เสวนาภาษาฟุตบอลโลก ร่วมสนุกตอบคำถามกับ Aeroklas

[Aeroklas]

กาก้า เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติบราซิล ของ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ทีมยักษ์ใหญ่ของสเปน ไม่ขอพูดอะไรมากกับใบแดงที่ได้มา ในเกมฟุตบอลโลก 2010 นัดล่าสุด ที่ บราซิล ถล่ม ไอวอรี่โคสต์ 3-1 ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายแน่นอนแล้ว วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยบอกให้ไปดูภาพจากทีวี แล้วตัดสินเอาเอง
ซูเปอร์สตาร์แซมบ้า โดนผู้ตัดสินควักใบเหลืองที่ 2 แจกให้ในช่วง 5 นาทีสุดท้าย จากจังหวะยกแขนกางศอกใส่ กาแดร์ เกติต้า ที่แสร้งลงไปนอนเอามือกุมหน้าด้วยความเจ็บปวด ทั้งๆ ที่ดูภาพช้าแล้วไม่น่ามีอะไรมาก โดย กาก้า กล่าวว่า "ผมไม่ได้ลงไปหาเรื่อง หรืออะไร ภาพบ่งบอกตัวมันเองได้ดีแล้ว ผมได้รับข้อความให้กำลังใจเยอะแยะว่า มันไม่ยุติธรรม"
"เกมฟุตบอลกลายเป็นความรุนแรง และมันไม่ดีกับแฟนบอลที่ดูอยู่ ผมมีความสุขกับฟอร์มการเล่นของตัวเอง และของเซเลเซา ผมว่าเราเล่นดี เราอยู่ในกลุ่มแห่งความตาย แต่เข้ารอบทั้งๆ ที่ยังเหลือเกมอีก 1 นัด" กาก้า กล่าว โดยเกมสุดท้ายพวกเขาจะพบกับ โปรตุเกส ขณะที่ใบแดงนี้เป้นครั้งที่ 3 ของเขา "ผมโดนไล่ออก 2 ครั้งตอนอยู่ เซา เปาโล และวันนี้เป็นครั้งที่สาม"
ด้าน โรบินโญ่ กองหน้าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ติดทีมชาติด้วยผลงานสุดยอดในการเล่นแบบยืมตัวกับ ซานโต๊ส จัดการจวกแข้ง "ช้างดำ" ว่า จงใจเล่นคน และเป็นตัวการทำให้เกมรุนแรงเอง "พวกเขาเตะเราตั้งแต่นาทีแรก แต่เราก้มหน้าก้มตาเล่นฟุตบอลอย่างเดียว คนอย่าง กาก้า จะไปตีศอกใส่ใคร หมอนั่นแสร้งทำเป็นเจ็บเท่านั้น นี่เป็นเกมที่ยาก เราสมควรชนะ และเราใช้โอกาสได้ดี เกมกับ โปรตุเกส ก็คงยากเหมือนกัน แต่เราอยากชนะเพื่อเป็นที่ 1 ของกลุ่ม"


เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าอารมณ์เดือดของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มหาอำนาจลูกหนังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก สำนึกผิด ออกมากล่าวขอโทษแฟนบอลเพื่อนร่วมชาติ หลังแสดงอาการไม่พอใจที่ถูกโห่ ในแมตช์ที่ อังกฤษ เสมอ แอลจีเรีย 0-0 ศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ดาวยิง "ปีศาจแดง" ซึ่งทำผลงานได้ย่ำแย่ นับตั้งแต่ที่ทัพ "สิงโตคำราม" ลงเล่นในศึกเวิลด์ คัพ ที่แอฟริกาใต้ ทำซ่า ด่าแฟนบอลเพื่อนร่วมชาติผ่านทางกล้องทีวี ขณะที่กำลังเดินออกจากสนาม -มันดีจริงๆ ที่เห็นแฟนบอลของคุณโห่ใส่คุณ- อย่างไรก็ตามตอนนี้ "รูน" ออกมากล่าวขอโทษสำหรับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเรียบร้อยแล้ว แถลงการณ์ของอดีตเด็กปั้น เอฟเวอร์ตัน ระบุว่า "ผมก็เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกสำหรับทีมชาติอังกฤษเหมือนกับทุกๆ คนเมื่อคืนนี้ ปฏิกิริยาที่ผมพูดหลายๆ สิ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่โกรธจัด ซึ่งมันแสดงถึงความไม่พอใจทั้งกับฟอร์มการเล่นของเรา และผลการแข่งขันที่ออกมา สำหรับในส่วนของผม ผมขอโทษสำหรับความก้าวร้าวที่เป็นเหตุมาจากพฤติกรรมของผมหลังจบเกม"
สถานการณ์ของ อังกฤษ ในเวลานี้หลังพิงฝาแล้ว และพวกเขาต้องเอาชนะ สโลวีเนีย ในกลุ่ม ซี ให้ได้สถานเดียว ถึงจะมีโอกาสได้เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย โดย รูนี่ย์ ให้ความเห็นว่า "สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือ การกลับมาคิดในเรื่องดีอีกครั้ง และทำงานหนักเพื่อเก็บชัยชนะในเกมวันพุธนี้ให้ได้ การที่จะทำแบบนั้นได้ นักเตะทุกคนต้องได้รับแรงสนับสนุนจากแฟนบอลมากกว่าที่เคยมีมา


ปาทริซ เอวร่า แบ๊กซ้ายกัปตันทีมชาติฝรั่งเศส ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดเซ็งกับความพ่ายแพ้แบบน่าอนาจใจ 0-2 ต่อ เม็กซิโก ในศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่ แอฟริกาใต้ วันพฤหัสบดีที่ 17 มิถุนายน ที่ผ่านมา พลางยอมรับด้วยความเจ็บปวดใจว่า รู้สึกเหมือนทีม "ตราไก่" เป็นชาติลูกหนังเล็กๆ เท่านั้น
หลังจากเสมอ อุรุกวัย 0-0 ในนัดแรก ฝรั่งเศส ต้องพยายามชนะเกมนี้เพื่อลุ้นเข้ารอบ แต่ลงเอยด้วยการแพ้ 0-2 จากประตูของ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ว่าที่ดาวยิง และเพื่อนร่วมทีมใหม่ของ เอวร่า ในนาทีที่ 64 ตามด้วย เคาเตห์ม็อค บลังโก้ กองหน้าจอมเก๋า ยิงจุดโทษ ในนาทีที่ 77 ช่วยให้ เม็กซิโก ซิว 3 แต้ม
"ผมเซ็งมาก ถึงมันจะไม่ได้ช่วยเปลี่ยนแปลงอะไรแล้วก็เถอะ คืนนี้ผมรู้สึกเหมือนเราเป็นชาติลูกหนังเล็กๆ เท่านั้น และมันเจ็บปวดจริงๆ" เอวร่า กล่าว โดยย้อนไปในฟุตบอลยูโร 2008 พวกเขาไม่ชนะเลย และจอดป้ายตั้งแต่รอบแรก เอวร่า กล่าวต่อไปว่า "เมื่อคุณตกรอบแรกฟุตบอลยูโร และมีวี่แววว่าจะเป็นแบบนั้นอีก คุณคงไม่มีกะจิตกะใจจะนึกถึงฟุตบอลอีก" เอวร่า พยายามพูดกระตุ้นในทางบวกว่า พวกเขาพร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเอง แม้จะโดนดูถูกว่าคงยากเมื่อมีโค้ชชื่อเรย์มงด์ โดเมเน็ค ที่พาทีมเข้ารอบมาแบบทุลักทุเล "ผมไม่มีอะไรจะพูดนอกจากนี่เป็นค่ำคืนแห่งหายนะ ผมไม่เห็นว่าเราจะมีแววอะไรเลย สิ่งที่เจ็บปวดก็คือพวกเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะโต้ตอบยังไง ตีเสมอยังไง แล้วพวกเขาก็ฆ่าเราด้วยประตูที่สอง"
"ปัญหาคืออะไร ? เราไม่ได้เป็นทีมที่ดีนะสิ ถ้าเราไม่ชนะ มันก็แสดงว่าเราไม่ได้เป็นทีมที่ดี เราคงจะนั่งคุยกันระหว่างสัปดาห์นี้ ผมคงไม่เริ่มบอกคุณหรอกว่าปัญหาคืออะไร ผมจะบอกคนที่เกี่ยวข้อง" เอวร่า กล่าว โดยเกมสุดท้ายกับ แอฟริกาใต้ นอกจากชนะแล้ว ยังต้องลุ้นผล เม็กซิโก กับ อุรุกวัย ด้วย "ผมรู้สึกทุเรศ และเราต้องชนะ แอฟริกาใต้ แต่ในเรื่องของปาฏิหาริย์นั้น ผมไม่เชื่อเรื่องพวกนี้มากนัก"
Credit : Siamsport

[Aeroklas]

คำถามที่ 3 เริ่มถามวันที่ 23 มิถุนายน 2553 เวลา 13.30 น.ครับ รอติดตามน่ะครับ

[Aeroklas]

มีภาพของรางวัลในรอบต่อๆไปมาให้สมาชิกทุกท่านชมเพื่อร่วมสนุกกันครับ
หมวก Aeroklas

หมวก Thule

เสื้อแจ็คเก็ต Aeroklas

กล่องอเนกประสงค์ Aeroklas U-Box


ฝาครอบกระบะ Aeroklas Deck Cover SM แบบเปิด 45 องศา

ฝาครอบกระบะ Aeroklas Deck Cover ELU รุ่นระบบไฟฟ้า


ยังไงให้สมาชิกคอยติดตามกันครับ

[Aeroklas]

21.00 น.
ฝรั่งเศส Vs แอฟริกาใต้
ฝรั่งเศสแพแตกหลังเทรนเนอร์ตัดสินใจไล่ตะเพิดอเนลก้าออกจากแคมป์จนนักเตะรวมหัวกันงดซ้อม แม้ทีมตราไก่ยังหวังสร้างปาฏิหาริย์เพื่อลุ้นเข้ารอบน็อกเอาต์ แต่สภาพทีมมีปัญหาร้าวลึกจนยากเกินเยียวยา ส่วน แอฟริกาใต้ ยังมีโอกาสลุ้นเข้ารอบ 16 ทีมเช่นเดียวกัน ทีมบาฟาน่า บาฟาน่า มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและยังมีเสียงเชียร์ข้างสนามเป็นแรงหนุนจึงมีโอกาสพลิกเอาชนะ ฝรั่งเศส ได้เช่นกัน
01.30 น.
อาร์เจนตินา Vs กรีซ
อาร์เจนตินาปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่นเกือบยกชุดแต่ภาพโดยรวมยังดูดีกว่าโดยเฉพาะแนวรุกยังอันตรายทั้ง เมสซี่, มิลิโต้ หรือ กุน ทีมฟ้า-ขาวน่าจะเป็นฝ่ายทำเกมได้เหนือกว่าคู่แข่ง ขณะเดียวกันกรีซจำต้องเปิดเกมรุกแลกหมัดเพื่อทำผลงานให้ดีกว่าเกาหลีใต้แย่งตั๋วเข้าไปเล่นรอบ 16 ทีม ทว่ากรีซเล่นเกมรุกค่อนข้างฝืด อาร์เจนตินาที่เล่นเกมรุกหวือหวาและแน่นอนกว่าน่าจะบดคว้าชัยไปได้สำเร็จ
.............................
ข่าวการแข่งขันเมื่อวาน
โปรตุเกส 7-0 เกาหลีเหนือ
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกกัปตันทีมชาติโปรตุเกส ของ เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่ลีกแดนกระทิงดุ ออกมาแสดงความพอใจกับผลงานอันยอดเยี่ยมของทัพ "ฝอยทอง" หลังจากถล่ม ทีมชาติเกาหลีเหนือ 7-0 ในศึกฟุตบอลโลก 2010 นัดที่ 2 กลุ่ม จี เมื่อวันจันทร์ที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา ดาวเตะ "ราชันชุดขาว" มีความสุขกับประตูที่เขาทำได้ และกล่าวยกย่องทั้งทีมสำหรับผลงานอันยอดเยี่ยม ผ่านเว็บไซต์ทางการของสโมสรว่า "ประตูของผมมันดูตลกๆ แต่ผมก็มีความสุขมาก การทำ 7 ประตูในเวิลด์ คัพ ไม่ใช่เรื่องง่าย ผมคิดว่าเพื่อนร่วมทีมของผมสมควรได้รับการแสดงความยินดี"
อดีตสตาร์แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับว่าเพื่อนร่วมทีมแต่ละคนทำผลงานได้น่าประทับใจ แต่ ติอาโก้ เมนเดส มิดฟิลด์ที่ถูกยืมตัวไปเล่นกับ แอตเลติโก มาดริด ในฤดูกาลที่ผ่านมาถือว่าโดดเด่นที่สุด "มีผู้เล่น 3-4 คนสมควรเป็นแมน ออฟ เดอะ แมตช์ แต่ ติอาโก้ เหมาะสมที่สุด"
ทั้งนี้ โปรตุเกส จะลงเตะนัดส่งท้าย กลุ่ม จี กับ "แซมบ้า" บราซิล ในวันศุกร์ที่ 25 มิ.ย.นี้ โดยขอเพียงแค่เสมอจะรับประกันการเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายทันที


............................
สเปน 2-0 ฮอนดูรัส
ดาวิด บีญ่าหอกบาร์เซโลน่าชวดโอกาสเป็นนักเตะคนที่สองต่อจากกอนซาโล่ อิกวาอินที่ทำแฮทริคในฟุตบอลโลกหลังพลาดจุดโทษแต่ยังดีตุนไว้ก่อนสองเม็ดสุดเทพพาสเปนเบียดฮอนดูรัส 2-0 ไปลุ้นเข้ารอบนัดสุดท้ายกับชิลีสุดระทึก
เฟร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิงทีมชาติสเปน และ ลิเวอร์พูล ออกโรงมาสะกิดเพื่อนร่วมทีมในช่วยกันเน้นจังหวะปิดสกอร์หน้าประตูให้เด็ดขาดกว่านี้ หลังจากยิงทิ้งยิงขว้างไปเยอะ เอาชนะ ฮอนดูรัส ได้เพียง 2-0 ในศึกฟุตบอลโลก 2010 กลุ่ม เอช นัด 2 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เกมนี้ หัวหอก "หงส์แดง" ลงไปเล่น 70 นาที และ ยืนยันหลังจบเกมว่า รู้สึกว่าร่างกายอยู่ในสภาพที่ดี หลังกลับมาจากอาการบาดเจ็บเข่า และ คงจะสามารถลงเล่นได้ตลอด 90 นาที หาก บิเซนเต้ เดล บอสเก้ กุนซือ ต้องการเช่นนั้น
"เป็นอีกครั้งที่เราสร้างโอกาสได้เยอะ โชคดีที่วันนี้เราทำประตูได้ แต่เราก็พลาดไปเยอะมาก เรายังคงปรับสัมผัสให้คุ้นกับลูกบอลอยู่เลย ผมเล่น 70 นาที หลังจากหายไปนาน แต่ผมดีใจ เพราะถ้าโค้ชต้องการ ผมคงเล่นทั้งเกมได้เลย" อดีตสตาร์ แอตเลติโก มาดริด กล่าว


.........................
ภาพสาวๆกองเชียร์ครับ

[Aeroklas]

คำถามที่ 1 และ 2 ประกาศผลดูได้ที่

คำถามที่ 1
http://www.thaitritonclub.com/forum/...023#post322023


คำถามที่ 2
http://www.thaitritonclub.com/forum/...217#post322217

[Aeroklas]

คำถามที่ 3
ในฟุตบอลโลกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ให้เลือกมา 4 ทีมว่ามีทีมอะไรเข้ารอบบ้าง?
เริ่มรับคำตอบ วันที่ 23 มิถุนายน 2553 เวลา 13.30 น.
ปิดรับตอบคำถาม วันที่ 26 มิถุนายน 2553 เวลา 17.00 น.
ประกาศผลผู้โชคดี วันที่ 30 มิถุนายน 2553 เวลา 13.30 น.

