Printable View
คือผมลองเปรียบเทียบรถบริษัท Dmax 2.5 4D กับรถตัวเอง PLUS 2.5 4D 2010 รู้สึกได้ว่าที่ความเร็วเท่า ๆ กัน รอบ PLUS จัดกว่าเยอะเลยครับ ประมาณ 3000 Dmax 2000 กว่า ๆ และพอวิ่งทางไกลแช่ที่ความเร็ว 130 km/h ขึ้นไป อัตราการซดน้ำมันของเจ้า Plus เรานี่ลดฮวบ ๆ
ถ้าวิ่งที่ความเร็วไม่เกิน 120 km/h นี่ 12 กิโล/ลิตรสบาย ๆ
เลยอยากรู้ว่า VG Turbo รอบต่ำ + ประหยัดจริงหรือเปล่าครับ
ปล.รถผม ปี กับ 10 เดือน 36,xxx กม.แล้วครับ เครื่องเดิม ๆ ไม่ได้ทำอะไร
ที่รอบมันจัดกว่า น่าจะเกี่ยวกับอัตราทดเฟืองเกียร์ เฟืองท้ายคับ รถตัวเตี้ยกับตกยกสูง ทดอัตราเฟืองท้ายเกียร์ไม่เท่ากัน
ตะก่อนผมขับปีโป้ 3000 At วิ่งที่ 140 รอบเครื่องขึ้นยังไม่ถึง 3000rpm เลย
รถผม VG Turbo ปี 11 Auto ..ในรอบต่ำจะเปลืองกว่าครับ วิ่้งที่ 80-90 จะกินมากกว่าที่ประมาณ 10 กม./ลิตร ถ้าวิ่งที่ประมาณ 100-110 จะประหยัดกว่า ผมสังเกตว่าที่ความเร็วนี้ เทอร์โบเริ่มทำงาน (ประมาณ 2200 รอบ) วิ่งไปบ้าน (สัตหีบ- นว.) อยู่ที่ 14-15 กม./ลิตร ตอนนี้ติดแก๊ส วิ่งกลับบ้านที่ความเร็วนี้ (เป็นความเร็วที่ประหยัดสุด) ตอนนี้ 18-20 กม./ลิตรครับ ...5555..ไม่ได้โม้ เดี๋ยววันหลังว่างๆ จะไปโพสให้ดูกัน เคยอยู่ 2 ครั้งลองขับเอามันส์ วิ่ง 140-160 กลับถึงสัตหีบเติมเต็มถัง วัดอัตราสิ้นเปลือง เอ๊ะ.. 11 โลลิตร อืมมม..ประหยัดกว่าวิ่ง 90 อีกแฮะ
อยู่นครสวรรค์แถวไหนครับน้าอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ perm
เคยจับเทียบกะรถเพื่อน(ฟรอนเทียร์ 3.0) ความเร็ว 100 เท่ากัน
รถตั้นของเรา รอบ = 2200
ฟรอนเทียร์ของเพื่อน = 3300
ต่างกันเยอะมาก แล้วรถเพื่อนก็กินน้ำมันมากมายกว่านัก (เคยคิดว่ารถเรามันซดจัง แต่ที่ไหนได้ ยังมีรถที่เปลืองกว่าอีก)
จริงเหรอคับน้า วิ่งกะบะบ้านเราวิ่ง 100 ที่ 3300 รอบ ที่เกียร์ห้านะอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ indy72
จิงคับ ลองมาแล้ว ฟรอนเทียร์แคป 3.0 นะครับอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ banan053
คันอื่นไม่รู้
บ้านผมมีนาวาร่าพี่ชายอีกคัน ลองขับดูแล้ว วิ่งที่100 ของเราประมาณ2200+- แต่ของเค้าเกิน2500-2800 เลยครับ แล้วก็กินน้ำมันมากๆ
จากน้า จกท. รอบจัด กับ รอบต่ำ อย่างไหนจะกินมากกว่า
การขับรถรอบจัดยกตัวอย่างในเกียร์ธรรมดาขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนเกียร์ของผู้ขับขี่ครับ
ถ้าเปลี่ยนเกียร์ในรอบที่มากกว่า 2500 rpm จะทำให้สิ้นเปลืองมากกว่าการเปลี่ยนเกียร์ในรอบ
ระหว่าง 2000-2500 แต่ถ้าเปลี่ยนเกียร์รอบต่ำกว่า 2000 ก็จะไม่หมายความว่าจะช่วยให้ประหยัดนะครับ
ขึ้นอยู่กับคววามเร็ว ณ ขณะขับเป็นหลักต้องสัมพันธ์กันครับ
ส่วนเกียร์ออโต้ฯ ก็อยู่ที่การเลี้ยงหรือคลึงคันเร่งครับเพื่อได้มาซึ่งความประหยัด
ส่วนของน้าโย ที่ว่านิสสันฟรอนเทียร์ เครื่อง 3.0 ลิตรนั้น ขอเรียนอย่างนี้ครับว่า
เปรียบกับไทรทันของเรา ไม่ได้จริงๆครับ เพราะเราเครื่อง Commonrail ปั๊มแรงดันสูง
ที่ควบคุมการฉีดน้ำมันด้วยกล่องควบคุมครับ ทำให้แม่นยำ เป็นฝอยละเอียด และประหยัดกว่าครับ
ส่วน ฟรอนเทียร์นั้น เครื่อง 3.0ลิตร Di ปั๊มกลไกธรรมดา ที่ควบคุมด้วยไฟฟ้า
ฉะนั้นแรงบิดย่อมต่างกันของเราจะมากกว่าครับถึงแม้ความจุ 2.5 ลิตร ทำให้รอบของฟรอนเทียร์
ต้องสูงกว่าในย่านความเร็วที่เท่ากัน และ กินน้ำมันมากกว่าแน่นอนครับ ขอเรียนดังนี้นะครับ...........
