ขอความรู้น้าฯเซียนแก๊สทีครับ ไปเจอข้อมูลมา งงมาก

ไม่ได้มีเจตนาอื่นใดนะครับ กำลังหาข้อมูลกำลังจะติดแก๊ส ของ energy reform (advance obd)ดันไปเจอกระทู้นี้เข้า รบกวนชี้แนะที รึอาจจะหันมาทาง versus ดี

Versus ดีกว่า 100% ครับ ที่ดีกว่า Energy ก็มีดังนี้ครับ
1. มีอู่บริการครอบคลุมทั่วประเทศ มากกว่า 150 สาขา
2. มี Call center 1716 ตลอด 24 ชม.
3. ราคาถูกกว่า
4. อุปกรณ์เครมง่ายกว่า
5. มีประกันภัยคุ้มครองให้สูงกว่า
6. อุปกรณ์ติดตั้งง่าย ไม่ซับซ้อนเหมือน Energy (อันนี้ อู่ชอบมาก เพราะลดเวลาการทำงานได้เยอะ)
7. มีผู้ให้ความไว้วางใจเลือกติด Versus มากกว่า (อันนี้ สังเกตุจากอู่ที่ติดตั้ง)

ส่วน OBD นั่น ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย ราคาก็แพง ใครยังไม่เข้าใจระบบ OBD ของ Energy ผมจะอธิบายให้ฟังคร่าวๆ

OBD (On-Board Diagnostics generation) เป็นระบบตรวจสอบการทำงานที่ผิดพลาดของเครื่องยนต์ แล้วส่งผลไปให้ ECU แก้ไขในส่วนที่ผิดพลาดนั้นๆ ซึ่งจะพบได้บ่อย คือ ไฟ Engin โชว์ที่หน้าปัดรถ ซึ่งมันฟ้องว่า ส่วนผสมของเชื่อเพลิงกับอากาศไม่เหมาะสม
ซึ่งก็หมายความว่า อุปกรณของ Energy นั้น ยังไม่มีความเสถียร จึงต้องเอา OBD เข้ามาช่วย เหมือนเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ

แต่ของ Versus ที่ไม่ได้ทำ OBD ออกมานั้น เพราะว่า อุปกรณ์ของ Versus นั้น มีความสมบูรณ์ เสถียร และมาตรฐานดีพอ จึงไม่จำเป็นต้องใช้ OBD เลย

ซึ่ง OBD นั้น กว่ามาก แล้วคุณจะเลือกติดอะไร ระหว่าง ของแพง คุณภาพต่ำ กับ ของถูก คุณภาพสูง
เลือกเอานะครับ

ยังไงดี ตอบแบบกลางๆนะ เพราะผมไม่ได้ใช้ทั้งคู่

-เรื่องอู่และศูนย์บริการ ผมว่าทั้ง 2 ยี่ห้อหาได้ง่ายทั้งคู่เพราะเป็นยี่ห้อที่มีมากในตลาดทั้งคู่
-Call Center ก็มีทั้งคู่ไม่แตกต่าง
-ราคา Versus ถูกกว่า จริงครับ
-เรื่องการเครมอุปกรณ์ ยากง่าย อันนี้ไม่สันทัด
-ประกันภัยคุ้ทครอง อ่านเงือนไขกรรมธรร ดีๆครับ รายละเอียดปลีกย่อยเยอะ
-เรื่องการติดตั้ง ขอฟันธงว่าไม่เกี่ยวกับอุกรณ์ ฝีมือช่างล้วนๆ จะห่วย จะดีก็
-เรื่องวางใจอันนี้ พอๆกัน เยอะทั้งคู่

ผมไม่ได้เป็นช่างติดแก๊ส อาศัยอ่านไปเรื่อยแล้วคิดตาม เปรียบเทียบความหลักการณ์และเหตุผล ไม่ใช่เซียนด้วย 555