6 คนแรกที่ทายถูก รับของที่ระลึกเป็น หมวก Thule(ตอบถูกเป็นคนที่ 1-3) และ ของที่ระลึก เป็น หมวก Aeroklas motor sport (ตอบถูกเป็นคนที่ 4-6)

เข้ามาตอบที่
http://www.thaitritonclub.com/forum/...d=1#post322363

[Aeroklas]

21.00 น.
สโลวาเนีย Vs อังกฤษ
มัตยาซ เค้ค กุนซือ สโลวีเนีย ทำผลงานยอดเยี่ยมเก็บ 4 แต้มจากสองนัดแรก ทำให้มีโอกาสดีที่สุดในการผ่านเข้ารอบ ซึ่งจะเป็นการผ่านเข้ารอบ 2 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศด้วย หลังจากก่อนหน้านี้ตกรอบแรกยูโร 2000 และฟุตบอลโลก 2002 ข่าวร้ายของทีม เนจช์ เปชนิค กองหน้าที่เป็นตัวสำรอง บาดเจ็บกระดูกข้อเท้าแตกในนัดก่อนที่เสมอ สหรัฐอเมริกา 2-2 ปิดฉากทัวร์นามเนต์แน่นอนแล้ว นอกจากนี้ มาร์โก ซูเลอร์ เซนเตอร์ฮาล์ฟตัวหลัก บาดเจ็บซี่โครงจากจังหวะปะทะ โจซี่ อัลติดอร์ ต้องรอทดสอบความฟิตด้วย เค้ค จะไม่ปรับทัพไปเน้นเกมรับ และยึดระบบ 4-4-2 ลงเล่นต่อไป โดยมี ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้ มิโซ่ เบร็คโก้, มาร์โก ซูเลอร์, บอสต์ยาน เซซาร์, โบยาน โยคิช แดนกลางมี อันดราซ เคิร์ม, โรเบิร์ต โคเรน, อเล็กซานเดอร์ ราโดซาฟเยวิช, วอลเตอร์ เบียร์ซ่า คู่หน้า ซลาตัน ลูบิยานคิช ยืนคู่ มิลิโวเย่ โนวาโควิช
ด้าน ฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซือ อังกฤษ กำลังเผชิญช่วงเวลาระส่ำ ทั้งผลงานในสนามและเรื่องราวนอกสนามของลูกทีม ซึ่งเกมนี้กุนซือชาวอิตาเลี่ยนยืนยันจะยึดระบบการเล่น 4-4-2 ต่อไป ไม่สนเสียงเรียกร้องจากนักเตะให้ปรับไปใช้ 4-2-3-1 เกมนี้ คาเปลโล่ ต้องปรับแนวรับ เลดลี่ย์ คิง เจ็บโคนขาหนีบ ขณะที่ตัวแทนอย่าง เจมี่ คาร์ราเกอร์ ก็ดันมาติดโทษแบน 1 นัดอีก หลังโดนใบเหลืองมาทั้งสองนัด ทำให้ต้องส่ง แม็ทธิว อัพสัน จับคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟกับ จอห์น เทอร์รี่
ส่วนแนวรุกคงต้องปรับแน่ เอมิล เฮสกี้ กับ อารอน เลนน่อน ถูกคาดหมายว่าจะหลุดจากทีมตัวจริง เพื่อเปิดทางให้ เจอร์เมน เดโฟ กับ โจ โคล ลงสนามแทนขณะที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด จะมีบทบาทในการสนับสนุนเกมรุกมากขึ้น ในราย ไมเคิ่ล คาร์ริค กองกลางตัวสำรอง ที่บาดเจ็บข้อเท้าตอนซ้อม ต้องรอทดสอบความฟิต แต่ก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อทีมมากเท่าไหร่นัก

01.30 น.
กานา Vs เยอรมัน
"ดาวดำ" กาน่า ของ มิโลวาน ราเยวัช เทรนเนอร์เลือดเซิร์บ ไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหรือติดโทษแบนให้กวนใจ ทั้งหมดพร้อมลงช่วยทีม กรณีของ ซัลลีย์ มุนตารี่ ห้องเครื่องอินเตอร์ มิลาน ที่มีปากเสียงกับกุนซือบนรถบัสทีมหลังจบเกมเสมอออสเตรเลีย 1-1 มีการคลี่คลายเรียบร้อย แม้ตอนแรก มิโลวาน ราเยวัช ยืนยันส่งตัวมุนตารี่กลับบ้าน แต่ทงสหพันธ์ลูกหนังกาน่า รวมถึง สเตฟาน อัปเปียห์ ช่วยไกล่เกลี่ยจนสำเร็จ เควิน-พริ๊นซ์ บัวเต็ง กองกลางเชื้อด๊อยท์ชที่เพิ่งตัดสินใจเล่นให้ทีมชาติกาน่า รวมถึงมีคดีเป็นคนทำให้ มิชาเอล บัลลัค บาดเจ็บเอ็นข้อเท้าขวาจนถอนตัวจากทีมอินทรีเหล็ก พร้อมรับแรงกดดันลงตัวจริงแน่นอน
จอห์น เมนซาห์ ปราการหลังตัวแกร่งมีสิทธิ์ได้คืนตัวจริงอีกครั้งหลังสลัดอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อ คาดว่า โจนาธาน เมนซาห์ ต้องถอยไปนั่งสำรอง การจัดทีม ริชาร์ด คิงสัน ลงเฝ้าเสา แดนหลังประกอบด้วย จอห์น เพนท์ซิล, จอห์น เมนซาห์, ลี แอ๊ดดี้ และ ฮันส์ ซาร์ไป ตรงกลางสนาม แอนโธนี่ อันนาน ประสานงานกับ ควัดโว อซาโมอาห์, เควิน-พริ๊นซ์ บัวเต็ง และ อองเดร อายิว คู่กองหน้าเหมือนเดิม อซาโมอาห์ กียาน ที่ยิงไปแล้วสองประตู ล่าตาข่ายกับ พริ๊นซ์ ทาโก้
โยอัคคิม เลิฟ บุนเดสเทรนเนอร์ของเยอรมนี เตรียมพาลูกทีมลงทำศึกเกมชี้ชะตานัดสุดท้ายรอบแรกพบกาน่า มีปัญหาเพียงจุดเดียวคือ มิโรสลาฟ โคลเซ่ กองหน้าตัวเก๋าติดโทแบน หลังโดนไล่ออกจากนัดพ่ายเซอร์เบีย 0-1 เป็นที่คาดกันว่า ตัวเลือกที่จะได้ลงสนามยืนกองหน้าตัวเป้าแทนคือ คาเคา กองหน้าเชื้อสายบราซิเลี่ยนจากสตุ๊ตการ์ท ซึ่งทำผลงานได้ดีตลอดในช่วงอุ่นเครื่อง รวมถึงเกมนัดแรกก็พังหนึ่งประตูถล่มออสเตรเลีย 4-0
สำหรับตัวเลือกอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหามากมาย บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ กลับมาฟิตสมบูรณ์เรียบร้อย ขณะที่ตำแหน่งแบ๊คซ้าย โฮลเกอร์ บาดชตูเบอร์ โดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากเกมล่าสุดทำผลงานย่ำแย่ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าดาวรุ่งบาเยิร์น มิวนิค รายนี้น่าจะได้โอกาสลงตัวจริงตามเดิม การจัดทีม มานูเอล นอยเออร์ ยืนเฝ้าเสา แดนหลังเหมือนเดิม ฟิลิปป์ ลาห์ม กัปตันทีม, อาร์เน่ ฟรีดริช, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ และ โฮลเกอร์ บาดชตูเบอร์ ตรงกลางสนาม บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ปักหลักคุมเกมคู่ ซามี่ เคดิร่า แนวรุกจากขวาไปซ้ายไม่เปลี่ยนแปลง โธมัส มุลเลอร์, เมซุต โอซิล และ ลูคัส โพดอลสกี้ พร้อมวาง คาเคา ยืนล่าตาข่าย
ข่าว

ปาทริซ เอวร่า กัปตัน "ตราไก่" ฝรั่งเศส ยืนยันเตรียมเปิดแถลงข่าวแฉหมดเปลือกหลังเดินทางกลับถึงแดนน้ำหอม เพื่อให้ทุกคนได้รู้ว่าเกิดความวุ่นวายอะไรขึ้นบ้างภายในทีม จนเป็นเหตุให้ทำผลงานได้น่าผิดหวัง กระเด็นตกรอบแรกโดยเป็นอันดับสุดท้ายของกลุ่มเอ พร้อมกับขอโทษแฟนบอลร่วมชาติทุกคนสำหรับเหตุการณ์สุดอัปยศที่เกิดขึ้น
ปาทริซ เอวร่า กองหลังกัปตันทีมชาติฝรั่งเศส ออกมาให้สัญญาว่า เขาจะเปิดเผยเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นในแค้มป์ "ตราไก่" หลังจากทีมมีผลงานในฟุตบอลโลก 2010 น่าผิดหวังมาก และเพิ่งพ่าย ทีมชาติแอฟริกาใต้ เจ้าภาพ 2-1 ในเกมส่งท้าย กลุ่ม เอ เมื่อวันอังคารที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา ร่วงตกรอบแรกอย่างเป็นทางการ แบ็กซ้าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นคนนำเพื่อนร่วมทีมสไตร์คไม่ลงฝึกซ้อมเมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 มิ.ย. เพื่อประท้วงเรื่องที่ นิโกล่าส์ อเนลก้า ศูนย์หน้า เชลซี ถูกส่งตัวกลับบ้าน หลังจากมีปากเสียงกับ เรย์มงด์ โดเมเน็ค กุนซือของทีม ในห้องแต่งตัวช่วงพักครึ่งเกมพ่าย เม็กซิโก 2-0 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 มิ.ย.
ฟูลแบ็กวัย 29 ปี เผยว่า โดเมเน็ค ไม่ยอมให้เขาออกมาขอโทษกับสาธารณะ และยืนยันว่าจะเปิดเผยทุกอย่างเมื่อกลับถึงบ้านเกิด "ผมร่วมเจ็บปวดไปกับชาวฝรั่งเศสทุกคน คืนนี้เป็นเวลาของการขอโทษ มันเป็นการขอโทษที่น่าจะเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่ผมถูกสั่งห้ามจากโค้ช ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาตัดสินอะไร ทุกคนในทีมจะมีเวลาอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น ผมจะพูดความจริงถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ผมไม่มีอะไรปิดบังอีกแล้ว"
เอวร่า ไม่ได้ลงสนามในเกมส่งท้าย กลุ่ม เอ และไม่ยอมรับว่า การประท้วงเมื่อวันอาทิตย์เป็นความผิดพลาด "ความเจ็บปวดของเราไม่ได้ขยายเกินความเป็นจริง เราได้ให้เหตุผลของเราในสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว คืนนี้ผมโดนตัดออกจากทีมโดยไม่มีเหตุผลที่เหมาะสม นี่เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก"

จอห์น เทอร์รี่ กองหลังทีมชาติอังกฤษ ของ เชลซี ขอโทษ ฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซือทีม "สิงโตคำราม" ไปจนถึงเพื่อนร่วมทีม ที่อาจไม่พอใจ และได้รับผลกระทบจากการให้สัมภาษณ์ของเขา เกี่ยวกับแผนการเผชิญหน้าเจ้านายชาวอิตาเลียน เพื่อเสนอข้อเรียกร้องต่างๆ นานา ก่อนที่พวกเขาจะตกรอบแรก ฟุตบอลโลก 2010 ยืนยันไม่เคยคิดบ่อนทำลายทีม และเขายังหนุนหลัง คาเปลโล่ เต็มที่เหมือนเดิมด้วย
จอห์น เทอร์รี่ กองหลังจอมแกร่งทีมชาติอังกฤษ ของ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ยุติความขัดแย้งที่เกิดจากการให้สัมภาษณ์เชิงไม่พอใจ ฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซือใหญ่ทีม "สิงโตคำราม" ของตัวเอง เลยจัดแจงออกมาแถลงข่าวขอโทษเจ้านายชาวอิตาเลียน ว่า เขาเองอาจทำอะไรเกินเลยไปหน่อย พร้อมยืนยันหนักแน่น ยังให้การหนุนหลังเจ้านายเต็มที่เหมือนเดิม
กัปตันทีมเชลซี กลายเป็นข่าวพาดหัว เมื่อให้สัมภาษณ์บอกว่า เขาและเพื่อนนักเตะหลายคน รวมหัวกันว่าจะพูดสิ่งที่อยากพูด และสิ่งอยากให้ คาเปลโล่ รับฟัง และเก็บไปพิจารณา ในการประชุมทีมคืนวันอาทิตย์ โดยเอ่ยชื่อนักเตะหลักๆ ของทีมอย่าง เวย์น รูนี่ย์, แฟร้งค์ แลมพาร์ด และ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ว่าก็รวมอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย แต่แหล่งข่าวบอกว่า นักเตะในทีมไม่พอใจที่ เทอร์รี่ เอาเรื่องนี้ออกมาพูด และเอ่ยชื่อพวกเขาออกมา ล่าสุด หลังจาก คาเปลโล่ พูดถึงเรื่องนี้ในลักษณะไม้แข็ง เทอร์รี่ ก็ออกมาขอโทษในที่สุด พลางยืนยันว่าเขาไม่ได้มีเจตนาร้ายแต่อย่างใด "ผมแถลงข่าวเมื่อวานนี้ด้วยเจตนาที่จะซื่อสัตย์ ผมถูกถามเรื่อง โจ โคล และบางทีผมอาจเกินเลยไป แต่ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้ผู้จัดการทีม หรือเพื่อนนักเตะไม่พอใจ และถ้าหากผมทำให้ใครไม่พอใจ ผมก็ต้องขอโทษพวกเขาด้วย" "ผมบอกผู้จัดการทีมแล้วว่า ผมยังหนุนหลังเขาเต็มที่ และผมอยากจะย้ำว่า ผมไม่เชื่อว่าผมส่งอิทธิพลแย่ๆและทำลายสปิริตภายในแคมป์ทีมชาติ ตอนนี้ผมอยากลืมเรื่องนี้ไปเสีย และอยากมีสมาธิกับการพยายามคว้าชัยชนะในเกมสำคัญเพื่อทีมชาติอังกฤษ ทั้งหมดที่ผมพยายามทำก็คือพูดว่าสำหรับผมแล้ว การคว้าแชมป์โลกมีความสำคัญอย่างไร"

[Aeroklas]

ข่าว



โดโนแวนฮีโร่! ซัดทดเจ็บพามะกันเข้ารอบ
แลนดอน โดโนแวนกลายเป็นวีรบุรุษของสหรัฐอเมริกาหลังยิงประตูชัยให้ทีมเอาชนะแอลจีเรีย 1-0 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บช่วยให้ทีมผ่านเข้ารอบต่อไปในฐานะอันดับหนึ่งของกลุ่มและเขี่ยสโลเวเนียตกรอบไปอย่างเจ็บช้ำ
ในระหว่างที่เกมทำท่าจะจบลงด้วยการเสมอกันอยู่แล้วแต่แลนดอน โดโนแวนกลายเป็นฮีโร่ของสหรัฐทำประตูขึ้นนำให้ทีมได้สำเร็จจากจังหวะที่เอ็มบูลีที่เซฟมาทั้งเกมพลาดไม่สามารถตัดลูกเปิดของอัลติดอร์ได้ทำให้เดมป์ซี่ได้โอกาสซัดไปติดตัวแล้วบอลกระเด้งมาเข้าทางโดโนแวนที่วิ่งมาซ้ำเข้าประตูไปแฟนมะกันเฮกันลั่นสนาม อีกทั้งก่อนหมดเวลาอัลจีเรียต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คนหลังยาเฮียได้รับใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงถูกไล่ออกจากสนามไป แล้วก็จบเกมสหรัฐผ่านเข้ารอบต่อไปได้อย่างเหลือเชื่อ



โอซิลฮีโร่! ซัดโทนเบียร์เฮเข้าไปชนอังกฤษ
เมซุต โอซิล สวมบทฮีโร่ซัลโวปลดล็อคให้ เยอรมัน คืนฟอร์มเฉือนนะ "ดาวดำ"กาน่า เฉียวฉิว 1-0 แต่สุดท้ายจูงมือกันเข้ารอบทั้งคู่ โดยทีมอินทรีเหล็กเข้ารอบเป็นแชมป์กลุ่มเข้าไปเจอกับ อังกฤษ ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
เกมส์นี้เยอรมันมีโอกาสหลายครั้ง แต่ทว่าไม่สามารถจบเกมส์ได้ดีพอ จนถึงครึ่งหลัง เยอรมันก็ยังไม่สามารถพาบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษได้เลย จนบอลดูเหมือนจะไม่มีอะไรอยู่แล้วทว่าเกมเดินมาถึงหนึ่งชั่วโมง "อินทรีเหล็ก" กลับมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 มุลเลอร์ จ่ายบอลจากทางขวาให้ โอซิล มีเวลามากพอสับไกด้วยซ้ายใกล้ๆบริเวณหัวกระโหลกบอลพุ่งแหวกอากาศเสียบหน้าต่างเข้าไป
ในช่วงเวลาที่เหลือดูเหมือนสต๊าฟโค้ชกาน่าส่งสัญญาณข้างสนามทำให้แข้งดาวดำนั้นช่วงหลังๆไม่ค่อยเร่งเกมกันเท่าไหร่จะมีลุ้นอยู่บ้างจากลูกยิงไกลของ มุนตารี่ เหินข้ามคานไม่มีลุ้น จบเกม เยอรมัน ชนะ กาน่า 1-0 กอดคอกันเข้ารอบทั้งคู่

