หน้า 1 จากทั้งหมด 3 หน้า 1 2 3 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
สรุปผลการค้นหา 1 ถึง 20 จากทั้งหมด 57

กระทู้: ผมเพิ่งตื่นตัวเรื่องอุดegr ในขณะที่วิ่งใกล้5หมื่นโลแล้ว.

  1. #1
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Sep 2010
    User ID
    13674
    Status
    Offline
    โพส
    554

    มาตรฐาน ผมเพิ่งตื่นตัวเรื่องอุดegr ในขณะที่วิ่งใกล้5หมื่นโลแล้ว.

    ผมมัวแต่เดียวๆในใจ ตอนนี้ใกล้5หมื่นโลแล้วเลยตัดสินใจแล้วว่าช่วงวันที่25/12/13นี้ยังงั่ยๆก็ต้องไปอุด
    ถามที่ใหนๆ ใครๆเรื่องอุดegrว่ากันดีทั้งนั้น(ไม่พูดถึงโลกสี่เขียวน่ะครับ)
    จึงอยากถามน้าๆว่า ผมวิ่งขนาดนี้แล้ว จะอุดอย่างเดียวจะดีหรือเปล่า หรือต้องทำรายการอื่น
    ควบคู่ไปด้วย กังวลตรงที่วิ่งมาเยอะแล้วครับ ขอความรู้เพื่อการตัดสินใจหน่อยครับ

  2. #2
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    May 2012
    User ID
    33217
    Status
    Offline
    โพส
    549

    มาตรฐาน ตอบ: ผมเพิ่งตื่นตัวเรื่องอุดegr ในขณะที่วิ่งใกล้5หมื่นโลแล้ว.

    ผมหกหมื่นโลแล้วยังไม่ได้อุดเหมือนกัน รอผู้รู้มาตอบอีกทีครับ

  3. #3
    สมาชิกถาวร : TTC00445 TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Oct 2008
    User ID
    4102
    Status
    Offline
    โพส
    7,688

    มาตรฐาน ตอบ: ผมเพิ่งตื่นตัวเรื่องอุดegr ในขณะที่วิ่งใกล้5หมื่นโลแล้ว.

    ก่อนอุดลองถอดมาดูท่อร่วมไอดีก่อนครับ แล้วน้าจะรู้ตัวอัติโนมัติเลยว่าต้องทำอะไรบ้าง

  4. #4
    TTC-00874 TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Jan 2008
    User ID
    875
    Status
    Offline
    โพส
    1,681

    มาตรฐาน ตอบ: ผมเพิ่งตื่นตัวเรื่องอุดegr ในขณะที่วิ่งใกล้5หมื่นโลแล้ว.

    แนะนำให้ล้างท่อร่วมไอดี ก่อนครับ

  5. #5
    สมาชิกทั่วไป TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Dec 2013
    User ID
    51826
    Status
    Offline
    โพส
    12

    มาตรฐาน ตอบ: ผมเพิ่งตื่นตัวเรื่องอุดegr ในขณะที่วิ่งใกล้5หมื่นโลแล้ว.

    อ้างอิง โพสต้นฉบับโดยคุณ chanwiputn ดูโพส
    ผมมัวแต่เดียวๆในใจ ตอนนี้ใกล้5หมื่นโลแล้วเลยตัดสินใจแล้วว่าช่วงวันที่25/12/13นี้ยังงั่ยๆก็ต้องไปอุด
    ถามที่ใหนๆ ใครๆเรื่องอุดegrว่ากันดีทั้งนั้น(ไม่พูดถึงโลกสี่เขียวน่ะครับ)
    จึงอยากถามน้าๆว่า ผมวิ่งขนาดนี้แล้ว จะอุดอย่างเดียวจะดีหรือเปล่า หรือต้องทำรายการอื่น
    ควบคู่ไปด้วย กังวลตรงที่วิ่งมาเยอะแล้วครับ ขอความรู้เพื่อการตัดสินใจหน่อยครับ
    เมื่อพูดถึงรถยนต์กระบะรุ่นใหม่ที่มีมากมายในตลาดแล้วนั้น รถยนต์กลุ่มนี้ในปัจจุบันมีพัฒนาที่ก้าวล้ำไปมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรากำลังพูดถึงรถรุ่นใหม่ที่ตอบสนองการขับขี่ได้ดีขึ้นมากกว่าแค่ภาพเดิมที่ถูกมองว่าเป็นรถส่งของ

    กระบะรุ่นใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนั้นจนมายืนเทียบชั้นรถนั่งหลายๆรุ่น จนได้รับความนิยมมาแต่งแรงกัน โดยเฉพาะเรื่องของเครื่องยนต์ที่วิ่งได้ไม่แพ้รถเก๋ง และเมื่อพูดถึงการทำให้รถยนต์แรงขึ้นนั้น เราหลายคนต้องเคยได้ยินตัวอักษร EGR ที่ได้รับคำแนะนำว่าให้อุดมันทิ้งเสียเถิดเพื่อความสนุกในการขับขี่


    หลายคนอาจจะตัดสินใจในเรื่องการอุด EGR ที่สามารถตอบโจทย์ในความแรงโดยไม่ได้ไถ่ถามว่าตกลงมันมีความสำคัญอย่างไรบ้าง แต่แท้ที่จริงแล้ว EGR หรือ Exhaust Gas Recirculation นั้น คือวาล์วตัวหนึ่งที่ทำการดึงไอเสียจากท่อไอเสียกลับมาหมุนเวียน ในการเผาไหม้อีกรอบ ซึ่งประโยชน์หลักของมันนั้นก็เพื่อตอบสนองเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม

    เราคงต้องบอกว่า วิศวกรไม่ได้คิดเกินในส่วนนี้ขึ้นมา หากแต่ EGR นั้นมีประโยชน์มากกว่าที่คิด โดยเฉพาะเรื่องของสิ่งแวดล้อมอย่างที่ได้กล่าวไปเช่นเดียวกับในเรื่องของการประหยัดน้ำมัน และเชื่อหรือไม่ การอุด EGR อาจจะทำให้รถคุณไม่ได้รับการประกันในเรื่องเครื่องยนต์ด้วย



    ความเชื่อเรื่องอุด EGR



    อย่างที่เรากล่าวไปแล้วว่า EGR หรือ Exhaust Gas Recirculation นั้นคือการนำไอเสียกลับมาเผาไหม้ซึ่ง แน่นอนว่า มันก็ไม่ต่างอะไรจากการที่เอาของเสียมายัดลงไปในท้องอีกครั้ง และนั่นคือการก่อให้เกิดความเข้าใจผิดที่ว่า อุด EGR แล้วจะแรงขึ้น


    แนวคิดอุด EGR นี้มีขึ้นมาได้สักระยะหนึ่งแล้วเริ่มต้นในกลุ่มคนเล่นรถกลุ่มเล็กที่หาวิธีแรงทางลัด ด้วยการศึกษาระบบเครื่องยนต์ และเมื่อเจอ EGR ที่เป็นการนำไอเสียมาเผาไหม้นั้นอีกครั้งนั้น ก็เลยทดลองทำการอุดเพื่อตัดการทำงานในการนำไอเสียมาเผาไหม้ใหม่อีกครั้ง

