http://www.triton4x4club.com/webboar...?topic=2213.75
เข้าไปดูของเพื่อนบ้านมาครับน่าสนใจ LPG + ดีเซล + Hydrogen.เข้าไปดูกัน
Printable View
http://www.triton4x4club.com/webboar...?topic=2213.75
เข้าไปดูของเพื่อนบ้านมาครับน่าสนใจ LPG + ดีเซล + Hydrogen.เข้าไปดูกัน
กลับมาแล้วครับสำหรับกรุงเทพ-นครพนม ระยะทางรวมทั้งสิ้น 1650 กม.
ความเร็ว 120-140 ขาไปน้ำหนักบรรทุก ประมาณ 300 โล (แหนบเสริมเหยียดตรง) ขึ้นเขาภูพานประมาณ40-80 กม./ช.ม.ไม่สามารถเร็วกว่านั้นได้ กลัวมันจะไปซำรอยที่โค้งเดิมอีก.......
ใช้น้ำมันดีเซลทั้งสิ้น 111.68 ลิตร เป็นเงิน 3880 บาท
ใช้แก๊สทั้งสิ้น 69.98 ลิตร เป็นเงิน 838 บาท
ค่าเฉลี่ยนำมันดีเซล/กม. = 14.77 กม./ลิตร ค่าเฉลี่ยแก๊ส = 23.57 กม./ลิคร
ระยะทาง 1650 กม.ใช้เงิน 4718 บาท หารแล้วตกกิโลเมตรละ 2.85 บาท
*** ถ้าใช้ดีเซลอย่างเดียว นำหนักและความเร็วดังที่กล่าว ความสิ้นเปลืองน่าจะไม่เกิน 10 กม./ลิตร
และที่ 1650 กม. จะต้องใช้น้ำมัน 165 ลิตร แต่ใช้แก๊สร่วม ใช้ดีเซล 111.68 ลิตร เทียบเป็น% คร่าวๆจะได้ความประหยัดถึง 48 % ในการเดินทางทริปนี้ครับ ***
การเดินทางครั้งนี้ เปิด Egr ให้ทำงานตามปกติ กลับมาแล้วพบว่าเขม่าในท่อไอเสียมีมากกว่าตอนอุดegr เสียอีก เห็นควรว่ายังไงก็อุดดีกว่าครับ ส่วนน้ำมันเครื่องไม่ดำอย่างที่คิดสียังคงเดิม
สรุปได้เลย ตอนนี้การปรับแก๊สถึงจุดที่ดีที่สุดแล้ว ส่วนการลดการจ่ายดีเซลก็พอดีกับการทำงานและตอนนี้การติดตั้งและใช้งานถือว่าสมบูรณ์ 95 % อีก 1 สัปดาห์กล่องควบคุมเสร็จรับรองได้เลยว่าจะต้องประหยัดไปกว่านี้อีกและทำงานได้สมบูรณ์ สำหรับเพื่อนที่สอบถามมาและรอกล่องเสร็จคงอีกไม่นานครับเพราะพรุ่งนี้ผมจะไปทดสอบในครั้งแรกก่อน และต้องโปรแกรมให้สมบูรณ์ 100 % จึงจะสามารถติดตั้งให้กับเพื่อนๆที่สนใจได้ครับ..........
