ระหว่างเบนซิล+lpgกับดีเซลเดิมๆ

**suvit_2521** · 03-06-2012, 10:16

ขอเริ่มใหม่ละกันครับผมจะเลือกคันไหนดีกำลังจะออกใหม่นะครับกับราคาน้ำมันดีเซลและก๊าส lpg ที่จะขึ้นรา ngv ผมไม่คิดเพราะบ้านผมมีปั๊มเดียวจะเลือกอันไหนดี

**SUPOJ** · 03-06-2012, 10:57

ชอบตัวไหนก็ ซื้อตัวนั้นครับชอบแรงม้าเยอะๆก็ ดีเซล ชอบประหยัดไม่แรงมากก็ lpgครับ
ส่วนตัวผมใช้ lpg ครับเน้น ประหยัดแต่ก็แรงนะครับ

**suvit_2521** · 03-06-2012, 11:32

ผมเทใจให้ lpg อยู่แล้วครับแต่หากรัฐบาลปล่อยก๊าซลอยตัวที่ราคา 16-18 บาทแล้วดีเซลจะขึ้นมากไหมตอนนี้ 30 บาท หากตามนี้ดีเซลไม่ขึ้นผมว่าตกส่วนต่างต่อกิโลเมตรจะไม่หนีกันแล้วครับ 2.5-3 บาทต่อกิโลแต่รถแก๊สต้องมีค่าซ่อมบำรุงดูแลการสึกหรอของเครื่องยนต์เยอะกว่าเราต้องคอยลุ้นกับนโยบายรัฐบาลตลอด

**นักรบ** · 03-06-2012, 13:03

ข้อมูลส่วนตัวนะครับใช้งานตรง เป็นรถมิตซู อีคาร์ ปี 1995เครื่อง 4G92 1600 cc. ซื้อต่อมาตอนปี 2004 นำมาติดแก๊สถึงปี 2012 นับจากติดแก๊สวิ่งมาแสนกว่ากิโล ดูแลปกติ เหมือนใช้น้ำมันทุกอย่าง เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะ ดูท่อยาง ระบบระบายความร้อนเครื่องยนต์ รอยรั่วซึมต่างๆ ล่าสุดเปลี่ยนประเก็นฝาสูบเพราะมันขาดถึงกันแล้วน้ำดัน เสียดายไม่ได้ถ่ายภาพไว้ที่ลูกสูบไม่มีคราบตระกันติดหรืออะไรเรียกไม่ถูกครับผมไม่ใช้น้ำมันหล่อวาวล์ สรุปว่าไม่มีแล้วกันครับ บ่าวาวล์ไม่สึก แหวนยังไม่หลวม ตอนแรกใช้แบบมิกซ์ เปลี่ยนใช้หัวฉีด 2 ปีหลังครับวิ่งดี ผมว่าจะใช้พลังงานอะไรถ้าเราดูแลดีอย่างสม่ำเสมอผมว่าก็อยู่กันไปนานนะครับ แล้วผมก็จอง4ประตู 2.4 ไว้แล้วครับจะนำมาติดแก๊สทันที

**peetabo** · 05-06-2012, 11:36

โพสต้นฉบับโดยคุณ นักรบ

ข้อมูลส่วนตัวนะครับใช้งานตรง เป็นรถมิตซู อีคาร์ ปี 1995เครื่อง 4G92 1600 cc. ซื้อต่อมาตอนปี 2004 นำมาติดแก๊สถึงปี 2012 นับจากติดแก๊สวิ่งมาแสนกว่ากิโล ดูแลปกติ เหมือนใช้น้ำมันทุกอย่าง เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะ ดูท่อยาง ระบบระบายความร้อนเครื่องยนต์ รอยรั่วซึมต่างๆ ล่าสุดเปลี่ยนประเก็นฝาสูบเพราะมันขาดถึงกันแล้วน้ำดัน เสียดายไม่ได้ถ่ายภาพไว้ที่ลูกสูบไม่มีคราบตระกันติดหรืออะไรเรียกไม่ถูกครับผมไม่ใช้น้ำมันหล่อวาวล์ สรุปว่าไม่มีแล้วกันครับ บ่าวาวล์ไม่สึก แหวนยังไม่หลวม ตอนแรกใช้แบบมิกซ์ เปลี่ยนใช้หัวฉีด 2 ปีหลังครับวิ่งดี ผมว่าจะใช้พลังงานอะไรถ้าเราดูแลดีอย่างสม่ำเสมอผมว่าก็อยู่กันไปนานนะครับ แล้วผมก็จอง4ประตู 2.4 ไว้แล้วครับจะนำมาติดแก๊สทันที