    การปิดช่องทางในการนำไอเสียมาเผาไหม้ใหม่นั้นส่งผลให้อากาศที่เข้าสู่เครื่องยนต์นั้นมีแต่อากาศที่ออกมาจากเทอร์โบ ซึ่งเมื่อผ่านชุดอินเตอร์คูลเลอร์ ก็ทำให้มีความเย็นลงและเป็นอากาศที่มีการควบแน่นสูงทำให้มีการตอบสนองที่ดีจากเครื่องยนต์นั่นเอง
    คำถามที่สำคัญคือ เมื่ออุด EGR แล้วจะมีผลเสียอะไรตามมาหรือไม่ คนที่อุดส่วนใหญ่ ซึ่งโดยมากเป็นผู้ใช้และศึกษาเรื่องเครื่องยนต์ในแบบรู้กันมาปากต่อปาก ทั้งจากประสบการณ์ตัวเองและประสบการณ์ช่างหรือ Guru ก็มักจะบอกว่าไม่มีอะไร ..รับรองแรง!!! แต่ในความเป็นจริงแล้ว การอุด EGR นั้นมีผลเสียเช่นกัน แลัวควรต้องพิจารณาให้ดี


    เมื่ออุด EGR สิ่งแรงที่จะเกิดขึ้นคือการเสื่อมสภาพของเครื่องยนต์ที่จะเกิดขึ้น ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะการขับขี่ แต่ที่หลายคนลืมไปคือเครื่องยนต์ดีเซลนั้นปัจจุบันเป็นระบบไฟฟ้า หรือคอมมอนเรล ซึ่งใช้การตรวจจับอากาศที่ออกมาจากไอเสียคอยควบคุมสั่งการทำงานของเครื่องยนต์

    การวัดค่าอากาศนี้ระบบจะทำการประมวลผลโดยผล ECU (Electronics Control Unit) หรือ ECM (Electronic Control Management) ตามแต่รถรุ่นนั้นจะเรียก ซึ่งค่าอากาศและส่วนผสมนั้นจะถูกประมวล และในจังหวะที่เครื่องยนต์มีการปล่อยไอเสียมากวาล์ว EGR ที่อยู่ตรงท่อไอดีก็จะเปิดขึ้นเพื่อให้ไอเสียนั้นกลับมาเผาไม้อีกครั้ง เพื่อลดก๊าซไอเสียอย่างคาร์บอนมอนนอกไซด์ หรือที่เรารู้จักในฐานะ "ควันดำ" ซึ่งมีส่วนประกอบโลหะหนักในกลุ่มควันเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

    ลองคิดง่ายเมื่อวาล์วเปิดเครื่องยนต์ย่อมจะต้องสั่งลดการสั่งจ่ายน้ำมัน ให้ส่วนผสมบางลงเพื่อลดการเกิดแก๊ส โดยหวังว่าแก๊สไอเสียที่มีส่วนน้ำมันที่ปนอยู่ในลักษณะก๊าซที่เผาไหม้ไม่หมด นั้นมาควบรวมแล้วจุดระเบิดเผาไหม้อีกครั้งนั้นจะมา แต่เราดันไปอุดมันนั้น ผลคือส่วนผสมที่บางย่อมส่งผลในเรื่องของการจุดระเบิดที่ไม่ปกติ คือส่วนผสมบาง ซึ่งทำให้เครื่องยนต์ร้อนขึ้น เสี่ยงต่อเครื่องยนต์พังมากกว่า แต่แน่นอนย่อมมีคนต้องบอกว่ายังไม่มีใครเจอ แต่จะคิดแค่วันนี้พรุ่งนี้ไม่ได้



    ประการต่อมา เมื่อระบบไอเสียมีมลพิษมาก ผลคือระบบระบายไอเสียที่ปัจจุบัน มีตัวกรองไอเสีย ซึ่งเราเรียกว่า Caterlytic Converter นั้น จะทำหน้าที่หนักขึ้นและ เมื่อมันทำงานหนักก็เสี่ยงที่จะอุดตันเร็วกว่าปกติ เมื่อเทียบกับรถที่ไม่ได้ทำการอุด EGR และสุดท้ายที่ลืมนึกถึงไม่ได้ คือเทอร์โบ ที่ปัจจุบันเทอร์โบแบบ Variable หรือ Geometry turbo นั้นมีการอ่านค่าไอเสียและรอบเครื่องยนต์ในการปรับความสัมพันธ์ในการทำงาน ของชุดครีบ ซึ่งทำให้เสียหายต่อแกนเทอร์โบมีความร้อนสะสมมากกว่านั่นเอง



    เข้าใจอย่างถ่องแท้ตกลง EGR คืออะไร



    จากข้างต้นจะเห็นได้ว่า EGR นั้นค่อนข้างมีความสัมพันธ์กับหลายระบบมากกว่าที่คิดไม่ใช่เพียงแค่ ท่อที่นำไอเสียมาหมุนวนใหม่อีกครั้งเท่านั้น แต่มันอาจจะยังส่งผลถึงระบบต่างมากมาย ซึ่งเราไม่ได้ห้ามไม่ให้ทำแต่อยากให้เข้าใจอย่างแท้จริงก็เท่านั้น

    EGR หรือ exhaust gas recirculation เป็นกระบวนการทางวิศวกรรมในการนำไอเสียจำนวนหนึ่งประมาณ 5-15 % กลับมาเผาไหม้ร่วมกับ อากาศดีเพื่อให้มีไอเสียที่ดีขึ้นลดมลภาวะที่เกิดจากก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์

    แน่นอนจะเห็นได้ว่ามันไม่ใช่ทั้งหมดของไอเสียจะถูกโยนกลับเข้าสู่ห้องเผาไหม้ แต่แม้จะเป็นเพียงเรื่องของสิ่งแวดล้อม ซึ่ง EGR เองก็มีข้อเสียทำให้น่ำมันเครื่องนั้นมีเขม่ามากกว่าปกติโดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล แต่นี่คือข้อดี 4 ประการของการมี EGR

    1.ลดการสูญเสีย อัตราเร่ง EGR นั้นคือการนำไอเสียมาเผาไหม้และการจะเผาไหม้ไอเสียนั้นลิ้นปีกผีเสื้อต้อง รับอากาศดีเข้ามาด้วย และถ้าคุณจับทางได้จะพบว่า อัตราเร่งจะลดลง(เครื่องลอยตัวมากกว่า)ไปน้อยกว่าเมื่อไม่อุด EGR

    2.เครื่องทำงานลื่นไหลมากขึ้น อันนี้เป็นเรื่องที่ลึกซึ้งสักนิด แต่ให้นึกถึงน้ำร้อนน้ำเย็น และมันก็เป็นเช่นนั้นกับอากาศและกระบอกสูบ คิดง่ายๆการอุด EGR เปรียบเหมือนกับการอากาศร้อนจากไอเสียออกไปทำให้เครื่องยนต์รับแต่อากาศดี และเย็นสบายแต่ความจริงแล้ว อากาศที่ดีนั้นทำให้ เครืองยนต์มักจะสูญเสียค่าความร้อนหน้าสัมผัสลูกสูบมากกว่ าถ้าเทียบกับมีไอเสียจาก EGR เข้ามาผสม ซึ่งแม้อาจจะไม่สามารถรู้สึกได้จากปลายเท้า แต่เชื่อเถอะว่ามีจริง

