ต่อจากช่วยน้องบนดอยด้วย "เทศกาลหนังเมืองปาย"
หลังจากขึ้นดอยในวันที่ 22-23 พย นี้ สัปดาห์ถัดไป ก็ขอแนะนำ เทศกาลหนังนานาชาติที่ปาย ครับ
ดูหนังกลางขุนเขาและหมอกหนาว
วันที่ 28 พย ถึง 7 ธค นี้ครับ
ต่อจากช่วยน้องบนดอยด้วย "เทศกาลหนังเมืองปาย"
หลังจากขึ้นดอยในวันที่ 22-23 พย นี้ สัปดาห์ถัดไป ก็ขอแนะนำ เทศกาลหนังนานาชาติที่ปาย ครับ
ดูหนังกลางขุนเขาและหมอกหนาว
วันที่ 28 พย ถึง 7 ธค นี้ครับ
ลองคิดดู... ว่าจะโรแมนติกขนาดไหน ถ้าเราได้ไปนอนดูหนังท่ามกลางทะเลหมอก ที่มีเบื้องหลังเป็นภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม และข้างๆ แม่น้ำสายใหญ่กำลังไหลริน...
ลองนึกดู... และลองนึกถึงหนังที่ไม่สามารถหาดูได้ในโรงภาพยนตร์ใกล้บ้านทั่วไป หนังนานาชาติทุกยุคทุกสมัย หนังไทยคลาสสิก หนังรางวัล หนังแอนิเมชั่น หนังอินดี้ หนังดี ๆ หลากหลายเรื่องราวที่มีให้ดูในเทศกาลหนังไร้รูปแบบ PAI INTERNATIONAL FILM & ANIMATION FESTIVAL 2008 (28 พ.ย. - 7 ธ.ค. 2551 ) เทศกาลหนังเมืองปาย ที่ผู้จัดเขาบอกว่าเป็น มหกรรมฉายหนังกลางแปลงครั้งแรกของโลก นอกจากดูหนังแล้วงานนี้ยังมีกิจกรรมและความบันเทิงครบทุกรูปแบบ มีเวทีสำหรับคนทำหนังและคนรักหนังจากทั่วโลก อิ่มเอมใจกับการได้ร่วมถวายพระพร 5 ธันวามหาราช กับภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ มีกิจกรรมสัมมนา เวิร์กชอป และพบกับการรวมตัวของผู้กำกับชื่อดังที่จะควงคู่มากับซูเปอร์สตาร์ ดาราในสังกัด ร่วมปฏิบัติภารกิจหนังสั้น 'ปาย ความรัก และโลกร้อน' พร้อมกับคอนเสิร์ต, บทเพลงจากภาพยนตร์ดังในอดีตอีกมากมาย...
ทำไมต้องปาย
"ก่อนอื่นมีคนถามค่อนข้างมาก ทำไมต้องจัดที่ปาย จริงๆ แล้ว เพราะว่าปายเป็นเมืองที่มีลักษณะเฉพาะ คือเป็นเมืองที่มีคาแร็กเตอร์ ซึ่งพอพูดถึงปายปุ๊บ ทุกคนจะเข้าใจตรงกันว่าเป็นเมืองแห่งศิลปะ เป็นเมืองแห่งธรรมชาติ เป็นเมืองแห่งวัฒนธรรม ดังนั้น ถ้าเราสอดแทรกความเป็นศิลปะเข้าไปในเมืองปายมันจะเป็นอะไรที่ค่อนข้างกลมกลืนแล้วก็ผสมผสานกันได้เป็นอย่างดี ในเรื่องของที่มาที่ไปของการจัดงาน คอนเซ็ปต์ที่เราจัดในครั้งนี้ก็คือ 'ปาย ความรัก และโลกร้อน' ทำไมต้องเป็น ปาย ความรัก และโลกร้อน ปายนี่ แน่นอนก็คือชื่อของตำบลปาย ความรัก ก็คือคนที่ไปที่นั่นส่วนใหญ่ จะเป็นคนที่ค่อนข้างจะมีความรักอยู่ในตัว ไม่ว่าจะรักธรรมชาติ ความรักหลากหลาย และโลกร้อน แน่นอน เราต้องคำนึงถึงสิ่งนี้ด้วย ถ้าเราจะไปท่องเที่ยวเมืองปาย" ต้องตา เวชชะ กรรมการผู้จัดการบริษัทอาร์ต-โมทีฟ จำกัด กล่าวถึงที่มาของการจัดงานในครั้งนี้
"พูดถึงสถานที่การจัดงาน เราค่อนข้างโชคดี ที่เราได้จัดงานริมแม่น้ำปาย แล้วก็อยู่ในเมือง ถ้าเห็นแผนที่ ถ้าเรานึกถึงเมืองปายจะมีถนนคนเดิน บางคนอาจจะยังไม่เคยไป แต่ความที่เป็นถนนคนเดินคนจะไปรวมตัวอยู่ตรงนั้นมากที่สุด แล้วเดินต่อไปอีกนิดหนึ่งก็จะเป็นริมแม่น้ำปาย ซึ่งเราจะจัด ณ สถานที่ตรงนั้น"
ในส่วนของการจัดงานจะแบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเวทีหลักซึ่งมีจอหนังขนาดใหญ่ 9 x 12 เมตร เบื้องหลังจะเป็นภูเขา มีแม่น้ำอยู่ด้านข้าง แล้วก็จะมีในส่วนของมินิสเตจ มีจอหนังขนาด 6 x 9 เมตร แล้วก็มีโรงหนังที่เรียกว่าโรงหนังธรรมชาติ สร้างขึ้นมาใหม่ บรรจุคนได้ประมาณ 150 คน เป็นอินดอร์ ทั้ง 3 โรงเหล่านี้แต่ละที่จะเป็นไฮไลต์ในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ - เรียกได้ว่าไปสร้างโรงหนังที่นั่นกันเลยทีเดียว
"นอกจากดูหนังกลางแปลงแล้ว เรายังมีโรงหนังที่สร้างขึ้นมาใหม่ที่นั่นอีกด้วย เป็นโรงหนังธรรมชาติจริงๆ เพราะว่าไม่มีโรงหนังไหนในโลกแล้วที่มีอย่างนี้ เพราะแบ็คกราวนด์เป็นภูเขา ต้องไปดู ในส่วนของบรรยากาศที่เราจะไปจัดสร้างที่ปาย เราจะใช้ผ้าดิบกับโครงสร้างไม้ไผ่มาทำสี หลังคาเป็นแลนด์มาร์กทางเข้า จะเป็นลานวัฒนธรรมลานกิจกรรม มีแลนด์มาร์กสำหรับถ่ายรูป มีเวที มีกิจกรรม ซึ่งค่อนข้างวาไรตี้พอสมควร มีเวทีคอนเสิร์ตด้วย มีการจัดจำหน่ายอาหารในนั้นด้วย อยู่ในนั้นแล้วจะได้รับอรรถรสครบถ้วน"
ในส่วนของกิจกรรมต่าง ๆ นั้น ต้องตาบอกว่าจะมีการฉายหนังเฉลิมพระเกียรติในวันที่ 5 ธันวาฯ
"เราได้หนังค่อนข้างดี แล้วก็อยากให้ทุกคนได้ร่วมถวายพระพรด้วย นอกจากนั้นยังมีลานหนังลานวัฒนธรรม การฉายหนังสั้น การฉายหนังแอนิเมชั่นจาก SIPA (สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ) แล้วก็มีหนังไทยคลาสสิก กิจกรรมเสริมต่าง ๆ เหล่านี้มีสาระครบถ้วน แล้วก็มีในส่วนของนิสิตนักศึกษา ที่เข้าร่วมตอบรับในการทำเวิร์กชอปและทำหนังสั้นด้วย แล้วก็จะมีจากทาง SIPA เข้ามาร่วมด้วย และในส่วนของเมนสเตจจะมีไฮไลต์หนังสั้นจาก 10 ผู้กำกับชื่อดังเข้ามาร่วม แล้วก็จะมีคอนเสิร์ต นอกจากนั้นก็มีหนังยาว หนังดัง แล้วจะมีการฉายหนังสั้นผลงานนักศึกษา"
ตรงลานวัฒนธรรม นอกจากจะมีนิทรรศการแล้วยังมีเสวนาหนังไทยจากผู้กำกับที่เรียกได้ว่าเป็นตำนาน อย่าง ปยุต เงากระจ่าง, เปี๊ยก โปสเตอร์ บัณฑิต ฤทธิ์ถกล
ยินดีต้อนรับสู่เมืองเล็กๆ บูติกๆ กระจุ๋มกระจิ๋ม
นาย ธงชัย วงษ์เหรียญทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้ความเห็นเกี่ยวกับเมืองปายว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสำคัญ เมื่อปีที่แล้วมีการโหลดทางเว็บไซต์ จังหวัดแม่ฮ่องสอนติดอันดับ 3 ใน 10 ของแหล่งท่องเที่ยวที่ดีที่สุดของประเทศไทย สถานที่แรกที่ท่านผู้ว่าฯ บอกก็คือ ปางอุ๋ง อำเภอปาย และทุ่งดอกบัวตอง
"จากการที่ทาง บริษัทอาร์ต-โมทีฟ มาประสานสัมพันธ์ ผมก็เห็นชอบด้วย และเห็นว่าสถานที่ก็ต้องดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ ก็ได้ประสานกับ อำเภอปาย ตลอดจนนายกเทศมนตรี ที่จะให้ความร่วมมือร่วมใจกันดำเนินการในด้านนี้ พูดถึงอำเภอปาย ผมขอพูดถึงแม่ฮ่องสอนหน่อยนะครับ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นภาคเหนือตอนบนที่แตกต่างไปจากจังหวัดภาคเหนือของประเทศไทย เพราะว่า 7 จังหวัดภาคเหนือ ไม่ว่าจะเป็นเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง เขาเรียกว่าวัฒนธรรมล้านนา แต่จังหวัดแม่ฮ่องสอนนี้เป็นวัฒนธรรมแบบชาวไทยใหญ่ หรือชาวไต ถ้าใครไปหลวงพระบาง จะเห็นว่าอำเภอเมืองของแม่ฮ่องสอน จะมีธรรมชาติคล้ายหลวงพระบาง แต่วัฒนธรรมประเพณีของเราเป็นวัฒนธรรมประเพณีแบบไทยใหญ่ เหมือนรัฐฉานของพม่า