ยืนยันด้วยเช่นกันว่าดูแลเหมือนใช้น้ำมันทุกอย่าง อุปกรณ์แก๊สถ้าหากคิดก็เหมือนติดเครื่องเสียงนั่นแหละก็ต้องมีค่าดูแลบำรุงรักษาบ้างเหมือนกันเสียก็ต้องซ่อม .....แก๊ส18บาทก็ตกกมละ 2.5บาท ...แต่น้ำมันอย่าขึ้นนะ

**suvit_2521** · 05-06-2012, 14:34

โดยจริงๆแล้วผมก็ใช้รถแก็สอยู่ 2 คันแล้วครับคันแรกเป็นรถเอสดี 720 แต่วางเครื่องใหม่ผมก็ไม่รู้ว่าเป็นเครื่องอะไรน้าเค้าเปลี่ยนมาก่อนเป็นเครื่องนิสสันคาร์บู 1600 ซีซีเป็นเครื่องรถตู้มีคนบอกผมมาอีกทีผมก็นำมาติดแก็สใช้มา 5-6 ปีแล้วตั้งแต่แก็สยังราคา 10-11 บาทได้ทำการติดตั้งกันเองกับอาจารย์ที่อยู่สารพัสช่างที่ผมสนิทกันช่วยแกติดแกก็สอนผมไปในตัวได้ทั้งทฤษฦีและปฏิบัติแจ้งลงเล่มแก็สใบวิศวกรผมก็ติดต่อเองกับคนที่เค้ารับตรวจ คันที่สองเป็นรถเก๋งโตโยต้าสามห่วงเครื่องหัวฉีดผมก็ติดแก็สหัวฉีดรถทั้งสองคันปรับจูนเปลี่ยนหม้อต้มล้างหม้อต้มผมก็ทำเองหมดฉนั้นเรื่องการดูแลอุปกรณ์แก็สผมก็พอมีความรู้อยู่บ้างแต่ที่คิดไม่ตกก็คือราคาแก็ส 18 บาทประมาณ 2.5 บาทต่อกิโล ราคาน้ำมันดีเซล 30 บาทต่ิลิตร หากรถดีเซลวิ่ง 12 โลต่อลิตร=30/12จะได้เท่ากับ 2.5 บาทต่อกิโลนั่นคือตกต่อกิโลละ 2.5 บาทเท่ากันทั้งแก็สและน้ำมันดีเซลหากผมคิดถูกต้องตามนี้ผมจะเลือกดีเซลเพราะไม่ต้องทำอะไรกับรถไม่ต้องเสียตังค์ติดแก็สอีกประกันเครื่องยนต์ก็หมดจากศูนย์หากติดแก็สหากราคาแก็ส 18 บาทน้ำมันดีเซล 30 บาทผมจะเลือกรถดีเซล แต่หากแก็ส 18 บาทน้ำมันดีเซล 35-40 บาทผมจะเลือกรถเบนซิลแล้วมาติดแก็ส lpg ก็คือตอนนี้ก็ต้องลุ้นรัฐบาลนโยบายด้านพลังงานจะไปในทิศทางไหนอ้อลืมไปครับผมยังสามารถใช้สิทธิ์รถคันแรกคืนภาษีของรัฐบาลได้อยู่รถทั้งสองคันที่ใช้ไม่ได้เป็นชื่อผมหากไม่ออกรถตอนนี้ก็กลัวว่าจะไม่ทันตอนสิ้นปีจะหมดนโยบายคืนภาษีนะครับ