สรุปผลการค้นหา 1 ถึง 9 จากทั้งหมด 9

กระทู้: เทอร์โบ

  1. #1
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Jun 2009
    User ID
    7195
    Status
    Offline
    โพส
    510

    มาตรฐาน เทอร์โบ

    เทอร์โบ ซูเปอร์ชาร์จเจอร์ คอมเพรสเซอร์

    สำหรับรถยนต์ : ทุ่กยี่ห้อ


    วันหนึ่งขณะขับรถอยู่บนทางด่วน การจราจรโล่งๆ วิ่งอยู่เลนขวาด้วยความเร็วพอที่ตำรวจจะกวักมือทักทายได้ จู่ๆ ก็มีรถกระบะคันยักษ์วิ่งมาจ่อตู๊ด... แล้วเราก็ต้องหลบซ้ายให้ตามมารยาทผู้ดีๆ แล้วมันก็แซงไปแบบชิวๆ... เหตุการเช่นนี้อาจทำให้เหล่าบรรดาคนขับรถเก๋ง รู้สึกเสียฟอร์มหน่อยๆ แต่ก็ต้องยอมรับโดยละม่อมเพราะนี่มันไม่ใช่ยุคก่อนแล้ว... สมัยนี้รถกระบะเค้าติดเทอร์โบแล้ว แรงกันเหลือๆ

    ว่าแต่ว่าไอ้เจ้าเทอร์โบเนี่ย... มันมีดีอะไร ทำไมมันถึงทำให้รถกระบะหนักๆ วิ่งได้ขนาดนั้นนะ เรามารู้จักเจ้าหอยตัวน้อยๆ นี้กันซักหน่อยดีกว่า ว่าทำไม เวลามันเข้าไปเกาะบนเครื่องยนต์แล้ว ถึงสามารถดูดเอากำลังภายในให้เพิ่มขึ้นได้มากมายนัก แล้วมันมีกันกี่พันธุ์ กี่ชนิด กี่แบบ จากนั้นก็แว๊บๆ ไปดูอุปกรณ์ อื่นๆ ที่ใช้ประกอบการปล่อยพลังในการนี้ด้วย

    หลักง่ายๆ ระเบิดให้แรงที่สุด

    เป็นที่รู้กันเรื่องเครื่องยนต์สันดาปภายในว่า มันก็คือการทำงานของระเบิดที่เข้าจังหวะนี่เอง ยิ่งระเบิดได้แรง ก็ยิ่งทำให้เครื่องยนต์มีกำลังขึ้น และปัจจัยสำคัญที่ทำให้ การระเบิดในห้องเผาไหม้รุนแรงก็คือ ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงนั่นเอง ยิ่งมากก็ยิ่งระเบิดได้แรง แต่ถ้าน้ำมันเชื้อเพลิงมากแต่ไม่มีอากาศเข้าไปด้วยก็ไม่รู้จะเอาออกซิเจนที่ไหน ไประเบิด ดังนั้นการอัดอากาศก็คือหน้าที่ของเทอร์โบนี่เองไง

    โดยการสร้างแรงดันในท่อไอดี

    ในเครื่องยนต์ปกติ การนำเข้าไอดีเพื่อนำมาระเบิดในห้องเผาไหม้นั้น จะใช้แรงดูดที่เกิดจากการเคลื่อนที่ลงของลูกสูบ เหมือนกับดูดยาน้ำเข้าในหลอดฉีดยาเลย พลังดูดก็มีมากพอสมควรอยู่แล้ว แต่เมื่อแปะเทอร์โบเข้าไปแล้ว มันจะทำหน้าที่อัดแรงดันเข้าไปในท่อไอดีเพิ่มเข้าไปอีก มากกว่าแรงดูดจากลูกสูบอีกมาก นั่นก็แปลว่า ไอดีก็จะถูกอัดเข้าไปเต็มกระบอกสูบแบบแน่นสุดๆ... เมื่อวาล์วปิด ลูกสูบดันกลับขึ้นมาอัดซ้ำเข้าไปอีก แล้วหัวเทียนก็จุดระเบิด (หรือร้อนจนระเบิดในระบบดีเซล) คราวนี้ก็ตูม!! เลย แรงเลย