พอจะจับใจความได้ว่าจากที่ดูระบบของแก็สหลายๆยี่ห้อโดยอ่านจากในเวปบ้างคุยกับเพื่อนเป็นช่างบ้าง
ระบบของแก๊สเกือบจะทุกยี่ห้อเรื่องของชิ้นส่วนและหลักการทำงานค่อนข้างจะเหมือนกันแทบจะไม่แตกต่าง
จุดหลักจะอยู่ที่กล่อง ECU แก๊สว่าที่การขียนโปรแกรมเข้ามาวิเคราะห์การทำงานของระบบแก๊สยังไงให้เสถียร
ให้ตอบสนองการทำงานสั่งจ่ายแก๊สให้เข้ากับการทำงานของเครื่องยนต์ได้ดีหรือเท่ากับการใช้น้ำมันและสามารถเข้ากับระบบเดิมของรถมากที่สุด
สำหรับระบบ OBD มแนวคิดของผ้ผลิตหลายๆยี่ห้อ ไม่ได้เอาสัญญาณ OBD มาเพื่อจับความผิดพลาด แต่เอามาเพื่อประมวณผลการทำงาน
ของกล่องหลักของเครื่องยนต์เพื่อตอบสนองในการจ่ายแก๊สได้แม่นยำยิ่งข้นครับ
ถามว่ายี่ห้อไหนดี หาอู่ที่คิดว่าดีก่อนดีกว่าครับ

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ munic

ยังไงดี ตอบแบบกลางๆนะ เพราะผมไม่ได้ใช้ทั้งคู่

-เรื่องอู่และศูนย์บริการ ผมว่าทั้ง 2 ยี่ห้อหาได้ง่ายทั้งคู่เพราะเป็นยี่ห้อที่มีมากในตลาดทั้งคู่
-call center ก็มีทั้งคู่ไม่แตกต่าง
-ราคา versus ถูกกว่า จริงครับ
-เรื่องการเครมอุปกรณ์ ยากง่าย อันนี้ไม่สันทัด
-ประกันภัยคุ้ทครอง อ่านเงือนไขกรรมธรร ดีๆครับ รายละเอียดปลีกย่อยเยอะ
-เรื่องการติดตั้ง ขอฟันธงว่าไม่เกี่ยวกับอุกรณ์ ฝีมือช่างล้วนๆ จะห่วย จะดีก็
-เรื่องวางใจอันนี้ พอๆกัน เยอะทั้งคู่

ผมไม่ได้เป็นช่างติดแก๊ส อาศัยอ่านไปเรื่อยแล้วคิดตาม เปรียบเทียบความหลักการณ์และเหตุผล ไม่ใช่เซียนด้วย 555

พอจะจับใจความได้ว่าจากที่ดูระบบของแก็สหลายๆยี่ห้อโดยอ่านจากในเวปบ้างคุยกับเพื่อนเป็นช่างบ้าง
ระบบของแก๊สเกือบจะทุกยี่ห้อเรื่องของชิ้นส่วนและหลักการทำงานค่อนข้างจะเหมือนกันแทบจะไม่แตกต่าง
จุดหลักจะอยู่ที่กล่อง ecu แก๊สว่าที่การขียนโปรแกรมเข้ามาวิเคราะห์การทำงานของระบบแก๊สยังไงให้เสถียร
ให้ตอบสนองการทำงานสั่งจ่ายแก๊สให้เข้ากับการทำงานของเครื่องยนต์ได้ดีหรือเท่ากับการใช้น้ำมันและสามารถเข้ากับระบบเดิมของรถมากที่สุด
สำหรับระบบ obd มแนวคิดของผ้ผลิตหลายๆยี่ห้อ ไม่ได้เอาสัญญาณ obd มาเพื่อจับความผิดพลาด แต่เอามาเพื่อประมวณผลการทำงาน
ของกล่องหลักของเครื่องยนต์เพื่อตอบสนองในการจ่ายแก๊สได้แม่นยำยิ่งข้นครับ
ถามว่ายี่ห้อไหนดี หาอู่ที่คิดว่าดีก่อนดีกว่าครับ

