-
Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
วันอังคาร ที่ 16 เดือนพฤศจิกายน 2553 เวลา 13.15 น.
ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ : อุตฯรถยนต์ไทยบูมยอดผลิตทุบทุกสถิติปี '54 ทะลุ 1.8 ล้านคัน มั่นใจจีนไม่ใช่คู่แข่ง!
http://upic.me/i/1n/imagesca8j2mp8.jpg
นายศุภรัตน์ ศิริวรรณางกูร ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยนายนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันไทยมียอดผลิตรถยนต์ในภาพรวมเพิ่มขึ้นเป้นประเทศผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 14 ของโลก ซึ่งสิ้นปีนี้จะมียอดผลิตเป็น 1.7 ล้านคัน เพิ่มจากเป้าหมายเดิมที่วางไว้ที่คาดว่าสิ้นปีนี้จะผลิตได้ 1.6 ล้านคัน โดยปีนี้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยทำลายสถิติในทุกด้านเท่าที่เคยทำมาในอดีต และยอดผลิตรถยนต์ของไทยในปี 2554 อาจเพิ่มเป็น 1.8 ล้านคันได้
ที่มา : นสพ.แนวหน้า
สามารถอ่านข่าวสารอื่นๆได้ที่ http://www.facebook.com/note.php?cre...d=295233259527
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
วันอังคาร ที่ 16 เดือนพฤศจิกายน 2553 เวลา 16.00 น.
ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ : มิตซูบิชิเรียกคืนรถ 250,000 คัน
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 4 ของญี่ปุ่น จะดำเนินการเรียกคืนรถยนต์ประมาณ 250,000 คันในญี่ปุ่น กลับมาซ่อมแซม เนื่องจากความบกพร่องซึ่งทำให้มีนำมันรั่วไหลออกมาในเครื่องยนต์ รถที่จะถูกเรียกคืนเหล่านี้เป็นรถรุ่นเล็กรวม 7 รุ่น เป็นต้นว่า อีเค แวกอน รวมทั้ง 2 รุ่นซึ่งผลิตให้กับแบรนด์ของนิสสัน มอเตอร์ ซึ่งได้แก่ ออตตี และคลิปเปอร์ ซึ่งทั้งหมดผลิตในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2003 ถึงเดือนสิงหาคม 2005
http://upic.me/i/by/16-11-53.jpg
ที่มา : นสพ.ผู้จัดการรายวัน
สามารถอ่านข่าวสารอื่นๆได้ที่ http://www.facebook.com/note.php?cre...d=295233259527
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
วันพุธ ที่ 17 เดือนพฤศจิกายน 2553 เวลา 10.00 น.
ข่าวสาร : All-New Ford Ranger ปี 2011 เปิดตัวที่ออสเตรเลีย เริ่มผลิตในไทยส่งขาย 180 ประเทศทั่วโลก
http://www.file2go.com/img.php?im=11347s1
วันนี้ Ford ได้ปล่อยภาพ All-New Ford Ranger ปี 2011 ก่อนเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่งาน Australian International Motor Show ในเมืองซิดนี่ย์ ประเทศออสเตรเลีย ที่จัดขึ้นในสัปดาห์นี้ โดย Ford จะเริ่มจำหน่าย All-New Ranger พร้อมกันทั่วโลกใน 180 ประเทศยกเว้นสหรัฐอเมริกา! ซึ่ง Ford ได้พัฒนากระบะรุ่นนี้ร่วมกับ Mazda ซึ่งก็จะเปิดตัว BT-50 ในงานเดียวกันนี้เช่นกัน
Ford Ranger รุ่นใหม่นี้ได้รับการออกแบบให้ขยับเข้าใกล้ความเป็นรถยนต์นั่งมากขึ้นในแง่ของดีไซน์ การตกแต่งภายใน และเทคโนโลยีต่างๆที่ใช้ โดย Ranger จะมีรูปทรง Cab Body ใน 3 สไตล์ มีระบบขับเคลื่อนแบบ 4X2 และ 4X4 มี 2 ระดับความสูง และ 4 รุ่นย่อยให้เลือก
เครื่องยนต์ทางเลือกเป็นเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล Duratorq TDCi ของ Ford จำนวน 2 รุ่นด้วยกันคือ เครื่องยนต์ 4 สูบ TDCi 2.2 ลิตร 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์ 5 สูบ แถวเรียง TDCi 3.2 ลิตร 200 แรงม้า แรงบิด 470 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะและเกียร์ธรรมดาแบบใหม่ สำหรับรุ่นขับเคลื่อนแบบ 4WD จะมีการติดตั้ง Transfer Case อิเล็กทรอนิกส์ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนจากระบบ 4?2 เป็น 4?4 ผ่านสวิทช์ที่ติดตั้งบนคอนโซล ในขณะที่การเปลี่ยนเกียร์ต่ำก็สามารถทำได้ด้วยเช่นกัน
Ford เผยว่าพื้นที่จุสัมภาระของรุ่น Double Cab จะมีขนาดกว้างกว่าเดิม 100 มิลลิเมตรคือ 1,560 มิลลิเมตร ในขณะที่มีความยาวและสูง 1,549 และ 511 มิลลิเมตรตามลำดับ โดยมีปริมตรความจุที่ประมาณ 1.21 ลูกบาศร์เมตร Ranger ทุกรุ่นจะมาพร้อมระบบควบคุมความเสถียรอิเล็กทรอนิกส์ ESP แบบใหม่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนเทคโนโลยีอื่นๆได้แก่ เซนเซอร์ถอยหลัง กล้องมองหลังแบบใหม่ ถุงลิมนิรภัยด้านข้างที่มีในทุกรุ่นเป็นครั้งแรก
Ford จะทำการผลิต Ranger รุ่นใหม่นี้ที่โรงงาน 3 แห่งโดยจะเริ่มทำการผลิตเพื่อป้อนตลาดในช่วงฤดูร้อนปีหน้าในโรงงานที่จังหวัดระยอง ประเทศไทยเป็นที่แรก ตามด้วยอีก 2 แห่งในอาร์เจนติน่าและแอฟริกาใต้
http://www.file2go.com/img.php?im=11348s1
http://www.file2go.com/img.php?im=11349s1
http://www.file2go.com/img.php?im=11350s1
http://www.file2go.com/img.php?im=423s2
ที่มา : Autospinn.com
สามารถอ่านข่าวสารอื่นๆได้ที่ http://www.facebook.com/note.php?cre...d=295233259527
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
วันพุธ ที่ 17 เดือนพฤศจิกายน 2553 เวลา 16.00 น.
MOTOR EXPO 2010 มีค่ายรถยักษ์ใหญ่เข้าร่วมงาน กว่า35 ยี่ห้อ!!
คุณขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27″ เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดยานยนต์ปีนี้ จะกลับคืนสู่ภาวะรุ่งโรจน์อีกครั้ง โดยคาดการณ์ว่าตลอดปี 2553 ยอดขายรถยนต์ในประเทศมีโอกาส ขยายตัวสูงถึง 700,000 คัน ขณะที่จำนวนรถยนต์ส่งออกอาจเพิ่มขึ้นกว่า 830,000 คัน ส่งผลให้การผลิตรถยนต์มีโอกาสขยับขึ้นแตะระดับ 1,500,000 ถึง 1,600,000 คัน หรือขยายตัวประมาณร้อยละ 50 – 60 เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งนับเป็นตัวเลขการผลิตที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ และยังเป็นอัตราการเติบโตในรถยนต์ทุกประเภท ทั้งนี้เนื่องจากมองว่าช่วงไตรมาสที่ 3 เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้น จากความเชื่อมั่น ผู้บริโภค ประกอบกับพืชผลทางการเกษตรค่อนข้างดีขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงต้นปีที่ผ่านมา และปัจจุบันราคาน้ำมันไม่แพงจนเกินไปนัก ซึ่งน่าจะเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์เติบโตตามเป้าหมาย
โดยในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27” มีรถยนต์เข้าร่วมงานถึง 35 ยี่ห้อ ได้แก่ อัลฟา โรเมโอ / ออดี / บีเอมดับเบิลยู / เชอรี่ / เชฟโรเลตต์ / ซีตรอง / ดีเอฟเอม / เฟียต / ฟอร์ด / แกรนด์ แคร์รี่บอย / ฮอนดา / ฮุนได / อีซูซุ / เกียร์ / แลนด์ โรเวอร์ / เลกซัส / มาสดา / เมอร์ซิเดส-เบนซ์ / มินิ / มิตซูบิชิ / มิตซูโอกะ / เอมทีเอม / นิสสัน / เปอโยว์ / โพลาร์ซัน / โปรตรอน / รูฟ / สโกดา / ซังยง / ซูบารุ / ซูซูกิ /ทาทา / โตโยตา / โฟล์คสวาเกน และ โวลโว และที่น่าสนใจบริษัทรถยนต์รายใหญ่ ได้แก่ เลกซัส เมอร์ซิเดส-เบนซ์ และ รูฟ ค่ายรถสายพันธุ์เยอรมนีตัดสินใจเข้าร่วมงานปีนี้ด้วย“ปีนี้ผู้ชมงานเตรียมพบความตระการตาของกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจ อาทิ การจัดแสดงผลงานประกวดนวัตกรรมยานยนต์ ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีแรก ยิ่งไปกว่านั้นหลายค่ายเตรียมนำรถต้นแบบมาจัดแสดง พร้อมกับเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ด้วยพโรโมชันดึงดูดใจผู้บริโภค ซึ่งแนวโน้มตลาดจะเน้นรถเล็กประหยัดพลังงาน (อีโคคาร์) โดยทุกบริษัทต่างมั่นใจว่า ปลายปีนี้เศรษฐกิจจะฟื้นตัวและสามารถทำยอดขายได้ประสบความสำเร็จอย่างปีที่ผ่านมา”
เตรียมพบความยิ่งใหญ่ของงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27″ ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพคท์ เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2553 วันธรรมดา 12.00-22.00 น. เสาร์และอาทิตย์ และวันหยุดราชการ 11.00-22.00 น. ปิดการจำหน่ายบัตรเข้าชมงาน เวลา 21.00 น. ของทุกวัน
http://upic.me/i/tj/motor-expo-2010.jpg
http://upic.me/i/3g/221010154239moto...-2010-logo.jpg
http://upic.me/i/a4/nn112.jpg
สามารถอ่านข่าวสารอื่นๆได้ที่ http://www.facebook.com/aeroklas#!/n...d=295233259527
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
วันพฤหัสบดี ที่ 18 พฤศจิกายน 2553 เวลา 10.00 น.
ข่าวสารรถยนต์ : Lexus ส่ง CT200h รุกไฮบริด ประกาศดับเครื่องชนเกรย์
ร่วมปลุกกระแสรถไฮบริดในไทย "Lexus" ได้รับแรงหนุนจากบริษัทแม่โตโยต้านำเข้า "ซีที200เอช" (CT200h) แฮชแบ็ก 5 ประตูรุ่นใหม่หมาดๆในตลาด และเป็นไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ของเล็กซัสเข้ามาบุกตลาด Entry-Level รถยนต์ระดับหรูในไทยแบบฉับไว ซึ่งมีกำหนดเผยโฉมในงาน Motor Expo 2010 ต้นเดือนธันวาคมนี้ พร้อมประกาศรับจองทันที โดยเปิดราคาคร่าวๆเริ่มต้นที่ประมาณ 2.2 ล้านบาท และส่งมอบรถในต้นปีหน้า มั่นใจไฮบริดรุ่นนี้จะช่วยผลักดันยอดขายเล็กซัสในไทยให้ก้าวกระโดดเหนือกว่า 500 คัยต่อปี จากปัจจุบันทำได้ไม่เกิน 300 คัน
http://upic.me/i/uc/v9908233-4.jpg
http://upic.me/i/cw/2011_lexus_ct200...cd_gallery.jpg
http://upic.me/i/cc/lexus-ct-200h-08.jpg
http://upic.me/i/va/2011_lexus_ct_20...r_controls.jpg
ที่มา : นสพ.ผู้จัดการรายวัน
สามารถอ่านข่าวสารอื่นๆได้ http://www.facebook.com/Aeroklasthai...d=295233259527
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
วันพฤหัสบดี ที่ 18 พฤศจิกายน 2553 เวลา 16.40 น.
ข่าวสารอุตสากรรมรถยนต์ : The Style by TOYOTA พร้อมทุ่ม 50 ล้านเพื่อขยายฐานสมาชิก
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทยฯ เปิดเผยว่าหลังจากที่โตโยต้าได้เปิดบริการ "The Style by TOYOTA" ศูนย์กลางการเรียนรู้ ย่านสยามสแควร์เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา โดยใช้วงเงินลงทุน 120 ล้านบาท มีนักเรีนย นิสิต นักศึกษาให้ความสนใจสมัครเป็นสมาชิกประมาณ 60,000 ราย ล่าสุดบริษัทได้ใช้งบประมาณ 50 ล้านบาท ปรับปรุงให้เป็นศูนย์ข้อมูลการเรียนรู้สำหรับผู้สนใจเทคโนโลยีอุตสาหกรรมยานยนต์ที่โตโยต้าได้พัฒนาขึ้นมา ซึ่งคาดว่าจะทำให้ฐานสมาชิกเพิ่มอีกเท่าตัวหรือ 120,000 ราย
http://upic.me/i/vj/img_8887_resize.jpg
http://upic.me/i/jq/2010_11_09_the_s..._toyota_04.jpg
http://upic.me/i/oh/0911101406394.jpg
http://upic.me/i/fs/the20style20by20...1-20resize.jpg
http://upic.me/i/nc/8063301.jpg
ที่มา : นสพ.ฐานเศรษฐกิจ
สามารถอ่านข่าวสารอื่นๆได้ http://www.facebook.com/Aeroklasthailand
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
วันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน เวลา 15.30 น.
ข่าวสารรถยนต์ : มาไทยปีหน้า Honda New Small Car รถแนวคิดขนาดจิ๋ว Hatchback 5 ที่นั่ง เผยโฉมที่อินเดียวันนี้
วันนี้ Honda ได้เผยโฉมรถแนวคิดของ City Car ขนาดจิ๋วทรง Hatchback 5 ที่นั่ง ในงาน Auto Expo 2010 ในกรุงนิวเดลฮี ประเทศอินเดีย โดยในขณะนี้ยังไม่มีชื่อรุ่น ซึ่ง Honda ยังไม่ยอมเผยไต๋เกี่ยวกับรถขนาดเล็กรุ่นนี้ นอกจากบอกว่า จะเปิดตัวรุ่นผลิตของรถจิ๋วนี้ในปี 2011 หรือปีหน้านี่เอง ซึ่งในช่วงแรกจะเริ่มจำหน่ายในอินเดียและไทย ส่วนภาพประกอบที่นำมาให้ชมเป็นเวอร์ชั่น 3 ประตู หรืออาจจะเป็นแบบ 5 ประตูที่ใช้ที่เปิดประตูแบบซ่อนตัวเพราะมีเส้นขอบประตูอยู่ งานนี้ตลาดรถ Supermini คงร้อนระอุขึ้นไปอีกเพราะนอกจาก Mazda2 จะเปิดตัวไปแล้ว ยังจะมี Nissan Ecocar ราคาก็แสนจะถูก(ว่ากันว่าเริ่มต้นที่ 3 แสนกว่าๆ) ที่จะเปิดตัวประมาณเดือนมีนาคมนี้หรือเร็วกว่านั้น Honda ยังขอร่วมแจมด้วยการส่งรถรุ่นนี้เข้าสู่ตลาดอีกในปีหน้า แบบนี้ผู้บริโภคมีเฮ สมัยนี้ขับรถเล็กนอกจากประหยัดน้ำมันแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นว่าคนขับรับผิดชอบกับโลกและสังคมมากขึ้นโดยปริยาย
http://upic.me/i/bc/2dtwd.jpg
http://upic.me/i/wz/dtwd.jpg1.jpg
http://upic.me/i/7n/dtwd.jpg2.jpg
ที่มา : autospinn.com
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
วันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน 13.00 น.
ข่าวสารรถยนต์ : All-New Mazda BT-50 กระบะโฉมใหม่สไตล์รถยนต์นั่ง หรูทั้งนอกและใน ใช้งานสารพัดรูปแบบ
All-New Mazda BT-50 ควงแขนมาเปิดตัววันนี้พร้อมกับญาติสนิทอย่าง All-New Ford Ranger ในงาน Australian International Motor Show และถือว่าเป็นกระบะปิกอัพที่ถูกจับตามากที่สุดในช่วงนี้ก็ว่าได้ ด้วยรูปลักษณ์ที่ฉีกตัวเองให้ต่างออกไปจากกระบะรุ่นอื่นๆในท้องตลาด ด้วยรูปโฉมทั้งภายในและภายนอกที่ดูเหมือนกับรถยนต์นั่งมากกว่าที่จะเป็นรถกระบะปิกอัพ แม้แต่ Ford Ranger ที่มีการพัฒนาร่วมกันก็ยังไม่ฉีกแนวออกมามากถึงขนาดนี้ ชัดเจนว่ารูปลักษณ์ภายนอกในส่วนของด้านหน้า เส้นสายได้รับอิทธิพลมาจากดีไซน์รถยนต์นั่งของ Mazda เอง ในขณะที่ภายในซึ่ง AutoSpinn เคยนำภาพทีเซอร์มาให้ชมแล้วดูหรูหราทันสมัยในแบบของรถยนต์นั่งยังไงยังงั้น โดย Mazda ตั้งใจออกแบบรถรุ่นนี้ให้รองรับการใช้งานได้ทั้งในแบบรถยนต์นั่งทั่วไปจนถึงรถสำหรับครอบครัวที่สามารถบุกตะลุยได้ทุกที่ในแบบรถ SUV อย่างไรก็ตาม Mazda ยังไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดอื่นๆของรถรุ่นนี้
http://upic.me/i/0t/wepvt.jpg
http://upic.me/i/kb/78jqp.jpg
http://upic.me/i/a5/71261.jpg
http://upic.me/i/ed/07dk7.jpg
http://upic.me/i/22/dcbbu.jpg
http://upic.me/i/16/b3rn8.jpg
ที่มา : autospinn.com
สามารถอ่านข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ http://on.fb.me/9S9Kv1
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
วันอังคาร ที่ 23 พฤศจิกายน 2553 เวลา 08.30 น.