    ด้วยกลไลฉลาดๆ

    กลไลภายในเป็นเสน่ห์ของระบบนี้มักๆ เพราะมันไม่ต้องใช้ไฟฟ้า ไม่ต้องใช้สายพานพ่วงกับเครื่อง ไม่มีสลิง ไม่มีสตันท์แมนอะไรทั้งนั้น การทำงานเกิดจากการดักเอา ลมไอเสียของเครื่องยนต์ด้วยใบพัดอันนึง แล้วก็มาปั่นใบพัดอีกใบที่อยู่บนแกนหมุนเดียวกัน ให้ดูดลมเข้าไปในท่อไอดี จากในรูปที่เอามาจากเว็บไซท์ของผู้ผลิตเทอร์โบ ยี่ห้อแกแรต เราก็สามารถเข้าใจได้โดยง่ายตามนี้เลย



    ที่จุด A กับ B ก็คือตัวเทอร์โบทั้งลูกซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่ง A ก็คือฝั่งที่รับแรงดันลมจากท่อไอเสีย เมื่อใบพัด(สีเทา) ฝั่ง A หมุน ใบพัดฝั่ง B ก็หมุนตามไฟด้วย และดูด อัดลมเข้าไปในท่อ เมื่อลมถูกอัดแรงๆ อุณหภูมิของลมจะสูงขึ้น ดังนั้นลมที่ถูกอัดแล้วจึงถูกนำไปผ่านตัวระบายความร้อนจุด C หรือที่เค้าเรียกกันว่า อินเตอร์คูลเลอร์ เพื่อลด อุณหภูมิของอากาศซะก่อน (อากาศยิ่งเย็น มวลอากาศต่อ 1 หน่วยปริมาตรก็จะยิ่งมากขึ้นด้วย ยิ่งอัดอากาศเข้าไปได้มาก)

    จากนั้นอากาศอัดก็จะถูกอัดเข้าห้องเผาไหม้ไปพร้อมๆ กับไอน้ำมัน เข้าไประเบิดกันอย่างรุนแรงข้างใน แล้วก็เป็นไอเสียที่มีแรงดันมากขึ้น แล้วออกมาปั่นใบพัดฝั่ง A อีก เป็นอย่างงี้ไปเรื่อยๆ นั่นเอง วนไปก็วนมา โดยส่วนใหญ่แล้วเทอร์โบสามารถอัดอากาศ(บูส) ได้อีก 6-8 psi (ปอนด์ต่อตารางนิ้ว) เทียบกับบรรยากาศ ณ ระดับน้ำทะเล ซึ่งเท่ากับ 14.7 psi ก็จะเห็นได้ว่า เทอร์โบสามารถอัดอากาศเข้าห้องเผาไหม้ได้มากกว่าบรรยากาศปกติอีก 50%

    ปัญหานิดหน่อย

    ก็ตอนที่เริ่มเหยียบเร่งเครื่องนั่นแหละ เนื่องจากแรงปั่นเทอร์โบก็ต้องมาจากแรงพ่นลมจากช่องไอเสีย ตอนก่อนเร่งเครื่อง ลมจากท่อไอเสียมันก็ยังไม่แรงแต่มันต้องไปปั่น ใบพัด A ซึ่งเป็นตัวใบพัดเองก็เป็นตัวต้านลมในตอนแรก ใบพัด (B) ก็เลยยังไม่สามารถอัดลมเข้าท่อไอดีได้มากนัก ก็เลยมีอาการรอให้รอบเครื่องสูงซักระดับนึงก่อน เทอร์โบจึงจะสามารถเริ่มอัดลมได้ดี หรือเค้าเรียกๆกันว่า อาการรอรอบหรือ เทอร์โบแลค

    ถ้างั้นก็ปรับใบพัดให้รับลมได้มากๆ ตั้งแต่รอบเบาๆ เลยซิ... ก็ได้นะ แต่ลองนึกถึงตอนเราเร่งรอบสูงปรี๊ดซิ.. เครื่องจะการจายไหม๊เนี่ย... จากปัญหาที่ว่าก็เลยเกิดเทคโนโลยี ในการแก้อาการรอรอบออกมาอีกหลากหลายอย่าง ดังนี้เลยล่ะ