---

มือใหม่อยากดมแกส(บ้าง) เห็นด้วยค่ะ
ชอบจังคำว่า"หาอู่ที่คิดว่าดีก่อนดีกว่า" ประสบการณ์สามีเคยคิดว่าจะเอาcr-vไปติดแกส ร้านก็บอกว่าเอนเนอร์จีรีฟอร์มดีกว่า ข้อมูลทุกอย่างแม้กระทั่งคำพูดเหมือนกันกะจขกสม.เลยค่ะ ต่างตรงร้านนี้ไม่ได้เชียร์เวอร์ซูส แค่นั้น แต่ตัวสามีแกชอบของถูกค่ะก็เลยยังมะได้ติด เพราะแม่ตัว(คนขับ)ชอบของแพง5555555555 ศึกในใหญ่หลวงนัก

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ munic

ยังไงดี ตอบแบบกลางๆนะ เพราะผมไม่ได้ใช้ทั้งคู่

-เรื่องอู่และศูนย์บริการ ผมว่าทั้ง 2 ยี่ห้อหาได้ง่ายทั้งคู่เพราะเป็นยี่ห้อที่มีมากในตลาดทั้งคู่
-call center ก็มีทั้งคู่ไม่แตกต่าง
-ราคา versus ถูกกว่า จริงครับ
-เรื่องการเครมอุปกรณ์ ยากง่าย อันนี้ไม่สันทัด
-ประกันภัยคุ้ทครอง อ่านเงือนไขกรรมธรร ดีๆครับ รายละเอียดปลีกย่อยเยอะ
-เรื่องการติดตั้ง ขอฟันธงว่าไม่เกี่ยวกับอุกรณ์ ฝีมือช่างล้วนๆ จะห่วย จะดีก็
-เรื่องวางใจอันนี้ พอๆกัน เยอะทั้งคู่

ผมไม่ได้เป็นช่างติดแก๊ส อาศัยอ่านไปเรื่อยแล้วคิดตาม เปรียบเทียบความหลักการณ์และเหตุผล ไม่ใช่เซียนด้วย 555

พอจะจับใจความได้ว่าจากที่ดูระบบของแก็สหลายๆยี่ห้อโดยอ่านจากในเวปบ้างคุยกับเพื่อนเป็นช่างบ้าง
ระบบของแก๊สเกือบจะทุกยี่ห้อเรื่องของชิ้นส่วนและหลักการทำงานค่อนข้างจะเหมือนกันแทบจะไม่แตกต่าง
จุดหลักจะอยู่ที่กล่อง ecu แก๊สว่าที่การขียนโปรแกรมเข้ามาวิเคราะห์การทำงานของระบบแก๊สยังไงให้เสถียร
ให้ตอบสนองการทำงานสั่งจ่ายแก๊สให้เข้ากับการทำงานของเครื่องยนต์ได้ดีหรือเท่ากับการใช้น้ำมันและสามารถเข้ากับระบบเดิมของรถมากที่สุด
สำหรับระบบ obd มแนวคิดของผ้ผลิตหลายๆยี่ห้อ ไม่ได้เอาสัญญาณ obd มาเพื่อจับความผิดพลาด แต่เอามาเพื่อประมวณผลการทำงาน
ของกล่องหลักของเครื่องยนต์เพื่อตอบสนองในการจ่ายแก๊สได้แม่นยำยิ่งข้นครับ
ถามว่ายี่ห้อไหนดี หาอู่ที่คิดว่าดีก่อนดีกว่าครับ

---

เห็นด้วยครับกับน้าครับ อุปกรณ์ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีการผลิตไม่แตกต่างกัน จะต่างกันนิดหน่อยบ้างก็ ecu นี้ละใครแม่นกว่ากันละเอียดกว่ากัน แต่ที่แตกต่างที่เห็นได้ชัดเลยช่างติดตั้ง ติดแล้วจบ งานเรียบร้อย หายาก

ที่บ้านผมก็ติดversus สายvac ที่ต่อระหว่าง ท่อร่วมไอดี-หม้อต้ม ท่อยางเส้นเล็กมาก(ใหญ่กว่าสายออกซิเจนตู้ปลาหน่อย)ใช้ยังไม่ถึงปีเลยโดนความร้อนในห้องเครื่อง แตกกรอบขาดแล้ว พอขาดทำให้เร่งไม่ค่อยออก มีคุณภาพจริงๆversus

