อยากถามน้ำๆท่านใด มีความรู้เทคนิคการขับพลัสออโต้ ถ้าลงเขาควรทำอย่างไร ใช้เกียร์ไหนขอเป็นวิทยาทานหน่อยครับ
Printable View
อยากถามน้ำๆท่านใด มีความรู้เทคนิคการขับพลัสออโต้ ถ้าลงเขาควรทำอย่างไร ใช้เกียร์ไหนขอเป็นวิทยาทานหน่อยครับ
ผมใช้แค่ Lครับ ทั้งขึ้นทั้งลง (โดยเฉพาะขึ้นแบบชันๆหักไปหักมา สงสารระบบของเกียร์ที่มันต้องเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ในส่วนตัวเลยบังคับมันใว้ที่ Lพอผ่านจุดนั้นๆไปก็ค่อยยัดไปที่ละเกียร์ขับยังกับเกียร์ M/Tเลยละครับ)ไม่ต้องรีบร้อนลงไม่ปล่อยให้รถพุ่งลงมาเร็วๆ ไม่เบรคแบบเรียเบรค ใช้วิธีกดเบรคหนักนิ๊ดนึงเป็นช่วงๆแบบจับๆปล่อยๆ หรือถ้ามาที่เกียร์2เบรคพอลดความเร็วพอประมาณประคองเข้าโค้งลงเขาก็ดึงมาได้เลยที่ L ป้องกันเบรคใหม้ครับ..แล้วให้ระวังใว้นิดนึงเวลาขึ้นแบบอัดแข่งโชว์กำลังเครื่อง..ไฟน้ำมันเกียร์จะโชว์(ร้อนเกิน)ถ้าเราเอาแต่กำลังเครื่องเป็นหลัก ..แต่ก็ไม่เคยโชว์ให้เห็น ..
โดยทั่วไปเรียกว่า Engine Break เป็นการใช้กำลังของเครื่องยนต์ในการชะลอความเร็วน่ะครับ ซึ่งจะไม่ทำให้เบรคทำงานหนักจนเกินไป แต่ไม่ได้หมายความว่าให้ใช้เครื่องยนต์อย่างเดียวนะครับ ต้องใช้เบรคคอยประคองด้วย ไม่งั้นเครื่องยนต์ก็จะทำงานหนักเหมือนกันอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ coppy42
ตามนี้เลยครับ ใช้ได้ไม่มีปัญหาอะไรครับ ช้าหน่อยแต่ปลอดภัยชัวร์อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ coppy42
..คนนี้เลยละครับ=bomgradeเต็มๆ ..ออโต.4x4..ขุมพลัง2.5ตัวท็อป..แอร์ออโต..เบาะหนังปรับไฟฟ้า8ทิศทาง..ตู้แช่เบียร์..ไมล์เรืองแสง..มองข้างพับเก็บไฟฟ้..บานหลังสไลย์..ลงโปร3.2..กล่องเพียบ..ขึ้นเขาลงห้วย..ดำน้ำมาทั่ว..:kapook-17196-7812::kapook-17196-7812:อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ bomgrade
ออโต้ผมไม่รู้ครับ เท่าที่รู้ผมใช้แต่เกียร์ต่ำๆครับ 1-3 ไม่เกินนี้ ขยันเหยียบเบรคช่วยเอาครับเพื่อชะลอความเร็ว ไม่จำเป็นจะไม่เหยียบคลัสเด็ดขาดครับวิธีที่ถูกต้องทำยังไมไม่รู้ ชินแต่แบบวิธีนี้ครับ แล้วก็อย่าลืมทิ้งระยะห่างกับคันข้างหน้ามากๆด้วยน๊ะครับ อิอิ
ตามน้าบอมเลยครับ
ใช่ครับ สำคัญมาก อย่าลืมทิ้งระยะห่างกับคันข้างหน้ามากๆด้วย ชัวร์ที่สุดครับ เกิดอะไรขึ้นยังมองเห็นทางที่จะพุ่งไป ดีกว่าเห็นแต่ตูดรถคันหน้าแล้วเลี้ยวไม่ทันครับ (ยกเว้นตอนกลางคืน อย่าให้ไฟท้ายคันหน้าหายไปจากสายตา เดี๋ยวไม่เห็นทางโค้ง อิอิ)อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ myjoefiend
ขึ้นอยู่กับสภาพถนน+ความลาดชันของเส้นทางด้วยคับ ถ้าไม่ชันมากก้อใช้2 แต่ถ้าชันเลย ก้อlคับ ตรวจสอบคู่มือด้วยนะคับว่าแต่ละเกียร์มีลิมิตที่เท่าไหร่ ขับขี่ปลอดภัยคับ
ถ้าทางไม่ชันมากและใช้ความเร็วได้ขณะขึ้นเขา แนะนำ Od Off ครับ
กำลังของเครื่องยนต์ และการรักษารอบเครื่องยนต์ให้มากกว่า 2000 รตน.