    1. เทอร์โบรอบต่ำ อันนี้เป็นเทอร์โบสำหรับทำงานในรอบต่ำๆ เท่านั้น เพื่อเพิ่มกำลังที่รอบต่ำ ออกตัวดีต้นจี๊ดจ๊าด แต่จะถูกตัดการทำงานในรอบเครื่องสูงๆ
    2. ทวินเทอร์โบ เป็นการใช้เทอร์โบ 2 ตัว 2 ขนาด ตัวเล็กกว่าเอาไว้ใช้ในรอบต่ำ แต่พอรอบสูงก็จะเปลี่ยนให้ตัวใหญ่กว่าทำงานแทน
    3. ไบเทอร์โบ เป็นการใช้เทอร์ขนาดเท่าๆ กัน 2 ตัว มักใช้กับเครื่องยนต์ที่ไม่ใช่แถวเรียง เนื่องจากท่อไอเสียจะออกมา 2 ทาง
    4. เทอร์โบแปรผัน เป็นเทอร์โบตัวเดียวแต่ใบพัดปรับมุมได้ ทำให้ปรับการกินลมได้ ใช้ได้ดีทั้งรอบสูงและรอบต่ำ... เจ๋งงง...

    แล้วซูเปอร์ชาร์จมันคือเทอร์โบแบบนึงอ่ะป่าว

    ซูเปอร์ชาร์จหรือที่เมอร์ซิเดนส์ เบนซ์ เค้าเรียกของเค้าว่า คอมเพรสเซอร์ (Kompressor) ก็มีหลักการแบบเดียวกับเทอร์โบ คือ การอัดอากาศ แต่ที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดก็คือแทนที่จะใช้ลมไอเสียมาปั่นใบพัด กลับใช้พลังจากเครื่องมาปั่นซะเลย แรงดี โดยการเอาสายพานมาพ่วงกับเครื่องยนต์ซะงั้นเลย แต่ใบพัดที่ทำหน้าที่อัดอากาศเข้าห้องเผาไหม้นั้นก็มีหลายลักษณะ หลักๆ ก็มีอยู่ 3 แบบคือ

    A. ทวินสกูว์ (Twin-screw Supercharger) มีลักษณะเป็นแท่งเกลียว 2 แท่งที่มีรูปร่างรับกัน อากาศเข้าที่ต้นทางแล้วก็ถูกอัดออกไปทางด้านหลังลงไปด้านล่าง



    B. เซนทริฟูกัล (Centrifugal Supercharger) แบบนี้เหมือนกับเทอร์โบเลย
    C. รูทส์ (Roots Supercharger) มีลักษณะเป็นใบพัดแท่ง 2 แท่งหมุนเข้าหากันเพื่ออัดอากาศลงห้องเผาไหม้ทางด้านล่าง และจะถูกติดตั้งอยู่เหนือเครื่องยนต์



    2 อุปกรณ์ ที่มักจะได้ยินพร้อมกับคำว่าเทอร์โบ

    โบลออฟ วาล์ว (BOV: Blow-Off Valve) เป็นอุปกรณ์ที่ถูกติดตั้งอยู่ที่ท่อทางเข้าไอดี ที่มาจากเทอร์โบ เพื่อทำหน้าที่ป้องกันการไหลย้อนกลับ... ของแรงอัดที่เทอร์โบอัดมา เพราะในขณะที่เร่งเครื่อง ปีกผีเสื้อ(วาล์วที่คุมการไหลของไอดี) เปิด อากาศที่ถูกอัดก็จะไหลเข้าไปตามปกติ แต่ในขณะที่เราถอดคันเร่งเร็วๆ ปีกผีเสื้อปิดอย่างรวดเร็ว ทำให้ อากาศที่เทอร์โบอัดมาให้... มันไม่มีทางจะไป ก็เลยต้องย้อนกลับและแรงที่เกิดขึ้นนี้ก็มากพอที่จะทำร้ายเทอร์โบได้

    แต่ถ้ามีเจ้าโบลออฟติดตั้งอยู่ระหว่างทางนั้น พอแรงดันมากมันก็จะดันให้วาล์วตัวนี้เปิดออก ปล่อยแรงดันออกไปจากระบบนั่นเอง แต่รับประกันได้เลยว่าเรื่องความปลอดภัยของ เทอร์โบนั้นไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้บรรดานักแต่งรถยอมจ่ายตังค์ติดตั้งมัน แต่สิ่งที่ทำให้เค้าตัดสินใจซื้อคือเวลามันโบลออกมาเนี่ย... เสียงมันช่างไพเราะพริ้งซะจริงๆ



