ไฮโดรเจน-โซฮอล์ อีกทางเลือกหนึ่งของพลังงานทดแทน

อีกแล้วครับท่าน.... เมื่อยามว่างมีเวลาให้นั่งคิด ก็อดคิดไม่ได้ว่าทำยังไงถึงจะเสริมคุณภาพของไฮโดรเจนที่ผลิตได้จากน้ำ เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งานเพราะมีต้นทุนไม่มากในการผลิต ทุกวันนี้ใช้ร่วม LPG ดีเซลมันก็ดีอยู่แต่มองไกลไปอนาคต ก็เลยลองดูซักทีครับ โดยผมมีแนวคิดที่จะเอา Hydrogen ที่ผลิตได้ไปผ่าน น้ำมันเบนซิน เพื่อที่จะได้เอาไอระเหยของเบนซินร่วมกับไฮโดรเจนที่ผลิตได้ มาเป็นพลังงานเสริมเพื่อทดแทนแก๊ส LPG หรือลดปริมาณการใช้ LPG ให้ได้มากกว่าเดิมที่ใช้อยู่ โดยปริมาณน้ำมันเบนซินครึ่งลิตรที่นำมาทดลองในเบื้องต้นน่าจะมีผลกับความประหยัดได้บ้างครับ และจะดูอัตราการสิ้นเปลืองที่ได้ว่ามันจะคุ้มกันหรือไม่
1.อันดับแรกจะทำการทดลองใช้งานโดยปิดระบบการทำงานของแก๊ส LPG เพื่อหาค่าความประหยัดแบบเพียวๆดูก่อน
2.ทำการปรับใช้ร่วมกับแก๊ส LPG ที่ใช้ร่วมในขณะนี้ครับ

ส่วนเรื่องความปลอดภัยในเบื้องต้นลองติดเครื่องเดินเบาดูแล้วเปิดระบบให้ทำงานโดยเพิ่มจำนวนการผลิดให้สูงขึ้นทีละน้อย ปรากฏว่าไม่มีเสียงเขกใดๆ แต่ในทางตรงกันข้ามเสียงเครื่องกับเงียบลงกว่าเดิม ยังไงคงได้รู้กันเร็วๆนี้ครับ เพราะผมใจร้อนเหมือนกันที่จะทราบถึงผลที่จะออกมาในครั้งนี้ และถ้ามันทำงานได้ดังคาดก็น่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่มองหาความประหยัดโดยไม่ไปยุ่งเกียวใดๆกับกรมการขนส่งทางบก เพราะเป็นแค่อุปกรณ์เสริมเพื่อความประหยัดเท่านั้นครับ

มารอคิวเเรกเลย..คับอ.ต้น:bananajump::bananajump:

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ namwhanyo@hotmail.com

มารอคิวเเรกเลย..คับอ.ต้น:bananajump::bananajump:

---

น้าน้ำหวาน คราวที่แล้วแลกยางกัน จุ๊บลมสีๆ ติดมากับผม 3 อัน
ไว้ว่างๆเจอเดี๋ยวเอาไปคืน

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ fresh-sky

น้าน้ำหวาน คราวที่แล้วแลกยางกัน จุ๊บลมสีๆ ติดมากับผม 3 อัน
ไว้ว่างๆเจอเดี๋ยวเอาไปคืน

---

3 อันสามสีเลย...55555....

ผลการใช้งานและทดสอบแบบคร่าวๆก่อนครับ
ด้วยความใจร้อน พอเซ็ทระบบเสร็จก็ออกสนามทดสอบกันเลยครับ วิ่งอยู่หลายรอบ พร้อมปรับลดกล่องควบคุมปริมาณการจ่ายน้ำมันและชุดคุมการผลิต Hydrogen กว่าจะปรับจูนได้ค่าที่ดีที่สุดก็เล่นเอาเป็นหลักเกิน 100 โลกันทีเดียว
อัตราเร่งดีมากในระดับหนึ่ง ผมลองสลับกรองอากาศระหว่างกรองแท้กับกรองผ้าลินินอัด แบบเคลือบน้ำยา ผลการใช้งานถ้าเรื่องความประหยัดกรองแท้จะได้ค่าที่ดีกว่า ส่วนกรองผ้าลินินจะได้อัตราเร่งที่ดีมาก คันเร่งแตะน้อยกว่า แต่กราฟที่RV แสดงให้เห็นชัดครับว่ากรองแท้ประหยัดกว่าทั้งๆที่กดคันเร่งมากกว่า ส่วนกรองผ้าลินินอัตราเร่งที่ดีกว่าน่าจะมาจากอัตราการไหลของอากาศที่ดีทำให้ ECU ประมวลแล้วสั่งจ่ายน้ำมันมากกว่าจึงรู้สึกได้ถึงอัตราเร่งที่ต่างกันมากครับ
ความประหยัดดีที่สุดอยู่ที่ความเร็ว ประมาณ 90 กม./ชม. ผมลองรีเซ็ท RV ครั้งสุดท้ายก่อนออกจากสนามทดสอบ RV โชว์ 18.9 กม./ลิตร แล้วผมก็ขับตามกระแสจราจรจนเข้าในคลองสาม รถเริ่มติด RV โชว์ที่ 20.3 กม./ลิตร ก็เลยรีบถ่ายรูปเอามาโชว์ แต่แสงแฟรชมันสะท้อนกับจอเลยมองยากนิดนึงครับ ระยะทางเฉลี่ยน่าจะประมาณ 5 กม.ครับ จากที่รีเซ็ทครั้งสุดท้าย
ผลที่ได้น่าจะมีแนวโน้มที่ดี เพราะถ้าผมค้นรายระเอียดที่มากกว่านี้ น่าจะมีอะไรดีๆมาให้ได้ลองกันครับ

