เอารถไปทำเครื่องเสียงมากี่คันๆ แก้ไม่เคยจบซะที น้าๆพอจะรู้ต้นตอของไอ้เสียงวี๊ด ที่ออกตามรอบเครื่องยนต์บ้างครับ ว่ามันมาจากไหน แก้ยังงัย ช่วยบอกผมที:kapook-17351-2909:
Printable View
เอารถไปทำเครื่องเสียงมากี่คันๆ แก้ไม่เคยจบซะที น้าๆพอจะรู้ต้นตอของไอ้เสียงวี๊ด ที่ออกตามรอบเครื่องยนต์บ้างครับ ว่ามันมาจากไหน แก้ยังงัย ช่วยบอกผมที:kapook-17351-2909:
เป็นไปได้หรือไม่ครับ...ร้านติดตั้งไม่มีมาตราฐาน
ถ้าดีคงติดตั้งทีเดียวจบ
เป็นเหมือนกันครับ......ตอนเปิด Tv
ตอนนี้ชินแล้ว....คิดซะว่าเป็นเสียง เทอร์โบ ละกัน..หุหุ
ตอนใส่ตัวกรอง ครับ
ร้านเครื่องเสียงมีขายนิครับ
สื่อให้เห็นว่า ติดตั้งไม่ดี สัญญาณรบกวน
รถกี่คันต่อกี่คัน ติดกันเองหมด ไม่เคยเจอปัญหานี้เลยครับ
ไฟอาจไม่ลงกราวด์ก็ได้ครับ ลองเช็คดู
ต่อกราวด์เครื่องเสียงเส้นโตๆ อาจหายได้ครับพี่น้องครับ
ถ้ามีรูปภาพประกอบ พร้อมวิธีทำน่าจะดีนะครับ ช่วยผมหน่อยนะครับ รำคาญมากเลยตอนนี้
ถ้ามีรูปภาพประกอบพร้อมวิธีทำจะดีมาเลยครับ ช่วยหน่อยนะครับ รำคาญมาเลยตอนนี้
ทำมาตั้งหลายคันแหละไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรเลยคับน้า บางที่อาจจะอยู่ที่วิธิการเดินสายไฟคับ เป็นสายกราวด์เส้นโตๆๆ ก้อดีคับแต่อย่ายาวมากเกิน (สั้นๆๆยิ่งดี) ลองไล่สายดูคับน้า
ตอนแรกผมก็เป็นนะครับก่อนไปติดเครื่องเสียง เสียงกวนจากเครื่องยนต์ พอหลังจากติดเครื่องเสียงแล้วก็หายไปเลยไม่มีเสียงกวนเลยผมว่าลองเช็คดูตามนี้ก่อนครับ
1.การลงกราวด์ดีไหมลงการวด์โครงรถจริงๆ
2.ใช้สายไฟเส้นใหญ่ทั้งไฟและกราวด์ สายกราวด์ควรใช้ให้สั้นที่สุด
3.สายไฟและสายสัญญาณเดินรวมกันมาไหมถ้ารวมกันให้แยกเลยครับ
:d
ถ้าทุกคัน ที่น้าทำมามี ปรีแอมป์
ก็ไอ้นั่นแหละครับ ตัวปัญหา
-ลองไล่สายกราวด์ดูครับ เอาให้แน่นกับตัวรถ
-สายสัญญาณลองใช้เบอร์0 ดูครับ
ผมเห็นบ่นๆมาหลายคน.. รวมถึงผมด้วยเมื่อก่อนไล่กันจนเหนื่อยครับ
รถผมเองใช่ ปรี folmula-x 888 เพาเวอร์ไพโอรีตี้ ฟร้อน jvc เรียกว่าอุปกรณ์แหล่งจ่ายสัญญาณได้มาตรฐานทุกตัวครับ สายไฟเดินเส้นใหญ่ๆ ฉนวณหนา
ก็ยังเป็นครับ
นี่ครับถ้าเครื่องเสียงมีเสียงดังวิ๊ดๆ ใช่ไหม ผมแนะนำอย่างนี้ครับ
ใส่ตัวเหนี่ยวนำ หรือเรียกว่าตัว L ตัวเดียวหายปลิดทิ้งเลยครับ ตัวล่ะ 300 บาท