เกร็ดความรู้ : เตือนเจ้าของรถที่ดัดแปลงไฟซีนอนหรือไฟเบรกสว่างจ้ามากเกินไป ผิดกฎหมายกันนะครับ
กรมการขนส่งทางบก ย้ำเตือนกันอีกครั้ง เจ้าของรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ ที่ดัดแปลง ไฟซีนอน หรือ ไฟเบรก
ให้มีแสงสว่างจ้ามากเกินไป นอกจากมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุแล้ว ยังมีความผิดตามกฎหมาย ต้องระวางโทษปรับอีกด้วย
นายเทียนโชติ จงพีร์เพียร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก
เผยว่า "ในปัจจุบันมีเจ้าของรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ นำรถไปดัดแปลงแก้ไข หลอดไฟหน้ารถ (ไฟซีนอน) และ ไฟเบรก (ไฟหยุด)
ให้มีแสงสว่างจ้ามากเกินไป หรือบางราย ไปปรับแต่งทิศทางการส่องสว่างของแสงไฟ ให้สูงขึ้นจากเดิม
เพื่อให้ส่องสว่างได้ไกลขึ้น ซึ่งเป็นการรบกวนสายตาของผู้ขับขี่รายอื่น ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูงขึ้น
และ มีความผิดตามกฎหมาย ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท"
นายเทียนโชติ กล่าวเพิ่มเติมว่า "หลอดไฟซีนอนนั้น แม้จะมีข้อดีในเรื่องของประสิทธิภาพการส่องสว่าง
แต่การที่จะนำมาใช้เป็นหลอดไฟหน้ารถได้อย่างปลอดภัยนั้น หลอดไฟจะต้องมีคุณลักษณะในเรื่อง แนวจำกัดของแสง
และ รูปแบบการกระจายของแสง ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด โดยไฟหน้าของรถยนต์
และรถจักรยานยนต์ จะต้องมี แสงสีขาว หรือ เหลืองอ่อน จำนวน 2 ดวง ติดตั้งอยู่ในระดับเดียวกันที่หน้ารถ ด้านซ้ายและขวา ด้านละ 1 ดวง
ติดตั้งสูงจากผิวทาง ไม่น้อยกว่า 40 เซนติเมตร แต่ ไม่เกิน 1.35 เมตร
ความสว่างของไฟสามารถส่องทางด้านหน้าได้อย่างชัดเจน และไม่เอียงไปทางขวา จนรบกวนสายตาของผู้อื่น"
"สำหรับไฟหยุด (ไฟเบรก) ต้องเป็นสีแดง ไฟเลี้ยว ต้องเป็นสีเหลืองอำพัน ไฟส่องป้าย ต้องเป็นสีขาว
มองเห็นป้ายทะเบียนได้ไกล ไม่น้อยกว่า 20 เมตร โดยการดัดแปลงไฟหน้าให้เป็นแสงสีอื่น
หรือดัดแปลงอุปกรณ์ส่วนควบ หรือเพิ่มเติมส่วนหนึ่งส่วนใดเข้าไป จนทำให้แสง มีความสว่างจ้ามากจนเกินไป
เมื่อนำไปใช้งานบนท้องถนน จะส่องเข้าตาผู้ขับขี่รายอื่น ทำให้สายตาพร่ามัวจนอาจเกิดอุบัติเหตุได้ หากฝ่าฝืน
มีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 12 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท"
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ยังฝากถึงเจ้าของรถ อย่าได้ไปดัดแปลงไฟหน้าให้ผิดไปจากที่กฎหมายกำหนด
โดยเฉพาะการเปลี่ยนหลอดไฟเป็น ไฟซีนอน หรือเปลี่ยนเป็นสีอื่น เช่น สีฟ้า สีม่วง สีเหลืองเข้ม หรือ สีเขียว
เนื่องจากการดัดแปลงหลอดไฟ จะทำให้แสงที่ส่องออกมาผิดเพี้ยน หรือสว่างจ้าเกินไป จนรบกวนสายตาผู้อื่นทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากยิ่งขึ้น
"สำหรับผู้ที่ดัดแปลงมาแล้ว ก็ขอให้รีบดำเนินการแก้ไขปรับปรุงให้ถูกต้อง
และขอความร่วมมือ สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) หรือ ศูนย์บริการรถยนต์
หากพบรถที่ติดตั้งโคมไฟหน้ารถที่ไม่ได้มาตรฐาน ขอให้ปรับเปลี่ยนให้ถูกต้องด้วย
เพื่อมิให้เกิดปัญหาในการใช้รถใช้ถนนร่วมกัน" อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวทิ้งท้าย
กรมการขนส่งทางบก ย้ำเตือนกันอีกครั้ง เจ้าของรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ ที่ดัดแปลง ไฟซีนอน หรือ ไฟเบรก
ให้มีแสงสว่างจ้ามากเกินไป นอกจากมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุแล้ว ยังมีความผิดตามกฎหมาย ต้องระวางโทษปรับอีกด้วย
http://upic.me/i/d3/04677.jpg
http://upic.me/i/dk/xenon-warning.jpg
ที่มา : motortrivia.com
สามารถอ่านข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ http://on.fb.me/9y3uKL
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูลดีๆ
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
วันอังคาร ที่ 23 พฤศจิกายน 2553 เวลา 15.00 น.
ข่าวสารรถยนต์ : ยอดจำหน่ายฮอนด้า ตั้งแต่ ม.ค.-ต.ค. 53 รวม 91,948 คัน เติบโตขึ้นกว่า 28%
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด แจ้งยอดจำหน่าย ฮอนด้า เดือนตุลาคม 2553 มีจำนวนทั้งสิ้น 9,885 คัน และมียอดจำหน่ายสะสมตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงตุลาคม 91,948 คัน เติบโตขึ้น 28% เมื่อเทียบกับปีก่อน และคิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 14.6% ของตลาดรถยนต์โดยรวม (628,361 คัน) และ 30.78% ของตลาดรถยนต์นั่ง (274,030 คัน)
ซึ่งยอดจำหน่ายรถแบ่งออกเป็นรุ่นต่างๆ ดังนี้
Sub-Compact
• Honda City มียอดจำหน่าย 4,264 คัน ยอดสะสม 37,859 คัน คิดเป็น 26.6%
• Honda Jazz มียอดจำหน่าย 1,941 คัน ยอดสะสม 15,369 คัน คิดเป็น 10.8% ในกลุ่มรถยนต์ประเภท
• Honda Civic มียอดจำหน่าย 2,670 คัน ยอดสะสม 23,714 คัน คิดเป็น 31.9% กลุ่มรถยนต์ประเภท
Compact
• Honda Accord มียอดจำหน่าย 223 คัน ยอดสะสม 4,842 คัน คิดเป็น 19.6% ในกลุ่มรถยนต์ประเภท
Family
• Honda Freed มียอดจำหน่าย 206 คัน มียอดสะสม 2,573 คัน คิดเป็น 23.2% มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในกลุ่มรถยนต์เอนกประสงค์
MPV
• Honda CR-V มียอดจำหน่าย 581 คัน มียอดสะสม 7,591 คัน คิดเป็น 17.3% ในกลุ่มรถยนต์ประเภท SUV/PPV
เยี่ยมชมเว็บไซต์ หรือติดตามข่าวสารอื่นๆ ได้ที่ www.honda.co.th
http://upic.me/i/w7/tokyo_motor_show...z_image001.jpg
http://upic.me/i/vk/motor-2004-01.jpg
ที่มา : motortrivia.com
สามารถอ่านข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ http://on.fb.me/9y3uKL
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน 2553 เวลา 09.00 น.
ข่าวสาร : MOTOR EXPO 2010 จองพื้นที่ล้นทะลัก "โตโยตา" ใหญ่สุด "ฮอนดา" ใหญ่อันดับ 2 ตามด้วย "มิตซูฯ"
ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27" เปิดเผยว่า การเปิดจองพื้นที่จัดงาน ในวันที่ 9-10 มิย. 53 ที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยได้รับความสนใจจากบริษัทรถยนต์ เครื่องเสียง และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง อย่างคึกคัก โดยพื้นที่บูธแสดงรถยนต์ ถูกจองเต็มแล้ว ส่วนพื้นที่โซนเครื่องเสียง และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง ลูกค้าจองแล้วกว่า 90 %
บริษัทรถยนต์ที่เป็นเจ้าของพื้นที่ใหญ่สุดของงานในปีนี้ คือ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด (1,600 ตรม. ) รองมาคือ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด (1,480 ตรม.) บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด (1,400 ตรม.) บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด (1,360 ตรม.) บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด (1,280 ตรม.) บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด (1,200 ตรม.)
สำหรับบริษัทผู้นำเข้ารถอิสระปีนี้ ได้มีหลายค่ายแสดงความสนใจเข้าร่วมงาน แต่เนื่องจากบริษัทมีนโยบายค่อนข้างชัดเจน คือ การให้สิทธิ์กับบริษัทที่เข้าร่วมรายเดิม ซึ่งปีที่แล้วเป็นของ บีอาร์จี และ ทีเอสแอล ดังนั้นปีนี้ ผู้จัดงานจึงให้สิทธิ์ 2 บริษัทนี้เข้าร่วมงาน
ไฮไลท์ของการจัดงานปีนี้ คือ รถต้นแบบ ที่บริษัทรถยนต์จะนำมาแสดงประมาณ 5-6 ยี่ห้อ รวมถึงการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ นอกจากนี้ยังมีรถยี่ห้อใหม่ที่จะเปิดตัวในงานอีก 1-2 ยี่ห้อ โดยในปีที่ผ่านมามีรถยนต์เข้าร่วมงาน 32 ยี่ห้อ ส่วนปีนี้คาดว่าจะมีรถเข้าร่วมงานมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน โดยรถที่เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ได้แก่ เมร์เซเดส-เบนซ์ และ แฟร์รารี เป็นต้น
ตลาดรถยนต์โดยรวมปีนี้ คาดว่าจะมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 600,000 คัน หรือโตขึ้นประมาณ 10 % จากปีก่อนหน้า หลังจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ และการเมืองเริ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 4 ซึ่งเป็นฤดูกาลขาย เชื่อว่าตลาดน่าจะเติบโตสูงสุด
ส่วนกรณีที่มีบริษัทผู้จัดงานแสดงรถยนต์บางรายให้ความสนใจ จะย้ายสถานที่จัดงานมาที่ ชาลเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานีนั้น ไม่ได้รู้สึกกังวลใจแต่อย่างใด เนื่องจากมองว่า ผู้ที่ได้ประโยชน์คือ บริษัทรถยนต์ต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องของ อัตราค่าเช่าพื้นที่ ประกอบกับ "มหกรรมยานยนต์" มีความได้เปรียบเรื่องระยะเวลาของการจัดงานที่ดีที่สุด คือเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองและจับจ่ายใช้สอย
อย่างไรก็ตาม บริษัท ฯ ได้เตรียมแผนงานเพื่อรองรับกรณีดังกล่าวไว้แล้ว ถ้ามีคนมาเลือกใช้พื้นที่จัดงานเดียวกับเรา ถือว่าไม่ใช่ปัญหา
"มหกรรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27" จัดขึ้นตามแนวคิด “น้ำหนึ่งใจเดียว...สร้างสรรค์ยานยนต์รักโลก” หรือ UNIFY…CREATE EARTH-LOVING VEHICLES จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2553 ณ อาคาร ชาลเลนเจอร์ 1-3 อิมแพคท์ เมืองทองธานี บนพื้นที่ขนาด 60,000 ตารางเมตร
http://upic.me/i/4y/vy241.jpg
http://upic.me/i/h0/ob242.jpg
http://upic.me/i/9s/0b243.jpg
ที่มา : motorexpo.co.th
สามารถอ่านข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ http://on.fb.me/9y3uKL
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
http://upic.me/i/sg/nissan-00.jpg
http://upic.me/i/xg/nissan-08.jpg
http://upic.me/i/lu/h_mg_7909.jpg
Nissan ทุบสถิติต่อเนื่อง ยอดจอง Motor Expo เกินคาด!!
Nissan ทุบสถิติต่อเนื่อง ยอดจอง Motor Expo เกินคาดลูกค้าล้นหลังเปิด 5 รุ่นใหม่...Nissan March กระแสแรงไม่เลิก
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศยอดจองจากงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2010 ทะลุเป้า 2,879 คัน โดย Nissan March ยังแรงดีไม่มีตก โกยยอดขายเกินกว่าครึ่ง ส่วน Nissan Navara รุ่นปี 2011, Nissan Teana Sport Series, Nissan Tiida Fun Pack Limited และ Nissan X-Trail โมเดลใหม่ ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ส่งผลให้ยอดขายแรงตลอดงาน
เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เราได้ เปิดตัวรถรุ่นใหม่พร้อมกัน 5 รุ่น คือ มาร์ช สปอร์ต เวอร์ชั่น (ออกแบบโดย ออเทค), นาวารา รุ่นปี 2011, เทียน่า 2.0 สปอร์ต ซีรี่ส์, ทีด้า ลิมิเต็ด เวอร์ชั่น Fun Pack และ เอ็กซ์เทรล V เวอร์ชั่นใหม่ ซึ่งแต่ละรุ่น มีความโดดเด่นที่แตกต่างกันไป และมีกระแสตอบรับเกินความคาดหมาย โดยเฉพาะ นิสสัน มาร์ช ที่แม้จะเปิดตัวมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ยอดจองยังแรงไม่ตก ลูกค้าที่จองให้เหตุผลว่า เป็นรถที่มีสไตล์และกว้างขวาง นั่ง 5 คนได้สบายๆ ส่วนรุ่นอื่นๆ เฉพาะยอดจองในงาน เกือบเท่าเป้าทั้งเดือนที่ตั้งไว้ และยอดจองรวมทุกรุ่นในงานปีนี้ สูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมามากกว่า 2 เท่า คุณประพัฒน์ เชยชม รองผู้จัดการใหญ่ อาวุโส ฝ่ายตลาดและขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
ปี 2553 เป็นปีที่โดดเด่นของ นิสสัน นับตั้งแต่ การเปิดตัว นิสสัน มาร์ช รถ อีโค คาร์ คันแรกของประเทศไทย มาร์ช ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นของกระแสรถยนต์แบบคอมแพค และรถยนต์เพื่อการประหยัดพลังงาน รวมถึงการเปิดเซ็กเมนต์ใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยช่วงเวลาเพียง 9 เดือน นิสสัน มาร์ช มียอดจองทะลุ 25,000 คันแล้ว โดยส่งรถถึงมือลูกค้าแล้วมากกว่า 60% ของยอดจอง
นิสสัน มาร์ช ได้รับการยอมรับจากตลาดด้วยดี เพราะมีดีไซน์ที่โดดเด่น การออกแบบภายนอกดูกะทัดรัด แต่ภายในกว้างขวาง เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ประหยัดน้ำมัน และตอบสนองทุกการใช้งาน คุ้มค่ามากเกินราคา โดยล่าสุด นิสสัน มาร์ช ได้รับรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมด้านผลิตภัณฑ์ รถยนต์นั่งส่วนบุคคลประเภท Pre-Entry
ยอดขายประจำเดือนของนิสสัน ทำลายสถิติต่อเนื่องโดยมียอดขายสูงกว่า 5,000 คันต่อเดือนเป็นเวลาติดต่อกัน 6 เดือนแล้ว และยอดขายนิสสันช่วง 8 เดือนในปีงบประมาณ 2553 โตขึ้น 92% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณ 2552 ซึ่งความสำเร็จนี้ แน่นอนเราต้องขอขอบคุณผู้บริโภค ที่มั่นใจในแบรนด์ของ นิสสัน และอีกด้านคือคุณภาพของรถยนต์ นิสสัน ทุกรุ่น คุณประพัฒน์ เชยชม กล่าวปิดท้าย ปี 2553 เป็นปีที่โดดเด่นของ นิสสัน นับตั้งแต่ การเปิดตัว นิสสัน มาร์ช รถ อีโค คาร์ คันแรกของประเทศไทย มาร์ช ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นของกระแสรถยนต์แบบคอมแพค และรถยนต์เพื่อการประหยัดพลังงาน รวมถึงการเปิดเซ็กเมนต์ใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยช่วงเวลาเพียง 9 เดือน นิสสัน มาร์ช มียอดจองทะลุ 25,000 คันแล้ว โดยส่งรถถึงมือลูกค้าแล้วมากกว่า 60% ของยอดจอง
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
ข่าววันที่ 15 ธันวาคม 2553
http://upic.me/i/94/h_1_1.jpg
เจ้าของรถที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมจนไม่สามารถใช้งานได้รีบดำเนินการแจ้งไม่ใช้รถ ก่อนวันครบกำหนดเสียภาษีรถ เพื่อไม่ต้องชำระภาษีรถในปีต่อไป!!
นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เผยว่า "จากสถานการณ์อุทกภัยน้ำท่วมในหลายพื้นที่ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้เจ้าของรถบางราย ที่ประสบเหตุรถถูกน้ำท่วมและได้รับความเสียหาย ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการซ่อมแซมปรับปรุงเป็นเวลานาน หรืออาจไม่สามารถใช้งานได้ต่อไป ให้ดำเนินการแจ้งไม่ใช้รถ เพื่อไม่ต้องชำระภาษีรถในปีต่อไป จนกว่าจะมีการแจ้งขอใช้รถใหม่"
ซึ่งกรมการขนส่งทางบก ต้องการบรรเทาความเดือดร้อนของเจ้าของรถ ที่ได้รับความเสียหายเนื่องจากรถถูกน้ำท่วม และอาจต้องใช้ระยะเวลาในการซ่อมแซมปรับปรุงรถเป็นเวลานาน ให้รีบดำเนินการแจ้งไม่ใช้รถตลอดไป เพื่อจะได้ไม่ต้องชำระภาษีรถประจำปีในปีต่อไป โดยต้องมีเอกสารหลักฐานประกอบคำขอ ได้แก่...
• แบบคำขอ
• ใบคู่มือจดทะเบียนรถ
• แผ่นป้ายทะเบียนรถ
• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (กรณีบุคคลธรรมดา) หรือ หนังสือรับรองบริษัท (กรณีเป็นนิติบุคคล)
• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีอำนาจลงนาม (ประทับตรายางพร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง)
• หนังสือมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของรถมิได้มาดำเนินการด้วยตนเอง)
• ภาพถ่ายบัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ (ปิดอากรแสตมป์ในหนังสือมอบอำนาจ จำนวน 10 บาท)
• ค่าธรรมเนียมการแจ้งไม่ใช่รถเพียง 25 บาท
ทั้งนี้ การยื่นแบบคำขอไม่ใช้รถ ควรยื่นก่อนที่จะครบกำหนดเสียภาษีรถประจำปีรอบต่อไป หากยื่นเลยกำหนดวันสิ้นอายุภาษี เจ้าของรถจะต้องเสียภาษีรถประจำปีที่ค้างชำระก่อน จึงจะสามารถดำเนินการแจ้งไม่ใช่รถได้ โดยยื่นคำขอได้ที่ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 - 5 หรือสำนักงานขนส่งจังหวัด หรือสาขาที่รถนั้นจดทะเบียนอยู่ และหากภายหลังมีความประสงค์นำรถที่ได้ซ่อมแซมดังกล่าวกลับมาใช้งานอีก ก็สามารถแจ้งขอใช้รถได้ตามปกติ โดยสอบถามรายละเอียดที่ สำนักงานขนส่งทุกแห่ง หรือ Call Center 1584
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
ข่าววันที่ 17 ธันวาคม 2553
Ford เปิดตัว Ranger Wildtrak ใหม่ รุ่น Limited Edition
ฟอร์ด เปิดตัว ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค รุ่น Limited Edition เพิ่มความเท่ครบครันด้วยล้อแม็ก 18 นิ้ว รายแรกในเมืองไทย พร้อมมัลติมิเตอร์แบบดิจิตอล และลวดลายบนตัวถังใหม่
ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค รุ่น Limited Edition มาพร้อมสีพิเศษ คอปเปอร์ เรด (Copper Red) โดดเด่นเหนือใคร และสีขาวคูล ไวท์ (Cool White) สุดฮิต พิเศษเฉพาะโอเพ่นแค็บ ไฮ-ไรเดอร์ พร้อมระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ราคา 739,000 บาท และดับเบิ้ลแค็บ ไฮ-ไรเดอร์ เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ราคา 843,000 บาท ที่บรรจุขุมพลังเครื่องยนต์ดูราทอร์ค คอมมอนเรล 2.5 ลิตร ประหยัดน้ำมันแต่ไม่ประหยัดพลัง
ฟอร์ด สร้างประสบการณ์ใหม่ เติมเสน่ห์ให้ความแกร่ง พร้อมปล่อยทีเด็ด ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค รุ่น Limited Edition รถกระบะรายแรกในเมืองไทยที่มาพร้อมอุปกรณ์ชุดแต่งแบบเต็ม แมกซ์ ด้วยล้อแม็กขนาด 18 นิ้ว และมัลติมิเตอร์แบบดิจิตอล สติ๊กเกอร์ลวดลายพิเศษสไตล์เรนเจอร์แมกซ์ จำนวนจำกัดเพียง 200 คัน เท่านั้น
นายสาโรช เกียรติเฟื่องฟู รองประธานอาวุโส ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวว่า ฟอร์ด มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่พร้อมตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า โดยพร้อมมอบประสบการณ์ ด้วยความแตกต่างของคุณภาพที่ได้มาตรฐานระดับโลก ดีไซน์ที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสะท้อนสโลแกนใหม่ Feel the difference ของฟอร์ด ได้อย่างชัดเจน
ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค รุ่น Limited Edition เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของฟอร์ด ที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับวงการรถ กระบะขนาด 1 ตัน ของประเทศไทย ด้วยชุดแต่งไวลด์แทรค พร้อมล้อแม็กขนาด 18 นิ้ว สุดเท่สไตล์สปอร์ต มัลติมิเตอร์แบบดิจิตอลสุดล้ำที่จะให้ข้อมูลความเอียง ความลาดชันของพื้นถนน และเข็มทิศแบบดิจิตอล พร้อมไฟเรืองแสงสีแดงเพิ่มอารมณ์สปอร์ตในการขับขี่ยามค่ำคืน ตกแต่งลวดลายตัวถังแบบพิเศษโดดเด่นสะดุดตาในแบบ เรนเจอร์ แมกซ์ โชว์ทรัค พร้อมสีพิเศษใหม่ล่าสุด คอปเปอร์ เรด (Copper Red) โดดเด่นไม่ซ้ำใคร และสีขาวคูล ไวท์ (Cool White) สุดฮิต
ฟอร์ด ได้เลือกทำตลาด ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค รุ่น Limited Edition 2 รุ่นเ คือ โอเพ่นแค็บ ไฮ-ไรเดอร์ พร้อมระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และดับเบิ้ลแค็บ ไฮ-ไรเดอร์ เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ที่บรรจุขุมพลังเครื่องยนต์ดูราทอร์ค คอมมอนเรล 2.5 ลิตร แรงบิดสูงสุด 330 นิวตันเมตรที่รอบต่ำ 1,800 รอบต่อนาที และมีกำลังสูงสุด 143 แรงม้าที่รอบต่ำเพียง 3,500 รอบต่อนาที พร้อมอบความประหยัดน้ำมันแต่ไม่ประหยัดพลัง โดยฟอร์ดเลือกทำตลาดเฉพาะสองรุ่นนี้ เนื่องจากรถกระบะแบบยกสูงเป็นที่นิยมสูงสุด และลูกค้าของฟอร์ดต้องการรูปลักษณ์ที่โดดเด่นแบบสปอร์ต แต่ต้องไม่ซ้ำใคร ซึ่งฟอร์ด พร้อมตอบโจทย์ของกลุ่มลูกค้าดังกล่าวด้วยความคุ้มค่าเกินราคา
ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค รุ่น Limited Edition จะผลิตจำนวนจำกัดเพียง 200 คัน เท่านั้น โดยในรุ่นโอเพ่นแค็บ ไฮ-ไรเดอร์ มีราคาเพียง 739,000 บาท และ ดับเบิ้ลแค็บ ไฮ-ไรเดอร์ มีราคาเพียง 834,000 บาท พร้อมด้วยข้อเสนอสุดพิเศษดอกเบี้ยต่ำ 1.99% ดาวน์ 25% ผ่อนนานสูงสุด 48 เดือน และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง
http://upic.me/i/j5/ford_ranger_wild..._edition_1.jpg
http://upic.me/i/at/ford_ranger_wild..._edition_2.jpg
http://upic.me/i/ar/ford_ranger_wild..._edition_3.jpg
http://upic.me/i/b4/ford_ranger_wild..._edition_4.jpg
http://upic.me/i/ha/ford_ranger_wild..._edition_5.jpg
ที่มา : thaiautoshop.com
และสามารถติดตาข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ facebook ของเราครับ http://www.facebook.com/note.php?cre...d=295233259527
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
ข่าววันที่ 18 ธันวาคม 2553 ช่วงเช้า
http://upic.me/i/0r/pretty_motorexpo_2010_01.jpg
http://upic.me/i/ec/553000017625901.jpg
มาดู 10 ค่ายรถที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในงาน Motor Expo 2010!!
ปิดฉากลงแล้วสำหรับงาน Motor Expo 2010 งานแสดงรถยนต์ที่มีผู้คนให้การตอบรับเป็นอย่างดีทุกปี ในปีนี้ ค่ายรถที่มียอดขายสูงที่สุด ก็ไม่ผิดคาดซักเท่าไร นั่นคือ โตโยต้า ค่ายรถขวัญใจคนไทย ที่งานนี้ทำยอดขายได้ถึง 8,309 คัน ถ้าคิดเป็นสัดส่วนก็มากกว่า 1 ใน 4 ของรถทั้งหมดที่ขายได้ในงานเลยทีเดียว
10 ค่ายรถที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในงาน Motor Expo 2010 มีดังนี้
1. Toyota จำนวน 8,309 คัน
2. Honda จำนวน 3,919 คัน
3. Isuzu จำนวน 2,902 คัน
4. Nissan จำนวน 2,879 คัน
5. Mazda จำนวน 2,727 คัน
6. Mitsubishi จำนวน 1,930 คัน
7. Chevrolet จำนวน 1,681 คัน
8. Ford จำนวน 1,232 คัน
9. Proton จำนวน 1,173 คัน
10. Hyundai จำนวน 832 คัน
โดยยอดรวมทั้งหมดของรถที่มีการซื้อขายในงาน Motor Expo 2010 ตั้งแต่วันที่ 1 12 ธันวาคม 2553 มีจำนวนทั้งสิ้น 33,058 คัน ข้อมูลที่น่าสนใจอีกอย่างคือ วันสุดท้ายของงาน มียอดจองสูงที่สุดคือ 6,000 คัน
ในส่วนของจำนวนผู้เข้าชมงาน มีจำนวนมากถึง 1,594,369 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 4.9% (ผู้เข้าชมงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 25 จำนวน 1,519,179 คน) และปิดท้ายที่ยอดเงินสะพัดภายในงาน มีจำนวนทั้งสิ้น (รวมรถใหม่ รถมือสอง รถเพื่อการพานิชย์ อุปกรณ์รถยนต์ เครื่องเสียงติดรถยนต์ ฯลฯ) ประมาณ 29,000 ล้านบาท
ที่มา : thaiautoshop.com
และสามารถติดตาข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ facebook ของเราครับ http://www.facebook.com/note.php?sav...roklasthailand
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
ข่าววันที่ 20 ธันวาคม 2553 ช่วงเช้า
http://upic.me/i/wb/3127-001.jpg
http://upic.me/i/uw/3127-002.jpg
http://upic.me/i/v0/3127-003.jpg
http://upic.me/i/yc/3127-004.jpg
พบกับงาน Formula 1 ราชดำเนิน Red Bull Bangkok 2010!!
งานนี้ผู้ที่ชื่นชอบความเร็วในเมืองไทยอย่าได้พลาด !!! ร่วมเตรียมเป็นส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของการซิ่งรถฟอร์มูลา วัน บนถนนใจกลางกรุงเทพมหานคร ครั้งแรก ในเมืองไทย ซึ่งบริษัท กระทิงแดง จำกัด เตรียมนำรถแข่งฟอร์มูล่าวันของจริง RB6 ขุมกำลัง 2,400 ซีซี วี 8 เร่งรอบเครื่องได้ทะลุ 2 หมื่นรอบต่อนาที ของมาร์ค เว็บเบอร์ สุดยอดนักแข่งรถฟอร์มูล่า มาโชว์ความแรงบนเส้นทางถนนราชดำเนินมุ่งสู่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มาให้คนไทยได้ยลโฉมกันในวันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม
บริษัท กระทิงแดง จำกัด ในฐานะบริษัทแม่ของผลิตภัณฑ์เรดบูลล์ (กระทิงแดง) ทั่วโลก ร่วมกับกรุงเทพมหานคร และสิงห์ คอร์ปอเรชัน เตรียมระเบิดความมันครั้งประวัติศาสตร์ภายใต้โครงการ "Red bull street of Bangkok 2010" ที่จะนำรถแข่งคันจริงที่เพิ่งคว้าแชมป์โลกรถสูตรหนึ่งฤดูกาล 2010 มาลงวิ่งบนสตรีทเซอร์กิตในกรุงเทพมหานคร
นายสราวุฒิ อยู่วิทยา ผู้บริหารกระทิงแดงว่าโครงการนี้ถือเป็นการร่วมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาส ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ 84 พรรษา ในปี 2554 รวมถึงยังเป็นการนำทีมแข่งระดับโลกที่มีต้นกำเนิดของสินค้าจากประเทศไทยอย่างเรดบูลล์ เรซซิง มาให้คนไทยได้ชื่นชมในความสำเร็จในตำแหน่งแชมป์โลกฟอร์มูล่า วัน
จริง ๆ แล้วในอดีตที่ผ่านมา นักแข่งรถชาวไทย "เจ้าดาราทอง" พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช หรือพระองค์พีระ ที่เคยแข่งเอฟวันในยุคเดียวกับฮวน มานูเอล ฟานจิโอ ตำนานนักขับชาวอาร์เจนตินา แห่งทีมมาเซราติ ในยุคปี 1950-1954 รวมถึงเป็นแชมป์ที่โมนาโกในยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เคยเตรียมที่จะจัดการแข่งขัน "แบงค็อก กรังด์ปรีซ์" ในรูปแบบปิดเมืองแข่งบริเวณสนามหลวง-ถนนราชดำเนินมา แล้ว แต่ต้องยกเลิกในวินาทีสุดท้าย เนื่องจากปัญหาสงครามโลกในปี 1939
สำหรับในงานครั้งนี้ที่จะเกิดขึ้นแน่นอน !! เส้นทางที่จะมีการปิดถนนราชดำเนินเพื่อนำรถ RB6 มาขับโชว์โดยมาร์ค เว็บเบอร์ ในวันเสาร์ที่ 18 ธันวาคมนี้ ทีมงาน เรด บูลล์ จะติดตั้งโรงรถเหมือนกับพิตในสนามแข่งบริเวณภูเขาทอง โดยจะนำรถออกจุดเริ่มต้นที่สะพานลีลาศ ทำความเร็วไปตามถนนราชดำเนินใน ผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนจะวนวงเวียนและวิ่งกลับมาสิ้นสุดที่สี่แยกคอกวัว หลังจากนั้นนักขับชาวออสเตรเลียสุดฮอตคนนี้ จะเดินทางไปทำกิจกรรม meet and greet พบปะแฟน ๆ เอฟวันที่ลานมรกต ห้างเซ็นทรัลชิดลมในช่วงเย็นของวันเดียวกันนั้นด้วย
ที่มา : eventpro.in.th
และสามารถติดตาข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ facebook ของเราครับ http://www.facebook.com/note.php?cre...d=295233259527
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
ข่าววันที่ 20 ธันวาคม 2553 ช่วงบ่าย
http://upic.me/i/db/bmw-5-series-hybrid-01.jpg
http://upic.me/i/vl/bmw-5-series-hybrid-02.jpg
BMW 5 Series เตรียมเพิ่มรุ่นไฮบริด!!