ปกติผมทำงานอยู่ที่สัตหีบครับ นครสวรรค์ก็มีแม่, น้องสาว, น้องชาย และครอบครัวเขาอยู่กันครับ ผมกลับ นว.ประมาณเดือนละครั้งแล้วแต่โอกาส บ้านน้องสาวอยู่ในซอยขายก๋วยเตี๋ยวเรือ ข้างโรงเรียนอนุบาลนครสวรรค์ ตรงข้ามบ้านอดีต สว.สงบ ศรลัมพ์ ส่วนมากกลับมาผมพักที่นั่น เจอกันก็ทักได้ครับ น้องเขยผมก็ใช้ไทรทัน (คันก่อนใช้ d4d พอบอกจะเอามาติดแก๊ส ถอยไทรทันเลย)อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ sinplug
แม่นแล้วครับ เทคโนโลยีคนละยุคกันครับอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ ta-jo
ผมว่าแรงบิด ก็มาจากเทอร์โบที่ได้อยู่แล้วคับ เพราะเครื องดีเซล ไม่เหมือนกับเบนซิน เบนซินแรงอัดที่ฝาสูบ ไม่เกิน 9:1 อยู่แล้วส่วนมาก แต่เครื่องดีเซล ใช้แรงอัดที่ 17-19:1 สังเกตว่าดีเซลจะลากรอบไม่เกิน 4000 รอบ เป็นเพราะแรงอัดที่ฝาสูบ 17-19:1 แล้วทำไหมเบซินลากรอบได้ถึง 6000-8000 รอบ เพราะแรงอัดที่ฝาสูบมีแค่ 9:1 จึงลากรอบได้มากกว่าเครื่องดีเซล
ผมเลยคิดว่า ไม่น่าจะเกี่ยวกับกลไกปั้มคอมมอนเรว
เมือก่อนผมใช้ dmax 3.0di กลไกไฟฟ้าเหมือนกัน ขับ 90 รอบก็ยังไม่ถึง 3300 เลย
ถ้าผมขับรอบประมาณ 3300 ความเร็วจะชี้ไปประมาณ 140+ ขับที่ความเร้วสูงสุด 160 ก็ยังไม่ถึง 4000 รอบเลย
http://www.weekendhobby.com/offroad/...on.asp?ID=2506
หรือต่างกันที่อัตราทดเฟืองป่าว
ผิดถูกยังไงก็ขอภัยด้วย
ไปลองฟรอนเทียร์ดูนะ!อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ banan053
ไม่มีให้ลองเลยคับอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ indy72
ถ้างั้นก็อาจจะเกี่ยวกับอัตราทดเฟืองเกียร์เฟืองท้ายมากกว่าคับ
ขออนุญาติชี้แจงการทำงานของเครื่องยนต์ให้พอสังเขปนะครับอ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ banan053
1.แรงอัดหรืออัตราส่วนการอัดของเบนซิลต้องมากกว่าดีเซลอยู่แล้วละครับ เพราะคุณสมบัติของน้ำมันหรือจุดวาบไฟต่างกับครับ
ทำให้เครื่องเบนซิลจะมีความเร็วรอบที่สูงถึง6000-7000รอบประมาณนั้น แต่แรงฉุดลากจะด้อยกว่าดีเซล
2.ในเครื่องยนต์ดีเซลสามารถที่จะทำความเร็วสูงสุดได้เกือบพอหรือเท่ากับรถเบนซิลได้นะครับ แต่เวลาที่ใช้จะใช้เวลามากกว่า
สังเกตุง่ายๆ เช่น การออกตัวพร้อมกัน รถเก่ง เครื่อง1500-1600 จะออกตัวได้รวดเร็วกว่ารถกระบะแต่รถดีเซลรุ่นใหม่ๆนี้
ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ก็ถือว่าใช้ได้เลย และจะไปไล่กันจี้ทันกันในความเร็วปลายแต่ต้องใช้เวลาทีมากกว่า
D-max Di turbo ส่วนฟรอนเทียร์ 3.0 นั้นไม่มีเทอร์โบนะครับ อาจจะเป็นไปได้ที่ไม่มีตัวซููปเปอร์ชาร์จ
หรือเทอร์โบในการช่วยอัดอากาศ ทำให้ความเร็วรอบของเครื่องสูงกว่ากัน ณ ความเร็วที่เท่ากันและแน่นอนครับ
ความสิ้นเปลืองย่อมมากกว่ากันครับ......ขออนุญาติชี้แจงการเปรียบเทียบครับ