    3.ลดก๊าซไอเสีย แน่นอนนี่คือหน้าที่หลักของ EGR และก๊าซไอเสียถูกใส่เข้ามาเมื่อถึงจุดสูงสุดของลูกสูบเพื่อเผาไหม้ก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

    4.ลดค่าความร้อนที่ลูกสูบ จำได้ไหมที่เราบอกว่าเมื่อ EGR ทำงานแล้วส่วนอากาศนั้นผสมจะน้อยลงหมายถึงส่วนผสมบางลง และเมื่อส่วนผสมบางลง นั้นก็หมายถึงการที่อากาศใหม่ที่เปลี่ยนจากเย็นเป็นร้อนหลังจากเผาไหม้ก็จะน้อยลงตามไปด้วย ทำให้เครื่องยนต์มีการสึกหรอน้อยลง



    ถ้ามองตามข้อเท็จจริงของ EGR แล้ว แน่นอนมันเป็นเพียงระบบที่หมุนวนนำอากาศไปเผาไหม้อีกครั้ง หากแต่ระบบนี้นั้นยังมีอีกหลายสิ่งที่ แม้แต่ช่างก็ไม่ได้เข้าใจอย่างลึกซึ่ง ฉะนั้นหากคิดจะอุด EGR นั้นจงคิดไตร่ตรองให้ดีก่อนทำ
    ลองศึกษาดูประกอบการตัดสินใจนะครับน้า

  6. #6
    สมาชิกทั่วไป TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Dec 2013
    User ID
    51826
    Status
    Offline
    โพส
    12

    มาตรฐาน ตอบ: ผมเพิ่งตื่นตัวเรื่องอุดegr ในขณะที่วิ่งใกล้5หมื่นโลแล้ว.

    เมื่อพูดถึงรถยนต์กระบะรุ่นใหม่ที่มีมากมายในตลาดแล้วนั้น รถยนต์กลุ่มนี้ในปัจจุบันมีพัฒนาที่ก้าวล้ำไปมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรากำลังพูดถึงรถรุ่นใหม่ที่ตอบสนองการขับขี่ได้ดีขึ้นมากกว่าแค่ภาพเดิมที่ถูกมองว่าเป็นรถส่งของ

    กระบะรุ่นใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนั้นจนมายืนเทียบชั้นรถนั่งหลายๆรุ่น จนได้รับความนิยมมาแต่งแรงกัน โดยเฉพาะเรื่องของเครื่องยนต์ที่วิ่งได้ไม่แพ้รถเก๋ง และเมื่อพูดถึงการทำให้รถยนต์แรงขึ้นนั้น เราหลายคนต้องเคยได้ยินตัวอักษร EGR ที่ได้รับคำแนะนำว่าให้อุดมันทิ้งเสียเถิดเพื่อความสนุกในการขับขี่


    หลายคนอาจจะตัดสินใจในเรื่องการอุด EGR ที่สามารถตอบโจทย์ในความแรงโดยไม่ได้ไถ่ถามว่าตกลงมันมีความสำคัญอย่างไรบ้าง แต่แท้ที่จริงแล้ว EGR หรือ Exhaust Gas Recirculation นั้น คือวาล์วตัวหนึ่งที่ทำการดึงไอเสียจากท่อไอเสียกลับมาหมุนเวียน ในการเผาไหม้อีกรอบ ซึ่งประโยชน์หลักของมันนั้นก็เพื่อตอบสนองเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม

    เราคงต้องบอกว่า วิศวกรไม่ได้คิดเกินในส่วนนี้ขึ้นมา หากแต่ EGR นั้นมีประโยชน์มากกว่าที่คิด โดยเฉพาะเรื่องของสิ่งแวดล้อมอย่างที่ได้กล่าวไปเช่นเดียวกับในเรื่องของการประหยัดน้ำมัน และเชื่อหรือไม่ การอุด EGR อาจจะทำให้รถคุณไม่ได้รับการประกันในเรื่องเครื่องยนต์ด้วย



    ความเชื่อเรื่องอุด EGR



    อย่างที่เรากล่าวไปแล้วว่า EGR หรือ Exhaust Gas Recirculation นั้นคือการนำไอเสียกลับมาเผาไหม้ซึ่ง แน่นอนว่า มันก็ไม่ต่างอะไรจากการที่เอาของเสียมายัดลงไปในท้องอีกครั้ง และนั่นคือการก่อให้เกิดความเข้าใจผิดที่ว่า อุด EGR แล้วจะแรงขึ้น


    แนวคิดอุด EGR นี้มีขึ้นมาได้สักระยะหนึ่งแล้วเริ่มต้นในกลุ่มคนเล่นรถกลุ่มเล็กที่หาวิธีแรงทางลัด ด้วยการศึกษาระบบเครื่องยนต์ และเมื่อเจอ EGR ที่เป็นการนำไอเสียมาเผาไหม้นั้นอีกครั้งนั้น ก็เลยทดลองทำการอุดเพื่อตัดการทำงานในการนำไอเสียมาเผาไหม้ใหม่อีกครั้ง

    การปิดช่องทางในการนำไอเสียมาเผาไหม้ใหม่นั้นส่งผลให้อากาศที่เข้าสู่เครื่องยนต์นั้นมีแต่อากาศที่ออกมาจากเทอร์โบ ซึ่งเมื่อผ่านชุดอินเตอร์คูลเลอร์ ก็ทำให้มีความเย็นลงและเป็นอากาศที่มีการควบแน่นสูงทำให้มีการตอบสนองที่ดีจากเครื่องยนต์นั่นเอง
    คำถามที่สำคัญคือ เมื่ออุด EGR แล้วจะมีผลเสียอะไรตามมาหรือไม่ คนที่อุดส่วนใหญ่ ซึ่งโดยมากเป็นผู้ใช้และศึกษาเรื่องเครื่องยนต์ในแบบรู้กันมาปากต่อปาก ทั้งจากประสบการณ์ตัวเองและประสบการณ์ช่างหรือ Guru ก็มักจะบอกว่าไม่มีอะไร ..รับรองแรง!!! แต่ในความเป็นจริงแล้ว การอุด EGR นั้นมีผลเสียเช่นกัน แลัวควรต้องพิจารณาให้ดี


    เมื่ออุด EGR สิ่งแรงที่จะเกิดขึ้นคือการเสื่อมสภาพของเครื่องยนต์ที่จะเกิดขึ้น ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะการขับขี่ แต่ที่หลายคนลืมไปคือเครื่องยนต์ดีเซลนั้นปัจจุบันเป็นระบบไฟฟ้า หรือคอมมอนเรล ซึ่งใช้การตรวจจับอากาศที่ออกมาจากไอเสียคอยควบคุมสั่งการทำงานของเครื่องยนต์

    การวัดค่าอากาศนี้ระบบจะทำการประมวลผลโดยผล ECU (Electronics Control Unit) หรือ ECM (Electronic Control Management) ตามแต่รถรุ่นนั้นจะเรียก ซึ่งค่าอากาศและส่วนผสมนั้นจะถูกประมวล และในจังหวะที่เครื่องยนต์มีการปล่อยไอเสียมากวาล์ว EGR ที่อยู่ตรงท่อไอดีก็จะเปิดขึ้นเพื่อให้ไอเสียนั้นกลับมาเผาไม้อีกครั้ง เพื่อลดก๊าซไอเสียอย่างคาร์บอนมอนนอกไซด์ หรือที่เรารู้จักในฐานะ "ควันดำ" ซึ่งมีส่วนประกอบโลหะหนักในกลุ่มควันเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