.............................................................
กลุ่ม F 21.00 สโลวาเกีย Vs อิตาลี
วลาดิเมียร์ ไวส์ ยังมีลุ้นที่จะเข้ารอบเช่นกัน หากพาทีมกำชัยในเกมนี้ และหวังให้ นิวซีแลนด์ ไม่ชนะ ปารากวัย โดยเขาอาจปรับเปลี่ยนบางตำแหน่ง หลังทีมทำผลงานได้ไม่ดีนักใน 2 นัดแรก ด้วยระบบ 4-4-2 แยน มูช่า ลงเฝ้าเสา มาร์ติน สเคอร์เทล ยืนปราการหลังตัวกลางกับ แยน ดูริก้า แบ็กขวา-ซ้ายเป็น ปีเตอร์ เปคาริค และ มาเร็ค เช็ค
ซเดโน่ สเตอร์บา ปักหลักกลางสนามร่วมกับ มาเร็ค ฮัมซิค ปล่อยให้ลูกชาย วลาดิเมียร์ ไวส์ และ มิโรสลาฟ สต็อช ลากเลื้อยริมเส้น กองหน้าวาง โรเบิร์ต วิตเท็ค จับคู่ล่าตาข่ายกับ สตานิสลาฟ เซสตัค มาร์เชลโล่ ลิปปี้ จำเป็นที่จะต้องเอาชนะให้ได้ หากหวังจะเข้ารอบแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ หรือหากเสมอต้องลุ้นให้ นิวซีแลนด์ แพ้ ปารากวัย หรือเสมอเหมือนกันด้วยสกอร์ที่ต่ำกว่าตัวเอง
นัดนี้จะเปลี่ยนระบบการเล่นมาเป็น 4-3-3 โดยยังคงไม่มี จานลุยจิ บุฟฟ่อน ที่เจ็บหลัง ส่วน อันเดรีย ปีร์โล่ ฟิตสมบูรณ์แล้ว แต่คงเป็นสำรองไปก่อน ผู้รักษาประตูใช้ เฟเดริโก้ มาร์เค็ตติ เหมือนเดิม แนวรับ ฟาบิโอ คันนาวาโร่ จับคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟกับ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ขนาบข้างด้วย จานลูก้า ซามบร็อตต้า และ โดเมนิโก้ คริสชิโต้ ขยับขึ้นมา เจนนาโร่ กัตตูโซ่ จะถูกส่งลงมาช่วย ดานิเอเล่ เด รอสซี่ กับ ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ ในแดนกลาง แนวรุก จามเปาโล ปาซซินี่ น่าจะได้ยืนเป็นตัวเป้า แทน อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ ที่ยังโชว์ฟอร์มไม่ออก พร้อมมี วินเชนโซ่ ยาควินต้า กับ อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ คอยประคองด้านข้าง
ทั้งสองทีมยังมีโอกาสผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์หากคว้า 3 แต้มจากเกมนี้ ดังนั้นทั้งอิตาลีกับสโลวาเกียจะเปิดเกมรุกแลกหมัดกันเพื่อชัยชนะ ทว่าฟอร์มสองนัดแรกของสโลวาเกียยังขาดความแน่นอน เกมรุกไร้ประสิทธิภาพ ส่วนอิตาลีปรับเปลี่ยนแนวรุกน่าจะดีขึ้นกว่านัดล่าสุดกับนิวซีแลนด์ ทีมอัซซูรี่น่าจะเป็นฝ่ายครองเกมได้เหนือกว่าก่อนบดเอาชนะสโลวาเกียคว้าตั๋วเข้ารอบ 16 ทีมสำเร็จ

กลุ่ม E 01.30 แคเมอรูน Vs ฮอลแลนด์
แคเมอรูน ของ ปอล เลอ กูแอ็น เทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศส ไม่มีปัญหาเรื่องสภาพทีม ซึ่งจากการที่จะเป็นนัดสุดท้ายในฟุตบอลโลก ทำให้ เลอ กูแอ็น น่าจะจัดทีมชุดใหญ่เต็มที่ เพื่อพยายามเก็บแต้มให้ได้ เลอ กูแอ็น จะไม่มีการเปลี่ยนทีมมากนัก อเล็กซานเดอร์ ซง มิดฟิลด์ตัวเก่งจากอาร์เซน่อล จะลงตัวจริงต่อหลังถูกดร็อปในเกมแรก เช่นกันกับ ซามูเอล เอโต้ ดาวยิงกัปตันทีม ที่จะลงยืนหน้าเป้า
ส่วนตำแหน่งนายทวาร ซูเลย์มานู ฮามิดู นายทวารวัย 36 ที่ได้ลงสนามในฐานะมือหนึ่งมา 2 เกม อาจจะถูกแทนที่โดย อิดริสส์ คาร์ลอส กาเมนี ประตูจากเอสปันญ่อล ซึ่งเป็นเจ้าของตำแหน่งเดิมตลอด 7 ปีหลัง ให้ลงเป็นตัวจริงบ้าง ระบบ 4-2-3-1 คาร์ลอส กาเมนี เฝ้าเสา แนวรับมี สเตฟาน เอ็มเบีย, นิโคลัส เอ็นคูลู, เซบาสเตียน บาสซง และ เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้ กลางรับใช้ อเล็กซานเดอร์ ซง คู่ เอยอง เอโนห์ ให้ เฌเรมี่ เอ็นจิตั๊ป, ปิแอร์ เวโบ และ อาชิลล์ เอมาน่า เดินเกมรุก ส่วน ซามูเอล เอโต้ ค้ำหน้าเป้า
เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ กุนซือทีมกังหันสีส้ม น่าจะมีการเปลี่ยนทีมมากทีเดียว หลังจากเข้ารอบไปเรียบร้อยแล้ว แถมการเน้นเอาผลชนะเพื่อเป็นแชมป์กลุ่ม ก็อาจทำให้ต้องตัดกับของแข็งอย่างแชมป์เก่า อิตาลี ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งมีสิทธิ์สูงในการเข้ารอบมาในฐานะอันดับ 2 กลุ่มเอฟ ด้วย อาร์เยน ร็อบเบน ปีกตัวเก่งจากบาเยิร์น มิวนิค น่าจะได้ลงสนามเป็นตัวจริงบ้างแล้ว หลังมีปัญหาบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าในระหว่างเตรียมทีมลุยบอลโลก แต่ฟิตกลับลงซ้อมตลอดช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา
เกรกอรี่ ฟาน เดอร์ วีล แบ็กขวา กับ ไนเจล เดอ ยองก์ กลางรับ จะถูกพักแน่นอนหลังจากมีใบเหลืองติดตัว ที่เหลือน่าจะมีการส่งสำรองลงหลายราย ในระบบ 4-2-3-1 ของถนัด มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก ลงเฝ้าเสาต่อ แนวรับเหลือ จอห์น ไฮติงก้า ไว้เป็นหลัก และมี คาลิด บูลาห์รูช, อังเดร ออยเยอร์ และ เอ็ดสัน บราฟไฮด์ ลงเล่นร่วม ขณะที่ มาร์ค ฟาน บอมเมล จะลงตัดเกมคู่ เดมี่ เดอ ซูว์ ให้ อาร์เยน ร็อบเบน ออกสตาร์ทตัวรุกร่วมกับ อิบราฮิม อเฟลลาย และ เอลเยโร่ เอเลีย และมี คลาส-ยาน ฮุนเตลาร์ ยืนหน้าเป้า
ฮอลแลนด์ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ในฐานะทีมอันดับ 1 กลุ่ม อี หากดึงผลเสมอได้เป็นอย่างน้อย ส่วนแคเมอรูนกระเด็นตกรอบแบบหมดลุ้นหลังพ่ายจากสองเกมแรก ทีมหมอผีจึงลงเล่นเพื่อศักดิ์ศรีก่อนเก็บกระเป๋ากลับบ้านเท่านั้น ด้านฮอลแลนด์อาจพักแข้งตัวหลักบางราย แต่ศักยภาพทีมโดยรวมยังเหนือกว่า ทีมดัตช์ยังลงเล่นด้วยแรงจูงใจมากกว่าจึงน่าจะบดเอาชนะแคเมอรูนไปได้สำเร็จ


.............................................

คำถามที่ 3
ในฟุตบอลโลกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ให้เลือกมา 4 ทีมว่ามีทีมอะไรเข้ารอบบ้าง?
เริ่มรับคำตอบ วันที่ 23 มิถุนายน 2553 เวลา 13.30 น.
ปิดรับตอบคำถาม วันที่ 26 มิถุนายน 2553 เวลา 17.00 น.
ประกาศผลผู้โชคดี วันที่ 30 มิถุนายน 2553 เวลา 13.30 น.

6 คนแรกที่ทายถูก รับของที่ระลึกเป็น หมวก Thule(ตอบถูกเป็นคนที่ 1-3) และ ของที่ระลึก เป็น หมวก Aeroklas motor sport (ตอบถูกเป็นคนที่ 4-6)

เข้ามาตอบที่
http://www.thaitritonclub.com/forum/...d=1#post322363

[Aeroklas]

21.00 น.
โปรตุเกส VS บลาซิล
"ขุนพลฝอยทอง" ทีมชาติโปรตุเกส ลงเล่นในศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบแรก นัดแรก ของกลุ่ม จี. เสมอกับ ไอวอรี่ โคสต์ ทีมแกร่งของทวีปแอฟริกา มาแบบโนสกอร์ 0-0 ที่เนลสัน แมนเดล่า เบย์ สเตเดี้ยม เมืองพอร์ท เอลิซาเบธ เมื่อวันอังคารที่ 15 มิถุนายน ที่ผ่านมา ก่อนจะปล่อยฟอร์มแกร่งไล่ขยี้ เกาหลีเหนือ ตัวแทนจากเอเชีย ไปเละเทะ 7-0 เก็บ 4 คะแนนจากสองนัด โอกาสเข้ารอบสองสดใส
อย่างไรก็ตาม คาร์ลอส เคยรอซ เทรนเนอร์ของโปรตุเกส ต้องประสบปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายรายทีเดียวไล่ตั้งแต่ รูเบน อโมริม กองกลางดาวรุ่งที่เรียกตัวมาทีหลังมีอาการบาดเจ็บชวดบู๊เกมนี้แน่นอน ส่วน เดโก้ กองกลางตัวเก่งวัย 32 ปี ที่เจ็บสะโพกด้านซ้ายในระหว่างการซ้อม ยังต้องเช็คความฟิต แต่คาดว่าถ้าพร้อมลงสนามก็จะเป็นเพียงแค่สำรองเท่านั้น
ส่วน ซิเมา ซาโบรซ่า ปีกตัวเก่งจากสโมสรแอตเลติโก มาดริด ฟิตสมบูรณ์ดีแอล้วพร้อมลงทำเกมทางกราบสนาม ร่วมกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งของทีมวัย 25 ปี ที่ระเบิดตาข่ายในทีมชาติได้เป็นครั้งแรกในรอบ 16 เดือนหลังจากซัดได้หนึ่งประตูในเกมขยี้เกาหลีเหนือ 7-0 โดยหัวหอกตัวเป้าวาง ฮูโก้ อัลเมยด้า กองหน้าร่างใหญ่ลงมายืนค้ำกับกองหลังคู่ต่อสู้ ตำแหน่งผู้รักษาประตู เอดูอาร์โด้ หายปวดท้องพร้อมเฝ้าเสา ในแนวรับมี ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ปราการหลังจากเชลซี ยืนบัญชาการแนวรับร่วมกับ บรูโน่ อัลเวส ขณะที่แบ็คซ้ายใช้งาน ฟาบิโอ โคเอนเตรา ลงสนามเพราะฟอร์มแจ่มอย่างมาก สำหรับแดนกลาง ติอาโก้ เมนเดส ที่ฟอร์มสดในเกมขยี้โสมแดง จะได้ลงมาเล่นเป็นตัวจริงร่วมกับ เปโดร เมนเดส และ ราอูล เมยเรเลส
"เซเลเซา" ทีมชาติบราซิล ทีมอันดับ 1 ของโลกจากการจัดอันดับของฟีฟ่า ลงเล่นนัดแรกในฟุตบอลโลก 2010 รอบสุดท้ายที่แอฟริกาใต้ คว้าชัยชนะเหนือ เกาหลีเหนือ ตัวแทนจากเอเชีย 2-1 ที่เอลลิส พาร์ค ในกรุงโจฮันเนสเบิร์ก เมื่อวันอังคาร 15 มิถุนายน ต่อด้วยการปราบ ไอวอรี่ โคสต์ ราบคาบ 3-1 เก็บชัยสองนัดรวดตีตั๋วเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายแน่นอนแล้ว แต่ตั้งเป้าจะเก็บชัยส่งท้ายรอบแรกให้ได้
ความพร้อมเกมนี้ คาร์ลอส ดุงก้า กุนซือของทีมชาติบราซิล ไม่มี กาก้า จอมทัพหน้าหยกที่โดนผู้ตัดสินไล่ออกอย่างไม่สมควรในเกมกับ ไอวอรี่ โคสต์ จนต้องติดโทษแบน 1 นัดในเกมนี้ ขณะที่รายของ เอลาโน่ บลูแมร์ ซึ่งมีอาการบาดเจ็บน่อง จากเกมกับ ไอวอรี่ โคสต์ เช่นกัน อาจจะต้องพักเอาไว้เพื่อให้สมบูรณ์พอสำหรับเกมรอบน็อคเอ๊าท์ แต่ตัวอื่นๆพร้อมลงสนามทั้งหมด แนวรับเป็นชุดเดิมที่เล่นด้วยกันตลอดในช่วงหลัง ดั๊กลาส ไมค่อน, ลูซิโอ กัปตันทีม, ฮวน และ มิเชล บาสโต๊ส ยืนเป็นแผงหน้ากระดาน ส่วนแดนกลางมีตัวรับสองคนให้ จิลแบร์โต้ ซิลวา กับ เฟลิเป้ เมโล่ คอยเบรกเกมรุกคู่แข่ง แนวรุกส่ง ดาเนียล อัลเวส ลงมาทำเกมทางขวาแทน เอลาโน่ แล้วให้ ชูลิโอ บาปติสต้า ลงมาช่วยเกมแดนกลางโดยมี โรบินโญ่ ขึ้นเกมทางซ้าย และ หลุยส์ ฟาเบียโน่ ดาวยิงจากสโมสรเซบีย่า ที่ยิงสองประตูให้บราซิลนัดก่อน ยืนเป็นหัวหอกตัวเป้า

01.00 น.
ชิลี VS สเปน
มาร์เซโล่ บิเอลซ่า กุนซือชาวอาร์เจนติน่าของ ชิลี อยู่ในสถานการณ์ที่เบาใจกว่า ขอแค่เสมอก็เพียงพอต่อการเข้ารอบในฐานะทีมอันดับ 1 ของกลุ่มแล้ว ถึงแม้ว่าเกมนี้จะมีนักเตะติดโทษแบน 2 คนคือ การ์ลอส การ์โมน่า กับ มาติอัส เฟร์นานเดซ และ ฮอร์เก้ วัลดิเวีย ที่มีปัญหาเรื่องบาดเจ็บ เป็นแค่ตัวสำรองนัดที่แล้ว จะกลับมาเป็นตัวจริงแทน เฟร์นานเดซ ส่วนตำแหน่งของ การ์โมน่า จะถูกแทนที่โดย โรดริโก้ มิยาร์
ชิลี มีนักเตะที่ค้าแข้งอยู่ในลีกสเปน 3 คน เคลาดิโอ บราโว่ นายประตูกัปตันทีมจาก เรอัล โซเซียดาด, อุมเบร์โต้ ซัวโซ่ กองหน้าจาก เรอัล ซาราโกซ่า และ ฟาเบียน โอเรยาน่า กองหน้าจาก เคเรซ ขณะที่อีก 4 คนก็เคยค้าแข้งอยู่ที่นั่นมาแล้ว
ระบบการเล่น 4-3-3 เคลาดิโอ บราโว่ ลงเฝ้าเสา แผงหลังใช้ เมาริซิโอ อิสล่า, แกรี่ เมเดล, วัลโด้ ปอนเซ่, อาร์ตูโร่ วิดาล แดนกลางมี โรดริโก้ มิยาร์, กอนซาโล่ ฮาร่า, ฮอร์เก้ วัลดิเวีย สามกองหน้าใช้ ฌอง โบเซอฌูร์, อเล็กซิส ซานเชซ, อุมเบร์โต้ ซัวโซ่
ด้าน บิเซนเต้ เดล บอสเก้ เทรนเนอร์ กระทิงดุ ต้องการชัยชนะสถานเดียว ไม่ใช่แค่เพื่อเข้ารอบ แต่ต้องการเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มด้วย เพื่อจะได้ไม่ต้องไปชนกับ บราซิล ซึ่งคาดว่าจะเป็นจ่าฝูงกลุ่มจีค่อนข้างแน่ สภาพความพร้อมของทีม เซร์คิโอ รามอส แบ็กขวาจอมบุก กลับมาลงซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้ตามปกติแล้วเมื่อวันพฤหัสบดี หลังจากพลาดซ้อมไปเมื่อวันพุธ และต้องใช้เวลาเรียกความฟิตอยู่ในห้องยิม จากอาการบาดเจ็บตั้งแต่นัดแรกกับ สวิส
ข่าวดีอีกเรื่องคือการกลับมาของ อันเดรส อิเนียสต้า มิดฟิลด์จอมขยัน ที่ฟิตสมบูรณ์จากอาการเจ็บขาขวากลับมาซ้อมได้หลายวันแล้ว และพร้อมลงเล่นเป็นตัวจริงแทน เฆซุส นาบาส ที่โชว์ฟอร์มไม่ดีนัดที่แล้ว นอกจากนี้ ตำแหน่งแบ็กซ้าย อัลบาโร่ อาร์เบลัว ยังมีลุ้นแย่งตำแหน่งของ โจน กัปเดบิล่า ที่มีปัญหาเรื่องเกมรับ ถึงแม้ว่าแบ็กจอมบุกจาก บียาร์เรอัล จะยังมีภาษีลงเล่นมากกว่าก็ตาม
ระบบการเล่น 4-3-3 อิเกร์ กาซิยาส ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้ เซร์คิโอ รามอส, การ์เลส ปูโยล, เกราร์ด ปิเก้, โจน กัปเดบิล่า แดนกลางมี ชาบี เอร์นานเดซ, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, ชาบี อลอนโซ่ แดนหน้าใช้ อันเดรส อิเนียสต้า, ดาบิด บีย่า, เฟร์นานโด ตอร์เรส