มารอข้อมูลด้วยครับบบ

ศึกษาเรื่องของอู่บริการดีกว่าครับ ละแวกใกล้บ้าน เข้าไปดูเข้าไปคุยกับเค้าดูก่อนก็ได้ ไม่ต้องเกรงใจ
หรือดูจากในกระทู้ของเพื่อนๆในบอร์ดลองหาอ่านดู หลายท่านเจอมายังไง

ลองพืจารณาด้วยตัวเองอย่าเชื่อใครอุกรณ์มันมีหลายเกรดหลายราคา

ร้านติดตั้งเค้าจับแพะชนแกะ ลดโน่น ลดนี่ จะเอาถูกขนาดไหน ก็ทำให้เราได้

แต่หลังจากติดตั้งแล้ว ภาระทุกอย่างอยู่ที่เราเต็มๆครับ ไม่ต้องห่วง

ตอนนี้ยี่ห้อไม่ค่อยสำคัณ เพราะแต่ละเจ้ามาตราฐานใกล้เคียงกัน หรือเท่าๆกันก็ว่าได้ ปัณหาปัจจุบันคือเรื่องอู่ที่ติดตั้งครับ หาดีๆศึกษาดีๆเรื่องอู่ครับ

และเน้นยำอีกทีครับสำหลับคนที่ติดใหม่ triton 2.4 เพื่อประโยชน์สูงสุดให้ใช้ท่อทองแดง 8มม. ครับแล้วเลือกหม้อต้มที่แรงๆหน่อย เพราะรถเรา128ม้าก็จริงแต่หม้อลูกเล็กๆพวกหลังเงิน เอาไม่อยู่หลอกครับ แค่พอใช้ได้แต่เหยียบจริงๆ วุวๆ ตันๆ แน่ๆครับ ถ้าร้านพูดยัดให้อย่างไงบอกไปเลยว่าเพื่อความสบายใจของเรา อยาไปหลงคาลมของร้านนะผมโดนมาแล้ว ^^

-มี obd มันดีกว่าไม่มีอยู่แล้ว ปัญหาว่ามีแล้วใช้มันเป็นใช้มันคุ้มหรือป่าว
-อู่ที่ใช้มันไม่เป็น ก็คงแนะนำว่าเอาแบบไม่มี ดีกว่า ถูกกว่า เพราะถึงมีตรูก็ไม่ใช้
-er รุ่นที่ไม่มี obd เขาก็มีให้เลือก อู่หลายที่เขาก็ติดได้ อู่ขี้กลาก อาจติดไม่เป็น
-ไม่ว่าจะยี่ห้อไหน อู่เขาติดกันได้หมด หลักการเดียวกัน แต่เมื่อเกิดปัญหา แล้วแก้จบไหม

-สุดท้าย คุณจะเลือกอะไร ก็อยู่ที่ความชอบ และเงินของคุณ ที่สำคัญ อู่ที่คุณสะดวกใช้บริการ
และคุณวางใจ เขาเชื่ยวชาญอะไร ก็ติดอันนั้นเถิด อย่าไปดันทุรัง ให้เขาติดที่เขาไม่ถนัด
เพราะเมื่อมีปัญหา เขาจะช่วยเหลือคุณไม่ได้

ขอบคุณมากฯ ครับ ได้ข้อมูลเพิ่มขึ้นอีก สงสัยผมต้องหาข้อมูลอีกซักหน่อย......
ยิ่งศึกษาเยอะ เข้าใจเยอะ ยิ่งพบปัญหาเยอะ และก็งงขึ้นเยอะ....