    ลองคิดง่ายเมื่อวาล์วเปิดเครื่องยนต์ย่อมจะต้องสั่งลดการสั่งจ่ายน้ำมัน ให้ส่วนผสมบางลงเพื่อลดการเกิดแก๊ส โดยหวังว่าแก๊สไอเสียที่มีส่วนน้ำมันที่ปนอยู่ในลักษณะก๊าซที่เผาไหม้ไม่หมด นั้นมาควบรวมแล้วจุดระเบิดเผาไหม้อีกครั้งนั้นจะมา แต่เราดันไปอุดมันนั้น ผลคือส่วนผสมที่บางย่อมส่งผลในเรื่องของการจุดระเบิดที่ไม่ปกติ คือส่วนผสมบาง ซึ่งทำให้เครื่องยนต์ร้อนขึ้น เสี่ยงต่อเครื่องยนต์พังมากกว่า แต่แน่นอนย่อมมีคนต้องบอกว่ายังไม่มีใครเจอ แต่จะคิดแค่วันนี้พรุ่งนี้ไม่ได้



    ประการต่อมา เมื่อระบบไอเสียมีมลพิษมาก ผลคือระบบระบายไอเสียที่ปัจจุบัน มีตัวกรองไอเสีย ซึ่งเราเรียกว่า Caterlytic Converter นั้น จะทำหน้าที่หนักขึ้นและ เมื่อมันทำงานหนักก็เสี่ยงที่จะอุดตันเร็วกว่าปกติ เมื่อเทียบกับรถที่ไม่ได้ทำการอุด EGR และสุดท้ายที่ลืมนึกถึงไม่ได้ คือเทอร์โบ ที่ปัจจุบันเทอร์โบแบบ Variable หรือ Geometry turbo นั้นมีการอ่านค่าไอเสียและรอบเครื่องยนต์ในการปรับความสัมพันธ์ในการทำงาน ของชุดครีบ ซึ่งทำให้เสียหายต่อแกนเทอร์โบมีความร้อนสะสมมากกว่านั่นเอง



    เข้าใจอย่างถ่องแท้ตกลง EGR คืออะไร



    จากข้างต้นจะเห็นได้ว่า EGR นั้นค่อนข้างมีความสัมพันธ์กับหลายระบบมากกว่าที่คิดไม่ใช่เพียงแค่ ท่อที่นำไอเสียมาหมุนวนใหม่อีกครั้งเท่านั้น แต่มันอาจจะยังส่งผลถึงระบบต่างมากมาย ซึ่งเราไม่ได้ห้ามไม่ให้ทำแต่อยากให้เข้าใจอย่างแท้จริงก็เท่านั้น

    EGR หรือ exhaust gas recirculation เป็นกระบวนการทางวิศวกรรมในการนำไอเสียจำนวนหนึ่งประมาณ 5-15 % กลับมาเผาไหม้ร่วมกับ อากาศดีเพื่อให้มีไอเสียที่ดีขึ้นลดมลภาวะที่เกิดจากก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์

    แน่นอนจะเห็นได้ว่ามันไม่ใช่ทั้งหมดของไอเสียจะถูกโยนกลับเข้าสู่ห้องเผาไหม้ แต่แม้จะเป็นเพียงเรื่องของสิ่งแวดล้อม ซึ่ง EGR เองก็มีข้อเสียทำให้น่ำมันเครื่องนั้นมีเขม่ามากกว่าปกติโดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล แต่นี่คือข้อดี 4 ประการของการมี EGR

    1.ลดการสูญเสีย อัตราเร่ง EGR นั้นคือการนำไอเสียมาเผาไหม้และการจะเผาไหม้ไอเสียนั้นลิ้นปีกผีเสื้อต้อง รับอากาศดีเข้ามาด้วย และถ้าคุณจับทางได้จะพบว่า อัตราเร่งจะลดลง(เครื่องลอยตัวมากกว่า)ไปน้อยกว่าเมื่อไม่อุด EGR

    2.เครื่องทำงานลื่นไหลมากขึ้น อันนี้เป็นเรื่องที่ลึกซึ้งสักนิด แต่ให้นึกถึงน้ำร้อนน้ำเย็น และมันก็เป็นเช่นนั้นกับอากาศและกระบอกสูบ คิดง่ายๆการอุด EGR เปรียบเหมือนกับการอากาศร้อนจากไอเสียออกไปทำให้เครื่องยนต์รับแต่อากาศดี และเย็นสบายแต่ความจริงแล้ว อากาศที่ดีนั้นทำให้ เครืองยนต์มักจะสูญเสียค่าความร้อนหน้าสัมผัสลูกสูบมากกว่ าถ้าเทียบกับมีไอเสียจาก EGR เข้ามาผสม ซึ่งแม้อาจจะไม่สามารถรู้สึกได้จากปลายเท้า แต่เชื่อเถอะว่ามีจริง

    3.ลดก๊าซไอเสีย แน่นอนนี่คือหน้าที่หลักของ EGR และก๊าซไอเสียถูกใส่เข้ามาเมื่อถึงจุดสูงสุดของลูกสูบเพื่อเผาไหม้ก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

    4.ลดค่าความร้อนที่ลูกสูบ จำได้ไหมที่เราบอกว่าเมื่อ EGR ทำงานแล้วส่วนอากาศนั้นผสมจะน้อยลงหมายถึงส่วนผสมบางลง และเมื่อส่วนผสมบางลง นั้นก็หมายถึงการที่อากาศใหม่ที่เปลี่ยนจากเย็นเป็นร้อนหลังจากเผาไหม้ก็จะน้อยลงตามไปด้วย ทำให้เครื่องยนต์มีการสึกหรอน้อยลง



    ถ้ามองตามข้อเท็จจริงของ EGR แล้ว แน่นอนมันเป็นเพียงระบบที่หมุนวนนำอากาศไปเผาไหม้อีกครั้ง หากแต่ระบบนี้นั้นยังมีอีกหลายสิ่งที่ แม้แต่ช่างก็ไม่ได้เข้าใจอย่างลึกซึ่ง ฉะนั้นหากคิดจะอุด EGR นั้นจงคิดไตร่ตรองให้ดีก่อนทำ
    ลองอ่านดูประกอบการตัดสินใจครับน้า Aon-Ohm Triton

  7. #7
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Sep 2010
    User ID
    13674
    Status
    Offline
    โพส
    554

    มาตรฐาน ตอบ: ผมเพิ่งตื่นตัวเรื่องอุดegr ในขณะที่วิ่งใกล้5หมื่นโลแล้ว.