ข่าว

อันเดรีย ปีร์โล่ มิดฟิลด์ทัพ อิตาลี ยอมรับผลงานตกรอบ เวิลด์ คัพ 2010 ที่ แอฟริกาใต้ แบบช็อกโลก ถือเป็นการสิ้นสุดยุคหนึ่งของทัพ "อัซซูรี่" หลังทำขายหน้า ตกรอบแบ่งกลุ่ม แบบหมดราคาแชมป์เก่า ที่เยอรมนี เมื่อ 4 ปีก่อน ไม่เหลือชิ้นดี
อันเดรีย ปีร์โล่ ห้องเครื่องทีมชาติอิตาลี สังกัด เอซี มิลาน ออกโรงกล่าวยอมรับสภาพว่า ทัพนักเตะ "อัซซูรี่" ของพวกเขา ต้องมีอันมาถึงจุดสิ้นสุดยุคหนึ่งเสียแล้ว หลังจากตกรอบแรก ศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ ทั้งที่เมื่อ 4 ปีก่อน ยังชูถ้วยแชมป์ที่ เบอร์ลิน อยู่เลย ดาวเตะ "ปีศาจแดง-ดำ" กล่าวถึงเกมพลิกล็อกแพ้ สโลวะเกีย 2-3 ในนัดสุดท้ายของกลุ่ม เอฟ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน ที่ผ่านมา ว่า "เราทำให้ตัวเองอับอายอย่างแท้จริง เราไม่ชนะเกมนี้ และ ก็เป็นความผิดของทุกคน เราเป็นทีม และ ทุกคนก็ต้องรับผิดชอบเหมือนกัน" จากการที่ ฝรั่งเศส ตกรอบไปแล้วเช่นกัน ทำให้ เวิลด์ คัพ คราวนี้เป็นหนแรกที่ 2 ทีมคู่ชิงชนะเลิศจากทัวร์นาเมนต์คราวก่อน ไม่ผ่านรอบแบ่งกลุ่ม โดย ปีร์โล่ ตั้งข้อสังเกตต่อไปว่า"นี่เป็นจุดจบของยุคหนึ่งหรือเปล่า ใช่ ผมคิดอย่างนั้น อย่างไรก็ตาม ผมพร้อมให้โค้ชเรียกใช้งานในอนาคตอยู่แล้ว" ดาวดังหลายคนจากชุดแชมป์โลกปี 2006 กำลังจะเลิกเล่นให้ทีมชาติ รวมถึง ฟาบิโอ คันนาวาโร่ และ เจนนาโร่ กัตตูโซ่ หลังจากนี้ เชซาเร่ ปรับเดลลี่ จะมารับช่วงคุมแข้งแดนมะกะโรนี ต่อจาก มาร์เชลโล่ ลิปปี้ เพื่อเริ่มต้นลุยศึก ยูโร 2012 รอบคัดเลือก ช่วงซัมเมอร์นี้ ต่อไป
สำหรับผลงานของ อิตาลี นั้น นับเป็นครั้งที่ 4 แล้วที่แชมป์เก่าตกรอบแรก โดย ทีมแชมป์โลก 4 สมัย เคยมีผลงานที่ไม่มีใครต้องการนี้เมื่อปี 1950 แต่คราวนั้นเกิดขึ้นหลังพักการแข่งขันไปนาน 12 ปี เนื่องจากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ขณะที่ บราซิล ในปี 1966 และ ฝรั่งเศส ในปี 2002 ก็ตกรอบแบ่งกลุ่มเช่นกัน

สาวก "สิงโตคำราม" อังกฤษ อุ่นใจได้ เมื่อ เวย์น รูนี่ย์ หัวหอกตัวเก่ง ยันหายเจ็บข้อเท้าทันฉะ เยอรมัน ในศึก เวิลด์ คัพ 2010 รอบน็อกเอาต์ วันอาทิตย์นี้แน่นอน หลังมีอาการเดี้ยงจนต้องถูกเปลี่ยนออกจากสนามในเกมเฉือนชนะ สโลวีเนีย เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าทีมชาติอังกฤษ ยืนยันว่าตัวเองจะฟิตทันลงสนามเจอกับ เยอรมัน ในศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบ 16 ทีมสุดท้าย วันอาทิตย์ที่ 27 มิ.ย. นี้ อย่างแน่นอน หลังจากมีอาการข้อเท้าเดี้ยง เล่นไม่จบเกมในนัดชนะ สโลวีเนีย 1-0 เมื่อวันพุธที่ 23 มิ.ย. ที่ผ่านมา
หัวหอก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดนเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 72 อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวเผยว่า "ข้อเท้าของผมจะกลับมาปกติแน่นอน" ขณะที่ ฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซือ "สิงโตคำราม" กล่าวว่า "ผมเปลี่ยนเอา เวย์น ออกมา เพราะเขาเจ็บข้อเท้า ผมไม่รู้ว่าอาการมันหนักหนาขนาดไหน ผมต้องรอให้หมอตรวจก่อน แต่ผมคิดว่าเขาน่าจะฟิตพร้อมลงสนามในเกมต่อไป"


มีเวลาเหลืออีก 1 วันน่ะครับ
คำถามที่ 3 ในฟุตบอลโลกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ให้เลือกมา 4 ทีมว่ามีทีมอะไรเข้ารอบบ้าง?
เริ่มรับคำตอบ วันที่ 23 มิถุนายน 2553 เวลา 13.30 น.
ปิดรับตอบคำถาม วันที่ 26 มิถุนายน 2553 เวลา 17.00 น.
ประกาศผลผู้โชคดี วันที่ 30 มิถุนายน 2553 เวลา 13.30 น.
มี 6 รางวัลครับ : รับของที่ระลึกเป็น หมวก Thule(ตอบถูกเป็นคนที่ 1-3) และ ของที่ระลึก เป็น หมวก Aeroklas motor sport (ตอบถูกเป็นคนที่ 4-6)
เข้ามาตอบที่กระทู้ห้องคำถามเท่าน้ันน่ะครับ
..
http://www.thaitritonclub.com/forum/...270#post323270

[Aeroklas]

สำหรับเมื่อคืนนี้ ทีมที่เข้ารอบ 16 ทีม ได้แก่
บราซิล โปรตุเกส สเปน และชิลีจ้า

มาดูตารางประกบคู่ 16 ทีมสุดท้ายกันดีกว่า
ประกบคู่น็อกเอาท์ 16 ทีม

Ko1 : อุรุกวัย พบ เกาหลีใต้

Ko2 : อเมริกา พบ กาน่า

Ko3 : เยอรมัน พบ อังกฤษ

Ko4 : อาร์เจนติน่า พบ เม็กซิโก

Ko5 : ฮอลแลนด์ พบ สโลวาเกีย

Ko6 : บราซิล พบ ชิลี

Ko7 : ปารากวัย พบ ญี่ปุ่น

Ko8 : สเปน พบ โปรตุเกส

สำหรับ คำถามร่วมสนุก คำถามที่ 3 ก็หมดเวลาตอบคำถามไปเรียบร้อยแล้วในเวลา 5 โมงเย็นที่ผ่านมา คงต้องมาดูกันว่าใครที่เป็นเซียนตัวจริง ทั้งตอบเร็ว ทั้งตอบแม่น มาเอาหมวกเก๋ๆ จากเราไปเลย!!
รอดูผลหลังจบรอบ 16 ทีมาสุดท้ายนะคร้าบบ
วันนี้ผมขอตัวไปเชียร์ เกาหลีใต้ ตัวแทนชาวเอเชียของเรา เอาชนะ อุรุกวัย ให้ได้ก่อนนะครับบบ

[Aeroklas]

21.00 น.

ฮอลแลนด์ VS สโลวาเกีย

ทีมชาติฮอลแลนด์ อดีตรองแชมป์โลก หนึ่งในตัวเต็งของฟุตบอลโลกครั้งนี้หลังชนะรวด 3 เกมรอบแรก จะเดินหน้าทำศึกรอบ 16 ทีมสุดท้าย กับ สโลวาเกีย คู่แข่งร่วมทวีปยุโรป ที่เพิ่งเข้ารอบสุดท้ายครั้งแรกในชื่อสโลวาเกีย หลังแยกประเทศจาก เชโกสโลวาเกีย เดิม
เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ เทรนเนอร์ทีมชาติฮอลแลนด์ ไม่มีปัญหาสภาพทีมแม้แต่จุดเดียว โดย อาร์เยน ร็อบเบน ปีกตัวเก่งจาก บาเยิร์น มิวนิค หายเจ็บกลับมาลงสำรองเกมชนะ แคเมอรูน 2-1 ได้แล้ว เมื่อ 24 มิ.ย. แถมยังโชว์ฟอร์มวูบวาบ ยิงไปชนเสาเปิดทางให้ คลาส-ยาน ฮุนเตลาร์ ซัดประตูชัยด้วย ร็อบเบน บาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าจากเกมลับแข้งกับ ฮังการี จนไม่มีส่วนร่วมกับ 2 นัดแรกของฟุตบอลโลก ทว่าก็พร้อมเป็นตัวเลือกแล้วหลังเล่นไป 15 นาทีเกมล่าสุด แต่ต้องลุ้นว่า ฟาน มาร์ไวค์ จะใช้งาน ร็อบเบน หรือ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท เพลย์เมกเกอร์จากเรอัล มาดริด ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ลงเป็นตัวจริงทั้ง 3 เกมที่ผ่านมา และก็ทำผลงานได้น่าพอใจ ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่จะยึดตำแหน่งต่อไป แม้ ร็อบเบน จะพร้อมสอดแทรกลงตัวจริงบ้างแล้วก็ตาม
โค้ชเบิร์ต มีการปรับทัพแค่เล็กน้อยในเกมกับ แคเมอรูน หลังทีมเข้ารอบไปแล้ว แต่กับการพบ สโลวาเกีย จะหันไปใช้ทีมชุดใหญ่เต็มที่ โดย เกรกอรี่ ฟาน เดอร์ วีล จะกลับมาทวงแบ็กขวาตัวจริงคืนจาก คาลิด บูห์ลารูช อีกครั้ง 11 ตัวจริงน่าจะเป็นชุดเดียวกับที่ชนะ ญี่ปุ่น 1-0 เมื่อ 19 มิ.ย. ยกเว้น ร็อบเบน ที่อาจแทรกได้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กองหน้าจากอาร์เซน่อล แม้เพิ่งยิงได้แค่ประตูเดียวตลอด 3 เกมรอบแรก แต่ก็จะยึดตัวจริงต่อไปเนื่องจาก ฟาน มาร์ไวค์ ให้ความไว้วางใจอย่างเต็มที่ เช่นกันกับเพลย์เมกเกอร์ตัวทีเด็ดอย่าง เวสลี่ย์ สไนเดอร์ จากอินเตอร์ มิลาน ที่คว้า แมน ออฟ เดอะ แมตช์ จากฟีฟ่า 2 เกมแรกที่ชนะ เดนมาร์ก ต่อด้วย ญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม ตลอด 3 เกมในรอบแรก "ฟลายอิ้งดัตช์แมน" มีนักเตะที่โดนใบเหลืองหลายราย และจะติดคาดโทษต่อในรอบนี้ ทั้ง ไนเจล เดอ ยองก์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, เกรกอรี่ ฟาน เดอร์ วีล, โจวานนี่ ฟาน บรองค์ฮอร์สท์, เดิร์ค เค้าท์ และ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ซึ่งจะโดนแบนในรอบ 8 ทีมสุดท้ายหากโดนเพิ่มอีกใบ
ส่วนด้าน วลาดิเมียร์ ไวส์ เพิ่งพาทีมสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเฉือนชนะ อิตาลี 3-2 ในนัดสุดท้ายของรอบแรก ทำให้ผ่านเข้ารอบมาด้วยการเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม เอฟ แต่เกมนี้จะไม่มี ซเดโน่ สเตอร์บา ที่ติดโทษแบน หลังสะสมใบเหลืองครบกำหนด ขณะที่ ยูราจ คุชก้า ต้องรอทดสอบความฟิต เพราะเกิดมีอาการเจ็บเล็กน้อยจนไม่ได้ลงซ้อมใน 2 วันที่ผ่านมา
ระบบ 4-4-2 ผู้รักษาประตูเป็น แยน มูช่า ตามปกติ แนวรับ มาร์ติน สเคอร์เทล จับคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟกับ แยน ดูริก้า ขนาบข้างด้วย ปีเตอร์ เปคาริค และ ราโดสลาฟ ซาบาฟนิค คามิล โคปูเน็ค ที่ทำ 1 ประตูในเกมกับ อิตาลี จะลงมายืนมิดฟิลด์คู่กลางกับ ยูราจ คุชก้า แทน ซเดโน่ สเตอร์บา ที่ถูกพักแข้ง ปล่อยริมเส้นให้เป็นหน้าที่ของ มาเร็ค ฮัมซิค และ มิโรสลาฟ สต็อช ส่งผลให้ลูกชาย วลาดิเมียร์ ไวส์ ยังนั่งสำรองเหมือนเดิม คู่หน้า โรเบิร์ต วิตเท็ค จับคู่ล่าตาข่ายกับ อีริค เยนดริเช็ค