ไม่ใช่ความลับแต่อย่างใดในการพัฒนารุ่นไฮบริดใน บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ซีดาน รหัสตัวถัง F10 เพราะก่อนหน้านี้ มีการเผยถึงโครงการนี้ผ่านทางรถต้นแบบ Concept 5 Series ActiveHybrid และยืนยันอีกครั้ง ด้วยภาพแอบถ่ายคันจริงที่พื้นฐานจาก BMW 535i และติดสติ๊กเกอร์ Hybrid Test Vehicle ที่ฝากระโปรงหลัง
ภาพชุด BMW 5 Series Hybrid นี้ถูกเผยแพร่ในเวบไซต์ Carscoop การตกแต่งภายนอกไม่แตกต่างจากรุ่นปกติ แต่คาดว่าเมื่อเป็นคันจริง จะต่างจากรุ่นพื้นฐานตามสไตล์รถไฮบริดทั่วไป เช่น กระจังหน้า และล้อแม็ก
เครื่องยนต์คาดว่าจะเป็นเบนซิน 6 สูบ เทอร์โบแบบ TwinPower 300 แรงม้า กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้า คาดว่าจะมีกำลังประมาณ 54 แรงม้า ส่งผลให้มีกำลังขับเคลื่อนรวม 340 แรงม้า ลดอัตราสิ้นเปลืองและลดมลพิษได้มากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับรุ่นปกติ และอาจมีโหมดขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนๆ ทำให้มีมลพิษเป็น 0 เมื่อขับด้วยความเร็วต่ำ
การเปิดตัวน่าจะอยู่ในงานแสดงรถยนต์หลักๆ ระดับโลกงานในงานหนึ่ง ส่วนการทำตลาดคาดว่าจะมีขึ้นในช่วงปี 2012
ที่มา : motortrivia.com
และสามารถติดตาข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ facebook ของเราครับ http://www.facebook.com/note.php?cre...roklasthailand
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
ข่าววันที่ 22 ธันวาคม 2553 เช้า
ด่วน!! Honda สั่ง Recall JAZZ 2007-2008
งานมาอีกแล้ว honda สั่ง Recall Honda Jazz ตัวเก่าล๊อตใหญ่ หลังจากตรวจสอบพบว่า ระบบไฟหน้าของรถอาจมีปัญหาหากใช้ไปนานๆ
CNN สำนักข่าวยักษ์ใหญ่ ได้เปิดเผยวันนี้ว่า honda ผู้ผลิครถยนต์รายใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น สั่งเรียกคืนรถยนต์ Honda FIT หรือ JAZZ โฉมปี 2007-2008 จำนวนกว่า 143,083 คัน ที่ถูกผลิตในช่วงปีดังกล่าว อันเนื่องจากตรวจสอบพบว่า ระบบไฟหน้ารถนั้นอาจเสื่อมสภาพเมื่อมีการใช้งานเป็นระยะเวลานานๆ
Honda ได้ออกแถลงการในเรื่องการรีคอลดังกล่าว และระบุว่า ต้นตอของปัญหาในการทำให้ระบบไฟส่องสว่างหน้ารถมีปัญหาในครั้งนี้นั้นเกิดจากปลั๊กไฟหน้าของรถสำหรับไฟหรี่ของชุดโคมไฟหน้า ที่จะเริ่มอุ่นและร้อนขึ้น หากมีการใช้งานเป็นระยะเวลานานๆ และท้ายสุดนั้น มันก็จะทำให้ฮีทและทำให้ปลั๊กดังกล่าวเสียหรือละลายจากความร้อนได้
ทั้งนี้ honda เตรียมที่จะส่งจดหมายไปยังเจ้าของรถที่เข้าข่ายในการเรียกคืนครั้งนี้ตามจำนวนดังกล่าวข้างต้น แต่ถ้าคุณกำลังเป็นห่วงว่า รถของคุณจะเข้าข่ายหรือไม่ก็สามารถนำรถเข้าไปยังศูนย์บริการ honda ใกล้บ้านได้ทันที โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด
ที่มา : auto.sanook.com, CNN
และสามารถติดตาข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ facebook ของเราครับ http://www.facebook.com/note.php?cre...roklasthailand
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
ข่าววันที่ 23 ธันวาคม 2553 ช่วงเช้า http://upic.me/i/vg/3m-e-warranty-on-mobile-02.jpg http://upic.me/i/rm/3m-e-warranty-on-mobile-03.jpg http://upic.me/i/9y/3m-e-warranty-on-mobile-04.jpg http://upic.me/i/hj/3m-e-warranty-on-mobile-01.jpg 3M ผนึกกำลัง AIS เปิดตัว e-warranty on mobile พลิกโฉมระบบประกันเจ้าแรกตลาดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ 3เอ็ม ออโต้ฟิล์ม (3M Auto Film) ร่วมกับ AIS เปิดตัว ระบบประกันอัตโนมัติบนมือถือ หรือ e-warranty on mobile ปฏิวัติวงการฟิล์มกรองแสงรถยนต์ด้วยนวัตกรรมใหม่ ใช้สมาร์ทซิมเสริมศักยภาพตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ให้สามารถส่งข้อมูลการรับประกันฟิล์มให้ลูกค้าภายใต้คอนเซปต์ 3R อันประกอบด้วย Reliable: เชื่อถือและวางใจได้ กับระบบรับประกันจาก 3เอ็ม Reachable: เข้าถึงข้อมูลการรับประกันด้วยเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และ Real Time: การรับประกันมีผลอัตโนมัติทันที เมื่อส่งข้อมูล ซึ่งระบบรับประกันอัตโนมัติรูปแบบใหม่นี้ จะเริ่มใช้ในปี 2554 นี้ บริษัท 3เอ็ม ประเทศไทย จำกัด โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ ฟิล์มกรองแสง 3เอ็ม จัดงานแถลงข่าวประกาศความร่วมมือระหว่าง 3เอ็ม และ เอไอเอส ในการสร้าง ระบบรับประกันอัตโนมัติบนมือถือ e-warranty on mobile เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการบริการลูกค้าฟิล์มกรองแสง 3เอ็ม ให้ครอบคลุมและเข้าถึง เนื่องจากฐานลูกค้าฟิล์มกรองแสง 3เอ็ม มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นมาก ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่า ข้อมูลการติดตั้งฟิล์มกรองแสงของตน ได้ส่งเข้าถึงฐานข้อมูลของบริษัท 3เอ็ม ลูกค้าจะยังได้รับการรับประกันตลอดระยะเวลา 7 ปี นับตั้งแต่ติดตั้ง แม้ว่าใบรับประกันจะสูญหาย โดยข้อมูลการรับประกันจะถูกส่งผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของ เอไอเอส ถือเป็นการนำแอพลิเคชั่นบนซิมการ์ด มาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาระบบการบริการหลังการขาย และส่งเสริมกิจกรรมการตลาดเป็นครั้งแรกในวงการฟิล์มกรองแสงรถยนต์ ซึ่งลูกค้าจะได้รับประโยชน์สูงสุด ทั้งด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์และการบริการ นายโชติชัย ปฏิภาณปรีชาวุฒิ ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจยานยนต์ บริษัท 3เอ็ม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "บริษัท 3เอ็ม มีความริเริ่มที่จะพัฒนาระบบการรับประกันแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยได้มีโครงการนำร่องภายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เรามองว่า ช่องทางที่ใช้ในการส่งและรับข้อมูลผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ เป็นสิ่งที่สะดวกและรวดเร็ว ในฐานะที่บริษัท 3เอ็ม เป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัท เอไอเอส ในด้านการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศภายในองค์กรอยู่แล้ว จึงได้มีการประสานความร่วมกันภายใต้แนวคิด 3R อันประกอบด้วย Reliable คือ ระบบที่พัฒนาขึ้นมานี้ จะต้องมั่นใจได้ว่า ข้อมูลการรับประกันของลูกค้า จะส่งกลับมาเก็บที่ฐานข้อมูลของเราโดยไม่สูญหาย เช่นเดียวกัน ระบบนี้ก็ต้องสร้างความเชื่อมั่น และความไว้วางใจให้กับลูกค้า ในระบบการรับประกันใหม่ของ 3เอ็มได้ Reachable คือ การที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลการรับประกันของตนได้ รวมทั้งบริษัท 3เอ็ม ก็สามารถเข้าถึงลูกค้าผ่านระบบฐานข้อมูลที่มี ซึ่งจะทำให้การสร้างกิจกรรมสัมพันธ์ หรือ CRM (Customer Relationship Management) ที่จะมีขึ้นหลังจากนี้ มีความสะดวกและเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้น" "นอกจากนี้ ในส่วนของตัวแทนจำหน่ายผู้ติดตั้งฟิล์ม ก็สามารถเข้าถึงระบบการรับประกันนี้ได้สะดวก ไม่ว่าจะส่วนไหนของประเทศ ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่ครอบคลุมทั่วไทย และสุดท้าย Real Time คือ ทันทีที่ร้านตัวแทนติดตั้งฟิล์มกรองแสง กดปุ่มส่งข้อมูลการรับประกันผ่านโทรศัพท์มือถือ เอสเอ็มเอส (SMS) ยืนยันการรับประกัน ก็ส่งถึงลูกค้าในทันทีเช่นกัน ซึ่งเราเชื่อมั่นว่า จะสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าฟิลม์กรองแสง 3เอ็มได้เป็นอย่างดี ทางด้าน นายวรุณเทพ วัชราภรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานบริหารลูกค้าองค์กร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "บทบาทของเอไอเอส นอกเหนือจากการเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์แล้ว เรายังพร้อมที่จะนำเทคโนโลยีสื่อสารไร้สาย มาพัฒนาเป็นโซลูชั่นเพื่อให้เกิดบริการใหม่ ที่ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรต่างๆ ดังเช่นความร่วมมือกับ 3เอ็ม ออโต้ฟิล์ม ในครั้งนี้ ซึ่งระบบที่นำมาพัฒนานี้ เรียกว่า SSTK (Smart Sim Tool Kit) ในลักษณะเมนูพิเศษ เพื่อรองรับระบบการรับประกันฟิล์มกรองแสง ลงบนสมาร์ทซิม เพื่อให้ร้านค้าตัวแทนติดตั้งฟิล์มกรองแสง 3เอ็ม นำไปใช้งาน "สำหรับการใช้งานนั้น เพียงใส่ข้อมูลของลูกค้า และข้อมูลการติดตั้งฟิล์มไปตามเมนูบนมือถือ และส่งไปที่ศูนย์ข้อมูลของ 3เอ็ม ก็จะช่วยให้การรับประกันมีความสะดวกรวดเร็ว ประหยัดเวลาในการจัดส่งใบรับประกันมาที่บริษัท รวมถึงช่วยลดต้นทุนการจัดพิมพ์ใบรับประกัน อีกทั้งยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า ที่มาใช้บริการว่า ข้อมูลการติดตั้งฟิล์มของตนจะส่งตรงมาถึงบริษัทอย่างแน่นอน ด้วยความครอบคลุมของเครือข่ายเอไอเอส ทำให้มั่นใจได้ว่า 3เอ็ม จะสามารถให้บริการได้อย่างไร้ข้อจำกัด" นายโชติชัย ปฏิภาณปรีชาวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า "จุดประสงค์ที่เราพัฒนาระบบการรับประกันอัตโนมัติบนมือถือขึ้นมา ก็เพื่อเสริมสร้างศักยภาพการบริการหลังการขาย ให้กับลูกค้าฟิล์มกรองแสง 3เอ็ม ทั้งนี้ ด้วยความมั่นใจในคุณภาพสินค้าของเรา เราจึงมีระยะเวลารับประกันฟิล์มกรองแสง ถึง 7 ปี ซึ่งด้วยระยะเวลาที่นาน บางครั้งข้อมูลใบรับประกันที่อยู่กับลูกค้า อาจจะสูญหาย หรือ ลูกค้าจำไม่ได้ว่าติดตั้งฟิล์มที่ไหนอย่างไร เมื่อลูกค้าต้องการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการรับประกันของตน ก็สามารถเช็คข้อมูลได้กับบริษัท 3เอ็มได้ ซึ่งตรงจุดนี้ จะสร้างความเชื่อมั่น และความไว้วางใจในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ฟิล์มกรองแสง 3เอ็ม ให้กับลูกค้าได้" "นอกจากนี้ การที่เราเก็บฐานข้อมูลลูกค้า ข้อมูลผลิตภัณฑ์ วันเวลาที่ติดตั้ง ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ จะช่วยส่งเสริมการทำงานของ ทีมงานผลิตภัณฑ์ฟิล์มกรองแสง 3เอ็ม ในการวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า เพื่อพัฒนารูปแบบการตลาดที่เหมาะสม โดยในอนาคต เราอาจใช้ฐานข้อมูลนี้ในการส่งข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ไปยังลูกค้าได้ ทั้งผ่านมือถือและอีเมล ลูกค้าจะได้รับทราบข้อมูลใหม่ๆ รวมถึงสิทธิพิเศษต่างๆ จากทาง 3เอ็มได้ ทั้งนี้ เรายังสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่าง แบรนด์ 3เอ็มกับลูกค้า ก่อให้เกิดความศรัทธา เชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ และเป็นลูกค้าของเราต่อเนื่องต่อไป" นายโชติชัย กล่าวปิดท้าย ที่มา : motortrivia.com และสามารถติดตาข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ facebook ของเราครับ http://www.facebook.com/note.php?cre...roklasthailand
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
ข่าววันที่ 23 ธันวาคม 2553 ช่วงเช้า http://upic.me/i/vg/3m-e-warranty-on-mobile-02.jpg http://upic.me/i/rm/3m-e-warranty-on-mobile-03.jpg http://upic.me/i/9y/3m-e-warranty-on-mobile-04.jpg http://upic.me/i/hj/3m-e-warranty-on-mobile-01.jpg 3M ผนึกกำลัง AIS เปิดตัว e-warranty on mobile พลิกโฉมระบบประกันเจ้าแรกตลาดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ 3เอ็ม ออโต้ฟิล์ม (3M Auto Film) ร่วมกับ AIS เปิดตัว ระบบประกันอัตโนมัติบนมือถือ หรือ e-warranty on mobile ปฏิวัติวงการฟิล์มกรองแสงรถยนต์ด้วยนวัตกรรมใหม่ ใช้สมาร์ทซิมเสริมศักยภาพตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ให้สามารถส่งข้อมูลการรับประกันฟิล์มให้ลูกค้าภายใต้คอนเซปต์ 3R อันประกอบด้วย Reliable: เชื่อถือและวางใจได้ กับระบบรับประกันจาก 3เอ็ม Reachable: เข้าถึงข้อมูลการรับประกันด้วยเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และ Real Time: การรับประกันมีผลอัตโนมัติทันที เมื่อส่งข้อมูล ซึ่งระบบรับประกันอัตโนมัติรูปแบบใหม่นี้ จะเริ่มใช้ในปี 2554 นี้ บริษัท 3เอ็ม ประเทศไทย จำกัด โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ ฟิล์มกรองแสง 3เอ็ม จัดงานแถลงข่าวประกาศความร่วมมือระหว่าง 3เอ็ม และ เอไอเอส ในการสร้าง ระบบรับประกันอัตโนมัติบนมือถือ e-warranty on mobile เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการบริการลูกค้าฟิล์มกรองแสง 3เอ็ม ให้ครอบคลุมและเข้าถึง เนื่องจากฐานลูกค้าฟิล์มกรองแสง 3เอ็ม มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นมาก ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่า ข้อมูลการติดตั้งฟิล์มกรองแสงของตน ได้ส่งเข้าถึงฐานข้อมูลของบริษัท 3เอ็ม ลูกค้าจะยังได้รับการรับประกันตลอดระยะเวลา 7 ปี นับตั้งแต่ติดตั้ง แม้ว่าใบรับประกันจะสูญหาย