    เวสเกตท์ (WasteGates) เป็นอุปกรณ์ที่ทำงานแบบเดียวกันกับโบวออฟวาล์วแต่อยู่คนละฝั่ง (ฝั่งใบพัดที่รับไอเสีย) และมีจุดประสงค์ที่มากกว่า กล่าวคือ นอกจากจะ ป้องกันเครื่องยนต์และเทอร์โบไม่ให้เสียหายจากการไหลย้อนกลับของไอเสียแล้ว มันยังทำหน้าที่คุมแรงดันของไอเสียก่อนเข้าไปหมุนใบพัดเพื่อคุมความเร็วในการหมุนใบพัด ซึ่งเป็นการคุมกำลังอัดของเทอร์โบให้ตรงตามที่เครื่องยนต์ต้องการในทุกสถานการณ์

  2. #2
    kobiekung
    ผู้เยี่ยมชม

    มาตรฐาน Re: เทอร์โบ

    เก็บความรู้คับ

  3. #3
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Jan 2008
    User ID
    957
    Status
    Offline
    โพส
    3,555

    มาตรฐาน Re: เทอร์โบ

    แหล่มๆครับ ขอบคุณมากมายครับ

  4. #4
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Jan 2008
    User ID
    483
    Status
    Offline
    โพส
    203

    มาตรฐาน Re: เทอร์โบ

    ขอบคุณครับ
    จบแล้วเหรอ กำลังอ่านเพลินๆ

  5. #5
    สมาชิกถาวร: TTC-00434 TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Sep 2008
    User ID
    3623
    Status
    Offline
    โพส
    5,626

    มาตรฐาน ตอบ: เทอร์โบ

    ขอขุดออกมาโชว์ ไว้ศึกษาหาความรู้กัน

  6. #6
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Mar 2009
    User ID
    5610
    Status
    Offline
    โพส
    324

    มาตรฐาน ตอบ: เทอร์โบ

    ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเยอะเลยครับ ขอบคุณครับ

  7. #7
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Apr 2011
    User ID
    17016
    Status
    Offline
    โพส
    4,974

    มาตรฐาน ตอบ: เทอร์โบ

    ขอบคุณครับ

  8. #8
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    May 2011
    User ID
    17653
    Status
    Offline
    โพส
    42

    มาตรฐาน ตอบ: เทอร์โบ

    ขอขอบคุณข้อมูลอันเป็นประโยชน์ครับ..

  9. #9
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Oct 2010
    User ID
    13975
    Status
    Offline
    โพส
    83

    มาตรฐาน ตอบ: เทอร์โบ

    อ้างอิง โพสต้นฉบับโดยคุณ S.one ดูโพส
    เทอร์โบ ซูเปอร์ชาร์จเจอร์ คอมเพรสเซอร์

    สำหรับรถยนต์ : ทุ่กยี่ห้อ


    วันหนึ่งขณะขับรถอยู่บนทางด่วน การจราจรโล่งๆ วิ่งอยู่เลนขวาด้วยความเร็วพอที่ตำรวจจะกวักมือทักทายได้ จู่ๆ ก็มีรถกระบะคันยักษ์วิ่งมาจ่อตู๊ด... แล้วเราก็ต้องหลบซ้ายให้ตามมารยาทผู้ดีๆ แล้วมันก็แซงไปแบบชิวๆ... เหตุการเช่นนี้อาจทำให้เหล่าบรรดาคนขับรถเก๋ง รู้สึกเสียฟอร์มหน่อยๆ แต่ก็ต้องยอมรับโดยละม่อมเพราะนี่มันไม่ใช่ยุคก่อนแล้ว... สมัยนี้รถกระบะเค้าติดเทอร์โบแล้ว แรงกันเหลือๆ

    ว่าแต่ว่าไอ้เจ้าเทอร์โบเนี่ย... มันมีดีอะไร ทำไมมันถึงทำให้รถกระบะหนักๆ วิ่งได้ขนาดนั้นนะ เรามารู้จักเจ้าหอยตัวน้อยๆ นี้กันซักหน่อยดีกว่า ว่าทำไม เวลามันเข้าไปเกาะบนเครื่องยนต์แล้ว ถึงสามารถดูดเอากำลังภายในให้เพิ่มขึ้นได้มากมายนัก แล้วมันมีกันกี่พันธุ์ กี่ชนิด กี่แบบ จากนั้นก็แว๊บๆ ไปดูอุปกรณ์ อื่นๆ ที่ใช้ประกอบการปล่อยพลังในการนี้ด้วย