01.30 น.
บลาซิล VS ชิลี
คาร์ลอส ดุงก้า เทรนเนอร์คนเก่งของ "เซเลเซา" ทีมชาติบราซิล ไม่สนเสียงวิจารณ์ว่าทีมของเขาไม่สามารถโชว์ลีลาสไตล์การเล่นที่สวยงามออกมาได้ แต่ยังพาทีมครองแชมป์กลุ่มจี. ได้ในรอบแรกตามความคาดหมายด้วยผลงานชนะ เกาหลีเหนือ 2-1 ต่อด้วยการชนะ ไอวอรี่ โคสต์ 3-1 และ เสมอกับ โปรตุเกส แบบโนสกอร์ 0-0 ในนัดสุดท้าย
ความพร้อมทั่วไปของ บราซิล จะได้ กาก้า จอมทัพหน้าหยกพ้นโทษแบน 1 นัดกลับมาบงการเกมรุก นอกจากนั้นยังได้ข่าวดีเพิ่มเติมอีก เมื่อ เอลาโน่ บลูแมร์ กองกลางตัวริมเส้น ฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บข้อเท้า กลับมาลงฝึกซ้อมได้อย่างเต็มที่แล้ว คงฟิตทันช่วยทีมเจอกับ ชิลี เพื่อนร่วมทวีปในวันจันทร์นี้ได้แน่
ส่วน โรบินโญ่ สตาร์ตัวรุกของแซมบ้า อีกรายที่พลาดการลงสนามในเกมนัดสุดท้ายของกลุ่มกับ โปรตุเกส เนื่องจากเจ็บต้นขาซ้ายเล็กน้อยระหว่าง กลับมาซ้อมแล้วเช่นกัน กลับมายึดตำแหน่งตัวจริงทำให้ นิลมาร์ ต้องกลับไปเป็นสำรองตามเดิม ขณะเดียวกัน สมาพันธ์ฟุตบอลบราซิล (ซีบีเอฟ) ออกมาเผยว่า เฟลิเป้ เมโล่ กองกลางตัวรับที่มีอาการข้อเท้าพลิก ระหว่างพักครึ่งของเกมเสมอกับ โปรตุเกส มีอาการดีขึ้นแล้วแต่ยังต้องรอเช็คความฟิต
สำหรับ "ไอ้ยักษ์" ชูลิโอ บาปติสต้า ที่บาดเจ็บหัวเข่าจากเกมเดียวกันได้รับการประเมินว่ามีอาการดีขึ้น ทว่าคงเป็นแค่สำรองเท่านั้นในเกมนี้ ในรายของ เมโล่ นั้น หากลงเล่นไม่ได้จะเป็น โชซูเอ้ กองกลางร่างเล็กลงมาเล่นแทนเหมือนกับเกมที่เสมอกับทัพฝอยทอง ส่วน จิลแบร์โต้ ซิลวา มิดฟิลด์ตัวเก๋าที่ได้พักในเกมก่อนจะหวนคืนสู่ทีมอีกครั้ง โดยมี หลุยส์ ฟาเบียโน่ ดาวยิงจากสโมสรเซบีย่า ที่ทำไปแล้วสองประตูให้บราซิล ในรอบแรก ลงมายืนเป็นหัวหอกตัวเป้า
ส่วนด้าน มาร์เซโล่ บิเอลซ่า เทรนเนอร์ชาวอาร์เจนติน่าของ ชิลี เจอปัญหาในการจัดทัพเกมนี้พอสมควร หลังจากพ่าย สเปน 1-2 ในนัดสุดท้าย รอบแรก ทำให้จบด้วยการเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มเอช ต้องโคจรมาพบกับ บราซิล แชมป์กลุ่มจี สภาพทีม บิเอลซ่า ไม่มีปัญหาลูกทีมบาดเจ็บ แต่เจอปัญหานักเตะติดโทษแบนพร้อมกันถึง 3 คน นั่นคือ วัลโด้ ปอนเช่, แกรี่ เมเดล และ มาร์โก เอสตราด้า ทำให้ต้องปรับทัพขนานใหญ่ในเกมนี้
แนวรุก กุนซือชาวอาร์เจนติน่า ยังต้องตัดสินใจอีกว่าจะส่ง อุมเบร์โต้ ซัวโซ่ กองหน้าตัวเก่ง ลงเล่นเป็นตัวจริงเลยหรือไม่ เพราะมีปัญหาเรื่องสภาพความฟิตหลังหายเจ็บกลับมา หรือจะส่ง ฮอร์เก้ วัลดิเวีย มิดฟิลด์ดันขึ้นไปเล่นสูงเหมือนนัดที่แล้ว ระบบการเล่น 3-4-3 เคลาดิโอ บราโว่ ลงเฝ้าเสา แผงหลังใช้ เมาริซิโอ อิสล่า, ปาโบล กอนเตรราส, อิสมาเอล ฟูเอนเตส แดนกลางมี อาร์ตูโร่ วิดาล, คาร์ลอส คาร์โมน่า, โรดริโก้ มิยาร์, มาติอัส เฟร์นานเดซ แดนหน้าใช้ ฌอน โบเซอฌูร์, อเล็กซิส ซานเชซ, อุมเบร์โต้ ซัวโซ่
ข่าว

แฟนบอลผู้ดีโวยทีมห่วย-กรรมการแย่
แฟนบอล "สิงโตคำราม" อังกฤษ ต่างออกมาแสดงความผิดหวังสุดๆ หลังจากพ่าย "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี อย่างน่าอับอาย 4-1 ในศึกเวิลด์ คัพ 2010 รอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พร้อมจวกกรรมการที่ไม่ยอมเป่าให้ลูกยิงของแฟร้งค์ แลมพาร์ด เป็นประตู ด้านเฮลมุต ครู้ก อดีตเชิ้ตดำเมืองเบียร์ ชี้เป็นความผิดพลาดอย่างรุนแรงของผู้ตัดสิน
แฟนบอลชาวอังกฤษ ออกมาแสดงความไม่พอใจกับผลงานของทีมชาติอังกฤษ รวมถึงการทำหน้าที่ของ ฮอร์เก้ ลาร์ริออนด้า กรรมการชาวอุรุกวัย หลังจากทีมเป็นฝ่ายพ่าย ทีมชาติเยอรมนี ขาดลอย 4-1 ในศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา แฟนบอลผู้ดีกว่า 80,000 ชมเกมผ่านจอขนาดยักษ์ที่งานเทศกาลดนตรีแกลสตันบิวรี่ โดยพอล แฟนบอลวัย 24 ปี กล่าวหลังเห็นผลงานของทีมว่า "ผมรู้สึกหดหู่มากในตอนนี้ เราทำผลงานได้แย่มากเช่นเดียวกับผู้ตัดสิน อย่างน้อยผมก็อยู่ในที่ที่เหมาะสมที่จะชะล้างความเศร้าโศกเสียใจ"
เสียงโห่ดังขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อทัพ "สิงโตคำราม" ถูกปฏิเสธประตูที่จะทำให้พวกเขาตีเสมอเป็น 2-2 ก่อนหมดเวลาครึ่งแรกจากลูกยิงของแฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่ชนคานกระดอนผ่านเส้นประตูเข้าไปแล้วก่อนจะเด้งออกมา สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ชมอย่างมาก โจ แฟนบอลวัย 35 ปี กล่าวว่า "เราเล่นแย่ก็จริง แต่เราถูกปล้นด้วย ผมไม่รู้ว่ากรรมการพลาดประตูนั้นได้อย่างไร พวกเยอรมนีคงบอกว่าเป็นการชดใช้ประตูเมื่อปี 1966 (รอบชิงเวิลด์ คัพ) แต่มันทำให้ผมหมดอาลัยตายอยากไปเลย"
หลังจากทัพ "อินทรีเหล็ก" ซัดประตูที่ 4 ผู้คนจำนวนมากลุกออกไปจนเกือบหมด คล้ายกับสถานการณ์ที่ผับแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน เมื่อเหลือแฟนบอลหัวรั้นเพียง 2-3 คนที่นั่งชมเกมจนเสียงนกหวีดจบเกมดังขึ้น และ เดฟ ไรท์ วัย 22 ปี กล่าวว่า "มันเป็นเรื่องเดิมๆ ทุกครั้งที่เราเล่นกับ เยอรมนี ผมรู้สึกโมโหกับประตูนั้นซึ่งอาจเปลี่ยนทั้งเกมได้ เราอาจได้ประตูที่ 3 หรือ 4 ตามมา แต่ทุกประตูที่เราเสียน่าสลดใจมาก เกมรับย่ำแย่มาก เราไม่สมควรผ่านเข้ารอบ"
ด้าน ฟิล โธมัส วัย 21 ปี เพื่อนของ ไรท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า "เมื่อลูกที่ 2 เข้าประตูไป พวกเราก็คิดประมาณว่า โอเค ได้เลย จากนั้นทุกคนก็ยืนขึ้น และเริ่มคลั่ง แต่เยอรมนี เล่นได้ดี และเราไม่สามารถเล่นเกมของเราได้" ขณะที่ เฮลมุต ครู้ก อดีตผู้ตัดสินชาวเยอรมนี ออกมาให้ความเห็นถึงลูกยิงของแลมพาร์ด มิดฟิลด์เชลซี "นั่นเป็นความผิดพลาดที่ไม่น่าให้อภัย ผู้ช่วยผู้ตัดสินควรจะเห็นในจังหวะนั้น มันชัดเจนว่าบอลข้ามเส้นไปแล้ว ผู้ช่วยผู้ตัดสินควรเห็นลูกนั้นโดยไม่ต้องดูภาพรีเพลย์ด้วยซ้ำ"
ส่วน ธีโอ ซวานซีเกอร์ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลเยอรมัน (เดเอฟเบ) บอกกับสถานีโทรทัศน์เมืองเบียร์ว่า เขามองเห็นจากที่นั่งของเขาบนอัฒจันทร์ว่าลูกบอลข้ามเส้นไปแล้ว "เราต้องยึดกฎกติกาที่เรามี ผมรู้สึกเห็นใจแฟนบอลของ อังกฤษ ผมยังมองเห็นจากอัฒจันทร์ว่าบอลเข้าประตูไปแล้ว"
ซึ่งเหตุการณ์นี้จะถูกบันทึกไว้หน้าประวัติศาสตร์ความเป็นคู่ปรับเกมลูกหนังอันยาวนานระหว่าง อังกฤษ และ เยอรมนี และยังช่วยให้เกิดเป็นข้อถกเถียงมากขึ้นว่า สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ควรนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยผู้ตัดสินในการทำหน้าที่หรือไม่

เมสซี่รับแพ้พนันเสือเตี้ยยิงจังโก้ไม่ได้
ลิโอเนล เมสซี่ สตาร์ลูกหนังอัจฉริยะทัพ "ฟ้า-ขาว" อาร์เจนตินา สุดเซ็งแพ้พนัน "เสือเตี้ย" ดีเอโก้ มาราโดน่า กุนซือของทีม หลังยังทำประตูไม่ได้ในเกมทุบ "จังโก้" เม็กซิโก 3-1 ในศึกเวิลด์ คัพ 2010 รอบ 2 เมื่อวันอาทิตย์ ที่ผ่านมา แต่ย้ำไม่คิดมากขอมุ่งมั่นจะพาทีมเดินหน้าเข้ารอบแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ มากกว่า
ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินาของบาร์เซโลน่า แห่งศึกลา ลีกา ออกมาเปิดเผยว่าเขาได้ท้าพนันกับ ดีเอโก้ มาราโดน่า เทรนเนอร์คนดังของทัพ "ฟ้า-ขาว" ไว้ว่าจะทำประตูได้เมื่อไร ในศึกฟุตบอลโลก 2010 แต่สุดท้ายกลับเป็นฝ่ายแพ้ไป หลังจากยังคงส่งลูกเข้าไปตุงตาข่ายไม่ได้ในเกมชนะ เม็กซิโก 3-1 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
เมสซี่ เกือบทำประตูได้ในจังหวะชิพบอลข้าม ออสการ์ เปเรซ นายทวารเม็กซิโก แต่คาร์ลอส เตเวซ ดาวยิงคู่หูมาเป็นคนโหม่งเปลี่ยนทางบอลให้อดีตแชมป์โลก 2 สมัยขึ้นนำในนาทีที่ 26 "ค่ำวันนี้ ผมน่าจะทำได้สักประตู ผมมีโอกาสยิงหลายครั้ง แต่ไม่มีโชคเอาเสียเลย หวังว่าผมจะทำได้สักประตูในเกมพบ เยอรมนี เราเจอทีมชั้นยอด และ โชคดีมากที่ทำได้ 2 ประตูในครึ่งแรก คุมเกมได้ตั้งแต่ตอนนั้น เวลามีบอล เรากลายเป็นทีมที่แข็งแกร่งขึ้น ผมรู้สึกดี และ ยังมีเกมให้ลงเล่นอีก 2-3 นัด ผมสบายใจและมีความสุขดีในสนาม"
"ผมไม่ห่วงเรื่องนี้ สิ่งที่ผมสนใจมากกว่าคืออาร์เจนตินา เดินหน้าแบบนี้ต่อไป ผมว่าตัวเองเล่นไม่ได้ดีเหมือนเกมนัดก่อนๆ มันยากทีเดียว แต่ทุกอย่างดีหมด ไม่มีปัญหาอะไร" ดาวเตะวัย 23 ปี วิจารณ์ฟอร์มของตัวเองในเกมล่าสุด พร้อมมองถึงการพบเยอมนี "ทุกคนรู้จักกันดี หลังจากที่เจอกันอีกนัดในเกมกระชับมิตร ไม่นานมานี้ มันจะเป็นเกมที่ยากทีเดียว"
ขณะที่ "เสือเตี้ย" รู้สึกไม่พอใจที่ เมสซี่ โดนกองหลังเม็กซิโกเข้าสกัดหนักเกินไปอยู่บ่อยๆ "เวลา เมสซี่ ได้บอลทุกคนพยายามเตะเขา พวกเขาไม่ได้มองหาบอลเลยด้วยซ้ำ พวกเขาแค่ต้องการเตะเขา ผู้ตัดสินไม่ได้ทำอะไรที่ช่วยปรามตรงนั้นเลย" ส่วนบรรดาเพื่อนร่วมทีมเชื่อว่า เมสซี่ เหลือแค่จะยิงได้แต่เมื่อไรเท่านั้น โดย กอนซาโล่ อิกวาอิน ที่เป็นดาวซัลโวของทัวร์นาเมนต์ด้วยผลงาน 4 ประตู กล่าวว่า "เขาจะส่งลูกเข้าไปได้แน่ เรารู้ว่าพวกเขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก และ เราไม่สงสัยเลยว่าเขาจะส่งลูกเข้าประตูไป" ก่อนเสริมว่าฟอร์มฝืดไม่ได้ทำให้เขากังวลเลย "ไม่เลย ไม่เลย นักเตะที่มีความสามารถอย่างเขาเหรอ ผมว่าเรื่องนี้ไม่มีผลกับเขาหรอก"
นอกจากนี้ โฮนาส กูเตียร์เรซ ปีกนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ได้ออกมาชื่นชม เมสซี่ เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมโลกของ ฟีฟ่า บ้างว่า "เร็วๆ นี้ เขาจะทำประตูได้แน่ สำหรับเราเมสซี่ ถือว่าน่าเหลือเชื่อมาก เขาสมบูรณ์แบบ และ ผมชอบเล่นกับเขา"

[Aeroklas]

ฟุตบอลโลก 2010 รอบ 16 ทีมสุดท้าย
21.00 น.
ปารากวัย VS ญี่ปุ่น

ปารากวัย พร้อมขนแนวรุกเต็มพิกัดโดยจะจัดกองหน้าลงพร้อมกัน 3 คน ในการพบกับ ญี่ปุ่น ขณะที่ทีม "ซามูไร" จะนำทัพโดย เคซูเกะ ฮอนดะ กองหน้าตัวเก่ง ในศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบ 16 ทีมสุดท้าย คืนนี้
เคราร์โด้ มาร์ติโน่ พาทีมทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการจบด้วยอันดับ 1 ของกลุ่ม เอฟ และยังไม่แพ้ให้กับใครเลย แต่เกมนี้จะไม่มี วิคเตอร์ กาเซเรส มิดฟิลด์คนสำคัญที่ติดโทษแบน หลังสะสมใบเหลืองครบกำหนด
ด้วยระบบ 4-3-3 ฮุสโต้ วีย่าร์ ลงเฝ้าเสา แนวรับได้ อันโตลิน อัลการาซ หายเจ็บข้อเท้าซ้ายกลับมาจับคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟกับ เปาโล ดา ซิลวา ขนาบข้างด้วย เดนิส กานิซ่า และ เคลาดิโอ โมเรล โรดริเกซ ขยับขึ้นมา การ์ลอส โบเน็ต ดาวเตะสารพัดประโยชน์ จะถูกส่งลงมาช่วย เอ็นริเก้ เวร่า กับ คริสเตียน ริเวรอส ในแดนกลาง แทน กาเซเรส ที่ถูกพักแข้ง แนวรุกเป็น 3 ประสาน โรเก้ ซานตา ครูซ, ลูคัส บาร์ริออส และ เนลสัน วัลเดส แต่ก็มี ออสการ์ การ์โดโซ่ เป็นตัวสอดแทรก
ด้านญี่ปุ่น ตัวแทนหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ของทวีปเอเชีย ในฟุตบอลโลก 2010 ผ่านเข้ามาเตะกับ ปารากวัย ด้วยการเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มอี หลังจากเขี่ย เดนมาร์ก ตกรอบในเกมสุดท้าย ด้วยชัยชนะสุดหรู 3-1
ทาเคชิ โอกาดะ กุนซือทีมซามูไรสีน้ำเงิน ไม่มีปัญหาสภาพทีมให้หนักใจแต่ประการใด โดยจะยึดทีมเดิมที่ใช้ในเกมล่าสุด ลงสนามต่อเนื่อง จากการที่ทำผลงานกันได้ดีเยี่ยมอยู่แล้ว เคซูเกะ ฮอนดะ กองกลางตัวเก่งจากซีเอสเคเอ มอสโก ที่ยิงฟรีคิก 1 ประตูและจ่ายให้เพื่อนยิงอีก 1 ประตูในเกมสยบทีมโคนม จนได้รางวัลแมนออฟ เดอะ แมตช์ จะลงเป็นตัวทีเด็ดในตำแหน่งกองหน้าจำเป็นเช่นเดิม เนื่องจาก โอกาดะ ต้องการแพ็กแดนกลางให้แน่นที่สุดดังเดิมในระบบ 4-5-1 พร้อมกับถ่าง โยชิโตะ โอคูโบะ ที่ปกติเป็นกองหน้า ไปช่วยงานริมเส้น
นอกนั้นที่เหลือจะไม่เปลี่ยน กัปตันทีม มาโกโตะ ฮาเซเบะ ลงนำทีม แนวรับมี มาร์คัส ตูลิโอ ทานากะ เซนเตอร์แบ็กเชื้อสายแซมบ้า ยืนกับ ยูจิ นากาซาวะ ที่ลงเล่นทีมชาติมาแล้ว 108 นัด ตามเดิม พร้อมด้วยแผงกลางที่ประกอบด้วย ยาสุฮิโตะ เอ็นโดะ เจ้าของฟรีคิกสุดสวยอีกประตูในเกมล่าสุด, มาโกโตะ ฮาเซเบะ, ไดสุเกะ มัตสึอิ, ยูกิ อาเบะ และ โยชิโตะ โอคูโบะ มาร์คัส ตูลิโอ ทานากะ มีปัญหาบาดเจ็บแผ่นหลังเล็กน้อยก่อนหน้านี้ แต่เจ้าตัวก็ยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะพร้อมลงสนามรับมือเกมบุกของ ปารากวัย ร้อยเปอร์เซ็นต์ ด้าน ชุนซูเกะ นากามูระ อดีตจอมทัพเอ็มวีพีลีกสกอตติช ก็จะยังคงเริ่มต้นด้วยการเป็นตัวสำรองเช่นเดิม รวมไปถึง ทากายูกิ โมริโมโตะ กองหน้าจากคาตาเนีย ที่ยังเป็นสำรองในทีมชุดนี้ และเช่นกันกับ ชินจิ โอกาซากิ หัวหอกชิมิสุ เอส-พัลส์ ที่เป็นคนยิงประตูปิดกล่องเกมสุดท้ายรอบแรก สำหรับ ยูกิ อาเบะ, ยูโตะ นากาโตโมะ และ ยาสุฮิโตะ เอ็นโดะ โดนใบเหลืองไปคนละ 1 ใบแล้วใน 3 เกมรอบแรก ถ้าโดนอีกจะติดแบนเกม 8 ทีมสุดท้ายทันทีถ้าฝ่าด่านเข้ารอบไปได้