โดยข้อมูลการรับประกันจะถูกส่งผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของ เอไอเอส ถือเป็นการนำแอพลิเคชั่นบนซิมการ์ด มาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาระบบการบริการหลังการขาย และส่งเสริมกิจกรรมการตลาดเป็นครั้งแรกในวงการฟิล์มกรองแสงรถยนต์ ซึ่งลูกค้าจะได้รับประโยชน์สูงสุด ทั้งด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์และการบริการ นายโชติชัย ปฏิภาณปรีชาวุฒิ ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจยานยนต์ บริษัท 3เอ็ม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "บริษัท 3เอ็ม มีความริเริ่มที่จะพัฒนาระบบการรับประกันแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยได้มีโครงการนำร่องภายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เรามองว่า ช่องทางที่ใช้ในการส่งและรับข้อมูลผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ เป็นสิ่งที่สะดวกและรวดเร็ว ในฐานะที่บริษัท 3เอ็ม เป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัท เอไอเอส ในด้านการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศภายในองค์กรอยู่แล้ว จึงได้มีการประสานความร่วมกันภายใต้แนวคิด 3R อันประกอบด้วย Reliable คือ ระบบที่พัฒนาขึ้นมานี้ จะต้องมั่นใจได้ว่า ข้อมูลการรับประกันของลูกค้า จะส่งกลับมาเก็บที่ฐานข้อมูลของเราโดยไม่สูญหาย เช่นเดียวกัน ระบบนี้ก็ต้องสร้างความเชื่อมั่น และความไว้วางใจให้กับลูกค้า ในระบบการรับประกันใหม่ของ 3เอ็มได้ Reachable คือ การที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลการรับประกันของตนได้ รวมทั้งบริษัท 3เอ็ม ก็สามารถเข้าถึงลูกค้าผ่านระบบฐานข้อมูลที่มี ซึ่งจะทำให้การสร้างกิจกรรมสัมพันธ์ หรือ CRM (Customer Relationship Management) ที่จะมีขึ้นหลังจากนี้ มีความสะดวกและเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้น" "นอกจากนี้ ในส่วนของตัวแทนจำหน่ายผู้ติดตั้งฟิล์ม ก็สามารถเข้าถึงระบบการรับประกันนี้ได้สะดวก ไม่ว่าจะส่วนไหนของประเทศ ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่ครอบคลุมทั่วไทย และสุดท้าย Real Time คือ ทันทีที่ร้านตัวแทนติดตั้งฟิล์มกรองแสง กดปุ่มส่งข้อมูลการรับประกันผ่านโทรศัพท์มือถือ เอสเอ็มเอส (SMS) ยืนยันการรับประกัน ก็ส่งถึงลูกค้าในทันทีเช่นกัน ซึ่งเราเชื่อมั่นว่า จะสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าฟิลม์กรองแสง 3เอ็มได้เป็นอย่างดี ทางด้าน นายวรุณเทพ วัชราภรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานบริหารลูกค้าองค์กร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "บทบาทของเอไอเอส นอกเหนือจากการเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์แล้ว เรายังพร้อมที่จะนำเทคโนโลยีสื่อสารไร้สาย มาพัฒนาเป็นโซลูชั่นเพื่อให้เกิดบริการใหม่ ที่ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรต่างๆ ดังเช่นความร่วมมือกับ 3เอ็ม ออโต้ฟิล์ม ในครั้งนี้ ซึ่งระบบที่นำมาพัฒนานี้ เรียกว่า SSTK (Smart Sim Tool Kit) ในลักษณะเมนูพิเศษ เพื่อรองรับระบบการรับประกันฟิล์มกรองแสง ลงบนสมาร์ทซิม เพื่อให้ร้านค้าตัวแทนติดตั้งฟิล์มกรองแสง 3เอ็ม นำไปใช้งาน "สำหรับการใช้งานนั้น เพียงใส่ข้อมูลของลูกค้า และข้อมูลการติดตั้งฟิล์มไปตามเมนูบนมือถือ และส่งไปที่ศูนย์ข้อมูลของ 3เอ็ม ก็จะช่วยให้การรับประกันมีความสะดวกรวดเร็ว ประหยัดเวลาในการจัดส่งใบรับประกันมาที่บริษัท รวมถึงช่วยลดต้นทุนการจัดพิมพ์ใบรับประกัน อีกทั้งยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า ที่มาใช้บริการว่า ข้อมูลการติดตั้งฟิล์มของตนจะส่งตรงมาถึงบริษัทอย่างแน่นอน ด้วยความครอบคลุมของเครือข่ายเอไอเอส ทำให้มั่นใจได้ว่า 3เอ็ม จะสามารถให้บริการได้อย่างไร้ข้อจำกัด" นายโชติชัย ปฏิภาณปรีชาวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า "จุดประสงค์ที่เราพัฒนาระบบการรับประกันอัตโนมัติบนมือถือขึ้นมา ก็เพื่อเสริมสร้างศักยภาพการบริการหลังการขาย ให้กับลูกค้าฟิล์มกรองแสง 3เอ็ม ทั้งนี้ ด้วยความมั่นใจในคุณภาพสินค้าของเรา เราจึงมีระยะเวลารับประกันฟิล์มกรองแสง ถึง 7 ปี ซึ่งด้วยระยะเวลาที่นาน บางครั้งข้อมูลใบรับประกันที่อยู่กับลูกค้า อาจจะสูญหาย หรือ ลูกค้าจำไม่ได้ว่าติดตั้งฟิล์มที่ไหนอย่างไร เมื่อลูกค้าต้องการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการรับประกันของตน ก็สามารถเช็คข้อมูลได้กับบริษัท 3เอ็มได้ ซึ่งตรงจุดนี้ จะสร้างความเชื่อมั่น และความไว้วางใจในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ฟิล์มกรองแสง 3เอ็ม ให้กับลูกค้าได้" "นอกจากนี้ การที่เราเก็บฐานข้อมูลลูกค้า ข้อมูลผลิตภัณฑ์ วันเวลาที่ติดตั้ง ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ จะช่วยส่งเสริมการทำงานของ ทีมงานผลิตภัณฑ์ฟิล์มกรองแสง 3เอ็ม ในการวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า เพื่อพัฒนารูปแบบการตลาดที่เหมาะสม โดยในอนาคต เราอาจใช้ฐานข้อมูลนี้ในการส่งข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ไปยังลูกค้าได้ ทั้งผ่านมือถือและอีเมล ลูกค้าจะได้รับทราบข้อมูลใหม่ๆ รวมถึงสิทธิพิเศษต่างๆ จากทาง 3เอ็มได้ ทั้งนี้ เรายังสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่าง แบรนด์ 3เอ็มกับลูกค้า ก่อให้เกิดความศรัทธา เชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ และเป็นลูกค้าของเราต่อเนื่องต่อไป" นายโชติชัย กล่าวปิดท้าย ที่มา : motortrivia.com และสามารถติดตาข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ facebook ของเราครับ http://www.facebook.com/note.php?cre...roklasthailand
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
วันที่ 27 ธันวาคม 2553 เช้า
http://upic.me/i/ao/uij55.jpg
ช่วงนี้ก็ใกล้ปีใหม่ขึ้นทุกที และเป็นช่วงเวลาที่เราควรจะมานั่งคิดทบทวนในชีวิต และเหตุการณ์สำคัญๆ ว่า มีอะไรผ่านเข้ามาและทำให้เราเติบโตขึ้นบ้าง แน่นอน เช่นเดียวกับวงการรถยนต์ที่ในรอบปี 2010 ที่ผ่านก้มีหลากหลายเรื่องราว ทั้งดี และไม่ดี
ในช่วงปี 2010 นี้ถือว่าเป็นปีแห่งวิบากกรรมของค่ายรถยนต์ เพราะต่างถูกจับตามองมากขึ้น โดยเฉพาะ เรื่องคุณภาพการผลิตที่เริ่มแดงออกมาทีละค่าย และมันทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง ซึ่งจะส่งผลกระทบที่ชัดเจนต่อแบรนด์สินค้า ทำให้ปีนี้เป็นปีที่ทั้งสวยงามและไม่สวยงาม แต่ก็กำลังจะผ่านพ้นไปด้วยดี
อันดับที่ 10 Pontiac ปิดกิจการ
บ้านเรากับค่ายรถยนต์รายนี้อาจจะไม่คุ้นเคยเท่าไรนัก แต่แบรนด์ภายใต้เครือ GM นี้ ก็มาถึงวาระสุดท้าย และหลังจากปี 2010 ชื่อ Pontiac จะไม่มีอีกต่อไปในวงการรถยนต์ 84 ปี แห่งเส้นทางของค่ายรถยนต์รายนี้ถือว่าสวยงามมาก และมันทำให้คนหลายๆ คนในอเมริกา รู้สึกเสียดายที่ค่ายรถยนต์พันธุ์สปอร์ตรายนี้ต้องสูญหายไป จากการบริหารที่ผิดพลาดของเครือ GM
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
วันที่ 28 ธันวาคม 2553 เช้า
http://upic.me/i/us/p5422.jpg
เจดีพาวเวอร์ เผยนักซื้อฉุกคิดไม่ปิ๊งโตโยต้า!!
จากผลการศึกษาวิจัยเมื่อเร็วๆนี้ของ JD Power and Associated จากต่างประเทศเปิดผลวิจัยล่าสุดว่า ผูซื้อรุ่นใหม่หรือคนที่กำลังซื้อรถคันใหม่ มักจะไม่นิยมซื้อรถยนต์ยี่ห้อ Toyota โดยกว่า 19 เปอร์เซ็นของผลสำรวจดังกล่าว ผู้ซื้อระบุว่า พวกเขาคิดที่จะอยู่ห่างรถยนต์ยี่ห้อนี้มากกว่าซื้อมาขับขี่ เนื่องจากชื่อเสียงที่ย่ำแย่ของบริษัท ในขณะที่ปีที่แล้ว มีเพียงร้อยละ 3 ของผู้ซื้อที่คิดแบบนี้
นอกจากนี้ อีก 15 เปอร์เซ็นต์ของผู้ซื้อระบุว่า พวกเขาเคยมีประสบการณ์ที่ย่ำแย่จากรถยี่ห้อนี้ เช่นเดียวกับอีกกลุ่มผู้ซื้อที่มีอัตราส่วนเท่ากัน ที่ส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า พวกเขาเป็นห่วงอนาคตของบริษัทรถยนต์รายนี้ ซึ่งเพิ่มจากเมื่อปีที่แล้วถึง 12% เลยทีเดียว
อย่างไรก็ดีจากผลการวิจัยของ JD Power พบว่า แม้โตโยต้าจะเจอปัญหาที่หนักหน่วงตลอดทั้งปี 2010 แต่ บริษัทนี้ก็อยู่ในตลาดในอันดับที่ 3 ตามหลังค่ายรถยนต์ BMW และ Honda ซึ่งก่อนหน้านี้ Kelly Blue book เว็บไซต์ชื่อดังได้เปิดเผยว่า Toyota ยังเป็นหนึ่งในใจผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
ที่มา : auto.sanook.com
และสามารถติดตาข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ facebook ของเราครับ http://www.facebook.com/Aeroklasthailand
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
วันที่ 28 ธันวาคม 2553 ช่วงบ่าย
http://upic.me/i/fz/63653_4817547645...8_952938_n.jpg
คนใช้รถป่วนแก๊สโซฮอล์ขาด ชี้ต้นปี54วิกฤต-โรงงานขู่หยุดผลิตเอทานอล
หวั่นปีหน้าเอทานอลขาดตลาด กระทบผู้ใช้แก๊สโซฮอล์ หลังหัวมันสด/มันเส้น โมลาส วัตถุดิบสำคัญราคาพุ่ง ส่งผลต้นทุนผลิตปาเข้าไปลิตรละ 26 บาท ขณะที่บริษัทน้ำมันบีบโรงงานรับซื้อมาผสม E10-E20-E85 แค่ลิตรละ 22 บาท ไม่ยอมให้ปรับราคาขึ้น อ้างสต๊อกเต็ม รง.สุดทน ประกาศหยุดผลิตชั่วคราว
ราคาหัวมันสดและกากน้ำตาล (โมลาส) ที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ได้ส่งผลกระทบกับต้นทุนในการผลิตเอทานอลซึ่งใช้เป็นส่วนผสมสำคัญในน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91/95 E10 E20 E85 ถึงขั้นอาจจะขาดตลาด
นายสุนัย สถาพร ประธานคณะอนุกรรมการเอทานอล สมาคมการค้า มันสำปะหลังไทย เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงสถานการณ์การผลิตเอทานอลของผู้ประกอบการในขณะนี้ว่า หัวมันสด/ มันเส้น และกากน้ำตาล ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญต่างปรับราคาสูงขึ้น โดยราคาหัวมันสดอยู่ระหว่าง 3.20-3.50 บาท/ก.ก. ราคามันเส้นอยู่ที่ 7.20-7.46 บาท/ก.ก. และราคากากน้ำตาลอยู่ที่ 5 บาท/ก.ก.
ขณะที่ต้นทุนผลิตเอทานอลของโรงงานที่ใช้มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบคำนวณตามสูตรราคาของกระทรวงพลังงานอยู่ที่ 26.73 บาท/ ลิตร และต้นทุนโรงงานเอทานอล ที่ใช้กากน้ำตาลเป็นวัตถุดิบอยู่ที่ 26.43 บาท/ลิตร ยังไม่นับรวมกำไรของโรงงาน
กลับถูกบริษัทผู้ค้าน้ำมันกำหนดราคารับซื้ออยู่ระหว่าง 22-23 บาท/ลิตร นั่นหมายความว่า ทุก ๆ ลิตรของเอทานอลที่ขายให้บริษัทผู้ค้าน้ำมันโรงงานจะขาดทุนทันทีลิตรละ 3-4 บาท โดยที่โรงงานไม่สามารถปรับขึ้นราคาจำหน่ายเอทานอลให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงได้
"ในสภาพความเป็นจริงก็คือ ตลาดเอทานอลเป็นของผู้ซื้อ เพราะกำลังผลิตรวมของโรงงานเอทานอลล้นเกินความต้องการ ส่งผลให้แต่ละโรงงานผลิตไม่เต็มกำลังผลิต ซึ่งบริษัทผู้ค้าน้ำมันก็รู้ ดังนั้นในช่วงที่ผ่านมาบริษัทผู้ค้าน้ำมันจึงทำการ สต๊อกเอทานอลไว้เต็มที่ อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 3 เดือน ยิ่งมาปีนี้โรงงานเอทานอลต้องเผชิญกับวัตถุดิบมีราคาแพงเป็นประวัติการณ์ จากการระบาดของเพลี้ยแป้งสีชมพูในมันสำปะหลัง และเป็นช่วงรอยต่อฤดูการเปิดหีบน้ำตาล ทำให้โรงงานเอทานอลไม่มีข้อต่อรอง สุดท้ายก็ต้องขายเอทานอลตามที่บริษัทผู้ค้าน้ำมันเป็นผู้กำหนด" นายสุนัยกล่าว
ทั้งนี้โรงงานเอทานอลที่ใช้มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบมีจำนวน 5 แห่ง กำลังผลิตรวม 780,000 ลิตร/วัน โรงงานเอทานอลที่ใช้กากน้ำตาลเป็นวัตถุดิบมีจำนวน 11 แห่ง กำลังผลิตรวม 1,645,000 ลิตร/วัน และโรงงานเอทานอลที่สามารถใช้ทั้งมันสำปะหลัง/กากน้ำตาลเป็นวัตถุดิบมีจำนวน 3 แห่ง กำลังผลิตรวม 500,000 ลิตร/วัน รวมกำลังผลิตทั้งหมด 2,925,000 ลิตร/วัน แต่ผลิตจริงเฉลี่ย 1.1 ล้านลิตร/วัน
ส่วนปริมาณเอทานอลในสต๊อกของบริษัทผู้ค้าน้ำมันคงเหลือ ณ วันที่ 13 ธันวาคม 2553 รวม 26.824 ล้านลิตร ประกอบไปด้วย บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) 7.488 ล้านลิตร, บริษัทเชลล์แห่งประเทศไทย 6.825 ล้านลิตร, บริษัทเอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 1.431 ล้านลิตร, บริษัทเชฟรอน (ไทย) 2.586 ล้านลิตร, บริษัทบางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) 6.001 ล้านลิตร, บริษัทไทยออยล์ 0.433 ล้านลิตร, บริษัท IRPC 1.312 ล้านลิตร, บริษัทปิโตรนาส รีเทล (ประเทศไทย) 0.169 ล้านลิตร และบริษัทเพโทรกรีน 0.582 ล้านลิตร
จากตัวเลขสต๊อกเอทานอลคงเหลือข้างต้นแสดงให้เห็นว่า บริษัทผู้ค้าน้ำมันที่น่าจะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดราคารับซื้อ เอทานอลก็คือ บริษัท ปตท.-บริษัทเชลล์-บริษัทบางจาก 3 บริษัทรวมกันมีสต๊อก เอทานอลประมาณ 20 ล้านลิตร จากปริมาณสต๊อกคงเหลือ 26 ล้านลิตร
นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี นายกสมาคมผู้ผลิตเอทานอลไทย กล่าวว่า สมาคมได้ประเมินสถานการณ์เอทานอลไตรมาสแรกของปี 2554 จะตึงตัวมาก โดยจะสังเกตจากราคาประกาศของกระทรวงพลังงาน ในเดือนธันวาคมอยู่ที่ 27.15 บาท/ลิตร
ขณะที่การเปิดหีบอ้อยในฤดูกาลใหม่ (27 พฤศจิกายน-13 ธันวาคม) จะมีปริมาณอ้อยเข้าหีบ 69 ล้านตัน ผลิตกากน้ำตาล (โมลาส) ได้ประมาณ 3 ล้านตัน แต่กากน้ำตาลจำนวนนี้ได้มีการขายล่วงหน้าไปแล้ว 40-50% ในราคาประมาณ 4.7-5 บาท/ก.ก. หรือเท่ากับมีกากน้ำตาลเหลือเป็นวัตถุดิบในการผลิตเอทานอลฤดูกาลใหม่เพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น
ด้านราคาหัวมันสดในปัจจุบันถือว่า "สูงมาก" จนโรงงานเอทานอลที่ใช้มัน สำปะหลังเป็นวัตถุดิบไม่สามารถรับราคาได้ ต้องหยุดซื้อหัวมันชั่วคราว จากปัจจุบันโรงงานเอทานอลมีสต๊อกรวมทั้งหมดประมาณ 35 ล้านลิตร เมื่อคิดจากปริมาณความต้องการใช้วันละ 1.1 ล้านลิตรแล้ว สามารถใช้ได้ไม่ถึง 1 เดือน
"แม้กระทรวงพลังงานจะประกาศราคารับซื้อเอทานอลที่ 27.15 บาท/ลิตร แต่ไม่มีบริษัทผู้ค้าน้ำมันรายใดซื้อเอทานอลในราคานี้ แถมยังมีโรงงานเอทานอลบางโรงดัมพ์ราคาเพราะเก็งตลาดช่วงปลายปีผิด มีผลทำให้ราคาขายจริงไม่ถึง 22 บาท/ลิตร" นายสิริวุทธิ์กล่าว
ล่าสุดมีรายงานข่าวจากผู้ประกอบการเอทานอลเปิดเผยว่า ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาทางโรงงานพยายามที่จะเจรจาขอปรับขึ้นราคาจำหน่ายเอทานอล แต่ถูกบริษัท ผู้ค้าน้ำมันปฏิเสธ ทั้ง ๆ ที่โรงงานได้พยายามชี้ให้เห็นถึงต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับราคาสูงขึ้น แต่บริษัทผู้ค้าน้ำมันจะอ้างปริมาณสต๊อกคงเหลือ 3 เดือน ที่มีอยู่ถึง 26 ล้านลิตร "จึงไม่จำเป็นที่จะต้องปรับราคารับซื้อในช่วงนี้"
เมื่อโรงงานเอทานอลถูกปฏิเสธการปรับขึ้นราคาจากบริษัทผู้ค้าน้ำมัน จึงมีการหารือเป็นการภายในว่า ในปี 2554 โรงงานเอทานอลจะมีทางเลือกเหลืออยู่เพียง 2 ทาง คือ ปิดโรงงานเป็นการชั่วคราว หรือนำวัตถุดิบ มันเส้น/กากน้ำตาล ส่งออก
"โรงงานไม่มีทางเลือกมากนัก เพราะราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น ไม่สามารถผลิตเอทานอลออกมาแล้วขายในราคาขาดทุนให้กับบริษัทผู้ค้าน้ำมันได้ เมื่อไม่ยอมขึ้นราคารับซื้อเอทานอล เราก็ต้องหันไปส่งออกมันเส้นหรือขายโมลาสแทน โดยราคาส่งออกมันเส้น FOB ขณะนี้อยู่ที่ 255 เหรียญ/ตัน ซึ่งจัดเป็นราคาที่ดีมาก ส่วนผลเสียที่จะตามมาก็คือ ไตรมาสแรกของปี 2554 ปริมาณเอทานอลอาจจะมีไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ของบริษัทผู้ค้าน้ำมัน เมื่อสต๊อกเก่าหมดลง"
ที่มา : prachachat.net
และสามารถติดตาข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ facebook ของเราครับ http://www.facebook.com/Aeroklasthailand
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
วันที่ 29 ธันวาคม 2553 ช่วงเช้า
http://upic.me/i/4a/2011accordex-lv6coupe.jpg
ปัญหายังไม่จบ Honda เรียกคืน Accord 2011 อีกแล้ว
ล่าสุด Honda สั่งเรียกคืน รถ Honda Accord ทั้ง Sedan และ Coupe และ Honda Pilot รุ่นใหม่ล่าสุดอีกกว่า 10,800 คัน หลัง NHTSA ระบุว่า ระบบช่วงล่างทางด้านหน้าของรถทำงานผิดปกติ โดยมีสาเหตุที่เชื่อว่าน๊อตที่ยึดโช๊คกับเบ้าโช๊คถูกไขไม่แน่น จนอาจเป็นอันตรายก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้
การเรียกคืนครั้งนี้จะส่งผลต่อ Honda Accord กว่า 10,823 คัน โดยไม่ได้มีการระบุว่าเป็นรุ่นเครื่องยนต์ใดบ้าง ซึ่งเมื่อรวมกับการเรียกคืนในปัญหาน้ำมันเครื่องรั่วก่อนหน้านี้ที่มีกว่า 9,300 คัน นี่จะเป็นการเรียกคืนที่มีมูลค่ามากพอสมควรเลยทีเดียว
ทั้งนี้สาเหตุที่น๊อตโช๊คไม่ได้รับการขันอย่างถูกต้องนั้น มจากการสืบสวนพบว่าโรงงานของ honda ประสบปัญหาระบบซอฟท์แวร์ขัดข้อง และมันทำให้การสั่งการผิดพลาดจนน๊อตขันไม่ถูกต้อง ซึ่งทางฮอนด้าเตรียมจะเรียกคืนรถในวันที่ 23 ธันวาคมนี้ โดยเราเชื่อว่าปัญหานี้คงจะไม่มีผลต่อรถในประเทศไทย
ที่มา : auto.sanook.com
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
วันที่ 29 ธันวาคม 2553 ช่วงบ่าย
มาดูสุดยอดรถเลื่อนแซนต้าครอส ซึ่งค่ายรถต่างๆมาออกแบบให้
ค่ายรถหลายค่ายจินตนาการถึงเลื่อนวิเศษของแซนตาครอสยุคใหม่ที่มันจะดูสง่ากว่าเดิม ส่วนมันจะมีหน้าตาเป็นอย่างไรบ้างนั้น เราไปดูกันสิว่าไอเดียที่บรรเจิดของบรรดาดีไซน์เนอร์ หัวกระทินั้นมีอะไรกันบ้าง
http://upic.me/i/ve/santa-1.jpg
1. Ferrari Design Santa 's Sleigh
เรามาเริ่มกันที่ค่ายม้าลำพองที่งานนี้ของนำเสนอเลื่อนหิมะพันธุ์แรง ที่มันดูเหมือน 458 Italia ยังไงไม่รู้ งานนี้ไม่รู้ว่าค่ายม้าลำพองลืมไปว่าแซนต้าต้องมีของขวัญไปด้วยหรือไม่ แต่ดูเหมือนงานนี้ของขวัญจะถึงมือเร็วอย่างแน่นอน
http://upic.me/i/4n/santa-2.jpg
2. Audi Design Santa 's Sleigh
อาจจะไม่ไฉไล แต่ถ้าลุงแซนต้าชอบดริฟท์และท้าทายบนหิมะ คงต้องชอบอันนี้แน่ เพราะเอาดี้ขอให้ฟรี Audi A1 ฉบับ 3 ประตู ที่พร้อมจะบรรทุกเลื่อนไว้บนหลังคาและกวางรูดอล์ฟที่สามารถนั่งเป็นเพื่อนช่วยบอกทางยามไถลไปบนหิมะได้
http://upic.me/i/cq/santa-3.jpg
3. Ford Design Santa 's Sleigh
อาจจะดูเหมือนยานบินอวกาศหลุดออกมาจากภาพยนต์ แต่ค่ายรถยนต์ฟอร์ดนั้นอยากบอก แซนต้าว่า Kinetic Design ของเราที่อยู่ใน ford fiesta และ Focus รุ่นใหม่ พร้อมที่จะเป็นเรื่องของผู้ส่งความสุขที่สามารถปรับมันเป็นกระบะบรรทุกของขวัญได้ และไม่ต้องกังวลกับกวางจอมดื้อ เพราะขุมพลังเหลือเฟือ ทั้งไม่ต้องตากแดดตากลม
http://upic.me/i/82/santa-4.jpg
4. Jarguar Design Santa 's Sleigh
ดูไม่เหมือนรถ น่าจะเป็นเครื่องบินมากกว่า นะ แต่เอาเหอะ เลือนแซนต้าติดใบพัดบินได้นี้ ก็ดูดี และดีไซน์ได้เฉียบ จากฝีมือของนักออกแบบภายนอกของรถ Thomas Smith ที่มันน่าสนใจ แต่แซนต้าท่านจะชอบหรือไม่นี่อีกเรื่องนะ
http://upic.me/i/lz/santa-5.jpg
5. Land Rover Design Santa 's Sleigh
ถ้าคุณชอบลุย คุณคงต้องรู้จัก Land Rover ที่งานนี้คุณลุงผู้ใจดีของเด็กๆ จะได้พบกับ เลื่อนหิมะยุคอวกาศสุดๆ ที่สามารถผ่านได้ทุกพื้นที่บนโลกนี้ และแน่นอนว่าระบบนี้ไม่ต้องใช้กวางเรนเดียร์ในการขับเคลื่อน
http://upic.me/i/nu/santa-6.jpg
6. Peugeot Design Santa 's Sleigh
ค่ายตราสิงห์โตจากเมืองน้ำหอมนี้ก็อยากให้แซนต้ามีพาหนะใหม่และไฉไลกว่าเดิมมาตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาแล้ว แต่ถ้าดีไซน์ยังไม่โดนใจงานนี้ค่ายนี้ขอแก้ไข ด้วยการออกแบบใหม่ที่ไฉไลกว่า เดิม และแน่นอนว่า เลื่อนหิมะนี้ดูดีจากการออกแบบและเทคโนโลยีล่าสุด ที่ไม่ได้ระบุสเป็ค
http://upic.me/i/fn/santa-7.jpg
7. Rolls-Royce Design Santa 's Sleigh
ถ้าเรื่องความหรูสุดๆนี้ ต้องยกให้จากค่ายรถยนต์ rolls Royce ที่งานนี้ของอนุรักษ์นิยมเล็กน้อยในการใช้กวางเรนเดียร์ขับเคลื่อน แต่ตัวพาหนะนี้ดูหรูหราและใหญ่ขึ้น พร้อมกระโปรงหน้าที่คงออกแบบไว้เก็บของขวัญสำหรับเด็กๆ
http://upic.me/i/pq/santa-8.jpg
8. Vauxhull Design Santa 's Sleigh
มาดูค่ายรถยนต์น้องใหม่อย่าง Vauxhull กันบ้างที่งานนี้แซนต้าจะได้ขับพาหนะที่ถือว่าสุดยอดจากยนตรกรรมค่ายนี้ และมันไม่ต้องพึ่งกวางในการขับเคลื่อนแม้แต่น้อย ส่วนทรวดทรงก็เป้นสปอร์ตสุดหรูตามแบบฉบับของรถยนต์เจ้านี้อยู่แล้ว
http://upic.me/i/7m/santa-9.jpg
9. Infinity Design Santa 's Sleigh
ด้านค่ายรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมของ nissan ดูจะเอากับเข้าด้วยและงานนี้เราแทบมองไม่ออกว่ามันคืออะไรบ้าง แต่จากที่ดูๆเลื่อนของแซนต้าค่ายนี้เหมือนเอา Essence supercar concept มาผสมกับ FX crossover ที่ดูอวกาศมากจนเราแทบมองไม่ออกกันเลยทีเดียว
http://upic.me/i/kq/santa-10.jpg
10. Aston Martin Design Santa 's Sleigh
และแล้วในที่สุดเราก็มาถึงค่ายรถยนต์สปอร์ตสุดหรูจากยโรป ที่งานนนี้ aston Martin ขอนำเสนอเลือนหิมะรุ่นพิเศษ ที่ทั้งแรงและหรูตามแบบฉบับของค่ายนี้ แต่ดูๆแล้วมันเหมือนรูปทรงของจรวด แต่เอาเหอะ ก็ดูแปลกๆดีนะ
เป็นอย่างไรกันบ้างกับเลื่อนหิมะเพื่อลุงแซนต้า จากหลากค่ายรถยนต์ ที่บ้างก็หลุดโลก บ้างก็ขายของกันจนเกินไป งานนี้ เราเข้าใจว่าของใหม่ย่อมมีเทคโนโลยีที่ดี แต่บางครั้งสิ่งเก่าๆ ก็สามารถชักชวนให้เห้นจิตวิญญาณของความบริสุทธิ์และเป้าหมายที่แท้จริงของสิ่งๆ นั้น
ที่มา : automotto.org
และสามารถติดตาข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ facebook ของเราครับ http://www.facebook.com/Aeroklasthailand
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
วันที่ 30 ธันวาคม 2553 ช่วงเช้า
เปิด 13 เส้นทาง เลี่ยงรถติดปีใหม่ กทม.ฉลุยทั่วไทย
ตามสูตรเลยกับช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่มีวันหยุดยาวติดต่อหลายวัน ปรากฏการณ์คนไทยแห่กลับบ้านและท่องเที่ยว ย่อมหลีกเลี่ยงไม่พ้น โดยเฉพาะเส้นทางสายหลักที่มุ่งหน้าออกจากกรุงเทพฯ การจราจรมักติดขัดและใช้เวลาในการเดินทางมากกว่าปกติ
ดังนั้น "ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์" จึงได้รวบรวมข้อมูลเส้นทางการจราจร ตั้งต้นกรุงเทพฯ ไปยังต่างจังหวัด จากทั้งตำรวจทางหลวง ตำรวจท้องที่ และกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม เสริมด้วยข้อมูลประสบการณ์ตรงของทีมข่าว เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนนำไปใช้ประโยชน์ ดังนี้
เส้นทางมุ่งหน้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมี 6 เส้นทาง ได้แก่
1. เส้นทางถนนวงแหวนตะวัน ออก ลงช่วงต่างระดับธัญบุรีผ่าน อ.องครักษ์ถึงแยก อ.บ้านนา จ.นครนายก ไปยังอ.แก่งคอย จ.สระบุรี ถึงต่างระดับแก่งคอย จ.สระบุรี ใช้ถนนมิตรภาพ ผ่าน อ.มวกเหล็ก-อ.ปากช่อง มุ่งสู่ จ.นครราชสีมา
2. เส้นทางถนนรังสิต-นครนายก ผ่าน อ.ธัญบุรี อ.องครักษ์ อ.ปากพลี อ.ประจันตคาม อ.กบินทร์บุรี ใช้ถนนสายกบินทร์บุรี - นครราชสีมา ผ่าน อ.วังน้ำเขียว และ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา
3. เส้นทางถนนสุขุมวิท ผ่าน อ.บางบ่อ อ.บางปะกง ใช้ถนน กบินทร์บุรี-นครราชสีมา ผ่าน อ.วัง น้ำเขียว อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา มุ่งหน้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
4. เส้นทางถนนพหลโยธิน บายพาส จ.สระบุรี ถนนพุแค-หล่มสัก มุ่งหน้าสู่ จ.ชัยภูมิ หรือ มุ่งหน้า จ.เพชรบูรณ์ และ จ.พิษณุโลก เพื่อเข้าสู่เส้นทางสายเหนือ
5. เส้นทางถนนพหลโยธิน อ.เมือง จ.สระบุรี ถนนพุแค-หล่มสัก มุ่งหน้า อ.ม่วงค่อม จ.ลพบุรี มุ่งหน้า อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา หรือ จ.ชัยภูมิ ไป จ.ขอนแก่น อุดรธานี และหนอง คาย
6. เส้นทางถนนพหลโยธิน บายพาส จ.สระบุรีไปยัง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ถึงต่างระดับแก่งคอย ไปตามถนนมิตรภาพ ผ่านมวกเหล็ก-อ.ปากช่อง ถึงต่างระดับสีคิ้ว ไปตามถนนสาย 24 อ.โชคชัย อ.นองบุญมาก และอ.นางรอง จ.บุรีรัมย์
เส้นทางมุ่งหน้าสู่ภาคเหนือ มี 2 เส้นทาง คือ
1. เส้นทางถนนเพชรเกษม-นครปฐม ถนนวงแหวนตะวันตก ถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี อ.หันคา-จ.ชัยนาท จ.นครสวรรค์
2. เส้นทางถนนเพชรเกษม-นครปฐมถนนวงแหวนตะวันตก-ถนนรัตนาธิเบศร์ ขึ้นด่วนอุดรรัตยา-ลงด่วนบางปะหัน ใช้ถนนสาย 347 มุ่งออกถนนสายเอเชียที่ต่างระดับบางปะหัน หลักกิโลเมตรที่ 35 มุ่งหน้า จ.อ่างทอง จ.ชัยนาท จ.นครสวรรค์
สำหรับเส้นทางมุ่งหน้าสู่ภาค ตะวันออก มี 3 เส้นทาง ได้แก่
1. เส้นทางขึ้นด่วนบางนา ขึ้นยกระดับบูรพาวิถี ผ่าน อ.บางพลี อ.บางปะกง จ.ชลบุรี มุ่งสู่ภาคตะวันออก
2. เส้นทางด่วนศรีนครินทร์ ถนนมอเตอร์เวย์ มุ่งหน้าสู่ภาคตะวันออกและ
3. เส้นทางถนนวงแหวนตะวันออก ถนนสุขุมวิท ไปวงแหวนตะวันตก อ.พระประแดง ถนนพระราม 2 แยกวังมะนาว ถนนเพชรเกษม
เส้นทางมุ่งหน้าสู่ภาคใต้มี 2 เส้นทาง ได้แก่
1. เส้นทางถนนบรมราชชนนี ถนนพุทธมณฑล แยกนครชัยศรี ถนนเพชรเกษม มุ่งสู่ภาคใต้
2. เส้นทางด่วนดาวคะนอง ถนนพระราม 2 มุ่ง จ.สมุทรสาคร สมุทรสงคราม แยกวังมะนาว และถนนเพชรเกษมมุ่งหน้าภาคใต้
ล่าสุดพล.ต.ต.นรบุญ แน่นหนา ผบก.ทล. เปิด เผยว่าเพื่อรณรงค์แผนป้องกันและลดอุบัติเหตุ บนทางหลวง 76 จังหวัดทั่วไทยในช่วงปีใหม่ 2554 ตำรวจทางหลวง ร่วมกับกรมทางหลวง และบริษัท โททาออยล์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดโครงการ ถนนปลอดภัย ชาวไทยร่วม มือ ตำรวจถืออุดมคติ ขึ้น
นี้ โครงการดังกล่าว จะเน้นดูแลประชาชน ที่เดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ และป้องกันอุบัติ เหตุบนทางหลวง มีการเตรียมสถานีที่เป็นทั้ง จุดพักรถ ตรวจสภาพรถ และหน่วยหมอถนน ที่คอยช่วยเหลือระหว่างเดินทาง ขณะเดียวกัน จะมีการแจกใบสั่งให้มากที่สุด แต่เป็นใบสั่งผ้าเย็นไว้คอยบริการประชาชนผู้ขับขี่บนท้องถนนตามจุดพักรถต่างๆ และสถานีตำรวจทางหลวง 41 แห่งทั่วประเทศ.