อ้อลืมไประยะทางที่วิ่งทั้งหมด 168 กม. ผมดูที่ระดับแสดงปริมาณน้ำมันเบนซินในกระบอกสแตนเลส มันลดลงจากจุดเดิมประมาณ 0.5-1 ซ.ม ต้องคำนวนเอาครับ เส้นรอบวงกระบอก 2.5 นิ้ว ปริมาณน้ำมันที่ใช้ไปเท่าไหรใครเก่งคำนวนมาบอกทีครับ ผมว่าไม่น่าจะถึง 100 C.C.มั๊งครับ เอาไว้รอข้อมูลระเอียดอีกทีครับ วัดกันเป็นซีซีกันไปเลย/ระยะทาง 100 กม. เอาแค่นี้ก่อนครับเอาลูกๆนอนก่อน....แล้วเจอกัน

มาปูเสื่อรอเดี๋ยวน้าต้อมเเซงคิว 55555

รอดูผลงานคับอาจารย์ต้น สู้ๆครับ

โดยผมมีแนวคิดที่จะเอา Hydrogen ที่ผลิตได้ไปผ่าน น้ำมันเบนซิน เพื่อที่จะได้เอาไอระเหยของเบนซินร่วมกับไฮโดรเจนที่ ผลิตได้ มาเป็นพลังงานเสริมเพื่อทดแทนแก๊ส LPG



ลึกลับซับซ้อนจริงๆครับ ที่จะเอาไอระเหยของเบนซินร่วมกับไฮโดรเจน ไปผสมกับ LPG อย่างงี้จะมีผลกับเครื่องยนต์หรือเปล่าครับ อ.ต้น เพราะปกติน้ำมันเบนซิน ปกติจะไม่ถูกกับดีเซลอย่างมาก ผมนึกไปถึง ตอนเติมน้ำมันเด็กปั้มเติมผิดเป็นเบนซิน น่ะครับ อิอิ ถึงแม้จะเป็นแค่ไอระเหยอก็เถอะ พอดีคิดมากไปหน่อยครับ รออ.ต้น ไขปัญหาน่ะครับ

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ happymet

โดยผมมีแนวคิดที่จะเอา Hydrogen ที่ผลิตได้ไปผ่าน น้ำมันเบนซิน เพื่อที่จะได้เอาไอระเหยของเบนซินร่วมกับไฮโดรเจนที่ ผลิตได้ มาเป็นพลังงานเสริมเพื่อทดแทนแก๊ส LPG



ลึกลับซับซ้อนจริงๆครับ ที่จะเอาไอระเหยของเบนซินร่วมกับไฮโดรเจน ไปผสมกับ LPG อย่างงี้จะมีผลกับเครื่องยนต์หรือเปล่าครับ อ.ต้น เพราะปกติน้ำมันเบนซิน ปกติจะไม่ถูกกับดีเซลอย่างมาก ผมนึกไปถึง ตอนเติมน้ำมันเด็กปั้มเติมผิดเป็นเบนซิน น่ะครับ อิอิ ถึงแม้จะเป็นแค่ไอระเหยอก็เถอะ พอดีคิดมากไปหน่อยครับ รออ.ต้น ไขปัญหาน่ะครับ

---

.....เป็นคำถามที่ดีมาก (เอาแบบพวก MLM เลยนะ) ก่อนอื่นเริ่มจากแหล่งที่มาของเชื้อเพลิงกันก่อนครับ ทั้งเบนซิล ดีเซล LPG และน้ำมันเครื่อง ที่ใช้กันอยู่นั้นมาจากแหล่งสารตั้งต้นตัวเดียวกันทั้งนั้น คือน้ำมันดิบ และทุกตัวที่ได้ทำหน้าที่คือเป็นตัวเชื้อเพลิงด้วยกันทั้งนั้นยกเว้นน้ำมันเครื่อง ซึ่งการนำมาใช้ก็แล้วแต่ประเภทของเครื่องยนต์กันไป เรามาว่ากันด้วยทำไมเครื่องยนต์ดีเซลไม่สามารถใช้เบนซินได้ ก็เนื่องมาจากเครื่องยนต์ดีเซลมีสัดส่วนการอัดอากาศมากถึง 17-22 : 1 ซึ่งในขณะอัดถึงจุดศูนย์ตายบนจะมีอุณหภมิสูงประมาณ 400-700 องศา และน้ำมันดีเซลเริ่มติดไฟที่ 370 ไปจนถึง 700 องศาคือสมบูรณ์แบบสุดๆแล้ว แต่น้ำมันเบนซินมันเริ่มติดไฟที่ 275 องศา ดังนั้นแล้วไม่สามารถใช้ได้เลยครับ มันจะจุดตัวมันเองก่อนที่ลูกสูบถึงจุดศูนย์ตายบนเสียอีก
LPG ก็เช่นกันมันเริ่มติดไฟที่อุณหภูมิประมาณ 470 องศา ก็ไม่สามารถใช้แทนดีเซลได้ด้วยเหตุผลอันเดียวกัน แต่ทำไมเราใช้เสริมร่วมกับดีเซลได้ล่ะ ได้ทั้งความแรงและประหยัดแบบไร้ควัน ดังที่ได้สร้างผลงานกันเอาไว้
และก็หลักการเดียวกันอีกนั่นแหละเพียงแต่เปลี่ยนจาก LPG เป็นเบนซิน โดยมีการจัดการที่ดีและเหมาะสม ก็สามารถนำมาเป็นเชื้อเพลิงร่วมได้โดยไม่เกิดผลเสียใดๆกับเครื่องยนต์ ซึ่งเมื่อมองดูค่าพลังงานที่ได้นั้นน้ำมันเบนซินเพียงน้อยนิดให้ค่าพลังงานได้ดีกว่า LPG ครับ เทียบกันง่ายๆ รถยนต์เบนซินเมื่อใช้น้ำมันเฉลี่ยความสิ้นเปลืองอยู่ประมาณ 12 กม./ลิตร แต่เมื่อใช้ LPG จะสิ้นเปลืองเฉลี่ยประมาณ 7-8 กม./ลิตร ที่ความเร็วเท่าๆกัน เพียงแต่ว่า LPG มีราคาถูกกว่ามาก เมื่อเล็งเห็นตรงนี้ผมก็เลยมีความคิดที่น่าจะเป็นไปได้โดยใช้อัตราการผลิต Hydrogen เป็นตัวกำหนดและคุมปริมาณของไอระเหยเบนซินไปพร้อมๆกัน โดยตั้งเป้าไว้ว่า น้ำมันเบนซิน 1 ลิตรพร้อม Hydrogen สามารถไปได้ถึง 1000 กม. คือผมจะลงทุนไม่ถึง 40 บาทกับพลังงานร่วม แต่สามารถลดค่าใช้จ่ายดีเซลลงได้อย่างน้อย .30-.50 บาท/กม. ก็ได้เกินคาดแล้วครับ ผมหวังไว้แค่จากเดิมดีเซลเพียวๆ 11 กม/ลิตร เป็นสัก 15 กม./ลิตร ก็เกินคุ้มแล้วครับ อันนี้หมายถึงช่วงใช้งาน 60-100 กม./ชม.ครับ ส่วนเร็วกว่านั้นก็สิ้นเปลืองเพิ่มขึ้นแต่ก็ยังดีกว่าใช้ดีเซลอย่างเดียวครับ และในการวิ่งใช้งานดู RV ก็ป้วยเปี้ยนอยู่ที่ 13-14 กม./ลิตรในเมือง และเมื่อออกนอกเมืองวิ่งยาวออกไปก็ขึ้นมาจนถึง 17-18 กม./ลิตรได้ นั่นหมายความว่ามันมีความเป็นไปได้สูงครับที่จะป็นได้ดังคาด และเมื่อวานผมเติมน้ำมันเต็มถังแล้ว กะว่าวันนี้จะหาเรื่องออกไปทานข้าวไกลๆดูสักหน่อยครับ เอาเป็นว่าถ้าสำเร็จมีเฮ แต่ที่แน่ๆวันนี้วันที่ 16 ช่วงบ่าย 3 โมงน่าจะมีเฮกันก่อนครับ เกร็งไว้หลายใบเหมือนกันจะได้มีทุนมาพัฒนากันต่อไปครับ