01.30 น.
สเปน – โปรตุเกส


"กระทิงดุ" สเปน เตรียมทำศึกกับ โปรตุเกส โดยจะส่ง ดาบิด บีย่า กองหน้าตัวเก่งยืนประสานแนวรุกร่วมกับ อันเดรส อิเนียสต้า และ เฟร์นานโด ตอร์เรส ขณะที่ "ฝอยทอง" จะนำทัพโดย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบ 16 ทีมสุดท้าย คืนนี้
บิเซนเต้ เดล บอสเก้ เทรนเนอร์ทีมกระทิงดุ คุมทีมผ่านรอบแรกด้วยชัยชนะ 2 นัด และแพ้ 1 นัด ยิงไปแล้ว 4 ประตูจาก ดาบิด บีย่า คนเดียว 3 อีกลูกได้จาก อันเดรส อิเนียสต้า ขณะเดียวกันพวกเขายังเป็นทีมเดียวในทัวร์นาเมนต์นี้ที่ยังไม่มีใครโดนใบเหลืองด้วย
สภาพทีม มีปัญหาให้ต้องกังวลตรงแดนกลาง ชาบี อลอนโซ่ มิดฟิลด์ตัวรับจาก เรอัล มาดริด บาดเจ็บข้อเท้าขวาพลิก ต้องรอทดสอบความฟิต หากไม่พร้อม ฆาบี มาร์ติเนซ กองกลางดาวรุ่งจาก แอธเลติก บิลเบา จะได้ทำหน้าที่แทน ในราย ราอูล อัลบิโอล กองหลังตัวสำรอง ได้รับบาดเจ็บกระดูกหน้าแข้งในช่วงซ้อม ทำให้ต้องรอทดสอบความฟิตอีกคน แต่ดูแล้วไม่น่าจะพร้อม ซึ่งก็คงไม่มีผลกระทบอะไรต่อทีมอยู่แล้ว เพราะนักเตะยังไม่เคยได้ลงสนามเลยจาก 3 นัดแรก
ระบบการเล่น 4-3-3 อิเกร์ กาซิยาส ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้งาน เซร์คิโอ รามอส, การ์เลส ปูโญล, เกราร์ด ปิเก้, โจน กัปเดบิล่า แดนกลางมี เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, ชาบี อลอนโซ่, ชาบี เอร์นานเดซ ส่วนสามประสานแนวรุกใช้ อันเดรส อิเนียสต้า, ดาบิด บีย่า, เฟร์นานโด ตอร์เรส
คาร์ลอส เคยรอซ นายใหญ่ของ"ทัพฝอยทอง" ทีมชาติโปรตุเกส โชว์ผลงานได้อย่างดีทีเดียวในเวิลด์ คัพ ครั้งนี้ โดยรักษาสถิติไม่แพ้ใคร และ ไม่เสียประตูเลยในสามนัดที่ลงเล่นในรอบแรก โดยเริ่มจากเสมอ ไอวอรี่ โคสต์ 0-0 ต่อด้วยการถล่ม โปรตุเกส หายห่วง 7-0 เป็นสถิติชนะกันขาดลอยมากที่สุดอยู่ในทัวร์นาเม็นท์นี้ ตามมาด้วยการเสมอกับ บราซิล แชมป์โลก 5 สมัย แบบโนสกอร์ อีกครั้ง
นอกจากนั้นมีการเปิดเผยว่า โปรตุเกส ชุดนี้ไม่ปราชัยให้กับใครมายาวนานถึง 18 นัดติดต่อกันแล้ว รวมทั้งเกมที่เสมอกับ บราซิล ในรอบแรก 0-0 ทำให้ไม่เสียประตูเป็นนัดที่ 22 จากการลงเล่น 26 นัดหลังสุดด้วย ความพร้อมทั่วไป โปรตุเกส ไม่มี รูเบน อโมริม กองกลางดาวรุ่งจากสโมสรเบนฟิก้า ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน รวมไปถึง ดานนี่ มิดฟิลด์ตัวรุกที่มีอาการฟกช้ำที่ขาซ้าย
อย่างไรก็ตามทีมฝอยทอง จะได้ตัว เดโก้ ซูซ่า กองกลางจอมเก๋าที่พักเอาไว้ในเกมสุดท้ายของรอบแรก กลับมาช่วยทีมได้อีกครั้ง แต่คงมีชื่อเป็นแค่สำรองเท่านั้นในนัดนี้แนวรับเรียก เปาโล แฟร์เรยร่า กลับมาเล่นเป็นแบ็คขวาตัวจริงแทน มิเกล มอนเตยโร่ ส่วนแบ็กซ้าย ฟาบิโอ โคเอนเตรา ดาวรุ่งที่แจ้งเกิดในรายการนี้ยังจับจองพื้นที่ตรงนี้อย่างเหนียวแน่น แดนกลางให้ เปเป้ ยืนคุมเกมกลางสนาม โดยขยับเอา ติอาโก้ เมนเดส ยืนทางขวา และ ด้านซ้ายให้ ราอูล เมยเรเลส ประจำการไป สามประสานแดนหน้าจัดจ้านไม่แพ้ทีมไหน นำมาโดย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์จากสโมสรเรอัล มาดริด ผนึกกำลังร่วมกับ ซิเมา ซาโบรซ่า คอยช่วยเหลือ เลียดสัน กองหน้าตัวเป้าเชื้อสายบราซิเลี่ยน ในการเข้าทำสกอร์

ข่าว

สตีเว่น เจอร์ราร์ด มิดฟิลด์ไดนาโม ก้มหน้ารับชะตา อังกฤษ ไม่อาจใช้ลูกยิงปัญหาของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด มาเป็นข้อแก้ตัวกับการปราชัยสุดชอกช้ำได้ ชี้ "สิงโตคำราม" ทำพลาดเป็นว่าเล่น พร้อมยกเครดิตให้ "อินทรีเหล็ก" เล่นได้อย่างแข็งแกร่ง สมควรทะลุผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายอย่างแท้จริง
สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมชาติอังกฤษ ยอมรับ ไม่อาจนำข้ออ้างประตูที่ถูกปฏิเสธของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด กองกลางเพื่อนร่วมทีม มาเป็นข้อแก้ตัวต่อการปราชัย เยอรมัน ยับเยิน 1-4 ในศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน ที่ผ่านมา
"แลมพ์ส" คิดว่า ลูกกระหน่ำไกลของตน กลายเป็นประตูตีเสมอ 2-2 ให้ทัพ "สิงโตคำราม" ไปแล้ว หลังจากบอลกระทบคาน ก่อนเด้งข้ามเส้นประตูเข้าไปอย่างชัดเจน ในช่วงปลายครึ่งแรก อย่างไรก็ดี บรรดานักเตะ และสตาฟฟ์โค้ชแดนผู้ดี ต้องช็อกตาตั้ง เพราะผู้ตัดสินไม่ได้เป่าให้เป็นลูกได้ประตู
ดาวเตะ ลิเวอร์พูล ยอมรับว่า จังหวะปัญหาเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญของเกม แต่ก็ยอมรับว่า "อินทรีเหล็ก" เป็นทีมที่ดีกว่าในวันนี้ "นี่เป็นการตัดสินใจสำคัญในเกม ตอน 2-1 พวกเราถูกปฏิเสธประตู ตอนตามหลัง 2-1 พวกเรากำลังบดพวกเขา และเรายังอยู่ในเกม ผมคิดว่ามันส่งผลกระทบ แต่เราไม่อาจใช้มันเป็นข้อแก้ตัวจากการแพ้ 1-4"
"มันอาจเป็นประตูสำคัญของพวกเรา แต่มันล้วนเป็นคำแก้ตัว เยอรมัน เป็นทีมที่วิเศษ และพวกเขาสมควรได้รับชัยชนะแล้ว คุณตกรอบไป พร้อมกับความคิดว่า มันมีอะไรผิดปกติ และทำไมพวกเราถึงไม่ได้ผ่านเข้าไปได้ไกลกว่านี้ในทัวร์นาเมนต์ วันนี้ในฐานะทีม พวกเราทำผิดพลาดครั้งใหญ่ และเราแพ้ทีมที่เก่ง พวกเขามีประสิทธิภาพมากกว่าหน้าปากประตู และทำผิดพลาดน้อยกว่าพวกเรา เราโดนลงโทษจากเรื่องเหล่านี้ในเกมวันนี้" หัวหน้าทัพ "ทรี ไลอ้อนส์" สรุป


เธียร์รี่ อองรี หัวหอกจอมเก๋าของทีมชาติฝรั่งเศส ออกมาเปิดเผยว่า เขาได้ตกลงแยกทางกับ บาร์เซโลน่า ต้นสังกัดใน ลา ลีกา สเปน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตามรายงานจากสำนักข่าวเอพี เมื่อวันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน ที่ผ่านมา
โจน โอลิเบร์ ผู้อำนวยการทั่วไปของบาร์เซโลน่า ออกมาเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ว่า ยาย่า ตูเร่ กองกลางตัวรับทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ ก็ไม่ต้องการอยู่ต่อกับทีมแชมป์ลา ลีกา 2 สมัยหลังสุดแล้ว หลังจากช่วยให้ บาร์เซโลน่า ครอบครองโทรฟี่แชมป์ถึง 6 รายการใหญ่ รวมทั้งยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2009 ทาง เธียร์รี่ อองรี กองหน้าชาวฝรั่งเศส ที่ยิงได้เพียงแค่ 4 ประตูให้กับต้นสังกัดในซีซั่นก่อน และเหลือสัญยาอีก 1 ปี ก็ตกลงแยกทางกับ "เจ้าบุญทุ่มแห่งคาตาลัน" เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนั้น โอลิเบร์ เผยว่า อนาคตของ ยาย่า ตูเร่ อยู่ในมือของเขาเอง โดยเวลานี้มีความสนใจจากทาง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมดังของพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ที่พร้อมจะซิวตัวไปเสริมความแข็งแกร่งในซีซั่นหน้า
ส่วน ชิกิ เบกิริสไตน์ ผู้อำนวยการกีฬาของบาร์ซ่า จะออกจากสโมสรทันที เมื่อ ซานโดร โรเซลล์ ประธานสโมสรคนใหม่ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กรกฏาคม นี้

[Aeroklas]