เจ้านี้มันจะไปดร็อปกระแสลงครับ โดยที่มันจะเอาสายไฟเส้น (+ ) ต่อผ่านตัวนี้ก่อนจากนั้นกระแสไฟที่จะไหลเข้าเพาเวอร์แอมป์ จะน้อยลดสัญญาณรบกวนต่างๆที่จะเข้ามายังระบบเครื่องเสียงก็จะน้อยลง จนทำให้ไม่เกิดเสียงรบกวนเลยครับ หายวิ๊ดๆๆ แน่นอน
แต่ข้อเสียคือ ไม่เหมาะกับระบบเครื่องเสียงที่มามาเยอะๆ อัดต่อเนื่องครับ
เพราะเวลาอัดหนัก ระบบไฟจะถูกดึงไปใช้มากๆ อุปกรณ์ตัวนี้แหละมันยิ่งไปทำให้การไหลของกระแสไฟไม่ดี ที่นี้ (เฉพาะเพาเวอร์บางรุ่น) หากไฟตกมากๆมันอาจจะเสื่อมเร็ว บางตัวอาจพังไปเลยครับ
ส่วนระบบเล็กๆ อย่างมีลำโพงกลางแหลม 2 คู่ ซับ 10" 12" คู่เดียว สามารถใส่ตัวดร๊อปไฟได้ โดยไม่เกิดปัญหาข้างต้นนะครับ
VV
v
อีกวิธีนึงครับหากไม่อยากเสียตัง แล้วกลัวว่าใส่ตัว L มาคร่อมไฟบวกแล้ว ไฟจะดร๊อปทำให้เพาเวอร์แอมป์ทำงานได้ไม่ดี
นี่ครับ มาเลย
1. ปรับปุ่ม Fader ที่ปรีแอมป์ ให้ดังเฉพาะลำโพงคู่หน้าก่อนนะครับ
2. ให้ไปดูที่เพาเวอร์ 4 ch (ตัวที่ขับลำโพง กลางแหลมนั้นแหละ)
ปรับระดับ gain power ที่ ช่องสัญญาณ 1/2 หมุนไปซัก 9โมงครึ่ง
จากนั้นปรับเสียงทุ้มไว้สัก 8 โมงครึ่ง ปรับเสียงแหลมไว้ 9 โมงครึ่งพอนะครับ
3. จากนั้นก็ให้ปรับระดับเสียงทุกตัวที่ปรีแอมป์ไว้ที่เที่ยงวันก่อนนะครับ
4. สตาร์ทรถเลยครับ แล้วเปิดฟังตามปกติ จากนั้นลองเร่งเครื่องยนต์ดูครับ ว่าเสียงวิ๊ดดังน้อยลงไหม ถ้ายังดังวิ๊ดดดเหมือนเดิม ให้ปรับที่ปุ่ม Gain power 1/2 ลดมาอีกนิดครับ แล้วหมุนทวนเข็มปุ่มลดเสียงแหลมที่เพาเวอร์มาอีกหน่อย
5. จากนั้นก็ลองเร่งเครื่องฟังใหม่ครับ คราวนี้ผมว่าหายวิ๊ดแน่นอนครับ
6. หลังจากปรับ Gain และเสียงแหลม ที่ช่องสัญญาณ 1/2 เสร็จ
จากนั้นให้เราปรับ fader ที่ปรีแอมป์ ให้เสียงออกคู่หลังครับ แล้วก็ปรับระดับ Gain และระดับเสียงแหลมที่ช่อง 3/4 ก๊อปปี้ตามช่องสัญญาณ 1/2 เลยครับ
(ที่ผมให้ปรับลำโพงทีล่ะคู่เพราะจะได้ไล่ง่ายๆนะครับ ไม่มั่วดี)
7. หลังจากจัดการที่เพาเวอร์แอมป์เสร็จก็ ทำการปรับเสียงที่ปรีแอมป์ ตามแต่ใจชอบเลยครับ อย่าลืมปรับ fadar ที่ปรีแอมป์ กลับมาที่ตรงกลางด้วยนะ:kapook-17196-7812:
8. ก็ให้สนุกกับการฟังเพลง โดยไร้เสียงรบกวนนะคร๊าบบบบ
หัวใจหลักสำคัญของการปรับ power 4 ch อ่ะครับ มันอยู่ที่ตัว
ระดับ Gain power และระดับความดังของเสียงแหลมครับ