    อ้างอิง โพสต้นฉบับโดยคุณ Aon-Ohm Triton ดูโพส
    เมื่อพูดถึงรถยนต์กระบะรุ่นใหม่ที่มีมากมายในตลาดแล้วนั้น รถยนต์กลุ่มนี้ในปัจจุบันมีพัฒนาที่ก้าวล้ำไปมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรากำลังพูดถึงรถรุ่นใหม่ที่ตอบสนองการขับขี่ได้ดีขึ้นมากกว่าแค่ภาพเดิมที่ถูกมองว่าเป็นรถส่งของ

    กระบะรุ่นใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนั้นจนมายืนเทียบชั้นรถนั่งหลายๆรุ่น จนได้รับความนิยมมาแต่งแรงกัน โดยเฉพาะเรื่องของเครื่องยนต์ที่วิ่งได้ไม่แพ้รถเก๋ง และเมื่อพูดถึงการทำให้รถยนต์แรงขึ้นนั้น เราหลายคนต้องเคยได้ยินตัวอักษร EGR ที่ได้รับคำแนะนำว่าให้อุดมันทิ้งเสียเถิดเพื่อความสนุกในการขับขี่


    หลายคนอาจจะตัดสินใจในเรื่องการอุด EGR ที่สามารถตอบโจทย์ในความแรงโดยไม่ได้ไถ่ถามว่าตกลงมันมีความสำคัญอย่างไรบ้าง แต่แท้ที่จริงแล้ว EGR หรือ Exhaust Gas Recirculation นั้น คือวาล์วตัวหนึ่งที่ทำการดึงไอเสียจากท่อไอเสียกลับมาหมุนเวียน ในการเผาไหม้อีกรอบ ซึ่งประโยชน์หลักของมันนั้นก็เพื่อตอบสนองเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม

    เราคงต้องบอกว่า วิศวกรไม่ได้คิดเกินในส่วนนี้ขึ้นมา หากแต่ EGR นั้นมีประโยชน์มากกว่าที่คิด โดยเฉพาะเรื่องของสิ่งแวดล้อมอย่างที่ได้กล่าวไปเช่นเดียวกับในเรื่องของการประหยัดน้ำมัน และเชื่อหรือไม่ การอุด EGR อาจจะทำให้รถคุณไม่ได้รับการประกันในเรื่องเครื่องยนต์ด้วย



    ความเชื่อเรื่องอุด EGR



    อย่างที่เรากล่าวไปแล้วว่า EGR หรือ Exhaust Gas Recirculation นั้นคือการนำไอเสียกลับมาเผาไหม้ซึ่ง แน่นอนว่า มันก็ไม่ต่างอะไรจากการที่เอาของเสียมายัดลงไปในท้องอีกครั้ง และนั่นคือการก่อให้เกิดความเข้าใจผิดที่ว่า อุด EGR แล้วจะแรงขึ้น


    แนวคิดอุด EGR นี้มีขึ้นมาได้สักระยะหนึ่งแล้วเริ่มต้นในกลุ่มคนเล่นรถกลุ่มเล็กที่หาวิธีแรงทางลัด ด้วยการศึกษาระบบเครื่องยนต์ และเมื่อเจอ EGR ที่เป็นการนำไอเสียมาเผาไหม้นั้นอีกครั้งนั้น ก็เลยทดลองทำการอุดเพื่อตัดการทำงานในการนำไอเสียมาเผาไหม้ใหม่อีกครั้ง

    การปิดช่องทางในการนำไอเสียมาเผาไหม้ใหม่นั้นส่งผลให้อากาศที่เข้าสู่เครื่องยนต์นั้นมีแต่อากาศที่ออกมาจากเทอร์โบ ซึ่งเมื่อผ่านชุดอินเตอร์คูลเลอร์ ก็ทำให้มีความเย็นลงและเป็นอากาศที่มีการควบแน่นสูงทำให้มีการตอบสนองที่ดีจากเครื่องยนต์นั่นเอง
    คำถามที่สำคัญคือ เมื่ออุด EGR แล้วจะมีผลเสียอะไรตามมาหรือไม่ คนที่อุดส่วนใหญ่ ซึ่งโดยมากเป็นผู้ใช้และศึกษาเรื่องเครื่องยนต์ในแบบรู้กันมาปากต่อปาก ทั้งจากประสบการณ์ตัวเองและประสบการณ์ช่างหรือ Guru ก็มักจะบอกว่าไม่มีอะไร ..รับรองแรง!!! แต่ในความเป็นจริงแล้ว การอุด EGR นั้นมีผลเสียเช่นกัน แลัวควรต้องพิจารณาให้ดี


    เมื่ออุด EGR สิ่งแรงที่จะเกิดขึ้นคือการเสื่อมสภาพของเครื่องยนต์ที่จะเกิดขึ้น ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะการขับขี่ แต่ที่หลายคนลืมไปคือเครื่องยนต์ดีเซลนั้นปัจจุบันเป็นระบบไฟฟ้า หรือคอมมอนเรล ซึ่งใช้การตรวจจับอากาศที่ออกมาจากไอเสียคอยควบคุมสั่งการทำงานของเครื่องยนต์

    การวัดค่าอากาศนี้ระบบจะทำการประมวลผลโดยผล ECU (Electronics Control Unit) หรือ ECM (Electronic Control Management) ตามแต่รถรุ่นนั้นจะเรียก ซึ่งค่าอากาศและส่วนผสมนั้นจะถูกประมวล และในจังหวะที่เครื่องยนต์มีการปล่อยไอเสียมากวาล์ว EGR ที่อยู่ตรงท่อไอดีก็จะเปิดขึ้นเพื่อให้ไอเสียนั้นกลับมาเผาไม้อีกครั้ง เพื่อลดก๊าซไอเสียอย่างคาร์บอนมอนนอกไซด์ หรือที่เรารู้จักในฐานะ "ควันดำ" ซึ่งมีส่วนประกอบโลหะหนักในกลุ่มควันเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

    ลองคิดง่ายเมื่อวาล์วเปิดเครื่องยนต์ย่อมจะต้องสั่งลดการสั่งจ่ายน้ำมัน ให้ส่วนผสมบางลงเพื่อลดการเกิดแก๊ส โดยหวังว่าแก๊สไอเสียที่มีส่วนน้ำมันที่ปนอยู่ในลักษณะก๊าซที่เผาไหม้ไม่หมด นั้นมาควบรวมแล้วจุดระเบิดเผาไหม้อีกครั้งนั้นจะมา แต่เราดันไปอุดมันนั้น ผลคือส่วนผสมที่บางย่อมส่งผลในเรื่องของการจุดระเบิดที่ไม่ปกติ คือส่วนผสมบาง ซึ่งทำให้เครื่องยนต์ร้อนขึ้น เสี่ยงต่อเครื่องยนต์พังมากกว่า แต่แน่นอนย่อมมีคนต้องบอกว่ายังไม่มีใครเจอ แต่จะคิดแค่วันนี้พรุ่งนี้ไม่ได้



    ประการต่อมา เมื่อระบบไอเสียมีมลพิษมาก ผลคือระบบระบายไอเสียที่ปัจจุบัน มีตัวกรองไอเสีย ซึ่งเราเรียกว่า Caterlytic Converter นั้น จะทำหน้าที่หนักขึ้นและ เมื่อมันทำงานหนักก็เสี่ยงที่จะอุดตันเร็วกว่าปกติ เมื่อเทียบกับรถที่ไม่ได้ทำการอุด EGR และสุดท้ายที่ลืมนึกถึงไม่ได้ คือเทอร์โบ ที่ปัจจุบันเทอร์โบแบบ Variable หรือ Geometry turbo นั้นมีการอ่านค่าไอเสียและรอบเครื่องยนต์ในการปรับความสัมพันธ์ในการทำงาน ของชุดครีบ ซึ่งทำให้เสียหายต่อแกนเทอร์โบมีความร้อนสะสมมากกว่านั่นเอง



