นอกจากการเพิ่มแบต เพิ่มไดร์แล้ว ยังมีวิธีที่จะเปิดเครื่องเสียงรถให้ได้นานๆ โดยใช้ switching supply กับ battery charger
บางคนก็ว่า switching ดีกว่า บางคนก็ว่าชาร์จแบตดีกว่า เลยสงสัย เอ๊ะ!!! ยังไงกันแน่
เลยอยากลองถามความเห็นน้าๆครับว่าแบบไหนดีกว่ากัน
นอกจากการเพิ่มแบต เพิ่มไดร์แล้ว ยังมีวิธีที่จะเปิดเครื่องเสียงรถให้ได้นานๆ โดยใช้ switching supply กับ battery charger
บางคนก็ว่า switching ดีกว่า บางคนก็ว่าชาร์จแบตดีกว่า เลยสงสัย เอ๊ะ!!! ยังไงกันแน่
เลยอยากลองถามความเห็นน้าๆครับว่าแบบไหนดีกว่ากัน
ผมคิดว่านะ switching เปลืองไฟไม่สะดวกบ้างพื้นที่ ชาร์จแบต เปลืองน้ำมัน แต่สะดวกครับ ผิดถูกขออภัย
มารอเก็บข้อมูลด้วยคน อยากรู้เหมือนกันครับ
switching.ไม่ต้องสตาร์ทรถให้เครื่องยนต์ทำงาน ระบบเสียงที่มีขนาดใหญ่ต้องการรอบเครื่องยนต์
เพื่อปั่นกระแสไฟให้เพียงพอ(สังเกตุการแข่งขันที่กำหนดรอบเครื่องยนต์)ที่ต้องใช้งานในระบบทั้งหมด
แต่ถ้าหากใช้งานแบบเปิดยาวๆบ่อยๆแนะสวิทซ์ชิ่งคับ..เหตุผลคือมันไม่คุ้มที่เราจะต้องสตาร์ทรถเพื่อ
ปั่นไฟมาใช้งานระบบเสียง..เครื่องยนต์ต้องทำงานตลอดและรอบการหมุนของไดร์ชาร์ทก็ได้ราวๆ30-40% เพราะรอบเดินเบามาแค่750rpm.ไดร์จะชาร์ทได้80-90%ควรอยู่ที่ประมาณ2000rpm. ถ้าจะรักษา
สภาพเครื่องยนต์มองหาสวิทซ์ชิ่งคับ....ถ้าจะใช่ไดร์ชาร์ทที่ใช้รอบเครื่องยนต์ขับต้องแลกกับการสึกหรอ
ของเครื่องยนต์กันครับ..
http://www.hamsiam.com/smf/index.php?topic=86802.60
ลองดูครับ มี 50-100 แอมป์ด้วย พอป่าวครับ
ผมซื้อ 50 แอมป์แบบเปลือย มาใส่กล่องเอง 1700 บาท
ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)
Bookmarks