รอชมครับ จารย์ต้น

กลับมาแล้วครับกับผลการใช้งานจริงวิ่งจากคลองสามไปบางใหญ่แล้วกลับมาวนสนามทดสอบอีกรอบ กับน้ำหนักบรรทุกประมาณ 100 โล ความเร็วที่ใช้ไม่เกิน 100 ตามสภาพการจราจร วิ่งระยะทางทั้งหมด 183 กม.เติมน้ำมันเขย่าลงตัวที่ 12 ลิตรพอดี RV เฉลี่ยที่ 14.1 กม./ลิตรตั้งแต่เริ่มเดินทางจากบ้าน หารออกมาตามจำนวนลิตรที่เติมได้ 15.25 กม./ลิตร คิดเป็นเงิน 1.96 บาท/กิโลเมตร น้ำมันเบนซินลดไปประมาณเดิม (1-2 ซ.ม.) คิดคร่าวๆประมาณ 100 c.c. หรือประมาณ 0.02 สตางค์ ผมคิดว่าจะปรับปรุงระบบให้สามารถดึงเอาไอเบนซินมาใช้ให้มากกว่านี้อีก เพื่อที่จะดึงไปใช้ในความเร็วที่สูงมากกว่านี้
ผมเติมเต็มถังและทดลองในครั้งต่อไปแบบตัดการทำงานของวงจรควบคุมบางตัวออก เพื่อจะได้เปรียบเทียบค่ากันว่าอย่างไหนดีกว่ากัน เอาไว้ครั้งหน้าเอาผลมาเล่าให้ฟังกันอีกครับ เอารูปมายืนยันกันเช่นเคย

ผมอีกคนสนใจผลงานของอ.ต้น มานาน ไปติด save plus มาแล้ว ตอนแรกว่าจะติดแก๊ส แต่บังเอิญคิดเยอะไปหน่อย ไม่อยากแบกถัง ไม่อยากไปขนส่ง ไม่อยากไปยุ่งกับไฟแนนท์ แต่.....ดันอยากประหยัดขึ้น (อีกนิดก็ยังดี) ตอนนี้ขับแบบปกติ เรื่อยๆ ผมก็ได้ประมาณ 14-15 กม. /ลิตร (4 ดอ 116 ม้า) แต่ก็ยังอยากประหยัด (กว่านี้)

เคยได้ยินเรื่องการผสมเบนซิลเพื่อให้รถแรงขึ้น เผาไหม้ดีขึ้น ตามที่เขาแลกเปลี่ยนกันในห้องนี้ครับhttp://topicstock.pantip.com/ratchad.../V2619475.html

ตอนนแรกว่าจะลองเองแล้วเชียว แต่ก็กลัวรถพัง (เดี๋ยวแฟนบ่น) ดีใจครับที่ อ.ต้น กล้าทำ ถ้าสมบูรณ์แล้ว ผมจะไปใช้บริการครับ