รายงานผลทริปล่าสุดครับ บางใหญ่-คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร
ขาไปสัมภาระประมาณ 100 โล+ยางอะไหล่ 1 เส้น (กันไว้ก่อน) ผู้โดยสารรวม 3 ท่านออกเดินทางจากรังสิต 19.45 น.ถึงที่หมาย 1.34 น.เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมงรวมจอดแวะปั้มแล้วครับ ความเร็วส่วนใหญ่ยังคงที่ 110-120 ตามเส้นทาง ตอนเช้าออกมาเติมแก๊ส 28.8 ลิตร ส่วนน้ำมันยังไม่ถึงครึ่งถังกะว่ากลับมาเติมแถวโคราชจะถูกกว่า
ขากลับออกเดินทางประมาณ 16.30 น.พร้อมสัมภาระ ข้าวสารหอมมะลิ 7 กระสอบ พร้อมผู้โดยสารรวม 6 ท่าน เล่นเอาพลัสวิ่งแบบนุมนวลขึ้นเยอะเลย ส่วนอัตราเร่งอืดลงไม่มากครับ ความเร็วประมาณเดิมมาเพิ่มแถวสระบุรี-รังสิตประมาณ 120-140 เพราะเริ่มง่วง ถึงรังสิต สี่ทุ่มกว่าและถึงบางใหญ่ตอน 5 ทุ่ม
เช้าออกไปเติมแก๊สได้ 25.4 ลิตร ประหยัดกว่าขาไป อาจเป็นเพราะขาไปใช้กรองอากาศเดิมๆ ส่วนขากลับใช้กรองเปลือย หรือไม่ก็ขากลับเป็นทางลาดลงเขาและรถมีน้ำหนักมากเลยประหยัดมากกว่า
ใช้ระยะทางทั้งหมด 1202 กิโลเมตร
ใช้น้ำมันดีเซล 75.9 ลิตร = 39.9x75.9 = 3013 บาท
ใช้แก๊ส 54.2 ลิตร = 10.9x54.2 = 590 บาท
ระยะทาง 1202 กม.ใช้เงิน 3603 บาท = 2.99 บาท/กม.รวมแก๊สแล้ว
อัตราสิ้นเปลืองดีเซล 15.83 โล/ลิตร
อัตราสิ้นเปลืองแก็ส 22.17 โล/ลิตร คิดเป็นบาท/กม = 49 สตางค์/กม.
ดังนั้น 2.99 เป็นแก๊ส 49 สตางค์ เป็นค่าใช้จ่ายดีเซลจริงอยู่ที่ 2.5 บาท ครับ
นี่เป็นผลจากการใช้งานจริง เติมน้ำมันแต่ละครั้งเขย่าจนถึงคอจนเติมไม่ได้ เพื่อให้ได้ค่าที่เที่ยงตรง ส่วนเพิ่มเติมจากการใช้แก๊สคือผมติดอุปกรณ์เซฟพลัสด้วยซึ้งมันติดตั้งมาก่อนหน้านี้นานแล้ว ก็คงมีผลทำให้อัตราการเร่งดีขึ้นและประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้น ...........
น่าสนทางเลือกครับ จะไม่รอให้คาน้ำมันขึ้นก่อนค่อยติดแน่ครับเพราะน้ำมันแพงเมื่อไหร่ค่าติดแก๊สก็แพงตามไปด้วย
สวัสดีครับ เพื่อนๆอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ evoda3
มารายงานผลการใช้ LPG ร่วมกับดีเซลเครื่องเดิมครับ น้ำมันถังแรก และแก๊สถังแรก ตั้งแต่เริ่มทดสอบตอนติดตั้งเสร็จขับกลับจากดอนเมือง จนกระทั่งมาใช้ในชีวิตประจำวันปกติที่ระยองได้ 9 วัน ผมใช้รถวันละประมาณ 45-50 กม. ความเร็วปกติวิสัยที่ใช้ อยู่ในช่วง 80 - 100 กม./ชม. ตอนนี้น้ำมันหมดครึ่งถังแล้ว แก๊สก็ประมาณครึ่งถังเหมือนกัน (เต็มถัง 58 ลิตร แต่เติมถังแรกเติมแค่ 47 ลิตร)
ปกติถ้ายังไม่คบหากับ LPG น้ำมันครึ่งถังจะได้ประมาณ 450 - 480 กม. ครับ อัตรากินน้ำมันเดิมจะอยู่ที่ 13.6 กม./ลิตร