    เข้าใจอย่างถ่องแท้ตกลง EGR คืออะไร



    จากข้างต้นจะเห็นได้ว่า EGR นั้นค่อนข้างมีความสัมพันธ์กับหลายระบบมากกว่าที่คิดไม่ใช่เพียงแค่ ท่อที่นำไอเสียมาหมุนวนใหม่อีกครั้งเท่านั้น แต่มันอาจจะยังส่งผลถึงระบบต่างมากมาย ซึ่งเราไม่ได้ห้ามไม่ให้ทำแต่อยากให้เข้าใจอย่างแท้จริงก็เท่านั้น

    EGR หรือ exhaust gas recirculation เป็นกระบวนการทางวิศวกรรมในการนำไอเสียจำนวนหนึ่งประมาณ 5-15 % กลับมาเผาไหม้ร่วมกับ อากาศดีเพื่อให้มีไอเสียที่ดีขึ้นลดมลภาวะที่เกิดจากก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์

    แน่นอนจะเห็นได้ว่ามันไม่ใช่ทั้งหมดของไอเสียจะถูกโยนกลับเข้าสู่ห้องเผาไหม้ แต่แม้จะเป็นเพียงเรื่องของสิ่งแวดล้อม ซึ่ง EGR เองก็มีข้อเสียทำให้น่ำมันเครื่องนั้นมีเขม่ามากกว่าปกติโดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล แต่นี่คือข้อดี 4 ประการของการมี EGR

    1.ลดการสูญเสีย อัตราเร่ง EGR นั้นคือการนำไอเสียมาเผาไหม้และการจะเผาไหม้ไอเสียนั้นลิ้นปีกผีเสื้อต้อง รับอากาศดีเข้ามาด้วย และถ้าคุณจับทางได้จะพบว่า อัตราเร่งจะลดลง(เครื่องลอยตัวมากกว่า)ไปน้อยกว่าเมื่อไม่อุด EGR

    2.เครื่องทำงานลื่นไหลมากขึ้น อันนี้เป็นเรื่องที่ลึกซึ้งสักนิด แต่ให้นึกถึงน้ำร้อนน้ำเย็น และมันก็เป็นเช่นนั้นกับอากาศและกระบอกสูบ คิดง่ายๆการอุด EGR เปรียบเหมือนกับการอากาศร้อนจากไอเสียออกไปทำให้เครื่องยนต์รับแต่อากาศดี และเย็นสบายแต่ความจริงแล้ว อากาศที่ดีนั้นทำให้ เครืองยนต์มักจะสูญเสียค่าความร้อนหน้าสัมผัสลูกสูบมากกว่ าถ้าเทียบกับมีไอเสียจาก EGR เข้ามาผสม ซึ่งแม้อาจจะไม่สามารถรู้สึกได้จากปลายเท้า แต่เชื่อเถอะว่ามีจริง

    3.ลดก๊าซไอเสีย แน่นอนนี่คือหน้าที่หลักของ EGR และก๊าซไอเสียถูกใส่เข้ามาเมื่อถึงจุดสูงสุดของลูกสูบเพื่อเผาไหม้ก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

    4.ลดค่าความร้อนที่ลูกสูบ จำได้ไหมที่เราบอกว่าเมื่อ EGR ทำงานแล้วส่วนอากาศนั้นผสมจะน้อยลงหมายถึงส่วนผสมบางลง และเมื่อส่วนผสมบางลง นั้นก็หมายถึงการที่อากาศใหม่ที่เปลี่ยนจากเย็นเป็นร้อนหลังจากเผาไหม้ก็จะน้อยลงตามไปด้วย ทำให้เครื่องยนต์มีการสึกหรอน้อยลง



    ถ้ามองตามข้อเท็จจริงของ EGR แล้ว แน่นอนมันเป็นเพียงระบบที่หมุนวนนำอากาศไปเผาไหม้อีกครั้ง หากแต่ระบบนี้นั้นยังมีอีกหลายสิ่งที่ แม้แต่ช่างก็ไม่ได้เข้าใจอย่างลึกซึ่ง ฉะนั้นหากคิดจะอุด EGR นั้นจงคิดไตร่ตรองให้ดีก่อนทำ
    ลองอ่านดูประกอบการตัดสินใจครับน้า Aon-Ohm Triton

    ขอบคุณมากๆเลยครับน้า

  8. #8
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Sep 2009
    User ID
    8767
    Status
    Offline
    โพส
    6,019

    มาตรฐาน ตอบ: ผมเพิ่งตื่นตัวเรื่องอุดegr ในขณะที่วิ่งใกล้5หมื่นโลแล้ว.

    ขอบคุณครับ สำหรับบทความดี ๆ เกี่ยวกับ egr ถ้าให้ดีอีกนิด เพิ่มเครดิตให้เจ้าของบทความเค้าหน่อยนะครับ ที่มาที่ไปจากที่ไหน

    ขอบคุณครับผม
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดย MiNi_XXL : 17-12-2013 เมื่อ 20:14

  9. #9
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Jun 2012
    User ID
    34688
    Status
    Offline
    โพส
    93

    มาตรฐาน ตอบ: ผมเพิ่งตื่นตัวเรื่องอุดegr ในขณะที่วิ่งใกล้5หมื่นโลแล้ว.

    ดีครับ.....มีแต่ข้อดีของการไม่อุด egr...........

    ข้อเสีย....ท่านผู้รู้....ช่วยแจ้งชัดๆ.....เอาให้สมน้ำสมเนื้อ....แบบไม่ลำเอียงรักษ์โลก

    แล้วไอ้ที่ว่าข้อมูลแบบว่า....ถ้าอุดเครื่องพัง//เสื่อมสภาพ(อ่านดูมันเป็นอย่างนั้น)....ขอดูหลักฐานครับ เอาแบบชัดๆ............ถ้าพัง

    ผมคนแรกครับ.....จะได้รีบเอาออก.... แล้วจะได้บอกลูกบอกหลานว่าอย่าทะลึ่งอุด egr อีก...........
    แต่ตอนนี้...ข้อมูลที่ผมมี.............ผมอุดครับ

    ปล.ผมไลน์ถามเพื่อนที่ทำงานเป็นหัวหน้าวิศวกรดูแลการผลิตเครื่องยนต์ให้กับรถ..???..ไม่บอก.....เมื่อไม่นาน (จริงๆถามย้ำอีกครังไม่ถึง 1 นาทีที่ผ่านมา)คำตอบที่ได้
    "ไม่พัง ควันดำกว่าเดิม เขม่าออกท่อเยอะขึ้น เครื่องเย็นและลื่นขึ้นนิดนึง" แค่นี้ก่อนเกรงใจเขา กำลังเข้านอน...
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดย jaidee8008 : 17-12-2013 เมื่อ 21:03

  10. #10
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Oct 2011
    User ID
    24864
    Status
    Offline
    โพส
    83

    มาตรฐาน ตอบ: ผมเพิ่งตื่นตัวเรื่องอุดegr ในขณะที่วิ่งใกล้5หมื่นโลแล้ว.