เยี่ยมมากๆเลยครับอ.ต้น รอเสพข้อมูลดีๆเช่นกันครับ

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ TON_GAS

.....เป็นคำถามที่ดีมาก (เอาแบบพวก MLM เลยนะ) ก่อนอื่นเริ่มจากแหล่งที่มาของเชื้อเพลิงกันก่อนครับ ทั้งเบนซิล ดีเซล LPG และน้ำมันเครื่อง ที่ใช้กันอยู่นั้นมาจากแหล่งสารตั้งต้นตัวเดียวกันทั้งนั้น คือน้ำมันดิบ และทุกตัวที่ได้ทำหน้าที่คือเป็นตัวเชื้อเพลิงด้วยกันทั้งนั้นยกเว้นน้ำมันเครื่อง ซึ่งการนำมาใช้ก็แล้วแต่ประเภทของเครื่องยนต์กันไป เรามาว่ากันด้วยทำไมเครื่องยนต์ดีเซลไม่สามารถใช้เบนซินได้ ก็เนื่องมาจากเครื่องยนต์ดีเซลมีสัดส่วนการอัดอากาศมากถึง 17-22 : 1 ซึ่งในขณะอัดถึงจุดศูนย์ตายบนจะมีอุณหภมิสูงประมาณ 400-700 องศา และน้ำมันดีเซลเริ่มติดไฟที่ 370 ไปจนถึง 700 องศาคือสมบูรณ์แบบสุดๆแล้ว แต่น้ำมันเบนซินมันเริ่มติดไฟที่ 275 องศา ดังนั้นแล้วไม่สามารถใช้ได้เลยครับ มันจะจุดตัวมันเองก่อนที่ลูกสูบถึงจุดศูนย์ตายบนเสียอีก
LPG ก็เช่นกันมันเริ่มติดไฟที่อุณหภูมิประมาณ 470 องศา ก็ไม่สามารถใช้แทนดีเซลได้ด้วยเหตุผลอันเดียวกัน แต่ทำไมเราใช้เสริมร่วมกับดีเซลได้ล่ะ ได้ทั้งความแรงและประหยัดแบบไร้ควัน ดังที่ได้สร้างผลงานกันเอาไว้
และก็หลักการเดียวกันอีกนั่นแหละเพียงแต่เปลี่ยนจาก LPG เป็นเบนซิน โดยมีการจัดการที่ดีและเหมาะสม ก็สามารถนำมาเป็นเชื้อเพลิงร่วมได้โดยไม่เกิดผลเสียใดๆกับเครื่องยนต์ ซึ่งเมื่อมองดูค่าพลังงานที่ได้นั้นน้ำมันเบนซินเพียงน้อยนิดให้ค่าพลังงานได้ดีกว่า LPG ครับ เทียบกันง่ายๆ รถยนต์เบนซินเมื่อใช้น้ำมันเฉลี่ยความสิ้นเปลืองอยู่ประมาณ 12 กม./ลิตร แต่เมื่อใช้ LPG จะสิ้นเปลืองเฉลี่ยประมาณ 7-8 กม./ลิตร ที่ความเร็วเท่าๆกัน เพียงแต่ว่า LPG มีราคาถูกกว่ามาก เมื่อเล็งเห็นตรงนี้ผมก็เลยมีความคิดที่น่าจะเป็นไปได้โดยใช้อัตราการผลิต Hydrogen เป็นตัวกำหนดและคุมปริมาณของไอระเหยเบนซินไปพร้อมๆกัน โดยตั้งเป้าไว้ว่า น้ำมันเบนซิน 1 ลิตรพร้อม Hydrogen สามารถไปได้ถึง 1000 กม. คือผมจะลงทุนไม่ถึง 40 บาทกับพลังงานร่วม แต่สามารถลดค่าใช้จ่ายดีเซลลงได้อย่างน้อย .30-.50 บาท/กม. ก็ได้เกินคาดแล้วครับ ผมหวังไว้แค่จากเดิมดีเซลเพียวๆ 11 กม/ลิตร เป็นสัก 15 กม./ลิตร ก็เกินคุ้มแล้วครับ อันนี้หมายถึงช่วงใช้งาน 60-100 กม./ชม.ครับ ส่วนเร็วกว่านั้นก็สิ้นเปลืองเพิ่มขึ้นแต่ก็ยังดีกว่าใช้ดีเซลอย่างเดียวครับ และในการวิ่งใช้งานดู RV ก็ป้วยเปี้ยนอยู่ที่ 13-14 กม./ลิตรในเมือง และเมื่อออกนอกเมืองวิ่งยาวออกไปก็ขึ้นมาจนถึง 17-18 กม./ลิตรได้ นั่นหมายความว่ามันมีความเป็นไปได้สูงครับที่จะป็นได้ดังคาด และเมื่อวานผมเติมน้ำมันเต็มถังแล้ว กะว่าวันนี้จะหาเรื่องออกไปทานข้าวไกลๆดูสักหน่อยครับ เอาเป็นว่าถ้าสำเร็จมีเฮ แต่ที่แน่ๆวันนี้วันที่ 16 ช่วงบ่าย 3 โมงน่าจะมีเฮกันก่อนครับ เกร็งไว้หลายใบเหมือนกันจะได้มีทุนมาพัฒนากันต่อไปครับ

---

ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ อ.ต้น มีความรู้เพื่อมากขึ้นเกี่ยวกับพลังงานเชื้อเพลิงที่เป็นพลังงานทดแทน ที่นำมาทดสอบเป็นอีกขั้นที่มีทิศทางที่ดีในราคาค่าเชื้อเพลิงต่อลิตรที่ได้ไม่แพงมากครับ เอาใจช่วยครับคนไทยไม่แพ้ชาติใดครับ อิอิ

ได้เฮหรือเปล่าครับ อ.ต้น..... อิอิ

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ happymet

โดยผมมีแนวคิดที่จะเอา hydrogen ที่ผลิตได้ไปผ่าน น้ำมันเบนซิน เพื่อที่จะได้เอาไอระเหยของเบนซินร่วมกับไฮโดรเจนที่ ผลิตได้ มาเป็นพลังงานเสริมเพื่อทดแทนแก๊ส lpg



ลึกลับซับซ้อนจริงๆครับ ที่จะเอาไอระเหยของเบนซินร่วมกับไฮโดรเจน ไปผสมกับ lpg อย่างงี้จะมีผลกับเครื่องยนต์หรือเปล่าครับ อ.ต้น เพราะปกติน้ำมันเบนซิน ปกติจะไม่ถูกกับดีเซลอย่างมาก ผมนึกไปถึง ตอนเติมน้ำมันเด็กปั้มเติมผิดเป็นเบนซิน น่ะครับ อิอิ ถึงแม้จะเป็นแค่ไอระเหยอก็เถอะ พอดีคิดมากไปหน่อยครับ รออ.ต้น ไขปัญหาน่ะครับ