หากปรับ Gain power มากไป มันก็ขยายสัญญาณเสียงได้เยอะเสียงดัง แต่อย่าลืมว่าหากมันขยายได้เยอะๆแล้ว ก็จะทำให้มันไปขยายสัญญาณรบกวนที่เข้ามาด้วยนะ ส่วนถ้าปรับเสียงแหลมมากไป มันก็จะวิ๊ดๆได้เหมือนกันครับ เพราะเสียงวิ๊ดๆมันก็คือสัญญาณความถี่สูงนั่นแหละมันเลยวิ๊ดดดด....ไงครับ เพราะฉะนั้นหาจุดลงตัวให้ได้ครับ
นี่จากประสบการณ์จริงๆครับไม่มีมั่ว:emo024mc1::emo024mc1::emo024mc1::kapook-17332-8238::kapook-17332-8238::kapook-17332-8238:
:kapook-17196-7812:เพื่อความสุขของพี่น้อง thaitrition club ผมยินดีมากครับ:kapook-17195-8823:
ลองดูที่จุดต่อสายที่ปรีนะ ผมว่าน่าเกิดจากตรงนั้น จัดระเบียบสายให้ดีแล้วจะเงียบ อย่าให้มันรบกวนกันนะ (ยิ่งถ้าเร่งเครื่องแล้วเสียงขึ้นตามเท้าควรแก้โดยด่วนครับ)
ถ้าขี้เกียจไล่ระบบ แนะนำตัวนี้ครับ ที่ผมบอกไว้นั้นแหละ
ชื่อเรียกของมันคือตัว Noise FILTER ราคาตัวล่ะ 250 - 300 บาท บ้านหม้อ คลองถม มีเยอะครับ หายวิ๊ดสนิท....:i40:
แล้วอาการเสียงดัง ตึบ ตอนปิดเครื่อง ดับเครื่องละครับ เป็นเพราะอะไร แก้ยังไง
เสียงวีดดด เท่าที่เคยเจอนะคับ
1.เกิดจากสายสัญญาณไม่ได้มาตรฐาน
2.การเดินสายสัญญาณควรเดินหลีกเลี่ยงกล่องต่างๆของกล่องรถ (ถ้าเป็นไปได้หาโฟมนวมมาหุ้มสายสัญญาณได้จะดีมากเลยคับ)
3.เพิ่มกราวด์เข้าไปอีกเอาเส้นใหญ่ๆหน่อย ตอนลงกราวด์ก้อขูดสีซะหน่อยนะคับ บางทีอาศัยกราวด์จากน็อตยึดไม่ค่อยได้คับ
4.ปรับGainมากเกิน(เสียงสูง)
5.พาวเวอร์ ไม่ได้คับ อันนี้ผมเคยเจอคับ ทำทุกอย่างข้างต้นแล้วไม่หาย ก้อเลยลองเปลี่ยนดู ปรากฏว่าหายสนิทคับ
:i40::i40::i40::i40::i40::i40::i40::i40:
เสียงดังติบ เกิดจาก กราว์ Power ขาด ลองไล่ดูครับ แต่ถ้าเป็นของใหม่ติดจากร้าน เครื่องเสียงขอเข้าเคลมตัวใหม่เลยครับ
-เสียงวี๊ดที่ว่ามันน่าจะเกิดจากสัญญาณรบกวนนะครับซึ่งจุดที่ทำให้เกิดสัญญาณรบกวนได้ในรถ diesel ก็คือไดชาร์จ ถ้าเป็นรถเบนซิลจะดังมากกว่านี้อีกครับเพราะมีแหล่งกำเนิดสัญญาณรบกวนมากกว่าไม่ว่าจะเป็นไดชาร์จ จานจ่าย รวมไปถึงทุกจุดที่มีการตัดผ่านของสนามแม่เหล็กกับขดลวดทางแก้ง่ายๆก็ต่อ nois filter เพื่อกรองสัญญาณรบกวนอย่างที่น้าเล้งได้ post ไว้ก่อนหน้านี้แหละครับน่าจะหายสำหรับรถ diesel คงไม่ต้องติดตั้งสายใหม่ทั้งระบบ
ขอตอบแบบเด็กๆนะคับ...
1.เสียงตึบคือ..เสียงของสวิชชิ่งรีเลย์ของเพาเวอร์ตัดการทำงาน เพราะอาจจะเปิดเกนจ์มากเกินไป...ส่วนมากผมจะเปิดประมาณ..10..นารฬิกา
2.เสียงวี๊ดเกิดจากอาการ..กราวลูป..คือสายกราวหรือดสายดินไม่พอ ..อาจจะเป็นที่...