ผมว่าเลือกอู่ที่คุยกันรู้เรื่อง ภาษาเดียวกัน (ภาษาคนนะครับไม่ใช่แค่ภาษาไทย)เพราะถ้ามีปัญหาภายหลังขึ้นมาพูดกันจะได้รู้เรื่อง เป็นไปได้ลองเข้าไปดูเวลาเขาติดตั้ง ถ้าจะให้ดีดูตอนที่เขาติดรถรุ่นเดียวกับที่เราจะเอาไปติดเลย เพราะภาพๆนึง บรรยายได้เป็นพันๆคำ นั่นแหละ เราจะได้ฟันธงได้ว่าโอเคมั้ยสำหรับเรา ลองดูครับ (ผมก็ใช้วิธีนี้) ขอให้สนุกกับการดมแก๊สนะครับ:16 3:

เลือกอู่ที่จะติดตั้งดีๆครับจะได้ไม่มาปวดหัวภายหลัง

ผมไม่ใช่เซียนแก๊สครับแต่ผมแนะนำแทบจะทุกกระทู้ว่าเลือกคน(อู่)ที่จะติดดีกว่ามานั่งเลือกยี่ห้อครับ ช่างที่ติดให้ผมบอกว่าถนัดติดยี่ห้อนี้มากกว่าเพราะติดมาหลายคัน จูนจนคุ้นมือแล้ว ไม่รู้ว่าถ้าเอาตัวแพงๆมาให้ติดจะจูนได้ดีขนาดนี้หรือเปล่า 5555 ผมก็เลยเอ๊าถนัดอันไหนก็ติดอันนั้นแล้วกัน อิอิ

obd เป็นเทคโลโลยี่ใหม่สุดครับ น้าก็เลือกเอาถ้ามันไม่ดีจริงเค้าจะพัฒนามาทำไม แถมแพงกว่าอีก เหมือนมอไซค์อะครับ ทีเค้าเปลี่ยนไปเป็นหัวฉีดกันหมดผมซื้อเวฟ125i มาตั้งแต่แรกๆเลยครับมีแต่คนบอกว่าไม่ดีหรอกเค้าเพิ่งทำมาทดลองใช้ แต่ผมเชื่อว่าเทคโนโลยี่ส่วนใหญ่แล้วเค้าทำและลองมาแล้วว่ามันดีกว่าจริงๆ ถึงทำมาขายกัน ซึ่งปัจจุบันเวปผมไม่เคยเสียที่เครื่องยนต์เลย แต่เพื่อนๆเดี๋ยวคาบูตันเดี๋ยวเสีย
และที่สำคัญอยู่ที่อู่ครับ ว่าสามารถแก้ปัญหาไม่ดีแค่ไหนเมื่อเกิดปัญหาและถูกจุดครับ

ความคิดผมนะคร้าบบบบบบบ
เลือกที่อู่ใกล้บ้าน ถ้าอะใรเรื่องแก๊สตอบเราใด้และเราเข้าใจ มีปัญหาแก้ให้เราจบ จายี่ฮ้อใหนก็ชัง ทำออกมาไม่ย่างเราเปนพอ555555555555555555
เนื่องจาผมใช้รถติดแก๊สมาก็หลายคัน มีเพื่อนใช้รถติดแก๊สก็แยะ พอมาเล่าสู่กันฟัง ยี่ห้อ เทพยี่ห้อเทวดา ก็พังถ้าเจอช่างทำใมเปน หรือเปนแต่ทำไม่จบ
แก้นั่นแก้นี้ ไฟโชว์มัง ไม่ตัดแก๊สมัง ไม่จ่ายแก๊สมัง ดับมัง เจอมาหมดแล้วคร้าบบบบบบบ เจอช่างแก้จบหมดปัญหา แก้อีกที่กฝ้ปาไปสองแสนโลหราไม่ก็เกิดกิเลสอยากใด้คันใหม่
แต่ยังใงซะเราก็ต้องดูแลรถเราด้วย ไม่ว่าเอะอะๆหาช่างหาช่าง เพราะเราใช้รถทุกวัน อยู่กะมานทุกคืน
รถเราตังเรา ค่อยๆศึกษาไป เอาที่ว่าใช้มาใส่รถเรา เพราะมันคือสิ่งที่เรารัก นะคร้าบบบบบบบบบบบบบบ

ไม่มีความเห็นเรื่องยี่ห้อแก๊สครับ
แต่ OBDII สำหรับผมมองว่าเป็น Monitoring+Diagnotic Tool อ่ะครับ
คือเราสามารถอ่านค่าจากเซนเซอร์(คิดว่าทุกตัว)ได้เหมือนๆกับ ECU น่ะครับ อาจจะนำข้อมูลที่ได้ไปปรับจูนแก๊สได้แบบ realtime (ไม่รู้ทำได้เปล่านะครับ อิอิ) มันก็น่าจะดีกว่าไม่ใช่เหรอครับ ??