---

น้าเมท ลุงผมใช พลัสm10ตัวเดียวกับน้าเมทใชไอของเอทานอลมาตั้งแต่ป้ายแดงแล้วครับไม่มีปัณหาเลย ตอนนี้รอใส่เซพพลัสของ อ.ต้น อยู่ครับ

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ chaiyos-triton6299

น้าเมท ลุงผมใช พลัสm10ตัวเดียวกับน้าเมทใชไอของเอทานอลมาตั้งแต่ป้ายแดงแล้วครับไม่มีปัณหาเลย ตอนนี้รอใส่เซพพลัสของ อ.ต้น อยู่ครับ

---

สงสัยจะต้องใส่ เซพพลัส บ้างซะแล้วครับ อิอิ

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ happymet

สงสัยจะต้องใส่ เซพพลัส บ้างซะแล้วครับ อิอิ

---

สวัสดีน้าเมทพรุ่งนี้จะนำรถเพื่อนaltis1.6ตัวปัจจุบันไปใส่เซพพลัสที่อ.ต้นครับได้ลองเซพพลัสของผมถอดมาใส่ให้ลองเลยติดงอมแงมเลยคราวนี้เลิกยากแล้วหละบอกแล้วไปถ้ำกระบอกก็เลิกไม่ได้

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ chaiyos-triton6299

สวัสดีน้าเมทพรุ่งนี้จะนำรถเพื่อนaltis1.6ตัวปัจจุบันไปใส่เซพพลัสที่อ.ต้นครับได้ลองเซพพลัสของผมถอดมาใส่ให้ลองเลยติดงอมแงมเลยคราวนี้เลิกยากแล้วหละบอกแล้วไปถ้ำกระบอกก็เลิกไม่ได้

---

สงสัยผมไม่ต้องลองมั้ง ใส่ได้เลยหรือเปล่าน่ะ อิอิ ต้องมีรูปมาประกอบด้วยน่ะน้า chaiyos....

อัพล่าสุดกันหน่อยครับ อัตราเร่งและการใช้งานเป็นไปได้ดี ช่วงนี้ใช้เบนซิน 91 ลองอยู่ ช่วงต่อไปจะหันไปคบกับเมทานอล ซึ่งมีราคาถูกกว่าเป็นเท่าตัว และยังให้จุดวาบไฟได้ดีกว่า และปริมาณไอระเหยน่าจะดีกว่าน้ำมันเบนซิน ส่วนความประหยัดใช้ทั่วไปในเมืองมีให้เห็น 15 กม./ลิตรโดยทำงานร่วมกับกล่อง mcu และเมื่อลอง ลด วงจรในการทำงานความประหยัดก็ลดลงไปอีก 2 กม./ลิตร
ซึ่งการผลิตไฮโดรเจนแยกเป็น 3 ระดับ ไว้รอวงจรแปลงรอบเครื่องยนต์มาควบคุมการผลิดไฮโดรเจนเสร็จจะได้ใช้แบบเต็มรูปแบบเสียทีครับ รอด้วยความหวังว่าจะได้ในเร็ววันครับ ช่วงนี้พอมีเวลาให้ได้ทดสอบพอควรครับ

จุดประกายแห่งปัญญาอีกแล้วครับ อ.ต้น
คิดว่าความเป็นไปได้ น่าจะพอกับ Gas ที่เราติดตั้งเข้าไปนั่นละครับ
ไม่น่าจะมีผลเสียอะไร เพราะใช้หลักการเดียวกับ GAS ที่เราใช้กันอยู่
หลักวิชาการ ก็น่าเชื่อถือครับ แต่ การทดลองจริง ผมว่า " น่าเชื่อถือยิ่งกว่า "
ตำราเก่า แม้แต่ระดับ ดร. ที่จบจากต่างประเทศ บางท่าน ก็พูดถึงความเป็นไปไม่ได้
ในสิ่งที่นักทดลอง สมัยใหม่ ทำกันได้อย่างน่าภาคภูมิ ไม่ว่าจะเป็น Gas ร่วมดีเซล หรือร่วมเบ็นซิน
ดังนั้นผมว่า หลักวิชาการ เอาไว้อ้างอิงก็พอครับ เราเอาหลักการทดลองจริง มาคุยกัน สมเหตุสมผลที่สุด
ที่ว่าอย่างงี้ เพราะว่า ผมก็เป็นคนชอบลอง ในสิ่งที่คน บอกว่าเป็นไปไม่ได้ ขอสนับสนุนการคิดค้นที่สร้างสรรค์
อย่างต่อเนื่องของ หลาย ๆ ท่านครับ โดยเฉพาะ อ. ต้นที่เปิดเผยข้อมูลอย่างเปิดกว้างครับ
**
แต่ผมเคยเห็นคลิป ข้อมูลที่เกี่ยวกับการติดไฟของไอ ละเหยของ น้ำมันเบ็นซิล
ซึ่งฝากไว้ให้คิดวิธีป้องกันไว้ก็จะดีครับ (ผมหาคลิปดูก่อนครับว่ายังอยู่รึเปล่า หรือท่านใดมีก็ฝากลงก็ดีครับ)
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ
1 ไอระเหย สามารถติดไปด้วยไฟฟ้าสถิต ที่เกิดจากตัวเราเอง หรือการเสียดสีของชิ้นส่วน ได้ครับ
2 ประกายไฟเพียงนิดเดียว ก็ติดไฟกับไอระเหยได้
3 น้ำมันเบซิล ปรกติ ตามที่หลาย ๆ ท่านทราบคือ เชื้อเพลิงที่อัตรายที่สุดครับ( ยิ่งกว่าแก็สใด ) ยิ่งถ้ากลายเป็นไอ แล้วยิ่ง อันตราย
ดังนั้น ระบบควบคุมป้องกัน ขอให้ทุกท่าน อย่าละเลยตรงนั้นด้วยนะครับ
ด้วยความสนใจและเป็นห่วงเป็นใยครับ