1..สายดินยาวเกินไป
2.สายกราวไม่สนิทกับตัวถัง
3.กราวจากเครื่องไม่พอ.
4.สายกราว..หรือสายตัวนำสัญญาณไปพันกับสายไฟข้ว+
5.ผมไม่เก่งหรอกแต่ผมมีคนแนะนำที่ดี..เพราะผมเคยใช้มามากแล้วกับตัวโช๊คตัดสัญญาณกันกวน...แต่ก็ยังวี๊ดเเหมือนเดิม..เพราะหลักการทำงานของมันก็คือ
สายลวดทองแดงพันรอบแท่งถ่านคาร์บอนมีไดโอด20แอมป์2ตัวคร่อมค่าcเอาใว้(นี่ของโซนี่นะ)ไม่เชื่อลองแกะดูใด้
6.เพราะผมเจ็บมาเยอะ5555
ขอบคุณทุกท่านนะครับที่ให้คำแนะนำ ผมจะลองทำทุกๆทางเลยครับ
ได้ผลยังงัยจะมาแจ้งให้ทราบนะครับ
เสียงหวีด..ลองเข้าไปดูนะครับ เผื่อมีประโยชน์:kapook-17195-8823:
http://anuwatteamprothailand.com/boa...p?topic=2195.0
เสียงตุ๊บ ที่ลำโพงซับเวลาปิดเครื่องเล่น...ลองอันนี้ครับ:i40:
http://anuwatteamprothailand.com/boa...p?topic=1208.0
เข้ามาคอนเฟริ์มอีกทีนะว่า
**ลองปรับGain ampตามที่บอกครับ ***ถ้ายังรู้สึกว่ายังไม่พอใจก็
ใส่ Noise FILTER ตัวเดียวหายแน่นอนครับ รถที่บ้านผมทั้ง 2 คัน ใส่แล้วหายเลย
แก้เสียงวิ๊ดผมไม่อยากให้เสียตังกันเยอะครับNoise filter
300 บาทซื้อมาติดเองยังได้เลย :i40:
อาจมีวิธีอื่นที่ทำให้หายได้ แต่ต้องเสียเงินหลักพันแน่นอน:emo018lh7::emo018lh7:
เข้ามาศึกษาคับ ความรู้ดีๆทั้งนั้นคับ
นี่ก็อีกวิธีนึงครับ เอามาจาก Net ครับ Copy ไว้ตั้งนานแล้ว จำไม่ได้ว่าเป็นเว็ปอะไร เผื่อจะมีประโยชน์บ้างครับ
ถ้าต่อฟร้อนท์ผ่านสวิทซ์กุญแจรถจะเกิดเสียงวี๊ดดังมากตามรอบเครื่องแต่ถ้าต่อสายตรงจากแบตเตอรี่ไม่เกิดเสียงรบกวนใดๆ เลย แต่ลูกค้าประสงค์จะให้ต่อสายผ่านสวิสซ์กุญแจรถยนต์เพราะกลัวลืมปิดวิทยุ “ตื่นเช้าขึ้นมาแบตเตอรี่หมดหม้อ”ปัญหาเสียงวี๊ดมันคู่กันมากับเครื่อเสียงรถยนต์เพราะผิดพลาดตั้งแต่เริ่มต้นวางระบบกล่าวกันง่ายๆ “ผิดพลาดกัน ตั้งแต่บรรทัดแรกๆ ของหลักสูตรการวางระบบที่ไม่ก่อให้เกิดปัญหา นั้นทำไม่ยาก แต่ต้องปฏิบัติให้ติดเป็นนิสัยพูดแบบชาวบ้าน ก็ต้องพูดพยายามทำให้ติดเป็น สันดาน...