ฟุตบอลโลก 2010 รอบ 16 ทีมสุดท้าย
วันอังคารที่ 29 มิถุนายน 2553

21.00 น. ปารากวัย 0-0 ญี่ปุ่น (120 นาทีเสมอ 0-0 ปารากวัย ผ่านเข้ารอบยิงจุดโทษชนะ 5-3 )
ยุ่นน้ำตาตก!บอดโทษแพ้ปารากวัย 5-3 ญี่ปุ่นเกือบสร้างชื่อให้เอเชียหลังยื้อสู้กับปารากวัยใน 120 นาทีเสมอ 0-0 แต่บอดโทษพ่ายปารากวัยระทึก 5-3 หยุดเส้นทางในศึกฟุตบอลโลกไว้เพียงแค่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเท่านั้น
ลูคัสคืนหอกปารากวัย,ยุ่นใช้ชุดถล่มโคนม เกราร์โด มาร์ติโน่ เฮดโค้ชปารากวัยปรับถึงห้าตำแหน่ง คาร์ลอส โบเน็ต ฟูลแบ็ก,อันโตลิน อัลคาเรซ,เสตเตอร์ ออร์ติโกซ่า,เอ็ดการ์ เบนิเตซ และ ลูคัส บาร์รอส ออกสตาร์ท ส่วน ทาเกชิ โอคาดะ บิ๊กบอสญี่ปุ่นไม่เปลี่ยนผู้เล่นยังเป็นชุดเดียวกับที่ไล่ต้อน เดนมาร์ก นำทัพโดย ไคซูเกะ ฮอนดะ
ครึ่งแรก
ลูคัสเกือบได้โกล์ยุ่นขาเซฟ เปิดฉากยอดทีมอเมริกาใต้พยายามชิงความได้เปรียบหมายพังประตูขึ้นนำให้ได้แต่ยังฝ่าแนวรับของยุ่นที่ตั้งรับเหนียวแน่นกระทั่งนาที 20 ลูคัส บาร์ริออส ทำชิ่งกับ เบนิเตซ ไหลทะลุให้ บาร์ริออส หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษทางซ้ายก่อนยิงไปติด คาวาชิม่า นายทวารปฎิกริยาดีมากใช้ขาสกัดทิ้งรอดพ้นเสียประตู
ยุ่นเกือบเฮชนคาน จากนั้นอีกสองนาทีทัพซามูไรได้โอกาสครั้งแรกเกือบเป็นประตูทันที ฮอนดะ กระชากลากเลื้อยทางขวาก่อนโดนกองหลังปารากวัยสกัดมาเข้าทาง มัตซูอิ เอี้ยวตัวยิงนอกกรอบ 25 หลาบอลลอยข้ามหัวผู้รักษาประตูไปแล้วชนคานเต็มๆ
ซานต้าล่อเป้าหลุดกรอบ เกมดำเนินมาถึงครึ่งชั่วโมง ปารากวัย ได้ลุ้นอีกครั้ง โมเรล โยนลูกเตะมุมทางซ้ายไปหน้าปากประตูบอลหล่นมาใส่เท้า ซานตา ครูซ ได้ยิงล่อเป้าหลุดกรอบไปเอง
ซานต้าเซฟปารากวัย ช่วง 10 นาทีสุดท้ายทัพซามูไรหันมาเปิดเกมบุกกดดันบ้างและก็ได้ฟรีคิกระยะน่าลุ้นเยื้องทางซ้าย เอ็นโดะ ไม่ยิงเปิดไปยังเสาสอง ซานตา ครูซ กองหน้าล้มตัวโหม่งช่วยสกัดทิ้งไม่งั้นหากปล่อยข้ามไปโดนกองหน้ายิงล่อเป้าแน่
ยุ่นน่าเสียดาย!ฮอนดะไซด์โค้ง เหลืออีก 5 นาทีสุดท้ายโอกาสที่ดีที่สุดของทีมอาทิตย์อุทัยเลยก็ว่าได้ มัตซูอิ เร็วจี๊ดกระชากลากเลื้อยทางขวาก่อนไหลเข้ากลางให้ ฮอนดะ ปั่นไซด์ก้อยด้วยอีซ้ายบอลเลี้ยวหลุดกรอบนิดเดียว
ครึ่งหลัง
ปารากวัยได้ลุ้นเบนิเตซถูกบล็อค กลับมาเริ่มต้นกันใหม่ไปได้แค่ 10 นาที ปารากวัย มีลุ้นจากจังหวะ โมเรล พาบอลทะลุตรงกลางก่อนไหลไปทางซ้ายให้ เบนิเตซ ได้วางเท้ายิงเต็มข้อแต่ทว่า นากาซาว่า มาบล็อคในจังหวะสุดท้ายได้พอดี
ยุ่นลองส่อง เกมค่อนข้างคู่คี่สูสี ญี่ปุ่นทำเกมไม่เป็นรองพยายามหาจังหวะเข้าทำแต่แนวรับปารากวัยเหนียวแน่นไม่ยอมเปิดโอกาสให้เลยนาที 54 นากาโมโต๊ะ แบ็กซ้ายลองเสี่ยงสับไกยิงเข้าซองผู้รักษาประตู
เกร็งทั้งคู่เล่นกลัวเสียประตู ยิ่งเวลาผ่านไปยังไม่มีประตูดูเหมือนทั้งสองทีมพยายามเน้นเกมรับเหนียวแน่นทำให้ต่างฝ่ายต่างออกบอลกันพลาดไม่ค่อยมีจังหวะการยิงเท่าไหร่กระทั่ง 10 นาทีสุดท้าย บาร์เรโต้ สับไกนอกกรอบเขตโทษแต่ยังไม่ผ่านมือ คาวาชิม่า นายทวารยุ่นจบเกมเสมอแบบไร้สกอร์ต้องเล่นในช่วงต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที
ต่อเวลาพิเศษ
ยุ่นโจมตีเร็วได้เสียว กลับมาเริ่มต้นกันใหม่ผ่านไป 2 นาที ญี่ปุ่น อาศัยการต่อบอล 2-3 จังหวะได้ลุ้นประตูฮอนดะ จ่ายไปทางขวา นากามูระ ตัวสำรองกึ่งยิงกึ่งผ่านไปหน้าประตู อัลคาเรซ กองหลังล้มตัวสกัดทิ้ง
ฮอนดะฟรีคิกอันตราย ปารากวัยพยายามเปิดเกมบุกบ้างแต่ยังเจาะไม่เข้านาที 99 ทัพซามูไรได้ฟรีคิกเยื้องทางซ้ายระยะ 25 หลา ฮอนดะ ยิงไซด์อ้อมกำแพงเดือดร้อน บีญาร์ นายทวารต้องทุบทิ้งไปก่อน
ปารากวัยใกล้เคียง อีกสองนาทีถัดมา ปารากวัย ใกล้เคียงจะได้ประตู โมเรล โยนลูกเตะมุมทางซ้ายมาหน้าปากประตู บาร์เรโต้ ชิงจังหวะยิงกับ ทานากะ บอลย้อยข้ามตัวผู้รักษาประตูยุ่นไปแล้วแต่ตกหลังคาน จบ 15 นาทีแรกก็ยัง 0-0
ยุ่นใกล้เคียง 15 นาทีหลังทั้งสองทีมค่อนข้างเล่นระมัดระวังกลัวเสียประตูกระทั่งนาที 116 ญี่ปุ่นได้เสียว ทามาดะ กระชากทางซ้ายไหลให้ โอกาซากิ ตอกส้นส่งต่อ ทามาดะ แทนที่จะยิงเองกลับเลือกเปิดเข้ากลางเลยผ่าน นากามูระ ไม่ได้ยิง จบเกมเสมอ 0-0 ต้องตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ
ดวลจุดโทษ : ปารากวัยได้ยิงก่อน
คนแรก บาร์เรโต้ ยิงเข้า 1-0 เอ็นโดะ ยิงเข้า 1-1
คนที่สอง บาร์ริออส 2-1 ฮาเซเบะ ยิงเข้า 2-2
คนที่สาม ริเวรอส ยิงเข้า 3-2 โคมาโนะ ชนคาน 3-2
คนที่สี่ บัลเดส ยิงเข้า 4-2 ฮอนดะ ยิงเข้า 4-3
คาร์โดโซ่ไม่พลาดยิงนำชัย 5-3
คนที่ห้ายิงเข้าชนะเลยและ คาร์โดโซ่ ไม่พลาดซัลโวเป็นประตูชัยพา ปารากวัย สร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้ารอบ 8 ทีม

[Aeroklas]

ประตู : 1-0 ดาวิด บีญ่า น.63
บีญ่ายิงปลิดวิญญาณฝอยทอง 10 ตัวส่อตัดเชือก
โปรตุเกสยุคอุดแหลกอั้นไม่อยู่เจอทีเด็ดดาวิด บีญ่าหอกเพนียงซัดประตูเดียวของเกมเบียดเฮ 1-0 แถมมีรอยด่างเมื่อริคาร์โด้ คอสต้าถูกใบแดงท้ายเกมส่งสเปนเจอปารากวัยเส้นทางสู่รอบตัดเชือกสดใส
'กระทิงดุ' สเปนมาด้วยขุมกำลังเต็มสูบ ใช้แผน 4-3-3 ตอร์เรสยืนหน้าเป้าโดยมีบีญ่าคอยสลับเข้าโจมตีจากด้านข้าง แดนกลางมากันครบไม่ว่าจะเป็นอลอนโซ่, ชาบี้, บุสเกตส์ และอิเนสต้า
ขณะที่ทางด้าน 'ฝอยทอง' โปรตุเกสมาในแผน 4-3-3 เช่นกัน มีคริสเตียโน่ โรนัลโด้กัปตันทีมนำทัพ ใช้หน้าเป้าเป็นอัลเมด้า ในขณะที่ปีกอีกข้างเป็นซิเมา ซาโบรซ่าคอยป่วนแนวรับของฝ่ายตรงข้าม ซึ่งการพบกัน 32 ครั้งหลังสุด โปรตุเกสเอาชนะสเปนไปได้แค่ 5 ครั้งเท่านั้น
ครึ่งแรก
ตอร์เรสได้ลองส่อง เริ่มเกมมาได้แค่นาทีเดียว เฟร์นานโด ตอร์เรสก็ได้ลุ้นประตูก่อนใครเพื่อน จากจังหวะที่ลากบอลหนีกองหลังโปรตุเกสทางด้านซ้าย ก่อนที่จะปั่นด้วยขวาบอลพุ่งโค้งไปเสาสอง แต่เอดูอาร์โด้พุ่งไปปัดเอาไว้ได้ทัน
เอดูอาร์โด้งานเข้าต่อเนื่อง นาทีที่ 7 เอดูอาร์โด้ผู้รักษาประตูของโปรตุเกสต้องออกแรงเซฟอีกครั้ง จากจังหวะที่ดาวิด บีญ่าเลี้ยงจี้ใส่กองหลังโปรตุเกส ก่อนที่จะกระชากซัดที่เสาแรก แต่ติดเซฟของทางเอดูอาร์โด้
ราชันอัดกันเอง 3 นาทีต่อมา เป็นไปตามการให้ข่าวของแซร์คิโอ รามอสจริง ๆ ที่ว่าไม่มีคำว่าเพื่อนในสนามแข่ง เพราะเจ้าตัวโดนเปเป้สอยร่วงจากจังหวะที่สเปนกำลังจะโต้กลับใส่โปรตุเกส
ตอร์เรสตวัดลูกสูตร นาทีที่ 12 เฟร์นานโด ตอร์เรสได้ลุ้นประตูอีกครั้ง จากจังหวะที่ชาบี้ เฮร์นานเดซเปิดเตะมุมสั้นให้ตอร์เรสวิ่งมาตวัดยิงในกรอบเขตโทษ บอลลอยโค้งผ่านออกหลังไปแค่นิดเดียวเท่านั้น เอดูอาร์โด้ฉุนกึกบ่นเพื่อนไม่หยุดปาก เพราะยังไม่ผ่าน 15 นาทีแรก แต่โดนส่องแบบเสียวไปหลายครั้งแล้ว
ทิอาโก้ซัดไกล-คาซิญาสเซฟสวย นาทีที่ 20 โปรตุเกสได้ลุ้นประตูจากจังหวะที่ทิอาโก้ได้โอกาสยืนกางมุ้งส่องไกลนอกกรอบเขตโทษ แม้บอลจะไม่หนีตัวคาซิญาส แต่ก็พุ่งแรง ทำให้ต้องปัดเอาไว้ในจังหวะแรก แต่บอลไม่พ้นหน้าปากประตู และเหมือนจะโค้งเข้าประตูอีกด้วย คาซิญารีบวิ่งไปปัดเอาไว้ได้ก่อนแค่อึดใจเดียว ก่อนที่อัลเมด้าจะพุ่งเข้าไปตามซ้ำดาบสอง หวาดเสียวดีแท้
ฟรีคิกโด้จิ๋วเกือบทำพิษ นาทีที่ 28 ลูกยิงฟรีคิกระยะไกลโฮกของคริสเตียโน่ โรนัลโด้เกือบจะทำพิษใส่เพื่อนร่วมทีมเรอัล มาดริดอย่างอีเคร์ คาซิญาสแล้ว จากจังหวะที่เขาส่องฟรีคิกไกล บอลพุ่งส่ายอย่างเร็ว ทำให้คาซิญาสไม่สามารถรับไว้ได้ และต้องกระแทกบอลออกมา ยังดีที่บอลไม่ไปเข้าทางผู้เล่นโปรตุเกสที่วิ่งตามจะเข้ามาซ้ำ
กระทิงเจาะยังไงก็ไม่เข้า เข้าสู่ช่วงนาทีที่ 35 สเปนที่เกมนี้ได้ครองบอลมากกว่าโปรตุเกสค่อนข้างมาก แต่ก็ยังหาวิธีเจาะเข้าไปลุ้นประตูแบบจะแจ้งไม่ได้เสียที จนต้องมีลองส่องไกลดูบ้าง แต่ก็ยังคงไม่ได้ผลเหมือนเดิม
อัลเมด้าโหม่งโดนบางเกิน 4 นาทีต่อมา โปรตุเกสน่าจะได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่เมเลเรสเปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้าไปในกรอบเขตโทษ อัลเมด้าได้เืทคตัวขึ้นโขกบอลเหน่ง ๆ แต่เหมือนจะโดนบางไปนิด ทำให้ทิศทางไม่พุ่งไปที่ประตู แต่ออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
ซิเมาเกือบได้เดี่ยว นาทีที่ 42 เกมสวนกลับของโปรตุเกสเกือบจะเล่นงานสเปนซะแล้ว จากจังหวะที่ซิเมาวิ่งฉีกกับดักล้ำหน้าไปรับบอลในจังหวะที่กองหลังของสเปนลงกันไม่ทัน แต่ยังดีที่คาซิญาสอ่านขาด พุ่งออกไปเตะทิ้งทัน
จบ 45 นาทีแรก สเปนยังคงไม่สามารถหาช่องเจาะเข้าไปทำประตูของโปรตุเกสได้ ทำให้ทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลัง
กระทิงบุกเพลินเกือบโดน นาทีที่ 53 สเปนที่ครองเกมบุกอย่างเมามันในช่วงครึ่งหลัง เกือบจะโดนสวนแล้วเศร้า จากจังหวะที่อัลเมด้าวิ่งหลุดขึ้นไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนที่จะล็อกบอลให้เข้าขวา แล้วเปิดเข้ากลาง แต่บอลไปโดนขาของปูโยล เกือบจะเข้าประตู แต่หลุดออกหลุดไปนิดเดียวเท่านั้น
เปลี่ยนตัวทั้งสองทีม นาทีที่ 58 สเปนเปลี่ยนเอาเฟร์นานโด ตอร์เรสที่วันนี้แผลงฤทธิ์ไม่ออก ออกจากสนามไป โดยเอาเฟร์นานโด ญอเรนเต้ลงสนามแทน ส่วนทางโปรตุเกสเปลี่ยนเอาราอูล อัลเมด้าออกแล้วส่งตัวจี๊ดอย่างแดนนี่ลงไปเล่นแทน
เอดูอาร์โด้ซูเปอร์เซฟ 3 นาทีต่อมา ญอเรนเต้ที่เพิ่งจะลงไปได้ไม่กี่นาที ก็เกือบจะพังประตูเบิกร่องได้ จากจังหวะเปิดจากริมเส้นฝั่งขวาของรามอส ให้กับญอเรนเต้ได้พุ่งโหม่งจ่อ ๆ แต่เอดูอาร์โด้ยังเซฟเอาไว้ได้แบบเฉียดฉิว ก่อนที่บีญ่าจะได้โอกาสลุ้นอีกครั้ง จากการเลี้ยงตัดจากฝั่งซ้ายไปปั่นบอลโค้งไปเสาสอง ผ่านมือเอดูอาร์โด้ไปแล้ว แต่หลุดเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น
บีญ่าเอาจนได้!!! นาทีที่ 63 หลังจากพยายามอยู่หลายครั้ง ในที่สุดดาวิด บีญ่าก็มาทำประตูขึ้นนำให้แก่สเปนจนได้ จากจังหวะที่สเปนต่อบอลหาช่องกัน เริ่มจากอิเนสต้าจ่ายให้ชาบี้ในเขตโทษ ก่อนที่ชาบี้จะตอกส้นจังหวะแรกไหลให้บีญ่าวิ่งมาซัดติดเซฟของเอดูอาร์โด้ แต่บีญ่ายังลุกเร็วตามไปซ้ำดาบสองบอลพุ่งกระทบคานบอลเข้าไปตุงตาข่าย สเปนออกนำไปแล้ว 1-0
รามอสเกือบบวกเม็ดสอง นาทีที่ 70 สเปนสวนกลับได้อย่างสวยงาม ก่อนที่อิเนสต้าจะไหลบอลไปให้กับรามอสที่เติมขึ้นมา ล็อกหลบกองหลังของโปรตุเกสในจังหวะแรกในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะซัดด้วยซ้ายทันที แต่เอดูอาร์โด้พุ่งตัวปัดออกหลังไปได้ทัน
ฝอยทองเปลี่ยน 2 ตัว 2 นาทีต่อมา โปรตุเกสไม่มีทางเลือกต้องปรับแทคติกด้วยการส่งเลียดสันลงมาเล่นแทนซิเมา และเปโดร เมนเดสลงเล่นแทนเปเป้ ใช้โควต้าตัวสำรองครบ 3 คนแล้ว
ชาบี้โดนใบเหลืองแรก นาทีที่ 74 ชาบี้ อลอนโซ่โดนใบเหลืองหลังจากไปทำฟาวล์ใส่ผู้เล่นโปรตุเกส แต่ที่ไม่น่าเชื่อคือ นี่เป็นใบเหลืองแรกของนักเตะสเปน นับตั้งแต่ลงเล่นฟุตบอลโลก 2010 มา
กระทิงเน้นครองบอล เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย สเปนเน้นการต่อบอล และครองบอลกันให้ชัวร์ เพื่อดึงและล่อให้โปรตุเกสวิ่งเข้าไล่แย่งบอล ยิ่งเวลาเหลือน้อยเท่าไร แข้งโปรตุเกสก็ยิ่งกดดันมากขึ้นเท่านั้น
จบข่าว!ฝอยทองโดนแดง นาทีที่ 89 โปรตุเกสน่าจะต้องแพ็คกระเป๋ากลับบ้านแล้ว เพราะริคาร์โด้ คอสต้าไปโดนใบแดงไล่ออก จากจังหวะที่มือเขาไปปัดโดนหน้าของคัปเดบีล่า แม้จะดูไม่ชัดเจนเท่าไร แต่ผู้ตัดสินก็ควักใบแดงไล่คอสต้าออกจากสนามไป
จบ 90 นาที สเปนเบียดเอาชนะโปรตุเกสไปได้ 1-0 จากประตูชัยของดาวิด บีญ่าที่ยิงไปแล้ว 4 ประตูในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ผ่านเข้าไปชนกับปารากวัยในรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ

[Aeroklas]