ที่มา http://www.manager.co.th/Daily/ViewN...=9510000135685
ปาย... เวอร์จิ้น
"ครั้งแรกที่ได้ยินก็นึกถึงเทศกาลหนังเมืองคานส์ แต่นี่มาเป็นเทศกาลหนังเมืองปาย มันสอดคล้องกันดี แล้วอีกเรื่องหนึ่งก็คือ ผมรู้สึกภูมิใจ ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้อยู่ที่เมืองปายหรือแม่ฮ่องสอนแต่ผมเกิดที่เชียงใหม่ เพราะฉะนั้นมันเป็นอะไรที่ใกล้บ้านเกิดผม เพียงแต่เป็นบ้านเกิด อายุได้ 2 ขวบผมก็มาอยู่กรุงเทพฯ แล้ว ก็ดีใจครับว่าถิ่นที่กำเนิดของเรามีเสน่ห์ ใครๆ ก็อยากจะไป" เปี๊ยก โปสเตอร์ ผู้กำกับรุ่นเก๋ากล่าวถึงเมืองปาย
"ผมก็เคยไปเมืองปาย ตอนผมไปนั้น เวอร์จิ้นมากๆ เวอร์จิ้นมากเลยนะครับ คือบริสุทธิ์ นั่นคือ 44 ปีที่แล้ว ผมทำหนังเรื่องโทน แล้วก็เป็นเรื่องแรก พอเรื่องที่ 2 ผมคิดว่าน่าจะไปใช้โลเกชั่นของบ้านเกิดเมืองนอนผมมาเป็นที่ถ่ายหนัง คือเรื่องดวง ก็ไปสำรวจโลเกชั่นที่นั่น โดยการเช่าเครื่องบิน 4 ที่นั่ง เครื่องบินเล็ก ตระเวนหาที่ถ่ายหนังจนไปถึงที่ปาย เสี่ยงชีวิตเหมือนกัน เรียกว่ามีหมอก มีแดด กว่าจะบินข้ามภูเขาได้ก็น่ากลัว แล้วไปลงที่สนามบินเมืองปาย เป็นสนามบินของเครื่องบินเล็ก มันลงเหมือนลงท้องนา ก็ได้ไปที่นั่นครั้งแรก"
ครั้งต่อมาที่ เปี๊ยก โปสเตอร์ ได้มีโอกาสไปเยือนเมืองปายก็คือตอนไปสำรวจโลเกชั่นถ่ายหนังเรื่องสุริโยไทของท่านมุ้ย (หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล) เป็นกองถ่ายกองที่ 2 ...
"อันนี้ปัจจุบันมาหน่อย คือเมื่อ 4 -5 ปีที่แล้ว ก็รู้สึกว่า โอ้โห ผิดหูผิดตาไปเยอะมากเลย หลายๆ อย่างก็ทันสมัยขึ้น แล้วขณะเดียวกัน วัฒนธรรมของเดิมก็ยังคงอยู่ เป็นอะไรที่ไม่จางหายไปจากโลกสมัยใหม่เท่าไหร่ ก็ดีครับ ได้เข้าไปดู ครั้งแรกผมลงเครื่องบินแล้วก็ไม่ได้ลงไปไหน อยู่แถวนั้นนะครับ แล้วก็บินกลับมา เพราะว่าตอนนั้นยังไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ แต่ครั้งที่สองไปสำรวจโลเกชั่นที่จะถ่ายสุริโยไทก็เห็นว่าอันนี้อวดชาวบ้านเขาได้เลย ก็ดีใจครับ ที่คราวนี้จะได้ไปฟรี (หัวเราะ) พวกบ้านชาวเขาที่เขาอยู่ตามริมเขาก็ยังอยู่เหมือนเดิม ยังสวยอยู่ วัฒนธรรมการแต่งตัวของเขาก็ยังเป็นอะไรที่น่าสนใจ แปลกหูแปลกตาอยู่เยอะ น่าที่จะได้เปิดโอกาสให้ชาวต่างประเทศได้เข้ามาพบเห็น ผมว่าเขาจะประทับใจมากครับ"
ที่มา http://www.manager.co.th/Daily/ViewN...=9510000135685
อยากปาย อยากปายยยยยยย......
แต่คิวไม่ว่างเลยอะ
เวิคๆครับ แต่คงไม่ไหว หนาวจัดเป็นคนขาดความอบอุ่นอยู่แล้วครับ ไปเจอหนาวๆเดี๋ยวจะตายก่อน 555+
สิ้นปีเจอกันครับที่ "ปาย"
ใครผ่านมาหน้าบ้านอย่าลืมกริ้งๆมานะครับ
ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)
Bookmarks