ว่างั้นเหอะ ” นั้นคืออย่าไม่ยุ่งกับระบบไฟฟ้าที่มากับรถเป็นอันขาดสายไฟฟ้าที่ต่อมาให้กับวิทยุที่แถมมากับรถเดิมๆ นั้น ไม่ควรนำมาใช้ร่วมกับระบบการทำงานของอุปกรณ์ที่เราจะติดตั้งเพิ่มขึ้นใหม่เพราะสายเดิมๆออกแบบมาเพื่อระบบเล็กๆ ระบบเด็กๆดังนั้นการวางระบบตั้งแต่ซิงเกิ้ลแอมป์ขึ้นไปควารจะจัดระบบๆฟขั้นใหม่ทั้งระบบเริ่มตั้งแต่สายไฟบวกตรงๆ ที่จะต่อกับสายสีเหลือง (โดยทั่วๆผจะใช้โค้ดสีเป็นสีเหลืองเป็นมาตรฐานสากลยกเว้นสินค้าจีนแดงบางค่ายที่ไม่ยอมโกอินเตอร์)เฉพาะสายไฟตรงมาจากแบ็ตที่จะต่อกับฟร้อนท์นี้ไม่ควรใช้สายที่มีขนาดต่ำกว่า 10 มิลเกินไม่เป็นอะไร ขั้นตอนต่อไปเราต้องมาใส่ใจกับเจ้าสายสีแดงของตัวฟร้อนท์กรุฯอย่าไปต่อเข้ากับเส้น เอ.ซี.ซี. โดยตรงเป็นอันขาดเพราะเส้นนี้มากับชุมทางไฟของรถยนต์ ถ้าเป็นระบบเด็กๆ ไม่เป็นอะไรแต่นี่มันเป็นระบบผู้ใหญ่จึ่งมีเรื่องปราบ เซียนเกิดขึ้น เยอะแยะตาแป๊ะไก๋การจะใช้ไฟฟ้าผ่านสวิทซ์กุญแจต้องใช้
“รีเลย์” ให้รีเลย์มันจ่ายไฟฟ้าแทนจากภาพประกอบเราจะเห็นชัดเจนว่าเรามิได้เอาสายผ่านสวิสซ์กุญแจต่อเข้ากับสายเส้นสีแดงของตัววิทยุใช่มั้ย เพียงแต่เราใช้สายเอ.ซี.ซี สั่งงานให้ขาย 30 ของตัวรีเลย์จ่ายไฟตรงที่มาจากแบ็ตฯ ให้จ่ายไฟ ต่อไปยังขา 87 ของตัวรีเลย์ ซึ่งขา 87
นี้แหละที่เราต้องนำไปต่อกับสายสีแดงของตัวฟร้อนท์สรุปว่าความประสงค์ที่เจ้าของรถต้องการใช้วิทสซ์กุญแจก็ไม่ ผิดประสงค์เพียงแต่เราให้รีเบย์จ่ายแทน เรียกว่าไฟมาจากแบ็ตกันจะๆถ้าเราต่อสายสีแดงโดยไม่ใช้รีเบย์เราจะได้ฟังเสียงวี๊ดกันจะๆเหมือนกันเพราะจุดนั้นแอมป์ต่ำมาก มีค่าเหนี่ยวนำด้วยอ้อ...ลืมนำเสนออีกประการ สายที่เข้าขา 30 ของตัวรีเลย์ นั้นก็อย่าใช้สายเล็กสายน้อยของไฟรถนะเราต้องใช้สายที่เดินมาใหม่ที่ต่อกับสายสีเหลืองของตัววิทยุนั่นแหละ ผ่านไปแล้ว 2 สายและ 2 สี ทีนี้มาคำนึงอีกสาย คือเจ้าสายสีดำที่ชาวเขาชาวเรามักจะเรียกกันว่าสายดินเอาล่ะ ไม่ว่าจะ เรียกสายดิน หรือสายกราวด์ก็แล้วแต่ “มันคือกระแสไฟฟ้าลบ วันยังค่ำ” กระแสไฟฟ้าในรถเนี่ยะมันจะไหลมันจะไหลจากขั้วบวกไปหาขั้วลบเสมอใช่มั้ย ฉะนั้นจุดนี้เราต้องให้ความสำคัญด้วย อย่าใช้สายกราวด์เดิมๆ ที่ต่อมากับตัววิทยุ (ซึ่งส่วนมากช่างติดตั้ง บางร้านชอบใช้กัน) จะด้วยเหตุผลเพราะว่าไม่ทราบไม่รู้นี่หว่า หรือเพราะความขี้เกียจอะไรก็แล้วแต่ขอเรียนให้ทราบว่าท่านที่ใช้สายกราวด์เดิมๆ ทำผิดพลาดอย่างมหันต์ บอกแล้ไงข้างต้นว่าเราจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับสายไฟเดิมๆ ของรถ เราก็เดินสายกราวด์ขึ้น ใหม่สิครับโดยกำหนดให้สายกราวด์มีความโตเท่าๆ หรือใกล้เคียงกับสายที่เราใช้เป็นสายไฟบวกต่อกับวิทยุนั่นแหละ หาจุดลงกราวด์ที่ไม่ไหลจากวิทยุมากนัก ยึดให้แน่น ด้วยน๊อต เบอร์ 8, เบอร์10, เบอร์12