หลังจากใช้ LPG ร่วม น้ำมันครึ่งถัง วิ่งได้ 668.5 กม. ครับ อัตรากินน้ำมันอยู่ที่ 16.8 กม./ลิตร จาก RV ครับ หมดถังแล้วจะคำนวนจริงแจ้งให้ทราบกันอีกครั้ง แต่ตอนนี้รถผมแบกน้ำหนักเพิ่มมากกว่าก่อนติดแก๊สนั่นก็คือถังแก๊ส แถมฝาครอบกะบะของ TOP UP อีกด้วยครับ
ปัญหาที่พบ ตอนนี้ยังไม่มีครับ จะมีก็มีเรื่องของการปรับจูนปริมาณแก๊สให้เหมาะสมเท่านั้นครับตอนนี้ก็นิ่งแล้วครับ
ในความเห็นของผม
1. ท่านใดที่ชอบความแรง คบหากับ LPG ไม่ผิดหวัง แรง บวกประหยัด กล่องพ่วงยี่ห้อไหนก็สู้ไม่ได้ครับ อาจจะสู้ได้เรื่องความแรง แต่สู้เรื่องแรงบวกประหยัดยากส์ครับ แถมราคาติดตั้ง LPG ถูกกว่ากล่องครับ
2. สำหรับท่านที่ขับในเมืองส่วนใหญ่อาจจะประหยัดได้ไม่มาก เพราะแก๊สจะจ่ายที่ 1400 รอบ ถ้าเป็นเกียร์ 5 ความเร็วก็ประมาณ 60 กม. ดังนั้นถ้าขับในเมือง ใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 60 ก็จะไม่ประหยัดเท่าไรครับ เท่าที่ลองขับจะประหยัดมากในช่วง 80 - 100 กม. ครับ 120 - 140 ก็ยังประหยัดกว่ารอบต่ำๆ ครับ เพราะแก๊สจ่ายได้เต็มที่กว่า
ถังต่อไปคาดว่าน่าจะประหยัดกว่านี้ครับ เพราะไม่ต้องวิ่งทดสอบแบบแรงๆ แล้ว แล้วก็จะไปเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และกรองแล้ว เลยระยะเปลี่ยนมาพอสมควรแล้ว แล้วก็ผมจะกลับไปใช้ B5 ซึ่งก็จะประหยัดเงินไปได้อีก เมื่องก่อนเคยใช้ B5 อยู่ระยะหนึ่งแต่สังเกตเห็นว่าอัตราเร่งตก กินน้ำมันมากกว่าเดิมหายไปประมาณ 0.5-1 กม./ลิตร และมีเขม่าที่ปลายท่อเยอะมาก แต่ตอนนี้ได้แก๊ส และเซฟพลัสมาช่วยเพิ่มออกซิเจนทำให้เผาให้สมบูรณ์ได้มากกว่าเดิมแล้ว แล้วจะแจ้งให้ทราบผลการใช้ต่อไปครับ
ต้องขอขอบคุณพี่ต้นมากนะครับ ที่รับโทรศัพท์ผม และติดต่อกลับทุกครั้ง ถ้าเป็นร้านติดแก๊สอื่นๆ คงรำคาญผมไปแล้วหล่ะ แต่พี่ต้นนี่สุดยอดครับ ปรึกษา และเชื่อมั่นได้ครับ http://www.triton4x4club.com/webboar...fault/afro.gif
ตอนนี้ไทรตั้นติด Hydrogen เพื่อเป็นตัวเสริมในการเผาไหม้ได้แล้วครับ ผมปรับกล่องจนพอดีแล้ว ความประหยัดอยู่ที่ประมาณ 20 % โดยความเร็วที่ใช้ไม่เกิน 110 แต่ถ้ามากกว่านั้นความประหยัดก็ลดหลั่นกันลงไปครับ สิ่งที่ได้หลังติด Hydrogen คืออัตราเร่งที่ดีกว่าเดิมครับ
1.เติมน้ำมัน B-5 ซึ่งประหยัดไปลิตรละ 3 บาทแต่ได้อัตราเร่งที่ดีกว่าใช้ V-Power
2.กลิ่นไอเสียและเขม่าลดลง
3.ประหยัดค่าน้ำมันลงกว่าเดิม
4.เสียงเครื่องยนต์เงียบลง
แต่ถ้าชอบความแรงไม่เน้นประหยัดก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องมีกล่องควบคุมครับ แต่ปรับการผลิตของเครื่องผลิตให้ปริมาณที่เหมาะสมเท่านั้นครับ แน้นว่าต้องไม่มากจนเกินไปเพราะจะไม่เป็นไปตามความต้องการครับ ซึ่งอาจจะกินน้ำมันมากขึ้นกว่าเดิมครับ