    หลักง่ายๆ ระเบิดให้แรงที่สุด

    เป็นที่รู้กันเรื่องเครื่องยนต์สันดาปภายในว่า มันก็คือการทำงานของระเบิดที่เข้าจังหวะนี่เอง ยิ่งระเบิดได้แรง ก็ยิ่งทำให้เครื่องยนต์มีกำลังขึ้น และปัจจัยสำคัญที่ทำให้ การระเบิดในห้องเผาไหม้รุนแรงก็คือ ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงนั่นเอง ยิ่งมากก็ยิ่งระเบิดได้แรง แต่ถ้าน้ำมันเชื้อเพลิงมากแต่ไม่มีอากาศเข้าไปด้วยก็ไม่รู้จะเอาออกซิเจนที่ไหน ไประเบิด ดังนั้นการอัดอากาศก็คือหน้าที่ของเทอร์โบนี่เองไง

    โดยการสร้างแรงดันในท่อไอดี

    ในเครื่องยนต์ปกติ การนำเข้าไอดีเพื่อนำมาระเบิดในห้องเผาไหม้นั้น จะใช้แรงดูดที่เกิดจากการเคลื่อนที่ลงของลูกสูบ เหมือนกับดูดยาน้ำเข้าในหลอดฉีดยาเลย พลังดูดก็มีมากพอสมควรอยู่แล้ว แต่เมื่อแปะเทอร์โบเข้าไปแล้ว มันจะทำหน้าที่อัดแรงดันเข้าไปในท่อไอดีเพิ่มเข้าไปอีก มากกว่าแรงดูดจากลูกสูบอีกมาก นั่นก็แปลว่า ไอดีก็จะถูกอัดเข้าไปเต็มกระบอกสูบแบบแน่นสุดๆ... เมื่อวาล์วปิด ลูกสูบดันกลับขึ้นมาอัดซ้ำเข้าไปอีก แล้วหัวเทียนก็จุดระเบิด (หรือร้อนจนระเบิดในระบบดีเซล) คราวนี้ก็ตูม!! เลย แรงเลย

    ด้วยกลไลฉลาดๆ

    กลไลภายในเป็นเสน่ห์ของระบบนี้มักๆ เพราะมันไม่ต้องใช้ไฟฟ้า ไม่ต้องใช้สายพานพ่วงกับเครื่อง ไม่มีสลิง ไม่มีสตันท์แมนอะไรทั้งนั้น การทำงานเกิดจากการดักเอา ลมไอเสียของเครื่องยนต์ด้วยใบพัดอันนึง แล้วก็มาปั่นใบพัดอีกใบที่อยู่บนแกนหมุนเดียวกัน ให้ดูดลมเข้าไปในท่อไอดี จากในรูปที่เอามาจากเว็บไซท์ของผู้ผลิตเทอร์โบ ยี่ห้อแกแรต เราก็สามารถเข้าใจได้โดยง่ายตามนี้เลย



    ที่จุด A กับ B ก็คือตัวเทอร์โบทั้งลูกซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่ง A ก็คือฝั่งที่รับแรงดันลมจากท่อไอเสีย เมื่อใบพัด(สีเทา) ฝั่ง A หมุน ใบพัดฝั่ง B ก็หมุนตามไฟด้วย และดูด อัดลมเข้าไปในท่อ เมื่อลมถูกอัดแรงๆ อุณหภูมิของลมจะสูงขึ้น ดังนั้นลมที่ถูกอัดแล้วจึงถูกนำไปผ่านตัวระบายความร้อนจุด C หรือที่เค้าเรียกกันว่า อินเตอร์คูลเลอร์ เพื่อลด อุณหภูมิของอากาศซะก่อน (อากาศยิ่งเย็น มวลอากาศต่อ 1 หน่วยปริมาตรก็จะยิ่งมากขึ้นด้วย ยิ่งอัดอากาศเข้าไปได้มาก)