ที่มา : thairath.co.th
และสามารถติดตาข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ facebook ของเราครับ http://www.facebook.com/Aeroklasthailand
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
วันที่ 30 ธันวาคม 2553 ช่วงบ่าย
http://upic.me/i/8g/37075ab6f32d2790...544ec2c6cf.jpg
เตือน 15 เส้นทางอันตราย
ช่วงปีใหม่
กรมทางหลวงเปิดจุดเสี่ยง 15 เส้นทางอันตรายที่มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งในช่วงปีใหม่ พร้อมแนะเส้นทางเลี่ยงหนีรถติดสู่ทุกภาค
นายวีระ เรืองสุขศรีวงศ์ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของกรมทางหลวงทั่วประเทศ ตรวจสภาพพื้นผิวจราจร และป้ายบอกทางต่างๆ รวมทั้งแสงไฟส่องสว่าง เพื่อรองรับประชาชนเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยเฉพาะจุดเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษ 15 เส้นทางที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด
สำหรับเส้นทางที่เกิดอุบัติสูงสุดคือ ทางหลวงหมายเลข 3 ตอนป่าเตียน - สี่แยกเข้าจันทบุรี ทางหลวงหมายเลข 306 ตอนแคราย - สะพานคลองบ้านใหม่ เกิดอุบัติเหตุพื้นที่ละ 10 ครั้ง
ทางหลวงหมายเลข 1 ตอนคลองขุม - นครชุม ทางหลวงหมายเลข 3บางนา - สะพานคลองด่านฝั่งตะวันตก และคลองไผ่ - ต่อทางเทศบาลระยอง ทางหลวงหมายเลข 32 นครหลวง - ทางแยกต่างระดับอ่างทอง ทางหลวงหมายเลข 101 เวียงสา - ต่อเขตเทศบาลเมืองน่าน เกิดอุบัติเหตุพื้นที่ละ 7 ครั้ง
รวมทั้งทางหลวงหมายเลข 1 นครชุม - วังเจ้า ทางหลวงหมายเลข 2 บ้านไผ่ - ทางพระ ทางหลวงหมายเลข 4 ตลาดเก่า - ทาง แยกเข้าลำทับ ทางหลวงหมายเลข 32 ทางแยกเข้าสิงห์บุรี - โพนางดำออก ทางหลวงหมายเลข 41 ท่าประจะ - บรรจบทางหลวงหมายเลข 4 พัทลุง ทางหลวงหมายเลข 101 กม.184 ต่อเขตแขวงแพร่ - เวียงสา ทางหลวงหมายเลข 340 สาลี ต่อเขตแขวงกาญจนบุรี - สุพรรณบุรี ทางหลวงหมายเลข 4133 แยกทางหลวงหมายเลข 401 พุนพิน- ควนสามัคคี
นอกจากนี้ยังจัดทำแผนที่แนะนำเส้นทางลัดเส้นทางเลี่ยงไปยังภาคต่าง ๆ เพื่อแจกตามสถานที่ต่าง ๆ โดยประชาชนที่สนใจติดต่อได้ที่สายด่วน 1586
ที่มา : กรมประชาสัมพันธ์
และสามารถติดตาข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ facebook ของเราครับ http://www.facebook.com/Aeroklasthailand
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
ข่าววันที่ 11 มกราคม 2554 ช่วงเช้า
http://upic.me/i/sz/2008-honda-fit-02.jpg
Honda เตรียมเรียกรถคืน City ZX เข้าข่าย ผู้ใช้รอรับจดหมายฯกลางกุมภาพันธ์นี้
หลังจากที่มีข่าวการเรียกรถคืนกว่า 2.3 ล้านคันของ Toyota ในสหรัฐอเมริกาที่ลามไปถึงฝั่งยุโรปในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ก็ยังดูเหมือนไกลตัวเพราะ Toyota ประเทศไทยไม่ได้ออกมายืนยันหรือยอมรับว่ารถที่จำหน่ายในเมืองไทยมีปัญหาด้วยหรือไม่ อย่างไร ในทางทฤษฎีแล้วจึงถือว่ายังไม่มีปัญหาใดๆ ส่วนหนึ่งก็อาจจะเพราะว่าใช้สายการผลิตต่างที่กัน ผลกระทบจึงเกิดขึ้นเฉพาะกลุ่ม แต่อย่างไรก็ตามล่าสุด Honda ออกมาประกาศเรียกรถคืนทั่วโลกทั้งหมด 646,000 คัน เป็นรถรุ่น Fit Hatchback ที่ใช้ชื่อรุ่นว่า Jazz และ City ในตลาดต่างๆรวมถึงในบ้านเรา
ในจำนวนรถที่มีปัญหานี้ มี 140,000 คันที่ต้องเรียกคืนในสหรัฐอเมริกา ที่เหลือเป็นจำนวนที่ต้องเรียกคืนในอเมริกาใต้ ยุโรป แอฟริกาใต้ และเอเชีย รวมถึงบ้านเราที่ Honda ประเทศไทยได้ออกมายืนยันแล้วว่า จะมีจดหมายเรียกรถคืนประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์เนื่องจากต้องรออะไหล่เพื่อทำการเปลี่ยนแปลงทดแทน โดยรุ่นที่มีปัญหาคือ Jazz รุ่นปี 2008 และอาจจะมีพ่วงด้วย City ZX อีกไม่ต่ำกว่า 2,000 คัน (จำนวนและรุ่นที่แน่นอนกรุณายืนยันกับทาง Honda ประเทศไทย) สาเหตุที่ต้องทำการเรียกคืนเนื่องจากกลไกของกระจกไฟฟ้าฝั่งคนขับมีปัญหาที่ทำให้น้ำฝนสามารถไหลเข้ามาได้ทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรจนอาจจะทำให้รถเกิดเพลิงไหม้ได้ ซึ่งในแอฟริกาใต้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วหนึ่งราย
จริงๆแล้วการเรียกรถคืนมีอยู่เรื่อยๆโดยเฉพาะในต่างประเทศ ส่วนจะเป็นข่าวดังมากแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของปัญหา ซึ่งในช่วงนี้ใครใช้รถรุ่นดังกล่าวก็ควรระมัดระวังในการขับขี่โดยเฉพาะการขับในช่วงที่มีฝนตก ยังไงก็ไม่ควรประมาทนะครับ ภาพประกอบคือ Honda Fit ปี 2008 ที่กำลังมีปัญหาอยู่ครับ
ที่มา : Reuters
และสามารถติดตาข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ facebook ของเราครับ http://www.facebook.com/Aeroklasthailand
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
วันที่ 11 มกราคม 2554 ช่วงบ่าย
http://upic.me/i/io/y9s01.jpg
4เรื่องที่ควรรู้ก่อนรัฐตัดหามดีเซล B2
ทุกวันนี้ที่เราต่างกังวลกับพลังงานที่จะมาใช้ขับเคลื่อนรถยนต์นั้น พลังงานทางเลือกถือเป็นแนวทางใหม่ที่ดูจะปฏิเสธไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อล่าสุดในสิ้นสัปดาห์นี้ ภาครัฐเตรียมที่จะดีเดย์ให้ทุกปั้มยกเลิอกการจำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็วหรือ ดีเซล B2 แล้วทดแทนด้วย B5 ทั่วประเทศ หลังจากที่เลลื่อนมาแล้วครั้งหนึ่ง คงถึงเวลาที่เราคนไทยต้องทำใจยอมรับ และเตรียมพร้อมให้ทันท่วงที
มีคนจำนวนมากที่คิดว่ารถตัวเองไม่สามารถเติมน้ำมัน B5 ได้เนื่องจากคิดว่าจะมีผลเสียต่อเครื่องยนต์ในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนคอช่างที่ชอบเปรียบเทียบกันต่างๆ นานา และนำมาบอกกล่าวโดยไม่ได้คำนึงถึงข้อเท็จจริง ซึ่งทำให้เข้าใจผิด และอันที่จริงน้ำมันทั้ง 2 ก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก
การประกาศยกเลิกจำหน่ายน้ำมันดีเซล B2 ที่กำลังจะมาถึงในเร็วนั้น กลุ่มผุ้ใช้รถที่จะได้รับผลกระทบส่วนใหญ่นั้นคงไม่พ้นคอกระบะที่ฮอตฮิตอย่างมากในบ้าน เรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิง่ที่หลายคนเข้ามาไถ่ถามเราเกี่ยวกับน้ำมัน B5 ว่า รถกระบะรุ่นใหม่อย่างคอมมอนเรลนี้สามารถใช้ได้หรือเปล่า ทำให้วันนี้เห็นทีเราต้องมาพูดคุยกันอย่างจริงจัง
1. เข้าใจธรรมชาติ ดีเซล B5
นี่เป็นเรื่องแรกที่สำคัญ เพราะก่อนคุณใช้งานสิ่งใด ก็ควรจะต้องรู้ลึกรู้จริงก่อนใช้งานจึงจะถูกต้อง หลายคนหวาดหวั่นกับน้ำมัน B5 ที่อาการนี้ก็คล้ายๆกับที่เคยเกิดตอนเมื่อ 5-6 ปีที่แล้วที่แก๊สโซฮอลเพิ่มเข้ามาสู่คลาดพลังงาน
น้ำมันดีเซล B5 นั้นไม่ได้มีข้อแตกต่างอะไรจากน้ำมันดีเซล B2 ที่เราใช้งานอยู่กันปัจจุบัน นอกจากส่วนผสมทางด้านไบโอดีเซลที่มีปริมาตรเพิ่มขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้รัฐมีนโยบายให้ผู้ผลิตต้องผสมน้ำมันไบโอดีเซลในเนื้อน้ำมัน 2% หรือว่าง่ายๆ เราใช้ B2 กันมาสักพักใหญ่แล้ว ซึ่งในส่วนของ B5 จะมีส่วนผสมน้ำมันไบโอดีเซลเพิ่มขึ้นอีกจากปกติ 3% ทำให้ราคาจำหน่ายถูกลงกว่าเดิมอีกประมาณ 70 สตางค์ แต่ยังให้คุณสมบัติเหมือนเดิม และยังเพิ่มการหล่อลืนซึ่งมาจากคุณสมบัติขิงน้ำมันไบโอดีเซล
2. เครื่องดีเซลไหนๆ ไร้กังวล
เราไม่ได้มาสร้างภาพ แต่จากประสบการณ์ของเราเองขอบอกว่า ดีเซลB5 ไม่ได้แตกต่างจากดีเซลธรรมดาทั่วไปนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งใครที่ใช้รถใหม่แล้วกังวลว่า B5 จะไม่สามารถเติทได้นั้น ขอแนะนำว่าอย่าคิดเอาเอง ให้ทดลองใช้แล้วจะรู้ เพราะน้ำมันดีเซล B5 นั้นสามารถใช้ได้กับทุกเครื่องยนต์ดีเซล โดยไม่จำเป็นต้องปรับแต่งเครื่องยนต์ใดๆ หรือ ถ้าให้มั่นใจ ลองเข้าศูนย์บริการไปสอบถาม และตั้งข้อมูลระบบสั่งการและจุดระเบิด ก็สมควรอยู่
3.หัวฉีด เรื่องสำคัญที่ต้องดูแล
เราไม่ปฏิเสธว่าน้ำมันดีเซล B5 มีส่วนผสมที่เข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะรถกลุ่มหัวฉีดไฟฟ้าหรือคอมมอนเรล ที่หลายคนกังวลกันนักหนา ความจริงแล้วโดยปกติเราจำเป็นที่จำต้องหมั่นทำความสะอาดหัวฉีดเป็นประจำ ดดยการเติมหัวเชื้อหรือน้ำยาทำความสะอาดหัวฉีดไปกับน้ำมันเชื้อเพลิง ที่จะช่วยชะล้างคราบเขม่าสกปรกในระบบได้
4.รู้จักวิธีขับรถเครื่องยนต์ดีเซลที่ถูกต้อง เราไม่ได้อยากสอน แต่มีคนจำนวนมากไม่เข้าใจขับรถดีเซลแบบผิด ซึ่งทำให้มีการสิ้นเปลืองน้ำมันโดยใช่เหตุ และเป้นต้นตอของความไม่เข้าใจ
เครื่องยนต์ดีเซลแตกต่างจากดครื่องยนต์เบนซิน โดยสิ้นเชิง และเป็นเครื่องที่ให้แรงบิดดีในรอบต่ำ ทำให้ไม่จำเป็นต้องลากรอบสูงในการเร่ง โดยเฉพาะปัจจุบันที่ได้รับการติดตั้งระบบอัดอากาศหรือเทอร์โบมาด้วย ทำให้เครื่องดีเซลมีสมรรถนะที่ดีในการขับขี่ยิ่งขึ้น ซึ่งการขับขี่รถดีเซลนั้นไม่จำเป็นต้องเหยียบแบบแช่เพื่อเร่ง แต่เมื่อทำความเร็วได้ตามต้องการก็สามารถผ่อนและเลี้ยงคันเร่งได้
ทั้งหมดนี้ 4 ข้อนี้ เป้นเรื่องที่คุณควรรู้ก่อนที่รัฐกำลังจะเปลี่ยนดีเซลทั้งประเทศไปใช้ B5 ซึ่งเราหวังว่า การที่ทุกคนได้เข้าใจอะไรมากขึ้นอาจช่วยให้รู้ถึงการขับขี่ที่ถูกต้องกับพลังงานทางเลือกใหม่ที่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เราคิด
ที่มา : auto.sanook.com
และสามารถติดตาข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ facebook ของเราครับ http://www.facebook.com/Aeroklasthailand
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
ข่าววันที่ 12 มกราคม 2554
http://upic.me/i/5f/mitsubishi-02.jpg
Mitsubishi Motors เดือนธันวาคมยอดทะลุ 5 พันคัน ดันยอดปี 2553 ขายดีเป็นดับเบิ้ล
มร.โนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ทำยอดจำหน่ายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่สูงกว่า 5,000 คันเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2548 โดยมียอดจำหน่าย 5,424 คัน ซึ่งในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มียอดจำหน่ายในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดจำหน่ายรวมของปี 2553 สูงกว่าปีก่อนถึงสองเท่าตัว คือ 39,549 คัน บรรลุเป้าหมายส่วนแบ่งการตลาดที่ตั้งไว้ 5% ขณะที่ยอดการส่งออกก็เพิ่มขึ้น 66% อยู่ที่ระดับมากกว่า 180,000 คัน
ปัจจัยที่ส่งผลให้ยอดจำหน่ายในประเทศสูงขึ้นนี้ มร.มูราฮาชิ มองว่าเกิดจากการที่บริษัทฯ นำเสนอรถยนต์ที่มีความหลากหลาย ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะรุ่นที่เป็นพลังงานทางเลือกทั้ง CNG และ E85 รวมถึงความเชื่อมั่นของประชาชน ต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ยอดจำหน่ายในประเทศ
กลุ่มรถยนต์ 2553 2552 เติบโต (%)
รถยนต์นั่ง 8,333 4,229 97%
ระกระบะ และ PPV 31,216 15,397 102.7%
รวม 39,549 19,626 101.5%
สำหรับการส่งออกของบริษัทฯ ในปีที่ผ่านมาสามารถทำยอดได้มากกว่า 180,000 คัน (รวม BU และ CKD) หรือเติบโตขึ้น 66% จากปีก่อน (108,896 คัน) ซึ่งตลาดส่งออกที่ดีได้แก่ กลุ่มประเทศอาเซียนและยุโรป ในขณะที่ยอดการผลิตรวมตลอดปี อยู่ที่ระดับ 197,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 98% จากปีก่อน (99,208 คัน)
มร. มูราฮาชิ ประมาณการว่า ในปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์ของประเทศไทยน่าจะอยู่ที่ระดับ 780,000 คัน เพิ่มขึ้นถึง 47% จากปีก่อนหน้า (531,282 คัน) อันเนื่องมากจากการขยายตัวของเศรษฐกิจ ความมั่นคงทางด้านการเมือง และความมั่นใจของผู้บริโภคในการจับจ่ายใช้สอย นอกจากนี้ยังคาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์รวม จะขยายตัวต่อเนื่องในปี 2554 ด้วยอัตราเติบโตประมาณ 4-5% สอดคล้องกับระดับ GDP ซึ่งจะทำให้ตลาดรถยนต์ในประเทศจะมีขนาดประมาณ 820,000 คัน โดยมองเห็นปัจจัยสนับสนุนจาก การขึ้นเงินเดือนของข้าราชการ การขยายตัวของการลงทุนทางธุรกิจ รวมถึงการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ของหลายค่าย ที่กระตุ้นให้ตลาดมีความคึกคักยิ่งขึ้น
ในส่วนของมิตซูบิชินั้น วางเป้าหมายส่วนแบ่งตลาดที่ 6% หรือประมาณ 50,000 คัน
ที่มา : motortrivia.com
และสามารถติดตาข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ facebook ของเราครับ http://www.facebook.com/Aeroklasthailand
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
ข่าววันที่ 12 มกราคม 2554 ช่วงบ่าย
http://upic.me/i/6g/honda-fit-shuttle-01.jpg
http://upic.me/i/3k/honda-fit-shuttle-02.jpg
http://upic.me/i/nb/jazz5.jpg
Honda Fit Shuttle มุขใหม่ลุยตลาดรถเล็ก
ช่วงนี้กระแสโลกไซเบอร์มาเร็วทันใจและล่าสุด Honda งัดมุขใหม่ เตรียมลงเค้นตลาดรถเล็กอีกครั้งกับ Honda Fit Shuttle ที่มันเป็นรุ่นใหม่ ที่มีความเชื่อว่าน่าจะเป็นตัว Station Wagon ของ Honda Fit ที่น่าจะลงตลาดในช่วงปลายปีนี้ หรืออย่างช้าคือในปีหน้า ที่ยังไม่มีการยืนยันว่าจะเข้ามาตีตลาดบ้านเราด้วยหรือไม่
ในขณะนี้ honda fit shuttle ยังไม่มีรายละเอียดมากมายนัก นอกจากภาพหลุดที่ได้รับการอ้างอิงจากเว็บไซต์เมืองญี่ปุ่นว่า นี่คือภาพจากโบว์ชัวร์ของรถ โดยแสดงถึงรายละเอียดต่างๆ ทั้งภายนอก และภายใน แต่ยังไม่มีรายละเอียดทางเทคนิค ที่จะให้เราได้ทราบกัน
อย่างไรก็ดี จากภาพที่ได้มา เราเชื่อว่า Fit Station Wagon หรือ Fit Shuttle นี้ น่าจะได้รับการขยายสัดส่วนภายในห้องโดยสาร อีกเล็กน้อย ซึ่งน่าจะมีความยาวเพิ่มขึ้น และหลังคาที่สูงขึ้น ส่วนจำนวนที่นั่ง ยังไม่มีการยืนยัน อย่างชัดเจน
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญหนึ่ง คงๆไม่พ้น บั้นท้าย ที่ดูเหมือน Honda จะพยายามตอบโจทย์ รถนั่งสำหรับครอบครัวขนาดเล็กมายิ่งขึ้น ด้วยการเฉาะเสา C ลดลง และเพิ่มกระจกบานใหญ่มาแทน ซึ่งนอกจากนี้มีรายงานว่า เรื่องขุมพลังจะมาพร้อม 2 ทางเลือกตามต้องการตอบสนองลุกค้า ด้วยขุมพลังไฮบริด 1.3 ลิตร หรือถ้าชอบแบบธรรมดาก้มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.3 และ 1.5 ลิตรให้เลือกใช้ได้ตามต้องการ