ผมใช้ LPG มา 2คัน (plus 4doors) Energy ทั้งคู่ ก็โอเคนะครับ
ยังไม่เจอปัญหาจากระบบแก๊ส เคยพาไปตกร่องกลางถนนมา(หนักเอาการ)
ก็ไม่มีอันตรายจากระบบแก๊ส นะครับ

er obd ll จูนแก๊สrealtime คร๊าาาาาบ

สำหรับคนที่คิดว่าติดตัว obd ดีกว่าแล้วติดแล้วดีจริงหรือ ถ้าใช้ obd แล้วดีจริงทำไมรถบางรุ่นถึงติดไม่ได้ทั้งที่มีเจ้าตัว obd เหมือนกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ใช้เป็นหลัก ส่วนอู่ก็ขายเพราะราคาสูงกว่าตัวธรรมดา แต่ในตัว obd ส่วนมากจะจำเป็นกับพวกรถที่มีปัญหาเรื่องไฟเอนจิ้นโชว์ซะส่วนมาก แต่ที่นิยมกันแล้วบอกว่าดีจูนครั้งเดียวก็เป็นข้อดี แต่อย่าลืมว่าการดูแลรักษาระบบแก๊สค่อนข้างละเอียดอ่อนกว่าระบบน้ำมัน บางคนไม่เข้าไปเช็คระบบแก๊สเลยหลังจากติด อันนี้ดีแล้วหรือ ถ้าเกิดมีรั่วขึ้นมาโดยที่เราไม่ได้กลิ่นล่ะจะทำอย่างไร ทางที่ดีที่สุดไม่ว่าจะติดแก๊สแบบไหนสิ่งสำคัญก็คือการตรวจเช็คอุปกรณ์แก๊สอย่างน้อย หกเดือนครั้ง แต่ถ้ามีเวลาก็เอามัน สี่เดือนครั้งเพื่อความมั่นใจต่อตัวเองและรถครับ

-การจูน ปรับแต่ง ให้เหมาะสมก่อน เป็นสิ่งจำเป็น
-OBD ช่วยปรับแต่ง realtime เมื่อมีสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
-OBD ของรถบางคัน หรือ บางรุ่น โดยเฉพาะ รถเก่า อาจมีปัญหา ใช้งานไม่ได้
-หากราคามันไม่แพงกว่ากันมาก ก็จะขอเลือกแบบมี OBD แต่ส่วนตัวแล้ว คิดว่าจูนได้ดี แล้ว OBD ไม่จำเป็น
-ถ้าจูนได้ดีแล้ว และ sensor ไม่เสีย ตัวที่ต้องดูแลบ่อยสุด คือ หม้อต้ม เมื่อเวลาผ่านไป แรงดันเพี้ยน
จำเป็นต้องปรับ ให้เหมาะสม จึงจะดี ซึ่งส่วนตัวคิดว่า OBD ช่วยตรงนี้ ถ้าไม่เพี้ยนมาก โปรแกรมมันช่วยปรับ
ให้ AF เหมาะสม ถ้าไม่มีมัน เราก็ให้ร้านตรวจสอบให้ได้

-จะมีระบบที่ใหม่ มาแค่ไหน ผมก็ยังใช้แบบโบราณ หัวฉีด EMS ที่ปรับชดเชยเวลาฉีดเท่านั้น ไม่มีเซนเซอร์มากมาย
จึงไม่มีอะไรที่ต้องเสีย ติด AF ไว้ ผ่านไปเป็น สองสามปี ค่า AF เพี้ยน ปรับแรงดันหม้อไม่นิ่ง ก็เปลี่ยนหม้อ
จบปัญหากับหัวฉีดที่ราคาไม่ถึงหมื่น ไม่ต้องดูแลบ่อยเหมือนแบบดูด ซึ่งเมื่อตอนนั้น หัวฉีดหรู ไม่ต่ำกว่า สามหมื่น
หัวฉีดอื่น หรู แพง