จากข้อมูล องค์การการบินและอวกาศแห่งสหรัฐอเมริกา (นาซา) บอกว่า มีความเป็นไปได้ที่ อุกาบาตเอจี 5ขนาดความกว้าง 460 ฟุต หรือ 140 เมตรจะพุ่งชนโลกในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2583 ซึ่งอาจจะทำให้เกิดวิบัติภัยร้ายแรงต่อสิ่งมีชีวิตบนโลก หรือที่เรียกว่า วันสิ้นโลก จากการประเมิณของ นักวิทยาศาสตร์ขององค์การนาซา หาก อุกาบาตเอจี 5 นี้พุ่งชนสถานที่ชุมชนบนพื้นโลก จะทำให้มีการเสียชีวิตผู้คนนับล้านและมนุษย์ส่วนใหญ่ จะยังคงมีชีวิตอยู่ต่อไปได้บนโลกใบนี้
รายละเอียด 2583 อุกาบาตเอจี 5 ชนโลก
หน่วยปฏิบัติการวัตถุใกล้โลก ยูเอ็น ติดตามความเคลื่อนไหวและ หาวิธีเบี่ยงเบนวงโคจรของ ของ อุกาบาตเอจี 5 ตั้งแต่ปี 2554
มีความเป็นไปได้ 1 ใน 625 ที่ อุกาบาตเอจี 5 จะพุ่งชนโลกใน 30 ปีข้างหน้า
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า ในช่วงปี 2556-2559 จะสามารถตรวจสอบติดตามความเคลื่อนไหวของ อุกกาบาตเอจี 5 ได้มากขึ้น เพื่อประเมินและป้องกันวิบัติภัย ที่อาจจะเกิดขึ้นจาก อุกาบาตเอจี 5 นี้
คาดว่า อุกาบาตเอจี 5 พุ่งชนโลกก่อนปี 2566 ซึ่งเป็นช่วงที่ อุกาบาตเอจี 5 จะโคจรเฉียดโลกมากที่สุดก่อนที่จะเปลี่ยนวิถีโคจรพุ่งชนโลกในที่สุด
อุกาบาตเอจี 5 มีขนาดกลาง ที่มีความกว้างระหว่าง 110 เมตรถึง 1,100 เมตร ประมาณ 19,000 ดวงโคจรในระยะ 192 ล้านกิโลเมตรรอบโลก
ในเวลานี้ อุกาบาตเอจี 5 โคจรห่างจากโลกประมาณ 0.02 หน่วยดาราศาสตร์ หรือ 2.976 ล้านกิโลเมตร
ปี 2579 อุกาบาตอะโพฟิส ที่มีขนาดความกว้างเท่ากับสนามฟุตบอลสองสนาม จะโคจรเฉียดใกล้โลกที่ระยะห่าง 2.92 หมื่นกิโลเมตร สามารถมองเห็นได้ในพื้่นที่ส่วนใหญ่ของยุโรป แอฟริกา และ เอเชีย ซึ่งนักวิทยาศาสตร์จะได้โอกาสศึกษา
ข้อมูลจาก ห้องปฏิบัติการขับเคลื่อนพลังเจ็ท (เจพีแอล) ของ นาซา ประเมินว่าวิธีการที่ดีที่สุด ที่จะเบี่ยงเบนวงโคจรของ อุกาบาตเอจี 5 นี้คือ การใช้ยานอวกาศผลักดันให้ อุกาบาตเอจี 5 ออกไปห่างจากโลกอีกหลายล้านปีแสง ส่วนทางเลือกอีกทางหนึ่งคือ การใช้ยานอวกาศพุ่งชน อุกาบาตเอจี 5 เพื่อให้ผลในลักษณะเดียวกัน หรือ ใช้หัวรบนิวเคลียร์ ยิงทำลาย อุกาบาตเอจี 5 อีกด้วย แต่ก็สรุปว่า วิธีดังกล่าวจะทำให้อุกาบาตแตกออกเป็นเสี่ยงๆกระจายตัวออกไป ซึ่งอาจจะควบคุมวิถีโคจรได้ยาก
นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า อุกาบาตเอจี 5 มีขนาดเล็กกว่า อุกาบาตที่พุ่งชนโลกเมื่อ 65 ล้านปีก่อน ที่ทำให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ โดยดาวเคราะห์น้อยดวงนั้นมีขนาดความกว้าง 14.4 กิโลเมตร พุ่งชนโลกด้วยความเร็วกว่า 20 เท่าของกระสุน ความแรงของการพุ่งชนก่อให้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 10 ริกเตอร์ ทั้งยัง กระตุ้นให้ภูเขาไฟเหลือคนานับ ปะทุขึ้นพร้อมๆกัน พ่นเถ้าถ่านขึ้นปกคลุมชั้นบรรยากาศจนแสงอาทิตย์ไม่สามารถผ่านลงมาได้ ทำให้พืชไม่สามารถสังเคราะห์แสง และส่งผลให้ไดโนเสาร์และสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นขาดแคลนอาหารจนสุญพันธุ์ในที่ สุด
ที่มาเนื้อหาและภาพประกอบ : postjung.com
หมายเหตุ : กว่าจะถึง ณ วันนั้น ผมคงไปนอนคุยกะรากมะม่วงไปแล้วมั้งครับ อีกตั้ง สามสิบปี
Bookmarks