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ Yanyong

จุดประกายแห่งปัญญาอีกแล้วครับ อ.ต้น
คิดว่าความเป็นไปได้ น่าจะพอกับ Gas ที่เราติดตั้งเข้าไปนั่นละครับ
ไม่น่าจะมีผลเสียอะไร เพราะใช้หลักการเดียวกับ GAS ที่เราใช้กันอยู่
หลักวิชาการ ก็น่าเชื่อถือครับ แต่ การทดลองจริง ผมว่า " น่าเชื่อถือยิ่งกว่า "
ตำราเก่า แม้แต่ระดับ ดร. ที่จบจากต่างประเทศ บางท่าน ก็พูดถึงความเป็นไปไม่ได้
ในสิ่งที่นักทดลอง สมัยใหม่ ทำกันได้อย่างน่าภาคภูมิ ไม่ว่าจะเป็น Gas ร่วมดีเซล หรือร่วมเบ็นซิน
ดังนั้นผมว่า หลักวิชาการ เอาไว้อ้างอิงก็พอครับ เราเอาหลักการทดลองจริง มาคุยกัน สมเหตุสมผลที่สุด
ที่ว่าอย่างงี้ เพราะว่า ผมก็เป็นคนชอบลอง ในสิ่งที่คน บอกว่าเป็นไปไม่ได้ ขอสนับสนุนการคิดค้นที่สร้างสรรค์
อย่างต่อเนื่องของ หลาย ๆ ท่านครับ โดยเฉพาะ อ. ต้นที่เปิดเผยข้อมูลอย่างเปิดกว้างครับ
**
แต่ผมเคยเห็นคลิป ข้อมูลที่เกี่ยวกับการติดไฟของไอ ละเหยของ น้ำมันเบ็นซิล
ซึ่งฝากไว้ให้คิดวิธีป้องกันไว้ก็จะดีครับ (ผมหาคลิปดูก่อนครับว่ายังอยู่รึเปล่า หรือท่านใดมีก็ฝากลงก็ดีครับ)
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ
1 ไอระเหย สามารถติดไปด้วยไฟฟ้าสถิต ที่เกิดจากตัวเราเอง หรือการเสียดสีของชิ้นส่วน ได้ครับ
2 ประกายไฟเพียงนิดเดียว ก็ติดไฟกับไอระเหยได้
3 น้ำมันเบซิล ปรกติ ตามที่หลาย ๆ ท่านทราบคือ เชื้อเพลิงที่อัตรายที่สุดครับ( ยิ่งกว่าแก็สใด ) ยิ่งถ้ากลายเป็นไอ แล้วยิ่ง อันตราย
ดังนั้น ระบบควบคุมป้องกัน ขอให้ทุกท่าน อย่าละเลยตรงนั้นด้วยนะครับ
ด้วยความสนใจและเป็นห่วงเป็นใยครับ

---

ขอบคุณครับที่มีผู้ที่เห็นด้วยกับแนวคิด แต่ถ้าได้ช่วยๆกันน่าจะดีกว่าครับ ตอนนี้คิดอยู่คนเดียวมาต่อเนื่อง 3-4 ปีเนี่ย ผมหงอกบานเลย มาว่ากันเรื่องแนวคิดมันเป็นไปได้ครับสำหรับการใช้งานจริง ที่ความเร็วไม่เกิน 100 มีให้เห็น 15.2 กม./ลิตรแล้วครับ ตอนนี้รอวงจรที่แปรผัน Hydrogen ตามรอบเครื่องอย่างเดียว และปรับปรุงอุปกรณ์ที่ทำไอน้ำมันให้มากกว่านี้อีกหน่อยครับ วันนี้ไปซื้อเมทัลแอลกอร์ฮอมาแล้ว ประมาณ 1 ขวดเบียร์ ราคา 14 บาทเอง หวังเล่นของถูกแต่คุณภาพดีไม่แพ้เบนซิน

ส่วนเรื่องความปลอดภัยของไอระเหยไม่ต้องกังวนเลยครับ เราใช้หลักการส้วมชักโครกที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี่แหละมาสร้างเป็นระบบความปลอดภัย ผมไล่จากตำแหน่งติดตั้งอุปกรณ์กันเลยนะครับ เริ่มจากจุดเข้าแก็สที่ท่อไอดี ต่อท่อไปยังตัวกันระเบิด(ทำเองหลักการง่ายๆได้ผล 100 %) ต่อสายไปยังบับเบิลซึ่งมีน้ำอยู่ประมาณครึ่งลิตร ต่อสายไปยังถังเก็บน้ำมันเบนซิล(หรือแอลกอร์ฮอ) จากนั้นไปยังถังพักอีกตัวเพื่อกันน้ำมันย้อนเข้าถังน้ำที่ผลิต Hydrogen (เวลามันเย็นๆมันจะดูดกลับ) สุดท้ายต่อเข้าถังน้ำผลิต Hydrogen ซึ่งทั้งระบบจะเป็นศูนย์ญากาศ ดังนั้นไอน้ำมันเบนซินจะไม่สามารถดันผ่านน้ำออกไปเองได้ครับ นอกเสียจากเราเปิดให้ระบบทำงาน ผมคิดว่ามันน่าจะปลอดภัยได้พอควรครับ ตอนนี้ถ้าวิ่งในเมืองผมก็ OFF ระบบ LPG แต่ถ้าออกนอกเมืองทำความเร็วตั้งแต่ 1800 รอบขึ้นไปก็จะมี LPG มาช่วยเล็กๆน้อยๆครับ ซึ่งความเร็ว 100-110 RV จะป้วนเปี้ยนที่ 18 กม./ลิตรในระยะทางสั้นๆ แต่ถ้าวิ่งไกลไปเรื่อยๆก็จะขยับขึ้นไปแถวๆ 19 กม./ลิตรได้เลยครับ กำลังแฮปปี้มากเลยกับระบบนี้..... รออีกนิดครับ

มารอจ้า...