จะทำให้รถมีอัตราเร่ง และเอนจิ้นเบรคที่ดี ในความเร็วสูงครับ
ถ้าความเร็วปานกลาง (ประมาณ 40-70 กม.ชม.) ให้ใช้เลข 2 ในการขึ้นเขาครับ
อัตราเร่งจะดีมาก และเอนจิ้นเบรค จะดีตามครับ
ถ้าขึ้นเขาชันมากๆ แนะนำให้ไปที่ L ครับ รักษารอบเครื่องตอนขึ้นให้มากกว่า 2000 รตน.ครับ
การใช้รอบต่ำ ไม่ได้ส่งผลดีในตอนขึ้นลงเขานะครับ
เนื่องจากเวลาขึ้นเขา สมมติชันมาก เราใช้ D ขึ้นไป รอบเครื่องยนต์ต่ำ แต่เกียร์จะสูงกว่าที่ควรจะเป็น
ผลที่ได้รับคือ ความร้อนเครื่องยนต์มากขึ้น และระบบเกียร์ทำงานหนักเกินไป (โหลดสูงไป)
ทำให้เกิดอาการเกียร์ไหม้ได้
การใช้รอบสูง แต่อยู่ในรอบกำลัง ไม่ได้ส่งผลในเรื่องการสึกหรอหรอกครับ ตรงกันข้าม
เครื่องยนต์ที่มีกำลังสูงจะสามารถข้ามผ่านอุปสรรคไปได้โดยง่าย
ทางเขา รถกะเหรี่ยงขนผัก ขับโคตรเซียนเลย วิ่งหายๆ
การลงเขา ให้ใช้เกียร์ ต่ำกว่าปกติ 1 เกียร์
การลงเขาด้วยความเร็ว ช่วงถอนคันเร่ง ให้ใช้งาน Od Off เพื่อลดความเร็วด้วยเอนจิ้นเบรค
เมื่อถึงโค้ง ให้ดึงเบรคมือช่วยนิดนึง และส่งคันเร่งเข้าโค้งต่อไป จะทำให้เบรคไม่ร้อนจัด สำหรับการขับด้วย
ความเร็วสูง
แต่ถ้าความเร็วที่ขับไม่เกิน 80 ระหว่างการใช้ Od Off เมื่อใกล้โค้ง ให้ดึง ลงมา 2 (ความเร็วไม่เกิน 110)
ไม่งั้นเกียร์จะไม่เปลี่ยนลงมาให้ เป็นระบบป้องกันความเสียหายจากเครื่องยนต์หมุนรอบจัดเกินไป
ช่วงใกล้โค้งถ้าความเร็วสูงไป เบรคมือ จะช่วยท่านได้ และเข้าโค้งอย่างปลอดภัย
ในทางทุรกันดารมาก ให้ใช้ L ในการลงเขา โดยไม่ต้องเหยียบเบรคบ่อยๆ เนื่องจากเกียร์นี้ จะมีเอนจิ้นเบรคมากสุด
การลงทางชันๆนานๆ ให้ใช้เบรคมือช่วยบ้าง เพราะระหว่างการลง เบรคหน้าจะทำงานมากกว่าปกติ
ทำให้เกิดอาการเบรคเฟด (ไม่อยู่) ได้ การใช้เกียร์ที่เหมาะสม จะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดีครับ
ผลเสียของการใช้เกียร์ผิด
1.เครื่องยนต์เกิดอาการร้อนจัด (ยิ่งแรงบิดน้อยๆยิ่งเห็นผล)
2.เกียร์ออโต้ เกิดอาการคลัตช์ลื่น และไหม้ได้ (ภาระมากเกินไป)
3.ความสึกหรอสูงขึ้นมาก จากอาการเครื่องยนต์น๊อก
4.ระบบเบรค ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ อาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บร้ายแรงแก่ชีวิตได้
รู้รถ รู้คน รู้ทาง ไม่ประมาท ครับ
แล้วรถป๋า รุ่นไหนอ่ะอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ coppy42
มาเก็บเกี่ยวความรู้ เผื่อได้ขับ AUTO มั่ง ( คิดถึงอาจารย์นุ๊กนะครับ) :kapook-17195-8823:อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ Nuk_Black-Triton
กลางวัน ในโค้งแคบที่ไม่ชัวร์ ให้บีบแตรยาวๆ สักสองสามครั้ง เพื่อเป็นการเตือนว่าเราจะมาแล้วอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ riverwide
ในตอนกลางคืน ให้ตบไฟสูงใส่โค้งก่อนที่จะเข้า ถ้ามีไฟตอบกลับมา ให้เข้าอย่างระมัดระวังครับ
ฝากอีกนิดในเกียร์ L ถ้าความเร็วมากกว่า 48 กม.ชม. แล้วเปลี่ยนมาตำแหน่งนี้
เกียร์จะไม่เปลี่ยนให้ เนื่องจากเครื่องยนต์หมุนรอบจัดเกินไป