ก็ได้อย่าใช้น๊อตเกลียวปล่อยใช้งานไปสักพักมันก็ปล่อยคลายจนหลวมเอาล่ะครับท่าผู้ชม ถ้าท่าปฏิบัติระบบ ต้นๆให้เป็นดังนี้ปัญหาเสียงรบกวนจะไม่เกิดในระดับหนึ่ง ส่วนเสียงรบกวนในระดับสองนั้นผู้เขียนขอนำเสนอในฉบับที่ 90
นะครับ เนื่องจากมีโควต้าเพียง 2 หน้าเท่านั้นการแก้ปัญหาด้วยการใช้โช้คดักเสียงรบกวนนั้นเป็นการแก้ที่ปลายเหตุต้นเหตุมันอยู่ที่การวางระบบ เพราะคุณสมบัติของเจ้าโช้คที่ว่านี้มันมีค่าความต้านท่านลักษณะเป็นทรานสฟอร์เมอร์บางท่านเรียกหม้อแปลง ภายในนั้นประกอบด้วยแผ่นโลหะ เป็นแผ่นอี E และแผ่นไอ I มีดลวดทองแดงพันอยู่ขณะทำงานจะต้านทานมิให้กระแสไฟไหลผ่านมากนักช่างติดตั้งเครื่อง เสียงรถยนต์ถ้าใช้โช้ค “ถ้าว่าสอบตก” เพราะว่าเสียงวี๊ดที่ท่านว่าทำหายนั้นหารู้ไม่ว่าเสียงวี๊ดมันหายไปพร้อมกับเสียงเพลง ชิ้น ดนตรีต่างพร้อมใจกันหายไปด้วยลง่ทุนติดตั้งเครื่องเสียงราคาห้าหมื่นแต่ได้คุณภาพเพียงหมื่นห้า....ฮา..[/color].ฉบับหน้าพบกันใหม่ ขอจบ ดื้อๆเพียงนี้
รถผมก็เป็นคร้าบบ เวลาเจอฉาววอ่ะ :i39::i40: วี๊ดดดด วิ้ววววว :emo012eu7:
ฮ่าๆๆๆๆๆๆ...
รถผมยังไม่เจออาการที่ว่าเลย สงสัยช่างมือถึงแต่ไม่ค่อยได้เปิดฟังเท่าไรเพราะส่วนใหญ่ฟังแต่ วิทยุสื่อสารในรถ ประมาณ5สถานี ยังไม่รวมเครื่องcb อีก1 คิดแล้วยังเสียดายเงินไม่หายติดตั้งมาทำไมก็ไม่รู้เครื่องเสียง
กระทู้ดีมีสาระ อัพครับ
ถ้าน้าแก้ปัญหาได้แล้ว รบกวนแจ้งให้ทราบด้วยนะครับ ผมจะลองดูด้วยอีกคน ^^
จากเครื่องเสียงไม่รู้นะ แต่ถ้ากับว.วิทยุสื่อสารประเภทโมบายติดในรถ เสียงรบกวนมาจากไดชาร์จครับ แต่เปลี่ยนแบตแล้วหายเลย ปัญหามาจากแบตเตอรี่ที่เสื่อมประสิทธิภาพ
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเปลี่ยนปุ๊บหายปั๊บเลย
ไฟล์แนบ 129884ของผมทำแบบนี่ครับลองทำดูครับ
ของผมโชคร้าย จากปรีกะแอมป์ ดันไม่วี๊ด ดันวี๊ดจากฟรอนด์ เซ็งเลย ช่างบอกต้องเปลี่ยนฟรอนด์ใหม่
ถามเพื่อนสมาชิก ท่านใดมีอาการแบบผมไหม คือถ้าไม่ต่อสายสัญญาณที่หลังฟรอนด์ มันก็ไม่วี๊ด แต่วี๊ดก็ไม่ดังมากนะครับ แต่ตามรอบเครื่อง เลย 555 วี๊ด วี่ วี๊ด บางๆ