    เรียนน้าๆทุกท่านครับ เพื่อเป็นการไม่ให้เสพสื่อผิดๆ อยากให้หาข้อมูลเยอะๆ ฟังหลายๆด้านนะครับ แล้วใช้ วิจารณญาณ ของตัวเองนะครับ
    อธิบายกันแบบง่ายๆ ไม่วกไปเวียนมา ที่มาของอุปกรณ์ EGR (Exhaust Gas Recirculation) ในการออกแบบวิศวะกรต้องใส่เข้าไปให้กับเครื่องยนต์เพื่อแก้ไขคุณภาพไอเสียให้ได้ตามมาตรฐาน Euro 4 เนื่องจากเป็นข้อกฎหมายที่รัฐบาลแต่ละประเทศกำหนดโดยส่วนใหญ่ ยกตัวอย่าง เครื่อง 4D56 มันถูกใช้มาตั้งแต่ L2oo Cyclone ทีนี้พอจะต้องใช้ใส่ใน Triton ก็ต้องทำให้ผ่านมาตรฐาน Euro ความขี้เกียจของวิศวะกรนะครับ ตัวเครื่องไม่ยุ่ง ไม่ต้องออกแบบใหม่ เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ignition combustion engine) มาเป็นร้อยปี ก็ไม่เห็นมันจะต่างกันตรงไหน ต่างกันแค่ภายนอก ออกแบบ EGR เพื่อให้เอาไอเสียมาเผาอีกครั้ง คุณภาพไอเสียก็ผ่านตามมาตรฐาน ประมาณนี้
    EURO 4 ประเภท CO HC NOx HC+NOx PM
    รรถยนต์นั่งเกิน 6 ที่นั่ง หรือดัดแปลงจากรถบรรทุกที่บรรทุกได้เกิน 2,500 กก. RW≤1,305 1.0 / 0.50 0.10 / - 0.08 / 0.25 - / 0.30 - / 0.025
    1,305<RW≤1,760 1.81 / 0.63 0.13 / - 0.10 / 0.33 - / 0.39 - / 0.04
    RW>1,760 2.27 / 0.74 0.16 / - 0.11 / 0.39 - / 0.46 - / 0.06
    รถยนต์นั่งไม่เกิน 6 ที่นั่งมวลเต็มอัตราบรรทุกไม่เกิน 2,600 กก. รถเบนซิน 1 0.1 0.08 - -
    รถดีเซล 0.5 - 0.25 0.3 0.025

    ทีนี้อุด EGR ข้อดีและข้อเสียโดยส่วนตัวนะครับ
    ข้อดี

    1. อากาศทีเข้าห้องเผาไหม้เป็นอากาศบริสุทธ์ ส่งผลให้ประสิทธิภาพการเผาไหม้สมบูรณ์ กำลังเครื่องจะได้เต็มที่เทียบกับน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูญเสียไป(รถหนึ่งคันราคาไม่ใช่ถูกๆ ผมต้องการใช้รถให้มันคุ้ม นานที่สุดครับ)
    2. ไม่มีเขม่าเกาะท่อไอดี น้ำมันเครื่องใสขึ้น

    ข้อเสีย

    1. แน่นอนครับคุณภาพไอเสียไม่ได้ตามมาตร EURO4 (เวลาตรวจสภาพก็ผ่านทุกที เมืองไทยยังไม่จริงจัง ก็รักนะสิ่งแวดล้อม คิดว่ากับไอเสียรถผมคันเดียว เทียบกับสวนที่บ้าน ผมมีเครื่องฟอกอากาศส่วนตัวครับ กับคนที่มีรถเพื่อเอามาแซดไร้สาระ)
    2. ส่วนผสมหนาขึ้นครับ ขอเถียง เนื่องจากเดิมจะต้องฉีดน้ำมันเผื่อไอ้ไอเสียที่เข้ามาผสม ทีนี้ไม่มีไอเสียมาผสมแล้วก็จะหนาขึ้นครับ ส่วนความร้อนสะสมไม่มีหลอกครับ (ถ้าจะมีมันจะเกี่ยวกับไฟแก่ไฟอ่อน ใครเรียนช่างจะรู้นะ)

    สุดท้ายนะครับ รถใครรถมัน หาข้อมูลเยอะๆ ตัดสินใจเองละกัน ส่วนตัวเลย ผมใช้รถเพื่อหาเงิน ก็อยากจะให้มันคุ้มค่า อยู่กับเรานานๆ รถผมก็ 60,000 โลแล้ว อุดตั้งแต่ 5,000โล พอ 40,000 ก็เอาท่อแทนแคทมาใส่ เพราะแคทจะหมดสภาพแล้ว ส่วนไอ้ที่ว่าประกันจะไม่คุ้มครอง ผมทำอู่ข้างนอกก็ได้ ราคาไม่โหดเหมือนศูนย์ ก็ทำแค่นี้ ไอ้ไอเสียออกมา กับรถผมคนเดียวมันคงไม่ไปทำลายชั้นบรรยากาศสักเท่าไหร่เทียบกับคนอื่นๆเอารถมาขับไร้สาระ ใส่โน้น โมนั้น ดันราง ใส่กล่อง แซดควันดำๆ ได้อะไรบ้าง ในอีกแง่ผมก็ทำ CSR ให้โลกใบนี้ โดยเอาที่ดินมาทำสวน ปลูกต้นไม้ให้กับโลกใบนี้แล้วครับ ส่วนไอ้ที่ว่าประกันจะไม่คุ้มครอง ผมทำอู่ข้างนอกก็ได้ ราคาไม่โหดเหมือนศูนย์ แต่ที่รู้ๆ เคลมเกียร์ ลูกปืนกดสายพานหน้าและเคลม Turbo ใหม่มาแล้วครับ

  11. #11
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Sep 2013
    User ID
    48999
    Status
    Offline
    โพส
    73

    มาตรฐาน ตอบ: ผมเพิ่งตื่นตัวเรื่องอุดegr ในขณะที่วิ่งใกล้5หมื่นโลแล้ว.

    ผมเพิ่งไปอุดมาได้ 2 วันครับ รถผม 3800 โล ถอดออกมา เขม่าดำเป็นผงๆหนาๆเลย ขนาดรถยังใหม่ๆนะครับนี่

  12. #12
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Sep 2009
    User ID
    8767
    Status
    Offline
    โพส
    6,019

    มาตรฐาน ตอบ: ผมเพิ่งตื่นตัวเรื่องอุดegr ในขณะที่วิ่งใกล้5หมื่นโลแล้ว.

    รถผมคนเดียวมันคงไม่ไปทำลายชั้นบรรยากาศสักเท่าไห ร่เทียบกับคนอื่นๆเอารถมาขับไร้สาระ ใส่โน้น โมนั้น ดันราง ใส่กล่อง แซดควันดำๆ ได้อะไรบ้าง

    ถ้าไม่เป็นการรบกวนช่วยดูและพิจารณาแก้ไข้ข้อความนี้ก็ดีนะครับ ผมคนนึงที่ใส่กล่อง และมีอีกหลาย ๆคนที่ใส่กล่อง แต่ไม่ได้ขับรถไร้สาระ ไปวัน ๆ นะครับ ผมใช้รถทำงานเช่นกันครับ

    อ่านมาทั้งหมดแล้วเจอข้อความนี้เหมือนโดนตบหน้ายังไงก็ไม่รู้
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดย MiNi_XXL : 18-12-2013 เมื่อ 11:01

  13. #13
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Nov 2012
    User ID
    40862
    Status
    Offline
    โพส
    2,705

    มาตรฐาน ตอบ: ผมเพิ่งตื่นตัวเรื่องอุดegr ในขณะที่วิ่งใกล้5หมื่นโลแล้ว.