    จากนั้นอากาศอัดก็จะถูกอัดเข้าห้องเผาไหม้ไปพร้อมๆ กับไอน้ำมัน เข้าไประเบิดกันอย่างรุนแรงข้างใน แล้วก็เป็นไอเสียที่มีแรงดันมากขึ้น แล้วออกมาปั่นใบพัดฝั่ง A อีก เป็นอย่างงี้ไปเรื่อยๆ นั่นเอง วนไปก็วนมา โดยส่วนใหญ่แล้วเทอร์โบสามารถอัดอากาศ(บูส) ได้อีก 6-8 psi (ปอนด์ต่อตารางนิ้ว) เทียบกับบรรยากาศ ณ ระดับน้ำทะเล ซึ่งเท่ากับ 14.7 psi ก็จะเห็นได้ว่า เทอร์โบสามารถอัดอากาศเข้าห้องเผาไหม้ได้มากกว่าบรรยากาศปกติอีก 50%

    ปัญหานิดหน่อย

    ก็ตอนที่เริ่มเหยียบเร่งเครื่องนั่นแหละ เนื่องจากแรงปั่นเทอร์โบก็ต้องมาจากแรงพ่นลมจากช่องไอเสีย ตอนก่อนเร่งเครื่อง ลมจากท่อไอเสียมันก็ยังไม่แรงแต่มันต้องไปปั่น ใบพัด A ซึ่งเป็นตัวใบพัดเองก็เป็นตัวต้านลมในตอนแรก ใบพัด (B) ก็เลยยังไม่สามารถอัดลมเข้าท่อไอดีได้มากนัก ก็เลยมีอาการรอให้รอบเครื่องสูงซักระดับนึงก่อน เทอร์โบจึงจะสามารถเริ่มอัดลมได้ดี หรือเค้าเรียกๆกันว่า อาการรอรอบหรือ เทอร์โบแลค

    ถ้างั้นก็ปรับใบพัดให้รับลมได้มากๆ ตั้งแต่รอบเบาๆ เลยซิ... ก็ได้นะ แต่ลองนึกถึงตอนเราเร่งรอบสูงปรี๊ดซิ.. เครื่องจะการจายไหม๊เนี่ย... จากปัญหาที่ว่าก็เลยเกิดเทคโนโลยี ในการแก้อาการรอรอบออกมาอีกหลากหลายอย่าง ดังนี้เลยล่ะ

    1. เทอร์โบรอบต่ำ อันนี้เป็นเทอร์โบสำหรับทำงานในรอบต่ำๆ เท่านั้น เพื่อเพิ่มกำลังที่รอบต่ำ ออกตัวดีต้นจี๊ดจ๊าด แต่จะถูกตัดการทำงานในรอบเครื่องสูงๆ
    2. ทวินเทอร์โบ เป็นการใช้เทอร์โบ 2 ตัว 2 ขนาด ตัวเล็กกว่าเอาไว้ใช้ในรอบต่ำ แต่พอรอบสูงก็จะเปลี่ยนให้ตัวใหญ่กว่าทำงานแทน
    3. ไบเทอร์โบ เป็นการใช้เทอร์ขนาดเท่าๆ กัน 2 ตัว มักใช้กับเครื่องยนต์ที่ไม่ใช่แถวเรียง เนื่องจากท่อไอเสียจะออกมา 2 ทาง
    4. เทอร์โบแปรผัน เป็นเทอร์โบตัวเดียวแต่ใบพัดปรับมุมได้ ทำให้ปรับการกินลมได้ ใช้ได้ดีทั้งรอบสูงและรอบต่ำ... เจ๋งงง...

    แล้วซูเปอร์ชาร์จมันคือเทอร์โบแบบนึงอ่ะป่าว

    ซูเปอร์ชาร์จหรือที่เมอร์ซิเดนส์ เบนซ์ เค้าเรียกของเค้าว่า คอมเพรสเซอร์ (Kompressor) ก็มีหลักการแบบเดียวกับเทอร์โบ คือ การอัดอากาศ แต่ที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดก็คือแทนที่จะใช้ลมไอเสียมาปั่นใบพัด กลับใช้พลังจากเครื่องมาปั่นซะเลย แรงดี โดยการเอาสายพานมาพ่วงกับเครื่องยนต์ซะงั้นเลย แต่ใบพัดที่ทำหน้าที่อัดอากาศเข้าห้องเผาไหม้นั้นก็มีหลายลักษณะ หลักๆ ก็มีอยู่ 3 แบบคือ

    A. ทวินสกูว์ (Twin-screw Supercharger) มีลักษณะเป็นแท่งเกลียว 2 แท่งที่มีรูปร่างรับกัน อากาศเข้าที่ต้นทางแล้วก็ถูกอัดออกไปทางด้านหลังลงไปด้านล่าง