ผมกำลังทำชุด KIT สำหรับผู้ที่จะทดลองทำเอง หรือนำไปใช้ในรถของท่านเอง ราคาไม่แพงครับ แต่อุปกรณ์มาตราฐานการติดตั้ง Gas Cell แบบ Dry Cell มีความปรอดภัยที่สุดแล้วยังให้ปริมาณ Hydrogen มาก ความร้อนเวลาทำงานประมาณ 62 องศาครับ กระแสที่ใช้ 10-12 Amp. ก็พอแล้วสำหรับรถ 2500-3000 CC. เมื่อพร้อมจะลงรูปให้ดูกันอีกทีครับ
ผมสนใจไฮโดรเจน มานานแล้วครับ งัย จะรอข้อมูลเพิ่มเติม ครับผม
ยังงัยก็เพืื่อเป็นอีก 1 ทางเลือกครับ ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อมูลดีๆครับ
:smiley-transport031
ช่วย UP..ครับเรื่องดีๆ...:emoticon-awaaaa
น้าโยไม่ติดบ้างหรอครับ :smiley-transport005
ตอนนี้เน้นความหล่อก่อนครับ จะได้หาแฟนกับเค้าได้ :kapook-17195-8823:อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ tig252525
ว้าว จัดให้ป้ะ อิอิอิ:1182441806:แล้วจะรู้โสดอ้ะดีแค่ไหน น้าโย จะเสกคนเข้าท้อง.อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ YoKeyPlayBoy
จัดไปครับ..อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ evoda3
แจ่มเลยครับ มาเก็บข้อมูลก่อน รถผมก็ลูกครึ่งครับ ตอนแรกก็ชั่งใจอยู่ว่าหากระบบไฮโรเจนดีก็อาจจะถอดชุดแก๊สให้รถเก๋งไป แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้เติมแก๊สมานานมากแล้ว(ตั้งแต่ราคาน้ำมันถูกมาไม่เคยใช้แก๊สเลย) ขอคุณครับที่นำผลการใช้งานจริงมาแชร์...
เมื่อวานไปติดผ้าใบมาที่วิลาส เขาเปิดให้ดูรถไฮลักส์เบนซิน+LPG+Hydrogen
เขาบอกว่า Hydro ติดกับเบนซิน คุ้มกว่าดีเซล อยู่ในขั้นทดลองเป็นหม้อเลส2ใบ
ราคาประมาณ 2หมื่นคงต้องหาข้อมูลต่ออีก
น่าสนใจอยู่เหมือนกัน Hydro+ดีเซล รอข้อมูลต่อครับน้าเกียง..อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ evoda3
ปล.แอบไปติดผ้าใบมาแล้วละจิ...อิ อิ
ผมเสนอว่าน้า evo up กระทู้ไปอยู่ห้องพลังงานทดแทนดีมั๊ยครับ เผื่อเพื่อนๆจะได้มาอ่านได้ง่ายขึ้น..:i37:อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ evoda3
ย้ายแล้วครับ พอดีใช้งานเวปไม่ค่อยเป็นครับ ขออภัย:kapook-17199-4683:อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ Eszo
วันนี้เจอน้าโย แอบไปกินตีนไก่ (ขนมจีนขาไก่)หน้าเวียงวลี น้าเขาหล่อตลอดเลย รถนะ อิอิอิ ล้อเล่นอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ JK Blackplus
ECU 3.2 กับ การใช้งานในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา
ได้ยินว่า V.3200 ใช้แล้วแรงแถมประหยัด ผมเลยลองดู....เออแรงดีนะ ลองเช็คความประหยัดกันแบบเดิมๆดู ได้กิโลเพิ่มขึ้นมาอีก 30 กม.ในตำแหน่งน้ำมันเต็มถังแล้วเข็มลงมาอยู่ตรงด้านล่างของกลมๆอันแรกสุด ปกติจะอยู่ที่ 120 กม. เมื่อเปลี่ยนเวอร์ชั่น 150 กม.มาเฉยเลย ก่อนหน้านี้ใช้ Hydrogen ร่วมด้วยยังได้เต็มที่ 145 กม.เอง เรื่องความแรง ok พอดีต้องเดินทางเร่งด่วนไป จ.นครพนม จึงเซ็ทการใช้งานให้ครบสูตรเพื่อความประหยัดสูงสุด โดยมีทั้ง Hydrogen และ LPG ปรับจนแน่ใจว่าดีแล้วโดยใช้ข้อมูลที่บันทึกไว้ที่ดีที่สุดครับ พร้อม GPS เพื่อวัดระยะกันแบบจริง มีผู้โดยสาร 3 คนกับสัมภาระ และยางอะไหล่ B-5 เต็มพิกัด LPG เต็มถังแน่น พร้อมเซ็ทระดับการทำงานของ Hydrogen ไว้ 3 ระดับ ออกเดินทางจากรังสิตประมาณ 21.45 น. ใช้ความเร็วคุมไว้ที่ 120 กม./ชม.เป็นส่วนใหญ่ ขึ้นภูพานก็เท่าที่จะปลอดภัยได้ครับ ตี5 ถึงสกลนคร เข็มน้ำมันเพิ่งแตะครึ่งถัง เลยเติมน้ำมันที่บางจาก B-5 เขย่าเต็มที่ 38.8 ลิตร เดินทางต่อถึงที่หมาย 06.20 น. ดูถังแก๊สเข็มยังครึ่งถังอยู่ คิดในใจ Work จริงๆ ผมวิ่งไปบ้านงานและที่พักอยู่จนเสร็จธุระก็เดินทางกลับ ซึ่งขากลับตามเคยครับ มีถึง 140 ยาวช่วงออกบ้านไผ่เข้าโคราช ไม่แน่ใจว่าแก็สไกล้หมดไหมเลยแวะเติมไป 200 บาท ได้ 17 ลิตรพอดี ซิ่งยาวจนึถึงบ้าน แวะเติมน้ำมันและแก๊สอีกครั้งครับ
ระยะทางทั้งหมด 1552 กม. ใช้ B-5 ทั้งสิ้น 91.71 ลิตร Gas LPG 55.6 ลิตร น้ำเติมตัวผลิต Hydrogen 300 C.C.
เฉลี่ยน้ำมันได้ 16.92 กม./ลิตร Gas LPG 27.91 กม./ลิตร
B-5 = 24.39x91.71= 2236.80 บาท LPG 11.25x55.6 = 625.50 บาท รวม 2862.30 บาท เฉลี่ยต่อกิโลเมตรเท่ากับ 1.84 บาท ณ.วันที่ 1 ตุลาคม 2552
และเอารูปที่ใช้ล่าสุดมาให้ดู ว่าพัฒนาไปถึงไหน รูปเกย์ถังแก๊สถ่ายเมื่อถึงนครพนมถ่านดันหมด ส่วนตรงท่อไอเสียแสดงให้เห็นว่า Hydrogen เมื่อเผาไหม้แล้วมันจะรวมตัวกับอากาศกลายเป็นน้ำอีกทีครับทำให้เขม่าไอเสียที่ออกมาย้อนกลับไปเลอะที่ปากท่อไอเสีย รูปนี้ยืนยันได้เลย ส่วนตัวแสดงผล โวลล์และแอมป์ก็ยังไม่ได้ลงกล่องเสียที เอาไว้แค่ดูประกอบนิดหน่อยครับ
รอพบกับ 3.2 ของกาโม่ กับชุดนี้ได้เร็วๆนี้ครับ จะนำรายละเอียดการติดตั้ง พร้อมทั้งการใช้งานจริงมานำเสนอพี่น้องทุกท่านได้รับทราบกันครับ
การบริโภคน้ำมันปัจจุบัน 7.5 - 8.5 กม/ลิตร รอดูกันว่าหลังจากติดระบบร่วมกับ Lpg แล้วจะช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มากน้อยเพียงใด
เพื่อนผมลงทุนทำเอง ทำเซลลเอง ติดตั้งเอง ติดในบิ้กเอ็มดู มันก็ผลิตไฮโดรเจนได้ครับ แต่ในปริมาณน้อยเกินไป คือทุกอย่างทำได้ แต่ติดที่ตรงต้องหาพลังงานไฟฟ้าพีคสูงๆ ในรถยนต์มันพีคไม่พอ แต่ตอนทดลองที่บ้าน ทำได้ครับ เพราะทำไฟให้พีคสูงได้(ใช้เซลล ท่อสเตนเลสกลม จะให้กาซได้ดีกว่าแบบแผ่น)
รอติดตามครับ