ทั้งนี้ Honda fit Shuttle มีรายงานจากสื่อในประเทศญี่ปุ่นว่า รถรุ่นนี้จะพร้อมวางจำหน่ายในช่วงเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ ส่วนเมืองไทยบริษัท ฮอนด้า ยังไม่ออกมาเปิดเผยถึงความเป้นไปได้ แต่มีบางดระแสกล่าวว่า Honda เตรียมที่จะส่ง Honda Jazz Minorchange ลงตลาดในช่วงเวลาเดียวกัน
และสามารถติดตาข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ facebook ของเราครับ http://www.facebook.com/Aeroklasthailand
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
ข่าววันที่ 18 มกราคม 2554
http://upic.me/i/71/mitsubishi-pajer...-triton-01.jpg
http://upic.me/i/wm/mitsubishi-pajer...-triton-04.jpg
http://upic.me/i/75/mitsubishi-pajer...-triton-11.jpg
http://upic.me/i/z9/mitsu-pajero-triton-01-sm.jpg
เปิดตัว มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต / มิตซูบิชิ ไทรทัน มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ 2.5 วีจี เทอร์โบ
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย แรงตั้งแต่ต้นปี เปิดตัว มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต และ มิตซูบิชิ ไทรทัน ชูจุดเด่นเครื่องยนต์ใหม่ 2.5 วีจี เทอร์โบ เตรียมลงโชว์รูมมิตซูบิชิ ทั่วประเทศ เริ่มจำหน่าย 15 มกราคม 2554 เป็นต้นไป พร้อมดึงนักร้องขวัญใจชาวร๊อค ตูน บอดี้สแลม หรือ อาทิตวราห์ คงมาลัย เป็นพรีเซ็นเตอร์ มิตซูบิชิ ไทรทัน
ปาเจโร สปอร์ต และ ไทรทัน มาพร้อมสมรรถนะจากเครื่องยนต์ใหม่ 2.5 วีจี เทอร์โบ ที่มาพร้อมนิยาม 'แรงจัดประหยัดเหนือชั้น' โดยจะติดตั้งใน ปาเจโร สปอร์ต ทุกรุ่น ส่วน ไทรทัน จะติดตั้งในรุ่น ดับเบิ้ลแค็บ พลัส GLS เกียร์อัตโนมัติ และ ดับเบิ้ลแค็บ ขับเคลื่อน 4 ล้อ GLS-Limited มีเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติให้เลือก ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในเมืองไทย ที่มีเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร ที่มีกำลังสูงสุดถึง 178 แรงม้า
"บริษัทฯ เชื่อว่า ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ จะสามารถตอบสนองลูกค้า ทั้งด้านความหรูหราและประโยชน์ใช้สอยที่เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ ไทรทัน ใหม่ จะได้รับการตอบรับเพิ่มขึ้น ทั้งจากกลุ่มลูกค้าที่ต้องการรถกระบะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน และเพื่อการพาณิชย์ ทั้งนี้บริษัทฯ ยังได้เตรียมจัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายต่อเนื่อง พร้อมๆ ไปกับการยกระดับการดำเนินงานของผู้จำหน่าย ทั้งด้านงานขาย และการบริการหลังการขายควบคู่กันไป"
มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต
Absolute Riding-On-Demand
ปาเจโร สปอร์ต รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ยังคงมาพร้อมแนวคิด More Utility on Demand ความสมบูรณ์แบบที่ตอบทุกไลฟ์สไตล์ เพิ่มความสะดวกสบาย และหรูหรายิ่งขึ้น ในขณะที่รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมสมรรถนะที่เป็นเยี่ยม เหมาะกับผู้ที่มองหารถที่ให้ทั้งกำลัง และสมรรถนะ เพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน และการเดินทางไปในทุกที่สำหรับวันพักผ่อน ตามแนวคิด Performance on Demand สมรรถนะที่ตอบทุกความต้องการ
เครื่องยนต์ล่าสุด ดีเซล 2.5 ลิตร DI-D ไฮเปอร์คอมมอนเรล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว วีจี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ พร้อมท่อร่วมไอดีแบบทวิน อินเทคแมนิโฟลด์ ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-3,500 รอบต่อนาที ตอบรับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ต้องการกำลังและความประหยัดในเวลาเดียวกัน
ระบบ Super - Select 4WD (SS4) เลือกขับได้ทั้ง 4WD และ 2WD เทคโนโลยีที่ถูกถ่ายทอดมาจาก มิตซูบิชิ ปาเจโร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ INVECS II พร้อมระบบ Sportronic ตอบสนองได้รวดเร็ว สามารถเรียนรู้และจดจำรูปแบบการขับขี่ ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างเหมาะสม ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น โดยรุ่น GT ขับเคลื่อน 4 ล้อ จะติดตั้งระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift มาให้ด้วย
มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่
ตอบสนองความต้องการ สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและเพื่อการพาณิชย์
รุ่น ดับเบิ้ลแค็บ พลัส, รุ่น GLS เกียร์อัตโนมัติ, ดับเบิ้ลแค็บ ขับเคลื่อน 4 ล้อ และ รุ่น GLS-Limited ทั้งเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ มากับเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ 2.5 ลิตร DI-D ไฮเปอร์คอมมอนเรล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว วีจี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ มาพร้อมท่อร่วมไอดีแบบทวิน อินเทคแมนิโฟลด์ ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที รุ่นเกียร์ธรรมดาแรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000-2,800 รอบต่อนาที ในขณะที่เกียร์อัตโนมัติ แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800 - 3,500 รอบต่อนาที ตอบรับกับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ต้องการรถที่ให้ทั้งพละกำลังและประหยัดน้ำมัน
ไทรทัน รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ รุ่น GLS-Limited เกียร์อัตโนมัติ ส่งกำลังด้วยเกียร์อัจฉริยะ 5 จังหวะ Sportronic เลือกปรับเปลี่ยนเกียร์ได้ ตามความต้องการ
รุ่นดับเบิ้ลแค็บ กระบะท้ายดีไซน์ใหม่ แบบตัดตรง ยาวขึ้น 180 มิลลิเมตร สูงขึ้น 57 มิลลิเมตร ช่วยเพิ่มปริมาตรการบรรทุก ตอบโจทย์ลูกค้าที่ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ได้มากยิ่งขึ้น เพราะนอกจากจะใช้เพื่อการบรรทุกได้อย่างเต็มที่แล้ว ยังนำมาใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว ไม่ต่างจากรถยนต์นั่งทั่วไป
รุ่นซิงเกิ้ลแค็บ, เมกะแค็บ, ดับเบิ้ลแค็บ ขับเคลื่อน 2 ล้อ และ เมกะแค็บ พลัส GLX ติดตั้งเครื่องเสียงใหม่ รองรับการเล่นไฟล์ MP3 มีช่อง AUX in และพอร์ท USB ส่วนรุ่น เมกะแค็บพลัส GLS และดับเบิ้ลแค็บพลัส สามารถเล่น DVD ได้ พร้อมจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว
รุ่นเมกะแค็บพลัส, ดับเบิ้ลแค็บ พลัส และ ดับเบิ้ลแค็บ ขับเคลื่อน 4 ล้อ กระจกมองข้างปรับ - พับไฟฟ้า ส่วนกุญแจรีโมท (Keyless) ติดตั้งในไทรทันทุกรุ่น ยกเว้นรุ่นซิงเกิ้ลแค็บ และรุ่น GLS ขึ้นไป มีระบบอิมโมบิไลเซอร์ให้ นอกจากนี้ ไทรทัน ก็ผ่านมาตรฐานมลพิษระดับ 3 ในไทย และรองรับมาตรฐานมลพิษระดับ 4 ของยุโรป ด้วยระบบ EGR เช่นกัน
ที่มา : motortrivia.com
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
วันที่ 21 มกราคม 2554 ช่วงเช้า
http://upic.me/i/vq/166804_495793589..._2088540_n.jpg
http://upic.me/i/9e/167137_495794569..._5483776_n.jpg
http://upic.me/i/4r/168051_495793744..._3369862_n.jpg
มหกรรมงานโชว์รถอันยิ่งใหญ่ "Tokyo Auto Salon" ที่ญี่ปุ่น
เพิ่งจะจบงานไปเองสำหรับงาน Tokyo Auto Salon 2011 ซึ่งจะยิ่งใหญ่คล้ายๆกับงาน Motor Show ของบ้านเรา ซึ่งของเขาได้จัดที่ ศูนย์จัดงานแสดง Makuhari Messe ในเมือง Chiba ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 14 มกราคม 16 มกราคม 2554 ช่วงต้นปีที่ผ่านมา
งาน Tokyo Auto Salon นั้นมีชื่อเสียงโด่งดังอันน่าตื่นตาตื่นใจกันอยู่ในหลายๆเรื่อง เรื่องแรกสุดเลยคือเทคโนโลยียานยนต์สุดเจ๋งที่มารวมตัวกันในงานมากมายหลายยี่ห้อ อย่างที่สองก็เป็นสีสันที่ไม่ว่าประเทศไหนก็มีคือน้องๆ พริตตี้ นั่นเอง ถึงแม้ว่าแต่ละปีจะมีงานแสดงรถยนต์มากมายในโตเกียว แต่งาน Auto Salon นั้นเป็นงานที่นำพริตตี้สาวงามมาเป็นจำนวนมากกว่างานอื่นๆ จึงทำให้ตากล้องทั้งมือเก่า มือใหม่ มือคัน ชาวญี่ปุ่นเป็นจำนวนนับพันๆ ราย แห่กันออกมาเก็บภาพสาวพริตตี้กันโดยเฉพาะ แต่อย่าเพิ่งดูพริตตี้กันเพลินจนลืมดูรถที่มาโชว์ตัวกันในงานนี้ซะก่อน เพราะอีก Hilight สำคัญนอกจากจะมีรถเก่าสุดคลาสสิค รถแข่งสุดแรง และรถแต่งสุดจ๊าบแล้ว ในงานปีนี้ยังมีความพิเศษที่มีโชว์าการตกแต่งรถที่เพ้นท์ด้วยลวดลายการ์ตูนต่างๆที่จัดจ้านสไตล์ญี่ปุ่น ถือได้ว่าเป็นอะไรที่แปลกใหม่และน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้ที่รักรถอย่างแท้จริงครับ
ที่มา : .hollyheadmag.com
และสำหรับปีนี้เราได้ส่งทีมงานไปเก็บภาพบรรยากาศงาน Tokyo Auto Salon ถึงแดนปลาดิบกันเลยทีเดียว รอชมภาพบรรยากาศงานได้ที่ http://www.facebook.com/notes/aerokl...87527514599698 ของเรากันนะครับ ^_^
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ
JADUM
ขอบคุณครับ
ยินดีครับบบบ
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
วันที่ 24 มกราคม 2554 ช่วงเช้า
http://upic.me/i/08/toyota.jpg
ตลาดรถยนต์ปี 2553 ยอดขายรวม 800,357 คัน เพิ่มขึ้น 45.8% โตโยต้า คาดปี 2554 เติบโตต่อเนื่อง ยอดขายรวม 860,000 คัน เพิ่มขึ้น 7.4%
มร.เคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงสถิติการจำหน่ายรถยนต์ประจำปี 2553 มีปริมาณการขาย 800,357 คัน เพิ่มขึ้น 45.8% คาดตลาดรถยนต์ไทยปี 2554 เติบโต มียอดขาย 860,000 คัน เพิ่มขึ้น 7.4% พร้อมตั้งเป้าหมายการขายรถยนต์โตโยต้าทุกรุ่น 360,000 คัน เพิ่มขึ้น 10.4% ครองส่วนแบ่งตลาด 42%
มร.ทานาดะ กล่าวว่า “ปีที่ผ่านมานับเป็นปี แห่งการทำสถิติใหม่ของตลาดรถยนต์ จากยอดขายตลาดรวมที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 800,357คัน เพิ่มขึ้น 45.8% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยรถยนต์นั่ง เพิ่มขึ้น 50.7% และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ เพิ่มขึ้น 42.3% เนื่องจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจ โดยรวม การไหลเข้าของเงินทุน ที่ทำให้มีปริมาณเงินในระบบมากขึ้นในขณะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งส่งผลดีต่อการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ รวมถึงความนิยมในตลาดรถยนต์นั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์นั่งขนาดเล็ก การแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ และรุ่นพิเศษ ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดทั้งปี
โดยโตโยต้าได้ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในทุกๆด้านเช่นกัน ทั้งจากยอดขายในประเทศรวมทั้งสิ้น 326,007 คัน ซึ่งเป็นสถิติยอดขายใหม่ ทั้งในตลาดรถยนต์นั่ง และรถกระบะขนาด 1 ตัน โดยรถยนต์นั่ง มียอดขาย 141,733 คัน รถกระบะขนาด 1 ตันมียอดขาย 164,795 คัน ซึ่งเป็นยอดขายสูงสุดต่อเนื่องเป็นปี ที่ 6ของทั้ง 3 ตลาด (Triple Crown)
ทั้งจากการส่งออกในปีที่ผ่านมา โตโยต้าได้สร้างสถิติใหม่ในการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป ด้วยยอดรวม ที่ 334,124 คัน เพิ่มขึ้นถึง 40% คิดเป็นมูลค่า 140,495 ล้านบาท ตลอดจนการส่งออกชิ้นส่วน มูลค่า 49,086 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่าการส่งออกที่นำรายได้กลับสู่ประเทศไทยเป็นเงินทั้งสิ้น 189,581 ล้านบาท”
สามารถติดตามข่าวสารอัพเดตแวดวงรถยนต์และข่าวสารทั่วไปได้อีกทางที่ http://www.facebook.com/Aeroklasthailand ของเราครับ
-
Re: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas
ข่าววันที่ 31 มกราคม 2554
http://upic.me/i/y6/167532_499482629..._2451819_n.jpg
http://upic.me/i/cz/53untitled.jpg
http://upic.me/i/81/166680_499483279..._7401911_n.jpg
มูลนิธิเด็กในสหรัฐใจปล้ำเปิดชั้นเรียนงัดแงะรถยนต์ !!
ทีแรกก็เป็นเรื่องไม่น่าเชื่อ แต่นี่เป็นเรื่องจริง ที่กำลังได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ในสหรัฐอเมริกา เมื่อมูลนิธิไม่หวังผลกำไร ที่ชื่อ Machine Project กำลังมีหลักสูตรใหม่ที่ได้รับความสนใจกับการสอนเด็กให้รู้จัก "การขโมยรถยนต์"
นี่เป็นเรื่องที่ชวนงงงวยว่าทุกวันนี้ไม่มีไรดีกว่านี้ที่จะสอน ทว่าหลักสูตรการขโมยรถที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงจังอย่างมาก ภายใต้ หัวข้อ "The Good Kids' Guide to Being a Bit Bad: Cars edition." ซึ่งจะมีการสอนให้เด็กๆที่สนใจเข้าร่วมการอบรม รู้จักวิธีการขโมยรถตั้งแต่ต้นจนจบ โดยในชั้นเรียนนั้น นอกจากจะมีเด็กแล้ว ยังอนุญาตให้ผู้ปกครองของเด็กๆสามารถเข้าร่วมรับฟังได้อีกด้วย โดยรับเพียงครั้งละ 7 ครอบครัวเท่านั้น
สำหรับหลักสูตรที่จะสอนใรโครงการนี้ จะมีทุกกระบวนการในการขโมยรถ เริ่มตั้งแต่ ทำอย่างไรจะเข้าไปยังในรถ รวมถึงการสะเดาะกุญแจประตูรถ ต่อด้วยการเรียนรู้วิธีการต่อสายตรงสตาร์ทรถ (hotwire) และนอกจากนี้ในหลักสูตร ยังมีการเปิดฝากระโปรงท้ายรถได้ด้วยตัวเองเมื่อติดอยู่ในฝากระโปรงท้าย
ทั้งนี้ในรายะเอียดไม่ได้มีการบ่งบอกถึงค่าใช้จ่ายในการเรียนหลักสูตร ดังกล่าวแต่ถ้าคุณอยากให้ลูกรู้เรื่องรถแบบที่ไม่เหมือนใคร บางทีนี่อาจจะเป็นเรื่องที่แปลกๆแต่ก็ดีที่พวกเขาจะได้เรียนรู้อย่างถูกทาง
ที่มา : auto.sanook.com
สามารถติดตามข่าวสารอัพเดตแวดวงรถยนต์และข่าวสารทั่วไปได้อีกทางที่ http://www.facebook.com/Aeroklasthailand ของเราครับ