ในเกียร์ 2 จังหวะเดียวกัน ถ้าจะดึงลง ความเร็วต้องน้อยกว่า 110 กม.ชม.ครับ
ด้วยเหตุผลเดียวกัน
ในเกียร์ 3 (od Off) ความเร็ว ไม่เกิน 140 กม.ชม.ครับ เหตุผลเดียวกัน
เวลาต้องการแซงแบบใช้ Od Off ที่ความเร็วมากกว่า 110 กม.ชม. ในเกียร์ D
สามารถ ตบลงเลข 2 ได้เลย เกียร์จะลงมาแค่เกียร์ 3 ครับ เพราะความเร็วมากกว่า 110 ครับ
สะดวกในการใช้งานมากกว่า พอแซงพ้น ก็ยัดเข้า D เหมือนเดิม โดยไม่ต้องกดสวิทช์ Od Off ครับ
แหะๆ..ยังไงก็รุ่นน้องคันนี้ครับน้านุ๊คอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ Nuk_Black-Triton
OEM Group (รถเดิมๆ แต่แรงแบบบ้านๆ)
Friendship-Sport-Funs (เพื่อนเอ้ยกูรักมึงว่ะ)
Triton Thounburi-Rama III Team (TTT 013):kapook-17195-8823:
การเข้าเกียร์ ถอยหลัง สามารถเข้าที่ความเร็วเท่าใดก็ได้ ก่อนที่รถจะหยุด โดยที่เกียร์จะยังไม่เปลี่ยนเป็น R
จนกว่าความเร็ว จะน้อยกว่า 5 กม.ชม. หรือหยุดสนิท แล้วเท่านั้น ทำให้การขับขี่คล่องตัวกว่าเดิม
เทคนิคในการขับรถขณะเครื่องเย็น สำหรับเกียร์ออโต้ไฟฟ้าแบบพลัส หรือขับสี่
ไม่ควรใช้ความเร็วสูง หรือขับรถอย่างรวดเร็วในช่วง 15 นาทีแรกหลังจากการจอดรถทิ้งไว้นานกว่า 6 ชั่วโมง
เพราะระบบ ล๊อกอัพคลัตช์ ในตัว ทอร์คคอนเวอร์ตเตอร์ จะยังไม่จับตัว จนกว่า อุณหภูมิ น้ำมันเกียร์จะถึงจุดใช้งาน
คือ 80 องศา C ข้อสังเกตุง่ายๆ
1.ในช่วงน้ำมันเกียร์ยังไม่พร้อม รถจะมีอาการเหมือนคลัตช์ลื่น ไม่แรงมากเหมือนเดิม
2.รอบเครื่องยนต์ที่ความเร็วต่างๆ โดยเฉพาะ 80-100 กม.ชม. จะสูงกว่าปกติ
ดังนั้น ควรขับด้วยความเร็วไม่เกิน 80-100 กม.ชม. ช่วงความเร็ว 100 รอบจะดีดไป 2200 รตน.
เมื่อพร้อมแล้ว รอบจะลงมาเหลือประมาณ 2000 รตน. เมื่อนั้นล่ะ ซัดได้เลย
อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ Nuk_Black-Triton
อันนี้ไม่รู้จริงๆ หมายถึงว่าขณะที่เราเหยียบเดินหน้าอยู่ แล้วจะหยุดเข้าเกียร์ถอย แต่รถเรายังเดินหน้าอยู่ กดปุ่มดึงเข้าเกียร์ถอยแล้วปล่อยปุ่มได้เลยเหรอครับ
น้านุ๊ก(เราดึงเข้าเกียร์ถอยหลังปล่อยมือแล้ว แต่รถยังเดินหน้าอยู่ จนกว่าจะได้
รอบของมัน รถถึงจะเปลี่ยนเป็นถอยได้ )อย่างงั้นเหรอครับ น้านุ๊ก
:kapook-17195-8823:
ซะงั้นไปป๋า ผมยังไล่ตามป๋าไม่ทันเลย ไม่รู้ว่าป๋าแอบซุ่มอะไรไว้หรือเปล่าอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ coppy42
ใช่ครับ เข้าได้เลย ไม่ว่าความเร็วเท่าใดก็ตามอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ triton9908
จนเมื่อความเร็วเหลือน้อยมากๆ จนเกือบหยุด ระบบถึงสั่งเป็น R ครับ
ถ้าเราขับปกติ ประมาณว่าหาช่องจอดในห้าง ขับๆมา เห็น รูจอด
เราก็ปล่อยไหล เหยียบเบรค รถยังไม่หยุด เราก็เข้า R (เรายังคงเบรคเหมือนเดิม)
พอรถใกล้หยุด แต่เราเหยียบเบรคอยู่ มันลดความเร็วกันทันอยู่แล้ว ระบบ ก็จะเข้า R ให้
ถอยเข้ารูได้เลย ประมาณนี้ครับ
ถ้าขับคลานๆ แล้วเข้า R โดยไม่เหยียบเบรค เมื่อความเร็วถึง 5 KM H
มันจะเข้า R และจะมีอาการกระตุกครับ ประมาณนี้
ถ้าทำไว้แล้วใช้คล่องก็หนับหนุนครับ