ช่วยสนับสนุนด้านข้อมูลเล็ก ๆ น้อย ๆ ครับเผื่อจะเป็นประโยชน์
http://www.thaidriver.com/magazine-preview/oil/oil.html

อัพเพิ่มเติมกันอีกหน่อย
ตอนนี้ผมใช้เมททิ่นแอลกอร์ฮอเป็นตัวเสริมแทนเบนซิน และได้ปรับปรุงรูพรุนเพื่อสร้างไอหใมกกว่าแต่ก่อน และได้ลองใช้งานมา 230 กม.แล้ว จากคลองสามไปพระรามเจ็ด rv ได้มากสุดที่ 17 กม./ลิตรครับ สภาพจราจรลื่นไหลตลอด แต่โดยรวมดีมาก การกดคันเร่งน้อยทำให้อัตราการสิ้นเปลืองแสดงผลเป็นที่น่าพอใจ ถึงบ้านผมดูระดับการระเหยว่าหมดไปเยอะไหม ผลระดับน้ำยังเหมือนเดิม เต็มหลอดเลยไม่รู้ว่าใช้ไปเท่าไร แต่บันทึกไว้แล้ว ให้ได้สัก 500 โลขึ้นค่อยเช็คอีกที ลงทุน 14 บาทถ้าได้สัก 1000 โลก็เกินคุ้มแล้วครับ วันนี้จะออกไปขับรถเล่นอีกจะได้ถึงครึ่งถังไวๆ แล้วจะมาแจ้งให้ทราบอีกทีครับ

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ TON_GAS

อัพเพิ่มเติมกันอีกหน่อย
ตอนนี้ผมใช้เมททิ่นแอลกอร์ฮอเป็นตัวเสริมแทนเบนซิน และได้ปรับปรุงรูพรุนเพื่อสร้างไอหใมกกว่าแต่ก่อน และได้ลองใช้งานมา 230 กม.แล้ว จากคลองสามไปพระรามเจ็ด rv ได้มากสุดที่ 17 กม./ลิตรครับ สภาพจราจรลื่นไหลตลอด แต่โดยรวมดีมาก การกดคันเร่งน้อยทำให้อัตราการสิ้นเปลืองแสดงผลเป็นที่น่าพอใจ ถึงบ้านผมดูระดับการระเหยว่าหมดไปเยอะไหม ผลระดับน้ำยังเหมือนเดิม เต็มหลอดเลยไม่รู้ว่าใช้ไปเท่าไร แต่บันทึกไว้แล้ว ให้ได้สัก 500 โลขึ้นค่อยเช็คอีกที ลงทุน 14 บาทถ้าได้สัก 1000 โลก็เกินคุ้มแล้วครับ วันนี้จะออกไปขับรถเล่นอีกจะได้ถึงครึ่งถังไวๆ แล้วจะมาแจ้งให้ทราบอีกทีครับ

---

น่าสนใจมากครับ ต้นทุนน้อยได้ระยะทางเพิ่มเติมมากครับ รอรายงานผลต่อเนื่องครับ อิอิ

ถ้าสมบูรณ์แล้ว อ.ต้น รีบป่าวประกาศเลยนะครับ ผมจองคิวต้น ขอเป็นลูกค้าครับ

รอออออ

สุดยอดครับ อ.ต้นขอเป็นแรงใจในการพํฒนาครับ

มาแอบรออ.ต้น รายงาน ครับ

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ happymet

มาแอบรออ.ต้น รายงาน ครับ

---

กำลังจะออกไปเก็บข้อมูล เข้ามาดูอดไม่ได้ครับ
แย้มอีกนิดนึง ผลการใช้งานที่ผ่านมา ลองทั้งแอลกอฮอล์ 100 % และ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ ผลออกมาต่างกันพอควรครับ ทีแรกคิดว่าแอลกอฮอล์น่าจะระเหยได้ดี และลองติดไฟดูเปลวไฟออกสีฟ้าไม่มีควันกะว่าสะอาดสดใสชัวร์ แต่พอใช้งานมันระเหยได้น้อยกว่าเบนซินมากเลยทำให้ค่าความประหยัดจาก 15 กม./ลิตรไปเหลือ 12 กม./ลิตร ส่วนเบนซิลอัตราการระเหยดีมากแต่ก็กลัวว่าจะดีเกินไปและลองจุดไฟดูการเผาไหม้เปลวไฟออกสีแดงส้มมีควันดำตลอด แต่กลับให้ค่าความประหยัดได้ดี
ผมเลยเอาค่ากลางๆมามาลองดูใหม่ คือใช้ทั้ง 2 ตัวผสมกันแล้วใช้งานดูคร่าวๆ RV จะอยู่ที่ 14.6 เดี๋ยวอีกสักครู่จะออกไปเติมเต็มถังแล้ววิ่งวนสัก 2 รอบเก็บข้อมูลใหม่ว่าจะได้เท่าไร และที่สำคัญวงจรที่ควบคุมการผลิต Hydrogen น่าจะได้เสาร์นี้แล้วครับ จะได้จัดชุดเต็มซะทีให้รู้กันทีว่าความเร็วช่วง 100-120 จะเป็นไงบ้าง จะได้ปรับการใช้งานได้ถูก รอกันต่อไปคร๊าบ.......

ผมกะรอติดครับ...

เข้ามารอ อ.ต้น เหมือนกันครับ ดันๆๆครับ

อัพกันอีกนิดครับ บ่ายวันนี้ได้ออกไปทดสอบและปรับกล่องให้ได้ความประหยัดมากกว่าเดิมอีกนิด โดยความเร็วที่ทดสอบอยู่ที่ 80-90 กม./ชม.เพราะเอาค่าของตำแหน่งคันเร่งเป็นหลัก 38-19 ผมใช้เมททิ่นแอลกอฮอล์ 99% ผสมแก๊สโซฮอล์ 91 เติมในถังเก็บ 500 ซีซี คิดเป็นเงินประมาณ 16 บาท ใช้งานในเมืองรวมวิ่งทดสอบรวมระยะทาง 206 กม. ระดับน้ำลดลงไปประมาณ 1.5 นิ้ว เป็นจำนวน 150 ซีซี ประมาณได้ว่า 4.80 บาท/206 กม.

