครับ ซึ่งชุดใหม่จะพัฒนาให้ขนาดกระทัดรัดและการติดตั้งง่ายกว่าเดิม ออกแบบไว้แล้วไว้รอการผลิตอีกทีครับเพราะต้องผลิตทีละจำนวนมากพอสมควร คงไม่นานเท่าไหร่ครับ
โดยส่วนตัวไม่เคยเก็บค่าจองใดๆทั้งสิ้นครับ ที่ผ่านมาโทรมาจองก็จัดคิวให้ทุกครั้งไป ผมเป็นประเภทคุยง่ายๆพูดกันตรงไปตรงมาครับ ส่วนจะรอให้น้ำมันถึง 40 บาทละก็มันจะเสียโอกาสนะ เพราะยังไงแล้วรถที่เราใช้มันวิ่งเข้าหา แสนโล สองแสนโล สามแสนโลไปเรื่อยๆ บางทีเผลอแว๊ปเดียวถึงแล้ว ผมขอยกตัวอย่างรายหนึ่งเป็นรถบรรทุกของวิ่งวันละประมาณ 300-500 กิโลเมตรทุกวัน เป็นเครื่องยนต์อีซูซุ 2800 เทอร์โบ ก่อนติดตั้ง 7-8 กม./ลิตร เมื่อใช้ร่วม ได้ 17-18 กม./ลิตร ใช้งาน 1ปีเต็มมาให้ผมเช็ค ปรากฏว่าใช้ไป 168000 โลแล้วลองคิดคำนวนดูนะว่าเป็นเงินเท่าไหร่ ส่วนแก๊สอยู่ประมาณ 15-17 โลลิตร
ใช้ถังโดนัทได้ไหมครับ จะมีปัญหาเรื่องเอกสารหรือเปล่าครับ
รอบเดินเบา 2.9 Amp. ดูปริมาณแก๊สครับ
เสต็ปการทำงาน 7.8 Amp. ดูว่าปริมาณแก๊สที่ได้พอจะแทน LPG ได้ไหม
ตอนนี้ใช้ร่วม LPG สามารถประหยัดไปได้พอควร จากปกติใช้ประมาณ 22-24 โลลิตร ปรับขึ้นมาเป็น 32-35 กม./ลิตรแล้ว
(เฉพาะ LPG) ส่วนการใช้งานร่วมกับดีเซลอย่างเดียว ทำความประหยัดได้จาก 11 กม./ลิตร มาเป็น 13.8 กม./ลิตร ที่ความเร็ววิ่งทดสอบ 110 กม./ชั่วโมง เป็นระยะทางทั้งสิ้น 98 กิโลเมตรในการทดสอบครับ ส่วนความแรงของเครื่องยนต์ ทำล้อฟรีที่เกียร์ 2 ได้สบายๆครับ
รถผม 2.5 ขับ 4 ล้อยาง 265/75/16 หนักขึ้นมากเหมือนกัน
วิ่ง 100 รอบที่ 2400 จอ rv บอกค่า 11 โล/ลิตร
ถ้าผมอยากติดชุด Oxy-Hydrogen อย่างเดียว น่าจะได้ประมาณ กี่โลลิตรครับ ค่าใช้จ่ายด้วยครับ
ถ้ารถล้อเส้นรอบวงใหญ่กว่าเดิม ก็แนะนำให้ติดเพื่อเพิ่มแรงบิดในการออกตัวครับมันช่วยได้มากทีเดียว ส่วนความประหยัดคิดว่าเป็นของแถมไป แต่ถ้ารถเดิมๆย่อมเห็นความประหยัดได้มากกว่าครับ จากข้อมูลที่ผมลงไว้ครับ ผมเอารูปรถผมมาให้ดูแล้วกันแล้วท่านคะเนเอาเองครับว่าน้ำหนักรถกับขนาดยางที่ท่านใช้มันประมาณเท่าไหร่เมื่อเทียบกับรถผมที่ใช้ทดสอบ
มีส่วนเกี่ยวกับการปรับลดการจ่ายของน้ำมันครับ และก็มีค่าที่เหมาะสมด้วยครับมากไปหรือน้อยไปก็ไม่ได้ความคุ้มอย่างที่ต้องการ ผมใช้ระยะเวลา 2 ปีกว่าๆ กว่าที่จะได้ค่าที่เหมาะสมของไทรตั้น ซึ่งยี่ฮ่ออื่นๆก็เช่นกัน
อธิบายนิดนึงเวลาเราใช้ LPG หรือ Hydrogen เข้าไปเซ็นเซอร์มันไม่รู้หลอกครับว่าเป็นพลังงาน มันอ่านได้แค่อัตราการไหลของอากาศ อุณหภูมิ และความหนาแน่นของอากาศเท่านั้นครับ ส่วนที่ใช้พลังงานร่วมที่ทำกันอยู่ทั่วไปอาศัยความแรงของ แก๊ส ทำให้กดคันเร่งน้อยลงกว่าเดิม จึงเห็นความประหยัดมาได้บ้าง โดยส่วนใหญ่แล้วแรงก็จริงแต่เขม่าท่อไอเสียจะเยอะมาก บางท่านยังได้ควันกลบตูดไปอีกด้วย ยิ่งถ้าไปเจออุปกรณ์พ่วงเพิ่มน้ำมันเข้าไปอีกละก็จะหาหนทางที่คุ้มและประหยัดได้ยาก เพราะตัวแปรสำคัญคือการจ่ายน้ำมันครับ ส่วนแก๊สเป็นตัวเสริมเท่านั้นครับ