    B. เซนทริฟูกัล (Centrifugal Supercharger) แบบนี้เหมือนกับเทอร์โบเลย
    C. รูทส์ (Roots Supercharger) มีลักษณะเป็นใบพัดแท่ง 2 แท่งหมุนเข้าหากันเพื่ออัดอากาศลงห้องเผาไหม้ทางด้านล่าง และจะถูกติดตั้งอยู่เหนือเครื่องยนต์



    2 อุปกรณ์ ที่มักจะได้ยินพร้อมกับคำว่าเทอร์โบ

    โบลออฟ วาล์ว (BOV: Blow-Off Valve) เป็นอุปกรณ์ที่ถูกติดตั้งอยู่ที่ท่อทางเข้าไอดี ที่มาจากเทอร์โบ เพื่อทำหน้าที่ป้องกันการไหลย้อนกลับ... ของแรงอัดที่เทอร์โบอัดมา เพราะในขณะที่เร่งเครื่อง ปีกผีเสื้อ(วาล์วที่คุมการไหลของไอดี) เปิด อากาศที่ถูกอัดก็จะไหลเข้าไปตามปกติ แต่ในขณะที่เราถอดคันเร่งเร็วๆ ปีกผีเสื้อปิดอย่างรวดเร็ว ทำให้ อากาศที่เทอร์โบอัดมาให้... มันไม่มีทางจะไป ก็เลยต้องย้อนกลับและแรงที่เกิดขึ้นนี้ก็มากพอที่จะทำร้ายเทอร์โบได้

    แต่ถ้ามีเจ้าโบลออฟติดตั้งอยู่ระหว่างทางนั้น พอแรงดันมากมันก็จะดันให้วาล์วตัวนี้เปิดออก ปล่อยแรงดันออกไปจากระบบนั่นเอง แต่รับประกันได้เลยว่าเรื่องความปลอดภัยของ เทอร์โบนั้นไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้บรรดานักแต่งรถยอมจ่ายตังค์ติดตั้งมัน แต่สิ่งที่ทำให้เค้าตัดสินใจซื้อคือเวลามันโบลออกมาเนี่ย... เสียงมันช่างไพเราะพริ้งซะจริงๆ



    เวสเกตท์ (WasteGates) เป็นอุปกรณ์ที่ทำงานแบบเดียวกันกับโบวออฟวาล์วแต่อยู่คนละฝั่ง (ฝั่งใบพัดที่รับไอเสีย) และมีจุดประสงค์ที่มากกว่า กล่าวคือ นอกจากจะ ป้องกันเครื่องยนต์และเทอร์โบไม่ให้เสียหายจากการไหลย้อนกลับของไอเสียแล้ว มันยังทำหน้าที่คุมแรงดันของไอเสียก่อนเข้าไปหมุนใบพัดเพื่อคุมความเร็วในการหมุนใบพัด ซึ่งเป็นการคุมกำลังอัดของเทอร์โบให้ตรงตามที่เครื่องยนต์ต้องการในทุกสถานการณ์
    แล้วถ้าผมอยากติดเทอร์โบตัวนี้ ต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ครับ แล้วพอจะมีร้านแนะนำมั้ยครับ ผมอยู่ชลบุรี
    รถผมเป็น Plus 4D เบนซิน ติด LPG แล้วครับ

ข้อมูลกระทู้

Users Browsing this Thread

ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)

กระทู้ที่คล้ายกัน

  1. เทอร์โบ Triton plus
    โพสโดย mopzeez ในฟอรั่ม TRITON PLUS
    ตอบกลับ: 4
    โพสล่าสุด: 05-05-2009, 17:47
  2. เทอร์โบ ไทม์เมอร์ มีกี่แบบ
    โพสโดย wong2737 ในฟอรั่ม TRITON PLUS
    ตอบกลับ: 4
    โพสล่าสุด: 12-01-2009, 23:56

Bookmarks

กฎการโพสข้อความ

  • ท่าน ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
  • ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
  • ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขข้อความโพสได้
  •  
  • BB code สถานะ เปิด
  • Smilies สถานะ เปิด
  • [IMG] สถานะ เปิด
  • [VIDEO] code is เปิด
  • HTML สถานะ ปิด