ส่วนดีเซล 188 กม.จากเต็มถังลดลงนิดนึงตามรูป แต่โดยประมาณทุกครั้งระดับนี้มี 15-16 กม./ลิตรครับ ยังไม่ได้เติมเพราะช่วงเย็นรถติดมากแถวตลาดไท และคลองสาม ไว้วันเสาร์นี้ผมมีธุระเดินทางจะลองวัดดูอีกทีครับ การทำงานของ Hydrogen ประมาณ 4-4.5 แอมป์เท่านั้นครับ ผมเติมน้ำมากไปนิดนึงเลยทำให้เจือจางจึงกินกระแสน้อยทำให้อัตราการผลิดลดลงไปกว่าที่เคยครับ ส่วนค่าใช้จ่าย/กม.คร่าวๆไม่น่าจะเกิน 2 บาท/กม. ในขณะที่โหลดมากกว่าทั่วไปครับ ยาง 265/65 R 17 ยางมีหน้ากว้าง 8 นิ้ว ซึ่งระยะทางจริงจะไม่เท่ากับไมล์รถ หลังคาสามมิตรกับแก๊สถัง 48 ลิตรซึ่งยังมีแก๊สอยู่มาก คิดว่าต่อให้ครับ

ส่วนตัวช่วยก็มี ชุด Hi Volt รุ่นแรง 1Kv. สำหรับสร้างอ็อกซิเจน กรองอากาศแบบผ้าลินินอัดเคลือบน้ำมันของ K&N ชุดเพิ่มอุณหภูมิน้ำมันดีเซลตัวที่เคยลงไว้ในคลับนี่แหละ และล่าสุดหางานให้พี่ปรีชาทำให้ครับ เป็นท่ออินเตอร์เลสตัวงาม ยังมีกล่องคันเร่งไฟฟ้าปรับเบอร์2 (ทำพิเศษสำหรับรถใช้แก๊สร่วมดีเซล) และกล่อง MCU ตัวต้นแบบซึ่งสามารถปรับการทำงานได้หลายรูปแบบ และทั้งหมดถ้าทำงานได้คุ้มค่าผมคิดรูปแบบของเซลผลิด Hydrogen พร้อมถังน้ำในตัวเดีนวกันไว้แล้ว เพียงแต่รอวงจรคุมการผลิตตามรอบเครื่องเท่านันครับก็จะครบองค์ประกอบ ทำไงได้ทำเองไม่ได้ก็ต้องรอครับ

เป็นกำลังใจให้อ.ต้น อีกแรงครับ...

อยากช่วยอาจารย์ต้นคิดค้นบ้าง แต่ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเลยครับ ช่วยให้กำลังใจครับ เราประหยัดชาติประหยัดครับ

ใช้งานมา 2 วัน หลังจากเติมเต็ม วันนี้ไปราชบุรีมา 320 กม. ก็เลยถ่ายรูปเป็นหลักฐานก่อนเลย และได้ปรับปรุงติดออฟชั่นเพิ่มเติมเข้าไปอีก ไว้ให้ปรับจนได้ค่าที่ดีที่สุดก่อนแล้วค่อยชี้แจงรายระเอียดกันอีกทีครับ

สุดยอดมากครับอ.ต้น มาให้กำลังใจครับ ไว้ลงตัวแล้วแย้มๆราคาให้หน่อยนะครับจะได้เตรียมตังค์ครับ

วันนี้ปรับจูนกล่องเพื่อปรับอัตราการจ่ายน้ำมันใหม่ นอกนั้นทุกอย่างคงเดิม เติมเต็มถังแล้ววิ่งใช้งานในสนามทดสอบได้ระยะทางทั้งหมด 197 กม. เติมบางจากอัดเต็มถังได้ 380 บาท ด้วยความพยายามเขย่าให้เต็มที่ไปหยุดที่ 390 บาทครับ 13 ลิตร เฉลี่ยได้ 15.15 กม./ลิตร คิดเป็นเงินได้ 1.97 บาท/กม. RV METER โชว์น้ำมันเต็มถังสามารถวิ่งได้ 1130 กม.ตอนออกจากปั้ม แต่ถ่ายรูปแล้วภาพเบลอเลยไม่มีมาโชว์ การใช้งานนี้รวมถึงรถติดในคลองสามและวิ่งเข้าไปแถวๆเทเวศน์ด้วยครับ แต่ความเร็วที่วิ่งส่วนใหญ่อยู่ประมาณ 90-100 ตามการจราจร เพราะถ้ากดเร็วมากๆตัวผลิต Hydrogen มันผลิตไม่พอกับความต้องการครับ และอีกอย่างผมเซ็ทกล่องไว้ถ้าเลย 100 เมื่อไหร่จะมี LPG มาเป็นตัวช่วยทันที (กันไว้เผื่อมีเหตุที่ต้องใช้พละกำลัง) เดี๋ยวค่าที่ทดลองจะไม่ตรงกับการใช้งานจริง

วันนี้ว่างๆผมจะลองขยับเซลล์ผลิต Hydrogen จาก 16 แผ่น เป็น 21 แผ่น เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้มากขึ้นกว่าเดิมอีก หลังจากนั้นก็จะทำการขยับกร๊าฟปรับการจ่ายน้ำมันในรอบต่ำใหม่ (ยังต้องใช้เวลาอีกพอควร) แต่ตัวเลข 15 กม./ลิตรก็น่าพอใจแล้วครับได้ตามความคาดหมายไว้ทีแรก ส่วนจะทำได้มากเท่าไรนั้นก็ขอให้ติดตามตอนต่อๆไปครับ

ไม่ได้เข้ามาติดตามผลงาน อ.ต้น ตั้งนานมีของใหม่น่าสนใจมากๆ เลยครับ ยังรอชมผลงานต่อไปน่ะครับ ด้วยความเคารพครีาบบบบ

ยอด..คนสมองเพชรครับ...สมกับคำพูดที่ว่า..คนดี..มักจะคิดแต่เรื่องดีๆครับ..เป็นกำลังใจให้ครับ..อ.ต้น..