    ข้อมูลเยอะแยะมากมายเลยครับ สุดท้ายก็อยู่ที่เหตุผลขอแต่ละคน ว่าจะทำอะไร ทำเพื่ออะไร นานาจิตตังครับ

  14. #14
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Nov 2012
    User ID
    40862
    Status
    Offline
    โพส
    2,705

    มาตรฐาน ตอบ: ผมเพิ่งตื่นตัวเรื่องอุดegr ในขณะที่วิ่งใกล้5หมื่นโลแล้ว.

    ส่วนตัวผมอุดแล้ว อุดตอน100,000 โล ล้างท่อร่วมไอดีแล้ว สกปรกมาก ตัวegrเขม่าเกาะแทบปิดสนิท เขม่าที่เกาะตามท่อไอดี จุดที่หนาที่สุดที่วัดได้ประมาณ1.5cm ขูด-ล้างกันเพลินเลยกันแฟน2คน อิ อิ อิ

  15. #15
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Apr 2011
    User ID
    17016
    Status
    Offline
    โพส
    4,974

    มาตรฐาน ตอบ: ผมเพิ่งตื่นตัวเรื่องอุดegr ในขณะที่วิ่งใกล้5หมื่นโลแล้ว.

    ถ้าไม่อุดก็ขยันล้างท่อร่วมไอดีหน่อยละกันทุกๆ60000โลรถจะได้ไม่อึด

  16. #16
    สมาชิกถาวร : TTC00445 TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Oct 2008
    User ID
    4102
    Status
    Offline
    โพส
    7,688

    มาตรฐาน ตอบ: ผมเพิ่งตื่นตัวเรื่องอุดegr ในขณะที่วิ่งใกล้5หมื่นโลแล้ว.

    วิศวกรออกแบบมาดีใช่ แต่วิศวกรวารันตีอายุการใช้งานรถเราแค่ 1 แสนกิโลเมตร ชะนั้นผมไม่ตามวิศวกร ทุกอย่างหรอกครับ

  17. #17
    TTC-01163 TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Jan 2010
    User ID
    10199
    Status
    Offline
    โพส
    192

    มาตรฐาน ตอบ: ผมเพิ่งตื่นตัวเรื่องอุดegr ในขณะที่วิ่งใกล้5หมื่นโลแล้ว.

    ผมก็อุดครับตั้งแต่5000โล ตอนนี้ 70000โลแล้วเครื่องเดินเรียบตลอด
    ทุกวันนี้ก็ กด180สบายๆไม่มีอาการของเครื่อง กระตุกตอนเช้าๆ อีกเลย
    ไม่รุ้ซิว่าวิศวกรใช้รถทุกวันเหมือนผมหรือปล่าว แต่ถ้าเขาใช้เขาคงรู้ว่า อุด หรือ ไม่อุด
    ส่วนผม อุด แล้วมันดีกับเครื่องยนต์ ของผมครับ

  18. #18
    สมาชิกถาวร : TTC-02177 TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Dec 2010
    User ID
    14683
    Status
    Offline
    โพส
    1,859

    มาตรฐาน ตอบ: ผมเพิ่งตื่นตัวเรื่องอุดegr ในขณะที่วิ่งใกล้5หมื่นโลแล้ว.

    ผมยังไม่ได้อุดเลย ว่าจะอุดเหมือนกัน มัวแต่ ฟังทางนั้นบ้าง ฟังทางนี้บ้าง จนผ่านมาแล้ว 3 ปี ก็ยังไม่ได้อุด 555
    โดยส่วนตัวแล้ว สงสัยต้องเอาไปอุดแล้วรู้สึกว่ารถเริ่มอืดขึ้นรึป่าวก็ไม่รู้ในความคิดผมหรือว่าจิตตกไปเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
    ตอนนี้อยากเอาไปล้างท่อร่วมไอดีมากเลย ล้างเสร็จแล้วก็อุดเลย ก่อนหน้านี้เคยเห็นมีกระทู้ของน้า ๆ ท่านนึงที่รับล้างท่อร่วมไอดีจำไม่ได้แล้วและก็หาไม่เจอแล้วอาาาา
    ตอนนี้อยากจะใช้บริการมากเลย แนะนำด้วยคร๊าบบบบบบบ

  19. #19
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Mar 2012
    User ID
    31661
    Status
    Offline
    โพส
    790

    มาตรฐาน ตอบ: ผมเพิ่งตื่นตัวเรื่องอุดegr ในขณะที่วิ่งใกล้5หมื่นโลแล้ว.

    อ่านจนตาลาย เลยครับกระทู้นี้ อันนี้ผมก็ไม่รู้เท่าไหร่ ลองอุดดูก็ได้ครับ ถ้าไม่ดีก็ถอดออกกลับสู่สภาพเดิมจบ หรือไม่ต้องไปอุดมันก็ได้ ถ้าขับแล้วไม่ดีหรือกลัวเครื่องพังค่อยไปอุดซ่ะจบ หรือจะลองอุดปีนึง ไม่อุดปีนึง ก็ยังไหวครับ ด้วยความเคารพ

  20. #20
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Jul 2013
    User ID
    47593
    Status
    Offline
    โพส
    470

    มาตรฐาน ตอบ: ผมเพิ่งตื่นตัวเรื่องอุดegr ในขณะที่วิ่งใกล้5หมื่นโลแล้ว.

    ง่ายๆ ครับ อุด ดีที่สุดครับ
    มันเป็นนโนบายครับ เป็นการขอความร่วมมือของ
    กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หรือการนำของเสียที่
    ออกมาจากท่อรถนำกลับไปใช้ใหม่ แต่ที่นำกลับมาใชั
    ใหม่ ไม่ได้ออกแบบระบบกรองอากาศอีกชั้น ซึ่งเป็นอากาศ
    ที่ไม่สะอาด ซึ่งจุดนี้ส่งผลทำให้เกิด เขม่าที่เกาะตามท่อไอดี
    เป็นจำนวนมาก การออกแบบที่ง่ายที่สุดและลดต้นทุนที่สุด
    แค่ทำระบบปิดเปิด เข้าตาม % ที่ต้องการสั่งให้การจ่ายน้ำมัน
    เพิ่มหรือลดเท่านั้น มันเป็นผลของการออกแบบที่ลดต้นทุนก็
    เท่านั้น แต่ไม่ได้มองถึงปัญหาที่เกิดขึ้น

หน้า 1 จากทั้งหมด 3 หน้า 1 2 3 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย

ข้อมูลกระทู้

Users Browsing this Thread

ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)

Bookmarks

กฎการโพสข้อความ

  • ท่าน ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
  • ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
  • ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขข้อความโพสได้
  •  
  • BB code สถานะ เปิด
  • Smilies สถานะ เปิด
  • [IMG] สถานะ เปิด
  • [VIDEO] code is เปิด
  • HTML สถานะ ปิด