ทีมชาติเยอรมัน ได้กำลังใจเพิ่มขึ้นอีกเป็นกอง เมื่อ "พอล" ปลาหมึกยักษ์จอมฟังธง ชี้ชัดอีกแล้ว "อินทรีเหล็ก" จะเป็นฝ่ายชนะ อาร์เจนตินา ในศึกเวิลด์ คัพ 2010 รอบก่อนรองฯ วันเสาร์นี้
"พอล" ปลาหมึกยักษ์จอมเสี่ยงทาย เชื้อสายอังกฤษ ซึ่งถูกเลี้ยงดูในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ "ซี ไลฟ์" ที่เมืองโอเบอร์เฮาเซ่น ประเทศเยอรมัน ลังเลอยู่พักใหญ่ ก่อนทำนายว่า ทีมชาติเยอรมัน จะสามารถเอาชนะ อาร์เจนตินา ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 รอบก่อนรองชนะเลิศ วันเสาร์ที่ 3 ก.ค.นี้ หลังจากที่เลือกกินหอยในแก้วใบที่มีลายธงชาติเยอรมันติดอยู่
พอล กลายเป็นปลาหมึกยักษ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก หลังจากที่ทำนายผลการแข่งขันของ เยอรมัน ในศึกเวิลด์ คัพ 2010 ถูกหมดทั้ง 4 นัดที่ผ่านมา ซึ่งก็รวมไปถึงเกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่ "อินทรีเหล็ก" ชนะ อังกฤษ 4-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาอีกด้วย แต่คราวนี้ต้องใช้เวลานานร่วมชั่วโมงเลยทีเดียว กว่าเจ้าตัวจะเลือกลงแก้วน้ำใบที่มีลายธงชาติเยอรมัน
ทันย่า มุนซิก โฆษกหญิงประจำพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ "ซี ไลฟ์" กล่าวว่า "พอล จ้องแต่แก้วที่ติดธงเยอรมัน และตอนที่เรากำลังจะหยิบแก้วทั้ง 2 ใบออก เขาก็กระโดดลงไปในแก้วที่ติดธงเยอรมัน และเขมือบหอยที่ล่อไว้อย่างเอร็ดอร่อย ท่าทางของเขาในครั้งนี้ดูเหมือนลำบากใจที่จะทำนาย ซึ่งบางทีเกมนี้อาจจะยืดเยื้อไปจนถึงการต่อเวลาพิเศษและยิงจุดโทษเลยก็ได้ แต่ท้ายที่สุด เยอรมัน จะเป็นฝ่ายชนะ"
นอกจากนี้ มุนซิก ยังเผยอีกว่า พอล วัย 2 ขวบ ทำนายผลการแข่งขันของ เยอรมัน ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป เมื่อปี 2008 ถูกต้องถึง 80 เปอร์เซ็นต์ และถึงแม้จะแปลงสัญชาติเป็นเยอรมัน แต่ มุนซิก ยืนยันว่า พอล ไม่ใช่ปลาหมึกยักษ์จอมลำเอียงแต่อย่างใด และบางทีเจ้าตัวอาจจะมีญาติๆ อยู่ที่ อาร์เจนตินา ด้วยก็ได้ เพราะพวกมันเคยอพยพไปอยู่ที่นั่นเมื่อหลายรุ่นก่อน

[Aeroklas]

2 เปาสุดฉาวอย่าง ฮอร์เก้ ลาร์ริออนด้า กับ โรแบร์โต้ โรเซ็ตติ เจอดีจนได้ ล่าสุด ฟีฟ่า หั่นชื่อทิ้งจากการลงทำหน้าที่ในศึกฟุตบอลโลก 2010 เรียบร้อยแล้ว
ฮอร์เก้ ลาร์ริออนด้า ผู้ตัดสินจากอุรุกวัย และ โรแบร์โต้ โรเซ็ตติ ผู้ตัดสินจากอิตาลี ต่างโดนสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ลงโทษ ด้วยการตัดชื่อทิ้งจากโผกรรมการในศึกเวิลด์ คัพ 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ เป็นที่เรียบร้อย เมื่อวันอังคารที่ 29 มิถุนายน ที่ผ่านมา หลังจากที่ทั้งคู่ตัดสินผิดพลาดอย่างร้ายแรง ในระหว่างเกมการแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน ที่ผ่านมา แต่ ฟีฟ่า ไม่ได้ชี้แจงเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น
ลาร์ริออนด้า ทำงามหน้า ในระหว่างเกมที่ เยอรมัน ไล่ถล่ม อังกฤษ 4-1 เมื่อไม่ยอมให้ลูกยิงของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด มิดฟิลด์ตัวเก่ง "สิงโตคำราม" เป็นประตู ทั้งๆ ที่การซัดบอลชนคานกระเด้งลงพื้นของ "แลมพ์ส" นั้น เลยเส้นประตูเข้าไปแล้วเต็มๆ ใบอย่างชัดเจน ขณะที่ โรเซ็ตติ ทำผิดมหันต์ ในเกมที่ อาร์เจนตินา อัด เม็กซิโก 3-1 เมื่อให้ลูกยิงที่ล้ำหน้าชัดเจนของ คาร์ลอส เตเวซ หัวหอก "ฟ้า-ขาว" เป็นประตูเฉย
ลาร์ริออนด้า กับ โรเซ็ตติ ถือเป็นอีก 2 สิงห์เชิ้ตดำที่ถูกส่งกลับบ้านก่อนจบทัวร์นาเมนต์ เพราะก่อนหน้านี้ โคมัน คูลิบาลี่ ผู้ตัดสินจากมาลี และ สเตฟาน ลองนอย ผู้ตัดสินจากฝรั่งเศส ต่างก็เจอดีมาแล้ว โดยรายแรกไม่ยอมให้ลูกยิงที่ขาวสะอาดของ มัวริซ เอดู ดาวเตะทีมชาติสหรัฐอเมริกา เป็นประตูที่ 3 ในแมตช์ที่ "แยงกี้" เสมอ สโลวีเนีย สุดมันส์ 2-2 ในรอบแรก กลุ่ม ซี
ส่วนรายหลังทำค้านสายตา ในแมตช์รอบแรก กลุ่ม จี ที่ บราซิล ชนะ ไอวอรี่ โคสต์ 3-1 เมื่อแจกใบเหลืองที่ 2 พร้อมกับไล่ ริคาร์โด้ กาก้า จอมทัพ "เซเลเซา" ออกจากสนามหน้าตาเฉย ทั้งๆ ที่จังหวะนั้น อับดุล กาแดร์ เกอิต้า มิดฟิลด์ทีม "ช้างดำ" เป็นฝ่ายวิ่งเข้าไปหาข้อศอกของ "ริคกี้" เองด้วยซ้ำ
ปล.ก่อนกลับบ้านแวะร้านแว่นท๊อปเจริญด้วยก็จะดีมาก ^_^

[Aeroklas]

Credit : Siamsport, Soccersuck

[Aeroklas]

คำถามที่่ 4
คุณคิดว่าทีมที่จะเหลือรอดเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้าย คือทีมอะไรบ้าง (ต้องตอบ 4 ทีม นะครับ)
เริ่มถามวันที่ 30 มิถุนายน 2553 เวลา 13.30น.
ตอบได้ถึงวันที่ 2 กรกฎาคม 2553 เวลา 17.00น.
ประกาศผลผู้ที่ได้รับของที่ระลึก วันที่ 4 กรกฎาคม 2553 เวลา 13.30น. ครับ
แจกเสื้อ Jacket Aeroklas 6 รางวัล

เข้ามาตอบกับเยอะๆน่ะครับ
http://www.thaitritonclub.com/forum/...104#post325104

[Bluecliff]

ร่วมด้วยครับ
คำถามที่ 4
1.Brazil
2.Uruguay
3.Germany
4.Spain

[Aeroklas]

ฉาวอีก!โคลคล้ำขึ้นสเตตัส "กูเกลียดอังกฤษ"
แอชลี่ย์ โคลแบ็คซ้ายเชลซีตกเป็นข่าวฉาวอีกครั้งหนึง หลังมีการตีแผ่ข้อความที่เขาตั้งขึ้นสเตตัสในแบล็คเบอร์รี่ว่า “กูเกลียดอังกฤษ และไอ้พวกหอ-กนั่น” ก่อนที่จะบินไปทำศึกฟุตบอลโลก โคลจิ้ม BB คุยกันเพื่อนสนิทของเขาร่วมชั่วโมง ก่อนที่จะเดินทางไปยังแคมป์เก็บตัวของทีมชาติอังกฤษในออสเตรีย ซึ่งเขาโพสต์ข้อความดังกล่าวขึ้นสเตตัสของตนเอง ซึ่งทำให้เพื่อนที่แชท BB กันอยู่นั้นได้เห็น ซึ่งจากรูปจะเห็นได้เลยว่า โคลเอารูปตัวเองที่กำลังนอนเอาเสื้อเชิ้ตมาคลุมหัว ท่าทางดูหมดอาลัยตายอยากพอสมควร การกระทำของเขาที่แสดงให้เห็นถึงการดูถูก และไม่จงรักภักดีอย่างแรง ซึ่งยิ่งทำให้จิตใจของแฟนบอล ‘สิงโตคำราม’ หลายพันคนที่สู้อุตส่าเก็บหอมรอมริบเพื่อนำเงินที่ได้บินไปเชียร์ทีมชาติของตนเองที่แอฟริกาใต้ให้แย่หนักมากขึ้นกว่าเดิม รวมทั้งแฟน ๆ อีกหลายล้านคนในประเทศด้วย ซึ่งเมื่อวานนี้โคลก็ได้ออกมายืนกรานแล้วว่า เขาเคยทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างให้กับอังกฤษอย่างเต็มที่
“ผมมักจะพยายามทำงานหนักที่สุดเสมอให้กับอังกฤษ และเชลซี แต่ผมถูกรุกล้ำชีวิตส่วนตัว และความกดดันที่ว่ามันก็ทำให้ผมตกนรกทั้งเป็น” โคลกล่าว ชีวิตของโคลเริ่มดำดิ่ง หลังจากที่เขาโดนเชอร์รีลอดีตภรรยาจับได้ว่านอกใจ ก่อนที่จะขอหย่าไปในที่สุด ซึ่งในตอนนี้โคลก็กำลังเริ่มที่จะคบหาดูใจกับทางซาร่าห์ เพอร์เนลล์อดีตแด๊นเซอร์อยู่
ในขณะที่โคลกลับมาถึงอังกฤษพร้อมกับเพื่อนร่วมทีมทุกคนเมื่อวานนี้ ซาร่าห์หวังที่จะได้สานสัมพันธ์กับทางแบ็คจอมลุยต่อไป “เราคุยกันว่าจะพบกันอีก เมื่อเขากลับมาถึงที่นี่แล้ว แต่ฉันก็ไม่ได้อยากกดดันอะไรเขาหรอกนะ” เธอกล่าว

เปเล่ เปิดศึกกับ ดีเอโก้ มาราโดน่า อีกรอบแล้ว หนนี้เหน็บ "เสือเตี้ย" เป็นโค้ชทีมชาติอาร์เจนตินาที่ไม่ได้เก่งกาจอะไร แถมยังตำหนิ คาร์ลอส ดุงก้า นายใหญ่ทีมชาติบราซิล ทำให้ "เซเลเซา" กลายเป็นทีมเน้นเล่นเกมโต้กลับ แทนที่จะบุกแหลกตามสไตล์ซะงั้น
เปเล่ อดีตยอดกองหน้าแห่งวงการลูกหนังเมืองแซมบ้า ออกมาเหน็บแนม ดีเอโก้ มาราโดน่า เทรนเนอร์ทีมชาติอาร์เจนตินา อีกระลอกว่า เป็นโค้ชที่ไม่ได้เก่งกาจมากมายอะไร และไม่มีรูปแบบการเล่นอื่นๆ ที่หลายหลาก นอกจากพึ่ง ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้ามากพรสวรรค์ เป็นตัวหลักในการคุมเกมสู้ศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้
ตำนานแห่งวงการลูกหนังโลกวัย 69 กะรัต กล่าวว่า "การเล่นฟุตบอลด้วยการให้กองหน้าควบคุมเกมน่ะเหรอ? ผมไม่ได้มีปัญหากับ มาราโดน่า หรอกนะ ผมแค่ไม่คิดว่า เขาเป็นโค้ชที่เก่ง เขามีชีวิตความเป็นอยู่ที่แปลกประหลาด ซึ่งคงส่งจะผลในแง่บวกต่อทีมได้ไม่มากเท่าไหร่นักหรอก"
เท่านั้นยังไม่พอ เปเล่ ยังเปิดปากวิพากษ์วิจารณ์การทำทีมของ คาร์ลอส ดุงก้า โค้ชทีมชาติบราซิล ด้วยว่า ไม่ยอมรักษารูปแบบการเล่นเกมรุกที่ดุดันอันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศ โดยระบุว่า "ตัวผมเองเคยเป็นกองหน้ามาก่อน และก็อยากยิงประตูให้ได้มากๆ เสมอ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะมันสร้างความสนุกให้กับแฟนบอล แต่ทีมชุดนี้กลับเป็นอีกแบบไปเลย ด้วยการเน้นเล่นแบบเกมโต้กลับ แถมครองบอลก็ไม่ค่อยจะดี ความพยายามที่จะเล่นให้เหนือกว่าคู่แข่ง และเน้นครอบครองบอลไม่หลงเหลืออยู่ในทีมชุดนี้อีกแล้ว"

กระหึ่ม!เรือคว้าซิลบาร่วมทัพ 24 ล้านป.
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้ถลุงเงินสมใจหลังเซ็นสัญญาคว้าดาวิด ซิลบาปีกหน้าหนูมาจากบาเลนเซียด้วยค่าตัวโลกขย่ม 24 ล้านปอนด์เรียบร้อยแล้ว ปีกทีมชาติสเปนเซ็นสัญญากับ"เรือใบ"ทั้งสิ้น 5 ปีและเป็นนักเตะแข้งเวิร์ลด คัพคนใหม่รายที่สองของโรแบร์โต้ มันชินีต่อจากเจโรม บัวเต็งของฮัมบวร์กที่ได้มาก่อนแล้วในราคา 10 ล้านปอนด์
ซิลบาเหลือเพียงแค่ตรวจร่างกายหลังติดภาระกิจที่แอฟริกาใต้ดังนั้นหากไม่ขาหักหรือแขนขาดดาวเตะวัย 24 ปีเป็นนักเตะของแมนเชสเตอร์ ซิตี้แน่นอนแล้ว แข้งบาเลนเซียจะเซ็นสัญญาทันทีที่จบฟุตบอลโลกได้กล่าวอำลาทีมรักและพร้อมเติมเต็มความท้าทายใหม่แล้ว "ผมสนุกกับ 6 ปีกับบาเลนเซียมาก,พวกเขาเป็นคนค้นพบพบและจะเป็นสโมสรที่พิเศษสำหรับผมตลอดไป" "นี่คือช่วงเวลาอันเหมาะสมที่ผมจะได้ควานหาความท้าทายใหม่และผมระทึกกับการเล่นในอังกฤษกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้มาก"
"ผมเชื่อว่าพรีเมียร์ลีกเป็นหนึ่งในรายการที่ดีที่สุดในโลกและผมอยากนำความสำเร็จมายังซิตี้และคว้าแชมป์ให้พวกเขา" "ผมอยากบอกว่าผมเคยหวังมาเล่นให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้อยู่เสมอและผมตื่นเต้นกับอนาคตของผมกับที่นี่" "พวกเขาเป็นสโมสรที่มีอนาคตสดใสกับเหล่านักเตะฝีเท้าเยี่ยม ผมอยากเป็นนักเตะคนสำคัญในประวัติศาสตร์แมนเชสเตอร์ ซิตี้" "มีข่าวลือเกี่ยวกับตัวผมทั้งกับสื่ออังกฤษและสเปนมาตลอด ผมจำเป็นต้องมีสมาธิกับการเล่นให้สเปนในฟุตบอลโลกอย่างเต็มที่" "นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมที่ปรึกษาผมถึงเป็นคนจัดการเรื่องนี้กับทางซิตี้แทนผมเพื่อที่ว่าผมจะได้มุ่งมั่นกับแค่ในแอฟริกาใต้เพียงอย่างเดียวและเล่นให้ทีมชาติได้ดีๆ"
ในขณะที่โรแบร์โต้ มันชินี่บิ๊กบอส"เรือใบ"ขานรับกับลูกทีมใหม่โดยมีเป้าหมายคือลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกและไปลุยแชมเปี้ยนส์ลีก "ผมคิดว่าดาวิด ซิลบาเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่เก่งที่สุดในยุโรปและผมหวังว่าเขาจะเป็นนักเตะคนสำคัญของแมนเชสเตอร์ ซิตี้" "ผมดีใจเหลือเกินที่เขากำลังมาเล่นให้เรา ผมคิดว่าเขาสามารถทำผลงานได้สุดยอดกับซิตี้แน่นอน" "กับการเซ็นสัญญากับดาวิด เรากำลังแสดงให้โลกเห็นว่าเรากำลังดึงนักเตะเก่งๆมาที่นี่และเราหวังว่าจะลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกในซีซั่นนี้ได้" "เมื่อเหล่านักเตะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับซิตี้และความทะเยอทะยานทั้งหลายเหล่านี้พวกเขาก็อยากมาเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างทีมครั้งนี้" "ผมหวังว่าเขาจะเล่นให้ทีมชาติสเปนในฟุตบอลโลกได้ดีๆและมาร่วมปรีซีซั่นกับเราและพร้อมลุยพรีเมียร์ลีก ผมตื่นเต้นที่จะได้เห็นเขามาเล่นให้ซิตี้เอามากๆ"